ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 51 กระสอบข้าวแสนสาหัส

อ่านนิยายจีนเรื่อง ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ ตอนที่ 51 กระสอบข้าวแสนสาหัส อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 51 กระสอบข้าวแสนสาหัส

การที่สามารถดึงค่าความแค้นของ BOSS เพื่อล่อให้มาหาตัวเองได้ในทันที ก็เพราะเยี่ยเว่ยหมิงรู้ว่าทั้งเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ มีเพียงสกิลเดียวที่ทำเช่นนี้ได้

นั่นก็คือเคล็ดจิตไท้ซัวเป็นไฉนของเขานั่นเอง!

ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ใช้กระบวนท่านี้ ครั้งนี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ใช้มือซ้ายนับนิ้วคำนวณ อันที่จริงการนับนิ้วคำนวณเป็นเพียงข้อต่อสำคัญในการเริ่มใช้งานไท้ซัวเป็นไฉนก็เท่านั้นเอง ไม่ใช่ขั้นตอนที่จำเป็น

หรือพูดได้อีกอย่างว่า ไม่ว่าจะนับนิ้วหรือไม่ ก็ใช้งานไท้ซัวเป็นไฉนได้อยู่ดี

และประโยชน์ของการนับนิ้วก็คือ ช่วยให้ขั้นตอนการคำนวณง่ายขึ้นในระดับหนึ่งเท่านั้น

ทำให้ขั้นตอนการคำนวณง่ายขึ้นหมายถึงอะไร ลองเปรียบเทียบกันดู หากนับนิ้วคำนวณก็จะเจอโจทย์คณิตศาสตร์ที่ใช้เลขสามหลักคูณเลขสองหลัก แต่ถ้าไม่นับนิ้วคำนวณ ก็จะเจอโจทย์เลขสามหลักคูณเลขสามหลัก ขณะที่ระดับความยากในการคำนวณเพิ่มขึ้น หลักเลขที่มากเกินไปก็จะทำให้เกิดโอกาสผิดได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ ถ้าอยากจะใช้งานให้สำเร็จก็ต้องนับนิ้ว แบบนั้นถึงจะมีความมั่นใจ

เพียงแต่ครั้งนี้ เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้เตรียมจะใช้งานผลแอคทิฟสกิลไท้ซัวเป็นไฉนให้สำเร็จ เขาเพียงจะใช้เคล็ดจิตนี้ให้เป็นเอฟเฟ็กต์ยั่วยุอันแข็งแกร่งเท่านั้น ย่อมไม่ต้องสนใจระดับความยากของสูตรคำนวณอยู่แล้ว

ขณะกำลังคำนวณโจทย์เลขที่ปรากฏตรงหน้า เพื่อที่จะรับประกันความต่อเนื่องของเอฟเฟ็กต์ยั่วยุ เยี่ยเว่ยหมิงยังคงจับตาดูระยะห่างของจีไหลเหย่อยู่ตลอด จนกระทั่งอีกฝ่ายพุ่งมาอยู่ตรงหน้าเขาในระยะประมาณหนึ่งจั้ง ทั้งสองก็อยู่ในขอบเขตการต่อสู้ของกันและกันแล้ว ตอนนี้เขาถึงได้หยุดใช้อ่านใจกะทันหัน พอตวัดกระบี่ชิงจู๋ในมือ เงากระบี่สีเขียวมรกตก็แผ่คลุมอีกฝ่ายเอาไว้ตรงกลางแล้ว

เคล็ดกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิงดุดัน แต่จีไหลเหย่ก็ไม่ใช้ตัวถ่วงของทีมเช่นกัน ที่จริงไม่เพียงแค่ไม่ใช่ตัวถ่วง แต่เขายังเป็น BOSS เลเวลยี่สิบเก้าที่ถนัดโจมตีระยะประชิดด้วย!

นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ‘ยามผู้เชี่ยวชาญลงมือ ก็รู้แล้วว่าใช่หรือไม่’ เมื่อทั้งสองประมือกัน เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ว่าการโจมตีด้วยวิชาดรรชนีของอีกฝ่ายประหลาดเจ้าเล่ห์มาก เขาเพิ่งใช้เคล็ดกระบี่ไปบางกระบวนท่า ก็ถูกวิชาดรรชนียับยั้งไว้แล้ว จำเป็นต้องเปลี่ยนท่ากลางคัน ตกอยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ใช้ไปเพียงสามกระบวนท่า ความได้เปรียบที่เยี่ยเว่ยหมิงชิงลงมือก่อนถูกอีกฝ่ายดึงให้เสมอกันโดยสมบูรณ์แล้ว ถ้าสู้ต่อไปแบบนี้ก็มีแต่จะตกอยู่ในสถานะผู้ถูกกระทำ

เคล็ดกระบี่วีรสตรีที่สูงถึงเลเวลแปด ตอนเผชิญหน้ากับ BOSS ที่ถนัดโจมตีระยะประชิด ไม่น่าเชื่อว่าจะสู้ไม่ไหว!

เพียงแต่ยังดีที่เขาไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ในการต่อสู้ แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะไม่ได้เปรียบในด้านกระบวนท่า แต่ต่อสู้กันมาจนป่านนี้ เขาก็ยังรักษาพลังชีวิตเอาไว้ได้เต็ม กลับเป็น BOSS อย่างจีไหลเหย่ที่แถบพลังชีวิตเหนือศีรษะลดลงพรวดพราด

เนื่องจากต้องใช้สมาธิสู้กับเยี่ยเว่ยหมิง BOSS คนนี้จึงไม่มีเวลาไปสนใจถังซานไฉ่ที่อยู่อีกด้านแล้ว ทำให้พี่ใหญ่สำนักถังเหมินคนนี้ยืนนิ่งอยู่กับที่ได้อย่างสบายๆ ในสถานการณ์ที่ต้องรับมือกับเคล็ดกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิง จีไหลเหย่ถึงขั้นหลบหลีกหรือบล็อกการโจมตีไม่ได้ด้วยซ้ำ พอเป็นแบบนี้ คนที่เสียค่าพลังชีวิตก็มีแต่เขาอยู่แล้ว

ตอนนี้ถ้าจีไหลเหย่อยากจะสลัดเยี่ยเว่ยหมิงทิ้งก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว โอกาสเดียวที่จะพลิกความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะก็คือ ดันทุรังต้านดาเมจจากถังซานไฉ่ อาศัยที่เขามีค่าพลังชีวิตเยอะกว่า พยายามทำให้ไอ้เวรน่ารังเกียจที่อยู่ตรงหน้าตายก่อนที่ตัวเองจะโดนกำจัดทิ้ง

ทว่าตอนที่เขาเตรียมจะออกแรงสุดกำลัง แทงเยี่ยเว่ยหมิงให้ตายในอึดใจเดียว กลับค้นพบอย่างตกตะลึงว่า ไอ้เวรนี่มันเปลี่ยนกระบวนท่าแล้ว!

ไม่ผิดหรอก!

ในเมื่อใช้เคล็ดกระบี่วีรสตรีแล้วเสียเปรียบ เยี่ยเว่ยหมิงก็ล้มเลิกความคิดที่จะพยายามโจมตีทันที เปลี่ยนมาใช้ใช้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ แต่โดยดี เริ่มจดจ่ออยู่กับการป้องกัน

เยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนท่าฉับพลัน ทำให้จีไหลเหย่ที่กำลังต่อสู้กันอยู่พลันรู้สึกเหมือนได้เปลี่ยนตัวศัตรูกะทันหัน ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นเม่นตัวหนึ่ง หากไม่ระวังนิดเดียวก็จะถูกหนามแทงได้ แต่ตอนนี้กลับกลายร่างเป็นเต่ายักษ์ตัวหนึ่งแล้ว แม้จะไม่ได้สร้างภัยคุกคามเหมือนก่อนหน้านี้ แต่กลับทำให้เขารู้สึกว่าหาจุดโจมตีไม่ได้

ไม่ว่าจีไหลเหย่จะเปลี่ยนท่าอย่างไร แต่ก็ตีฝ่าเคล็ดกระบี่ป้องกันที่เหมือนกระดองเต่าของเจ้าหมอนี่ไม่ได้เลย

จุดแข็งของมังกรร่อนล่อหงส์ก็คือป้องกันได้โหดพอสมควร มีความสามารถในการรักษาชีวิตได้ยอดเยี่ยม แต่ก็แทบจะเป็นข้อดีเพียงอย่างเดียวของมันแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงการโจมตี แม้แต่ความสามารถในการถ่วงรั้งคู่ต่อสู้ยังแทบจะเป็นศูนย์เลย พุ่งเป้าไปที่ช่องโหว่นี้ จีไหลเหย่หันตัวพุ่งไปหาถังซานไฉ่ที่กำลังยืนโจมตีอยู่กับที่ทันที จากนั้น…

“กลับมา!”

เยี่ยเว่ยหมิงใช้สกิลยั่วยุ ดึงค่าความแค้นของจีไหลเหย่ให้กลับมาอยู่ที่ตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้ท่ามังกรร่อนล่อหงส์รับมือกับเขา เยี่ยเว่ยหมิงป้องกันอย่างสงบใจต่อไป ส่วนถังซานไฉ่ก็ยืนโจมตีอยู่กับที่ต่อไป

ที่แท้เคล็ดกระบี่ป้องกันชุดนี้ที่โหยวจิ้นให้เขา เมื่อใช้ประกอบกับเอฟเฟ็กต์ยั่วยุของไท้ซัวเป็นไฉน ไม่น่าเชื่อว่าจะใช้งานได้ดีขนาดนี้!

ตีฝ่าแนวป้องกันไม่ได้ ถ้าหันไปโจมตีถังซานไฉ่ก็ถูกเคล็ดจิตไท้ซัวเป็นไฉนคุกคามอีก จีไหลเหย่ทำได้เพียงใช้กลยุทธ์ใหม่แบบพลิกโฉม ขณะที่รับมือกับเยี่ยเว่ยหมิงต่อไป เขาก็ผ่อนจังหวะการโจมตีให้ช้าลงเยอะมาก เน้นใช้สมาธิป้องกันการโจมตีระยะไกลจากถังซานไฉ่ พอเป็นแบบนี้ ถังซานไฉ่ที่ก่อนหน้านี้ใช้อาวุธลับโจมตีแม่นยำหกในสิบครั้ง ประเดี๋ยวเดียวก็กลายเป็นฝ่าแนวป้องกันของเขาได้ยากแล้ว

จีไหลเหย่แอบโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ตอนนี้เขาทำได้เพียงหวังว่าพี่ใหญ่ของเขาจะเก่งกาจมากพอ รีบกำจัดไป๋จ่านจีทิ้งโดยเร็วแล้วมาช่วยเขา

จากนั้น…

ฉึก!

ลบ -1511!

โดนพิษ!

เยี่ยเว่ยหมิงทำดาเมจโดยการโจมตีจุดสำคัญ เพียงพอที่จะถ่วงให้เวลาถังซานไฉ่โจมตีต่อไปได้อีกหนึ่งนาที เห็นแถบพลังชีวิตบนศีรษะจีไหลเหย่ลดลงเร็วมากจนตาเปล่าสังเกตเห็นได้ สีแดงสดเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มแล้ว!

การโจมตีอันน่าตื่นตะลึงเหนือความคาดหมายแบบนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้จีไหลเหย่เจ็บจนร้องโอดโอย แม้แต่ถังซานไฉ่ก็ยังตกใจ ถึงขั้นหยุดขว้างอาวุธลับโดยไม่รู้ตัวด้วย

การโจมตีของเจ้าหมอนี่ โหดขนาดนี้เลยเหรอ

พอนึกถึงการต่อสู้ระหว่างเขากับเยี่ยเว่ยหมิงก่อนหน้านี้อีกครั้ง ก็ยิ่งทำให้เขาแอบปาดเหงื่อ ถ้าการโจมตีแบบนี้เกิดขึ้นกับเขา เกรงว่าคงจะโดนปลิดชีพไปแล้ว โดนปลิดชีพแบบไม่มีการโดนโจมตีครั้งที่สองแน่นอน!

“อย่ามัวเหม่อ คงการโจมตีเอาไว้!”

เมื่อได้ยินเสียงเตือนของเยี่ยเว่ยหมิง ถังซานไฉ่ถึงได้ดึงสติกลับมาจากความตกตะลึง โปรยอาวุธลับใส่ BOSS ที่อยู่ตรงหน้าอย่างอุกอาจต่อไป

หลังจากลองใช้กลยุทธ์แบบต่างๆ ไปรอบหนึ่ง สุดท้ายจีไหลเหย่ก็ยังหาวิธีแก้สถานการณ์ไม่ได้ กอปรกับหลังจากโดนพิษแล้ว ค่าสเตตัสต่างๆ บนตัวก็ถูกหักไปแล้วไม่น้อย เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่คู่ต่อสู้สองคนร่วมมือกันโจมตี ไม่นานก็ตามหลังเก๋ออ๋างโส่วไปแล้ว ซี้แหงแก๋!

และท่าสุดท้ายที่สังหารเขาก็คือท่า ‘ไซซีกุมตับ’ ของเยี่ยเว่ยหมิงนั่นเอง

[ติ๊ง! คุณสังหารจีไหลเหย่ BOSS เลเวล 23 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 3000 แต้ม ค่าตบะ 300 แต้ม

ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง ศิษย์สำนักถังเหมิน ถังซานไฉ่…]

ท่ามกลางเสียงประกาศทำเฟิร์สคิลต่อเนื่องสามครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงโน้มตัวลงคลำศพจีไหลเหย่ ของที่ดรอปล้วนถูกแบ่งเข้าห่อสัมภาระของทั้งสองคนตามค่าผลงานโดยอัตโนมัติ

เมื่อเห็นถังซานไฉ่เผยสีหน้าดีใจ เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้แล้วว่ารางวัลที่ได้รับคงเยอะพอสมควร

แล้วเขาก็ตรวจดูสิ่งที่ตัวเองได้รับ…

[ปลอกข้อมือหนังกบ (สีเขียว): อุปกรณ์ที่ปรมาจารย์นินจาจากญี่ปุ่นทิ้งไว้กลางทาง แข็งแรงทนทาน

โจมตี +50

ป้องกัน +30

เพิ่มกำลังภายใน 15% ]

[กระสอบข้าวแสนสาหัส: กระสอบข้าวที่ล้างไม่สะอาด ข้าวทุกเม็ดเปื้อนโคลน รสชาติของมัน…ขม เผ็ด หวาน เค็ม! ห้ามทิ้ง ห้ามเผาทำลาย]

[เงิน: 1 เหรียญทอง 60 เหรียญเงิน]

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด