ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 77 สาวน้อยชุดแดง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ ตอนที่ 77 สาวน้อยชุดแดง อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 77 สาวน้อยชุดแดง

พวกเขาพูดคุยกันตลอดทาง พูดถึงการต่อสู้ก่อนหน้านี้ กลุ่มยอดฝีมือย่อมมีประเด็นให้สนทนาไม่จบไม่สิ้นอยู่แล้ว แลกเปลี่ยนเคล็ดลับประสบการณ์บางอย่างระหว่างกัน รู้สึกว่าได้เก็บเกี่ยวความรู้แบบเน้นๆ

ในระหว่างนั้น เยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยถึงวิชาอาวุธลับที่ถังซานไฉ่ใช้ตอนต่อสู้ อดถามอย่างสงสัยไม่ได้ว่า “อาวุธลับที่สหายซานไฉ่ใช้โจมตีโดนอวี๋ชางไห่ก่อนหน้านี้ร้ายกาจมากจริงๆ แต่หลังจากเขาโดนดีแล้วไม่โดนพิษ เจ้าคงไม่ได้ใช้เข็มปากยุงสินะ”

หลังจากทุกคนคุ้นเคยกันแล้ว ถังซานไฉ่ก็ไม่ได้ปิดบัง ส่งลิ้งก์ไอเทมเข้ามาในช่องทีมเสียเลย

[เข็มกษิติครรภ์ (ทองคำ): อาวุธลับฉีเหมินที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น ยามใช้งานไร้สำเนียง ประสิทธิภาพน่าทึ่ง

โจมตี+160

พลังโจมตีต่อปราณแท้ป้องกันตัวเพิ่มเติม 50%

จำนวน: 97/100

สินค้าใช้แล้วทิ้ง]

ปราณแท้ป้องกันตัวเป็นของดี สามารถต้านทานการโจมตีได้ทุกรูปแบบ เหมือนตอนสู้กับหลินจื้อเพ่ยก่อนหน้านี้ ที่ปราณแท้ป้องกันตัวของอีกฝ่ายสามารถดีดอาวุธลับของถังซานไฉ่ให้กระเด็นไปได้ทั้งหมด

และเอฟเฟ็กต์พิเศษของเข็มกษิติครรภ์นี้ ก็มีบทบาทในการเอาชนะปราณแท้ป้องกันตัวได้ในระดับหนึ่ง จากเดิมทีที่เจาะทะลุปราณแท้ป้องกันตัวไม่ได้ เมื่อใช้อาวุธนี้ก็จะเจาะผ่านได้

นี่ยังอยู่ในสถานะไม่มีพิษ หากผ่านการชุบพิษแล้วล่ะ…

จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ถึงความเป็นไปได้บางอย่าง เยี่ยเว่ยหมิงอดถามไม่ได้ว่า “ตอนสู้กันก่อนหน้านี้ โชคดีที่สหายซานไฉ่ยั้งมือไว้ไมตรี”

ถังซานไฉ่ได้ยินแล้วส่ายหน้าอย่างจริงใจ “ตอนพวกเราร่วมมือกันโจมตีจีไหลเหย่ ข้าก็ได้ของสิ่งนี้มาจากเขา เพียงแต่ตอนนั้นยังอยู่ในสถานะผนึกไว้ ตอนหลังข้าทำภารกิจจนหนึ่งปลดผนึกได้ ดังนั้นตอนที่ข้าสู้กับเจ้า ข้าก็ยังไม่มีอาวุธนี้เลย…

…ยิ่งไปกว่านั้น เข็มกษิติครรภ์หนึ่งร้อยเล่มนี้เป็นอาวุธลับที่เก็บกลับมาไม่ได้ ใช้ครั้งหนึ่งก็หายไปเล่มหนึ่ง ต่อให้มีมัน ข้าก็อาจจะตัดใจใช้มันกับเจ้าไม่ลง”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ พูดอย่างนี้ก็ถือว่าสมเหตุสมผล

อย่างไรเสียพวกเขาสองคนก็ร่วมมือกันสังหารจีไหลเหย่ ไม่มีเหตุผลที่จะให้ของดีแบบนี้ตกเป็นของเขาคนเดียว

เพียงแต่เมื่อเอ่ยถึงศึกครั้งนั้น ถังซานไฉ่กลับยิ้มเจื่อนอย่างจนใจ “จะว่าไปแล้วข้าก็ซวยพอสมควร ตอนนั้นเห็นอยู่ชัดๆ ว่าฆ่า BOSS ตายแล้ว ผลปรากฏว่าตัวเองกลับถูกดึงให้ตายตามไปด้วย การต่อสู้วันนี้ก็หวาดเสียวมากเหมือนกัน เกือบได้ลงหลุมศพเป็นเพื่อน BOSS อีกรอบ!”

“ถ้าจะให้ข้าพูดนะ ก็เป็นเพราะเจ้าตั้งชื่อไม่เป็นมงคลอย่างไร” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวกึ่งล้อเล่น

“ชื่อข้ามันทำไมหรือ นั่นเป็นโบราณวัตถุล้ำค่าเชียวนะ!” ถังซานไฉ่งงไปชั่วขณะ

“ก็ก่อนที่จะเป็นโบราณวัตถุล้ำค่า มันก็ถูกใช้เพื่อฝังลงหลุมศพโดยเฉพาะไม่ใช่หรือ”

ถังซานไฉ่ “…”

หลังจากเงียบไปสองวินาที ถังซานไฉ่ถึงส่ายหน้า บอกว่า “แต่คนเราก็ไม่ได้ซวยทุกรอบเสมอไป ครั้งนี้ข้าถังซานไฉ่ก็แปลงเหตุร้ายให้กลายเป็นดีผ่านมาได้แล้วไม่ใช่หรอกหรือ”

“ทุกคน รอสักครู่!”

ขณะที่พูด สาวน้อยชุดแดงคนหนึ่งที่เดิมทีเดินผ่านพวกเขาไปพลันถลันตัว มาขวางตรงหน้าพวกเขาไว้

เมื่อตั้งใจมองให้ดี กลับพบว่าสาวน้อยคนนี้มีใบหน้าเหมือนสาวโลลิ มองเผินๆ เหมือนอายุสิบห้าสิบหกเท่านั้น ผมงามยาวตรงสยายบนชุดแดงรัดรูป สีสันตัดกันจนโดดเด่นขึ้นมา

สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นก็คือ บนหลังนางสะพายดาบเดี่ยวพร้อมฝักดาบเล่มหนึ่ง มองจากข้างหน้าจะเห็นฝักดาบอันสวยประณีตโผล่ขึ้นมาข้างใบหน้างามด้านขวาของนาง เหมือนเป็นงานศิลปะที่งดงามชิ้นหนึ่งเช่นกัน

หลังจากมาขวางพวกเขาไว้แล้ว สายตาของสาวน้อยก็หยุดอยู่ที่ถังซานไฉ่ทันที พร้อมเอ่ยถามว่า “เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินพวกเจ้าคุยกัน เหมือนเจ้าบอกว่าตัวเองชื่อถังซานไฉ่ ใช่ถังซานไฉ่ศิษย์สำนักถังเหมินที่บารมีสูงมากคนนั้นไหม”

“ไม่ผิดหรอก เป็นข้าเอง”

แม้ในใจถังซานไฉ่จะมีความสงสัย แต่กลับยังยอมรับฐานะตัวเองก่อน ตามด้วยถามว่า “แม่นางมาหาข้ามีธุระอะไร”

เมื่อได้ยินถังซานไฉ่ยอมรับฐานะของตัวเอง สาวน้อยชุดแดงก็ยื่นมือไปคว้าดาบเดี่ยวที่อยู่ข้างหลังช้าๆ ขณะเดียวกันก็กล่าวด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า “ไม่มีอะไร แค่จะฆ่าเจ้าเฉยๆ”

เมื่อสาวน้อยชุดแดงกล่าวเช่นนี้ ก็ทำให้อีกสี่คนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกตกใจเหมือนโดนฟ้าผ่าจนกรอบนอกนุ่มใน

แม่นางคนนี้ดูเหมือนน่ารักมุ้งมิ้ง ทำไมพออ้าปากก็พูดว่าจะฆ่าคนแล้วล่ะ

อีกทั้งยังพูดเรื่องการ PK ได้อย่างสบายๆ ไม่จริงจังด้วย ฟังดูง่ายดายราวกับกินข้าวดื่มน้ำ

น้องสาว นี่เธอรู้หรือเปล่าว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นใคร

นั่นคือศิษย์พี่ใหญ่สำนักถังเหมินนะ!

แน่นอน ศิษย์พี่ใหญ่เป็นเพียงคำยกย่องจากผู้เล่นในสำนักเท่านั้น ไม่ได้ถูกยอมรับจากระบบ ยังมีการกล่าวเกินจริงอยู่บ้าง

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ความจริงที่เขาเป็นยอดฝีมือระดับบนของสำนักถังเหมินก็ไม่ใช่เรื่องโกหกแม้แต่น้อย!

และนอกจากเขาแล้ว ที่นี่ก็ยังมียอดฝีมือจากสำนักลึกลับอีกสามคน เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน เมื่อครู่เพิ่งสังหารเจ้าสำนักชิงเฉิง BOSS ใหญ่เลเวลสี่สิบตายไปนะ

มือใหม่ที่ไม่เข้าใจแม้แต่การใช้ประโยชน์จากระบบสัมภาระ ได้แต่แบกอาวุธไว้ข้างหลังอย่างเธอ ไม่น่าเชื่อว่าจะประกาศสังหารถังซานไฉ่ตรงนี้

เธอเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับคำเรียก ‘ยอดฝีมือในเกม’ หรือเปล่า

อีกฝ่ายประกาศแล้วว่าจะฆ่าคน แต่ถังซานไฉ่กลับมีความเป็นสุภาพบุรุษมาก เขาไม่ได้กล่าวเหน็บแนม กลับถามอย่างจริงจังว่า “น้องสาว ข้ากับเจ้าไม่รู้จักกัน ทำไมพอเจอหน้ากันก็ตะโกนว่าจะสังหารข้าเสียแล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น เฟยอวี๋ที่อยู่ข้างกันกลับถามว่า “สหายถัง หรือว่าเจ้าเคยเจอมาก่อน แล้วตอนหลังลืมไปหรือเปล่า”

“เป็นไปไม่ได้!” ถังซานไฉ่ตอบอย่างเฉียบขาด “ถึงข้าจะฝึกกับสำนักถังเหมิน แต่กลับไม่ชอบ PK ยิ่งไม่ได้ผูกความแค้นกับใครด้วย มิหนำซ้ำยังเป็นสาวสวยมีเอกลักษณ์ขนาดนี้ ถ้าก่อนหน้านี้ข้าเคยรู้จึก ข้าจะต้องไม่ลืมแน่นอน”

“อย่านึกว่าชมว่าข้าสวยแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป” ขณะที่พูด สาวน้อยชุดแดงกลับคลายมือเรียวสวยออกจากด้ามดาบ “แต่ในเมื่อเจ้าเอ่ยถามอย่างจริงใจแล้ว ข้าก็จะให้เจ้าได้ตายอย่างกระจ่างแล้วกัน”

ดวงตาโตฉ่ำน้ำกวาดมองสบสายตาทั้งสี่ สาวน้อยชุดแดงกลับบอกถังซานไฉ่โดยไม่แย่แสแม้แต่น้อยว่า “เมื่อวานตอนค่ำ เจ้าสังหารผู้เล่นที่ชื่อ ‘เจ้าอ้วนชนะฟ้า’ ตายหรือเปล่า”

“ข้าจำได้” ถังซานไฉ่ยอมรับอย่างจริงใจมาก “ตอนนั้นข้ารับภารกิจมาเพื่อปลดผนึกอาวุธชิ้นหนึ่ง ข้าต้องช่วย NPC ที่ชื่อเหลยหลิงอวิ๋นเอาชนะการแข่งหมากล้อม ข้าเล่นหมากล้อมไม่เป็น ทำได้เพียงใช้อีกช่องทางหนึ่ง ขอเพียงคู่ต่อสู้ของเขาไปตามเวลานัดไม่ได้ ก็ย่อมถือว่าภารกิจนี้สำเร็จแล้ว”

ถังซานไฉ่ไม่ได้อันธพาลหยาบคายเพราะตัวเองเป็นยอดฝีมือ เขาพูดจาอย่างมีมีกฎเกณฑ์ชัดเจนมาก “ยังดีที่คู่ต่อสู้ของเหลยหลิงอวิ๋นเป็นผู้เล่นคนหนึ่ง และเป็นเจ้าอ้วนชนะฟ้าที่เจ้าบอกด้วย เดิมทีข้าเตรียมจะเจรจากับเขาสักหน่อย จะขอให้เขาละทิ้งภารกิจ ข้าถึงขั้นยินดีมอบผลประโยชน์ให้เขาบางส่วนด้วย”

ถังซานไฉ่ยักไหล่ แล้วกล่าวอย่างจนใจมากว่า “แต่เขาไม่เพียงแค่ไม่ยอม กลับพูดจาน่ารังเกียจกับข้า สบประมาทการเล่นหมากล้อมของข้า ตอนนั้นข้าโมโหจนขาดสติไปชั่วขณะ ก็เลยเลือกวิธีการง่ายๆ เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ ดังนั้น ข้าไม่คิดว่าตัวเองเสียเปรียบด้านเหตุผล ถ้าเจ้าต้องการจะลงมือ ข้าก็ไม่มีทางนั่งรอความตาย”

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” ขณะที่พูด สาวน้อยชุดแดงก็ยกมือกุมด้ามดาบอีกครั้ง “ที่ข้ายอมอธิบายให้เจ้าฟัง ก็เพื่อให้เจ้าตายอย่างกระจ่างก็เท่านั้นเอง…

…แต่เจ้าก็อย่ากังวลเกินไปนัก” สาวน้อยชุดแดงยิ้มบางๆ แล้วพูดต่อไปว่า “เจ้าฆ่าพี่ชายข้าหนึ่งครั้ง ข้าก็จะฆ่าเจ้าหนึ่งครั้งเช่นกัน ไม่เคยคิดสิ้นปลืองเวลามาไล่ฆ่าเจ้าจนเลเวลเหลือศูนย์”

“ในฐานะที่ทำอาชีพโจมตีระยะไกล ตอนนี้เจ้าดึงระยะห่างกับข้าให้ได้มากที่สุดได้เลย อีกสามวินาทีข้าจะลงมือ”

“หนึ่ง!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด