ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค

อ่านนิยายจีนเรื่อง ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ ตอนที่ 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค

ระหว่างทางกลับสำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิงสรุปผลได้ผลเสียด้านต่างๆ จากภารกิจครั้งนี้ เขากลับค้นพบอย่างตกตะลึงว่า ทุกคนที่เข้าร่วมภารกิจนี้แทบจะเป็นผู้ชนะทั้งหมด แตกต่างเพียงว่าใครชนะมาก หรือชนะน้อยก็เท่านั้นเอง

ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีผู้แพ้เลย!

ไม่ต้องพูดถึงสำนักมือปราบเทพ เพียงมีประกาศไล่สังหารออกมา ก็ทำให้อวี๋ชางไห่กลายเป็นศัตรูของคนทั้งยุทธภพในชั่วพริบตาเดียว เมื่อถูกตัวละครสำคัญอย่างจั่วเหลิ่งฉานกับเย่ว์ปู้ฉวินไล่สังหารด้วยตัวเอง ชื่อเสียงก็พุ่งทะลุฟ้าแล้ว

นี่ก็คือผลลัพธ์ที่หวงโส่วจุนต้องการ โดยมีพื้นฐานว่าต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างราบรื่น ทำให้สำนักมือปราบเทพดูมีระดับมากที่สุด ส่วนเนื้อแท้ของเรื่องนี้ก็คือ สำนักมือปราบเทพให้หลินผิงจือเป็นเจ้าสำนักชิงเฉิงแล้ว เขาจะกล้าไม่ฟังคำสั่งของสำนักมือปราบเทพเชียวหรือ

ยิ่งไปกว่านั้น ความแค้นอันยิ่งใหญ่ของน้องใหม่ในยุทธภพอย่างหลินผิงจือก็ได้รับการสะสางแล้ว ทั้งยังได้รับช่วงต่อของสำนักศัตรู แย่งชิงกิจการของศัตรูมาได้ ดำรงตำแหน่ง CEO แต่งภรรยา…แค่กๆ ถึงอย่างไรก็ได้เดินไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว

ส่วนสำนักชิงเฉิง?

หลังจากผ่านเรื่องราวครั้งนี้ แม้จะมีความเสียหายอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าได้กำจัดโรคเรื้อรังเช่นกัน ทั้งยังได้ยอดฝีมือที่มีศักยภาพแฝงไร้ที่สิ้นสุดมาเป็นเจ้าสำนัก มีราชสำนักคอยเป็นโล่ข้างหลังให้ด้วย จินตนาการถึงความก้าวหน้าในอนาคตได้เลย

เย่ว์ปู้ฉวิน แม้จะไม่ได้ ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ ไป แต่ชื่อเสียงกระบี่วิญญูชนของเขาก็จะสว่างไสวขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!

จั่วเหลิ่งฉาน แม้จะไม่ได้ครอง ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ แต่เขากลับได้แสดงลักษณะอันน่าเกรงขามที่ประมุขห้าขุนเขาควรจะมีออกมาแล้ว!

ลิ่งหูชง ดูเหมือนเจ้าเด็กโชคร้ายคนนี้จะเสียเปรียบมาก

แต่โปรดอย่าลืมว่า เขาเสียเปรียบแทนเย่ว์ปู้ฉวิน!

ในใจเย่ว์ปู้ฉวินจะไม่รู้สึกผิดต่อเขาสักหน่อยเชียวหรือ

เดี๋ยวพอกลับไปแล้ว เย่ว์ปู้ฉวินอารมณ์ดีขึ้นมา ก็อาจจะมอบ ‘ลมปราณเมฆม่วง’ พร้อมบุตรสาวของตัวเองให้เขาก็ได้ อย่างไรเสียครั้งนี้เขาก็ไม่เจ็บตัวเปล่าแน่นอน จอมยุทธ์น้อยลิ่งหูมีเส้นทางแห่งอนาคตให้เดินแล้ว

ชีชี สถานการณ์ของเจ้าหมอนี่ก็พูดยาก

กำจัดอวี๋ชางไห่ทิ้งแม้จะได้ค่าประสบการณ์ ค่าตบะจำนวนมาก แต่การสังหารเจ้าสำนักก็เท่ากับเป็นศิษย์ที่ทรยศอาจารย์ตัวเอง บทลงโทษก็คือวิทยายุทธ์สำนักทั้งหมดที่เขามีจะถูกลดสองเลเวล

ขณะเดียวกันยังถูกหักค่าวีรบุรุษเยอะด้วย ค่าผลงานสำนักก็ยิ่งเหลือศูนย์

รางวัลที่ได้จากสังหารอวี๋ชางไห่ก็ยังไม่พอชดเชยความเสียหายเหล่านี้ด้วยซ้ำ

อย่างไรเสีย หลังจากเขาสังหารอวี๋ชางไห่แล้ว แม้แต่ไอเทมดรอปหลักๆ ก็ยังไม่ได้ไป!

แต่ถ้าจะบอกว่าเขาแพ้ นั่นก็ไม่แน่เสมอไป

ถ้าความปรารถนาเป็นจริง เขาไม่ถูกศิษย์สำนักซงซานที่กำลังทำภารกิจใกล้สังหารกำจัดทิ้ง ก็จะได้ตำรากระบี่ที่เป็นสุดยอดวิชาเล่มหนึ่งทันที นี่คือของที่เขาวางแผนอยากได้มานานแล้ว

เมื่อความปรารถนาเป็นจริง ถึงอย่างไรก็นับว่าแพ้ไม่ได้อยู่แล้ว

สามผู้เล่นจากสำนักมือปราบเทพก็ยิ่งไม่ต้องพูดอะไรมาก พวกเขาได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว!

ในระหว่างที่ทำภารกิจ พวกเขาไม่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบากเลย

สี่ปัญญาชนแห่งชิงเฉิงที่ถูกซานเย่ว์กับเฟยอวี๋สังหาร ก็ยังเป็นมอนสเตอร์ที่ไร้ความสามารถต่อต้านแล้ว

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิง ทั้งภารกิจใช้อยู่สองกระบวนท่า

ใช้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ยิงหิน

ใช้มังกรซ่อนกบดานถล่มขุดหลุม

แบบนี้ไม่นับว่าเป็นการต่อสู้เลย

ถ้าเทียบกับผลตอบแทนของพวกเขา การต่อสู้ระดับนี้จะเรียกว่าเป็นการได้กำไรโดยไม่ต้องลงทุนก็ได้!

ถึงขั้นว่าแม้แต่อวี๋ชางไห่ก็ยังได้ผลตอบแทนไปไม่น้อย

อวี๋ชางไห่ ได้ที่พักอันหรูหรา…โลงไม้หนานมู่ที่ทำจากลวดทอง ทั้งยังจัดการพิธีการทั้งหมดภายในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง ถือว่าได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าอย่างราบรื่น

หลังจากเขาวางมือจากยุทธภพแล้ว ยังได้ผู้แข็งแกร่งมาสืบทอดวิชาของสำนักชิงเฉิงด้วย นับว่ามีผู้สืบทอดแล้ว

พอพูดแบบนี้ ก็ถือว่าเขาได้กำไรเกินคาดแล้วชัดๆ!

อะไรนะ

ถามถึงสี่เดรัจฉานแห่งชิงเฉิง?

ก็บอกแล้วว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน ย่อมนับพวกเขาในฐานะมนุษย์ไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องไปสนใจ

……

ในที่สุด เขาชิงเฉิงก็ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบท่ามกลางสถานการณ์ปรองดองที่ทุกคนเป็นฝ่ายชนะ

ผู้เล่นสามคนที่กลับถึงสำนักมือปราบเทพก็ได้รับการยอมรับและคำชมจากหวงโส่วจุนเช่นกัน หลังจากประเมินและชื่นชมผลงานของทั้งสามแล้ว ในที่สุดก็เข้าสู่ขั้นตอนการรับรางวัล ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่น

แจกรางวัลภารกิจ!

[ติ๊ง! คุณทำภารกิจ ‘ปราบชิงเฉิง’ ซึ่งเป็นภารกิจใหญ่ของสำนักสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ อิงตามการแสดงออกและผลงานในระหว่างที่ทำภารกิจ ได้รับรางวัลดังนี้: ค่าประสบการณ์ 400,000 แต้ม, ค่าตบะ 100,000 แต้ม มีโอกาสได้รับคำชี้แนะวิทยายุทธ์จากหวงโส่วจุนหนึ่งครั้ง]

[ติ๊ง! คุณได้อัปเลเวลแล้ว ตอนนี้เลเวลของคุณคือ 28!]

พอได้เห็นรางวัลภารกิจ แม้แต่คนที่สุขุมเยือกเย็นอย่างเยี่ยเว่ยหมิงก็ยังแอบดีใจอยู่พักหนึ่ง

นึกไม่ถึงว่าภารกิจนี้จะมอบค่าตบะ 100,000 แต้มให้ตน! ค่าตบะเยอะขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้เขาอัพเลเวลของวิทยายุทธ์ที่สำคัญหนึ่งเลเวลแล้ว!

การที่เขาสิ้นเปลืองกำลังความคิดไปมากมายเพื่อวางแผน ถือว่าคุ้มค่ากับความพยายามจริงๆ

แสงสีทองสามแถวที่เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการอัพเลเวลของตัวละครสว่างวาบอยู่ในหอประชุม ดูจากสีหน้าของเฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็รู้แล้วว่าผู้ที่ตื่นเต้นประหลาดใจกับรางวัลภารกิจครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเยี่ยเว่ยหมิงคนเดียวแน่นอน

“เฟยอวี๋”

หวงโส่วจุนกวาดสายตามองบนตัวทั้งสามทีละคน แล้วเรียกชื่อเฟยอวี๋ก่อน “วิทยายุทธ์หลักที่เจ้าฝึกก็คือวิทยายุทธ์ระดับสูง ‘เคล็ดดาบตระกูลหู’ ตอนนี้เจ้าฝึกพอสมควรแล้ว ก่อนหน้านี้ขาดเพียงกำลังภายในระดับสูงที่จะใช้ฝึกร่วมกัน แต่ตอนนี้ข้าเห็นท่าทีเจ้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย หรือว่าได้รับกำลังภายในที่ดีกว่ามาแล้ว”

เมื่อได้ยินหวงโส่วจุนถามถึงทักษะยุทธ์ของตน เฟยอวี๋ก็ย่อมไม่กล้าเมินเฉย เขารีบพยักหน้าแล้วตอบตามความจริง “หลังจากสังหารอวี๋ชางไห่ตายแล้ว ข้าได้รับกำลังภายในระดับสูงของสำนักชิงเฉิงมา ชื่อ ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ ตอนนี้ข้าเริ่มฝึกแล้วขอรับ”

หวงโส่วจุนพยักหน้า แล้วพูดต่อว่า “‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ เป็นหนึ่งในกำลังภายในระดับสูงสุดของสำนักชิงเฉิง มีจุดที่พิเศษอยู่จริงๆ สอดคล้องกับวิชาดาบและเคล็ดกระบี่ที่สุด เหมาะสมกับเจ้ามาก”

หลังจากเงียบไปครู่เดียว เขาก็พูดต่ออีกว่า “ให้เวลาเจ้าหนึ่งนาที ใช้ค่าตบะที่เพิ่งได้มาเสีย ไม่ว่าจะเพิ่มไปที่ ‘เคล็ดดาบตระกูลหู’ หรือเพิ่มไปที่ ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ ก็ได้ทั้งนั้น จากนั้นค่อยก็มาหาข้าเพื่อให้ชี้แนะทักษะยุทธ์ใดก็ได้หนึ่งวิชา จะได้เพิ่มเลเวลวิชานั้นหนึ่งเลเวล!”

เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงกลับเริ่มบ่นหงชีกงในใจ

ดูหวงโส่วจุนของพวกเราสิ บอกไว้ชัดเจนว่าให้เจ้าใช้ค่าตบะก่อน จากนั้นค่อยไปให้เขาชี้แนะ ทำแบบนี้จะทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดได้

เทียบกับเจ้าหงชีกงขี้งกนั่น หวงโส่วจุนน่ารักกว่าไม่รู้ตั้งเท่าไร

คนสำนักเดียวกันดีกว่าจริงๆ ด้วย!

เขาเพียงเปรียบเทียบท่าทีของ NPC ระดับสูงสองคนเท่านั้น แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่า รางวัลของภารกิจระดับหนึ่งดาวกับภารกิจระดับหกดาวจะเหมือนกันได้อย่างไร

หลังจากนั้นพักหนึ่ง เฟยอวี๋ก็เพิ่มค่าตบะเสร็จเรียบร้อยแล้วกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “หวงโส่วจุน ข้าอยากอัปเลเวลเคล็ดดาบตระกูลหู”

หวงโส่วจุนพยักหน้า “เคล็ดดาบตระกูลหู ให้ความสำคัญกับเคล็ดลับสี่ดาบ นั่นก็คือ…”

หลังจากนั้นสิบนาที เฟยอวี๋ก็ถอยมาอยู่ด้านข้างด้วยความอิ่มเอมใจ ดูจากสีหน้าโอ้อวดของเจ้าหมอนี่ก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เขาได้รับต้องยิ่งใหญ่มากแน่นอน

หลังจากชี้แนะเฟยอวี๋แล้ว หวงโส่วจุนก็ย้ายสายตาไปบนตัวซานเย่ว์

เมื่อเทียบกับเฟยอวี๋ นางหนูคนนี้กระตือรือร้นกว่ามาก ไม่รอให้หวงโส่วจุนพูดอะไร นางก็เป็นฝ่ายพูดก่อนแล้ว “หวงโส่วจุน ข้าอยากเพิ่มเลเวล ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ที่ข้าเพิ่งเรียน ข้าเพิ่มค่าตบะทั้งหมดไปบนนั้นแล้ว หวงโส่วจุนได้โปรดชี้แนะ!”

“อย่ารีบ” คาดไม่ถึงว่าหวงโส่วจุนกลับยกมือห้าม “ในเมื่อเจ้าฝึก ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ของ‘สำนักชิงเฉิงแล้ว ก็น่าจะรู้ว่านั่นคือเคล็ดฝ่ามือที่ไม่สมบูรณ์ ถึงขั้นถูกประเมินให้เป็นเคล็ดวิชาระดับกลาง ตอนนี้ข้ามีทางเลือกให้เจ้าสองทาง หนึ่งคือเลือกวิทยายุทธ์หนึ่งวิชาให้ข้าชี้แนะเหมือนเฟยอวี๋ จะได้เพิ่มหนึ่งเลเวล หรือไม่อย่างนั้น…”

หวงโส่วจุนชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มหยอกล้อ “ข้าช่วยทำให้เคล็ดฝ่ามือของเจ้าสมบูรณ์ได้ เปลี่ยนให้มันเป็นเคล็ดฝ่ามือระดับสูงที่สมบูรณ์!”

ซานเย่ว์ได้ยินแล้วตะลึง ก่อนจะตอบอย่างดีใจมาก “ข้าต้องการเสริมให้เคล็ดฝ่ามือสมบูรณ์!”

ต้องทราบไว้ว่า การจะอัปเลเวลเคล็ดฝ่ามือหนึ่งเลเวล ก็แค่ประหยัดค่าตบะไว้เท่านั้นเอง แต่ถ้าอยากทำให้เคล็ดฝ่ามือสมบูรณ์ กลับต้องอาศัยจังหวะ

ถ้าจังหวะยังมาไม่ถึง ต่อให้เจ้าไปถึงจุดมุ่งหมายได้รวดเร็วเหมือนติดปีกบิน วิทยายุทธ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ยังเป็นวิทยายุทธ์ที่ไม่สมบูรณ์อยู่ดี!

สองทางเลือกนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าใครก็รู้ว่าควรเลือกอย่างไร

หลังจากหวงโส่วจุนได้ยินซานเย่ว์เลือกแล้ว ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วบอกว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ตั้งใจฟังไว้ อันมรรคาแห่งฟ้า ทอนส่วนเกิน…”

หลังจากนั้นสิบนาที ซานเย่ว์จับภาพส่งไปในช่องทีม

[ฝ่ามือทะลวงใจ (ระดับสูง)]

เคล็ดฝ่ามือดุดันที่ใช้วิธีการโจมตีผ่านอากาศเพื่อใช้พลังภายในทำลายอวัยวะภายใน

เลเวล: …

……

ตอนที่ได้เห็นฝ่ามือทะลวงใจหลังจากเสริมให้สมบูรณ์แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ตะลึงค้างทันที!

มารดาเจ้าเถอะ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำแบบนี้ได้ด้วย

ตอนที่หวงโส่วจุนหันกลับมามองที่ตน เยี่ยเว่ยหมิงก็ชิงพูดอย่างไม่ลังเลว่า “หวงโส่วจุนมีศักยภาพแข็งแกร่งจริงๆ ด้วย ใต้หล้าไร้เทียมทาน ปฏิบัติตนยุติธรรมไร้ความเห็นแก่ตัว ตอนแจกรางวัลภารกิจไม่มีทางลำเอียงแน่ ท่านดูสิ ขนาด ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ของซานเย่ว์ท่านยังทำให้สมบูรณ์ได้ เช่นนั้นก็ไม่น่าจะเลือกที่รักมักที่ชังหรอกใช่ไหม”

หวงโส่วจุนได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้ “เจ้าอยากจะให้ข้าเลือกที่รักมักที่ชังอย่างไรล่ะ”

รอยยิ้มของเยี่ยเว่ยหมิงสดใสยิ่งกว่าเดิม “ที่จริงในภารกิจก่อนหน้านี้ ข้าเรียนเคล็ดฝ่ามือที่ไม่สมบูรณ์มาวิชาหนึ่ง ท่านเองก็ออกแรงช่วยเสริมความสมบูรณ์ของเคล็ดวิชานี้ให้ข้าสักหน่อยสิ”

ไม่อย่างนั้นจะมีคำกล่าวที่ว่า ‘คนหน้าด้าน ใต้หล้าไร้เทียมทาน’ หรือ

พอได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยคำขอแบบนี้ออกมา เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็อดมองเขาด้วยสายตาดูถูกไม่ได้

ส่วนหวงโส่วจุนก็เพียงยิ้มบางๆ จากนั้นบอกว่า “เจ้าจะลองใช้เคล็ดฝ่ามือที่เจ้าเรียนมาก่อนก็ได้ แต่ขอบอกไว้ล่วงหน้า ความสามารถของข้ามีจำกัด ใช่ว่าจะอัปเลเวลทุกทักษะยุทธ์ให้เต็มได้ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ จัดเป็นกรณีพิเศษ ถ้าเคล็ดฝ่ามือที่เจ้าเรียนมาไม่ยากเกินไป ข้าก็จะพยายามช่วยเจ้าเสริมให้สมบูรณ์ ใช่ว่าจะลองดูไม่ได้”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วดีใจมาก เขาคิดเสียว่าเป็นการทดลอง ย่อเข่าแล้วผลักฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้งอย่างธรรมดาเรียบง่ายทันที

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงใช้ฝ่ามือนี้เหมือนทำเป็นเล่น เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็อดสงสัยไม่ได้ อย่าบอกนะว่าก่อนหน้านี้ตนเดาผิด

คาดไม่ถึงว่าหลังจากหวงโส่วจุนเห็นฝ่ามือนี้ของเขาแล้ว กลับด่าทอยกใหญ่ทันที “เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์ เรียนรู้ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ได้เพียงหนึ่งกระบวนท่า เจ้าก็คิดจะเสริมให้มันเป็นสุดยอดวิชาที่สมบูรณ์แบบแล้วหรือ…

…ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค พุ่งพรวดขึ้นฟ้าเก้าหมื่นลี้[1]”

[1] ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค พุ่งพรวดขึ้นฟ้าเก้าหมื่นลี้ 问君何不乘风起,扶摇直上九万里 ส่วนหนึ่งจากบทกลอน 上李邕 ช่างหลี่ยงของกวีหลี่ไป๋ หมายถึง ต้องการให้เจ้าทำตามความมุ่งมาดปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด