ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 40 ความสามารถเพิ่มอีกครั้ง
ตอนที่ 40 ความสามารถเพิ่มอีกครั้ง
บนเขาหวังผานมีศพเกลื่อนพื้น อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นจำนวนหรือคุณภาพ ก็ล้วนเหนือกว่าศพที่สำนักคุ้มภัยหลงเหมินก่อนหน้านี้ เนื่องจากในเหตุการณ์นี้มี NPC ตายด้วย ทั้งหมดล้วนเป็นคนในยุทธภพ ไม่มีคนไหนที่ไม่มีทักษะยุทธ์
ต่อให้เป็นกลุ่มคนจากสามสำนักที่อยู่ระดับต่ำสุด ทว่าแต่ละคนก็ให้ค่าประสบการณ์แก่เยี่ยเว่ยหมิงประมาณยี่สิบแต้มได้
ในจำนวนนั้นยังมีศพของ BOSS จำนวนห้าร่าง ทุกร่างล้วนให้ค่าประสบการณ์เยี่ยเว่ยหมิงประมาณสองพันแต้ม
BOSS ในนั้นแบ่งเป็น
หยวนก่วงปัว ประมุขพรรคทะเลทราย
ไม่จิง ประมุขพรรคปลาวาฬ
กั้วซานจาง เจ้าสำนักหมัดเทวะ
รวมทั้งเกาเจ๋อเฉิงและเจี่ยงเถา ซึ่งเป็นศิษย์สำนักคุนหลุน
ใน BOSS เหล่านั้น สิ่งที่ดรอปได้จากหยวนก่วงปัวคือตำรา ‘ตระหนักรู้กำลังภายใน’ เขาย่อมเพิ่มมันไปบนทักษะยุทธ์ ‘เคล็ดชำระปราณ’ อยู่แล้ว
สิ่งที่ดรอปได้จากไม่จิงก็คือ ‘ตระหนักรู้อาวุธยาว’ ผู้เล่นที่ใช้อาวุธยาวเดิมทีก็มีไม่เยอะ เยี่ยเว่ยหมิงเองก็ไม่ได้มีความคิดจะฝึกวิทยายุทธ์อาวุธยาวด้วย จึงใช้งานมันเสียเลย ใช้วิธีเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันไปที่ ‘แปดก้าวไล่ทันคางคก’ ทำให้วิชาตัวเบาของเยี่ยเว่ยหมิงที่เดิมทีก็เลเวลสูงอยู่แล้ว ตอนนี้อัปเลเวลสูงขึ้นอีกครั้ง
กั้วซานจางดรอป ‘ตระหนักรู้เคล็ดฝ่ามือ’ เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้เรียนวิทยายุทธ์ประเภทเคล็ดฝ่ามือ จึงใช้วิธีการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ดั่งใจ ไม่น่าเชื่อว่าจะเพิ่มพูนทักษะไปที่เคล็ดกระบี่วีรสตรีแทน
ไม่น่าเชื่อว่าจนกระทั่งตอนนี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงยังอาศัยเคล็ดกระบี่วีรสตรีมาเป็นวิธีการโจมตีหลักอยู่เลย แต่หลังจากทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จแล้ว ก็จะมีเคล็ดกระบี่ระดับกลางเข้าในรายการสกิลทันที เมื่อถึงตอนนั้นเคล็ดกระบี่วีรสตรีก็จะต้องถูกคัดทิ้งแน่นอน ตอนนี้ถ้าทุ่มเทค่าประสบการณ์ไปกับเคล็ดวิชานี้ ก็มีแต่จะสิ้นเปลืองเท่านั้น
ด้วยวิธีคิดนี้ สุดท้ายจึงไม่ได้รีบใช้ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ ที่ได้จากศิษย์สำนักคุนหลุนสองคน เขากะว่าหลังจากกลับสำนักมือปราบเทพแล้ว ค่อยนำค่าประสบการณ์อันล้ำค่าไปใช้กับเคล็ดกระบี่ระดับกลางดีกว่า
หลังจากคลำศพอยู่ครึ่งค่อนวัน นอกจากใช้วิธีการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันกับสกิลบรรจุศพ ฝังศพแล้ว ค่าสเตตัสของเยี่ยเว่ยหมิงก็เปลี่ยนเป็น…
[เยี่ยเว่ยหมิง เลเวล: 14]
……
พลังชีวิต: 760/760
กำลังภายใน: 550/550
ความแข็งแกร่ง: 73
พละกำลัง: 73
ท่าร่าง: 178
ความว่องไว: 73
สติปัญญา: 25
ค่าตระหนักรู้: 29
เคล็ดชำระปราณ (ไม่เข้าขั้น) เลเวล: 7
ค่าประสบการณ์: 3608/6400
……
พลังชีวิต +350
กำลังภายใน +350
ความแข็งแกร่ง +35
พละกำลัง +35
ท่าร่าง +35
ความว่องไว +35
……
[ทักษะยุทธ์]
[เคล็ดกระบี่วีรสตรี (ไม่เข้าขั้น)]
เลเวล: 8
ค่าประสบการณ์: 1036/12800
ประสิทธิภาพ +80%
แม่นยำ +80%
……
[แปดก้าวไล่ทันคางคก (ระดับต้น)]
เลเวล: 5
ค่าประสบการณ์: 886/4000
ท่าร่าง +100
……
[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา)]
เลเวล: 1
ค่าประสบการณ์: 512/1000
ดาเมจโจมตี +10%
แม่นยำ +10%
ดาเมจคริติคอล +10%
สามารถเปิดใช้แอคทีฟสกิลขณะต่อสู้ ประเมินช่องโหว่ในกระบวนท่าของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!
……
[อุปกรณ์]
[ชุดเฟยอวี๋: อุปกรณ์มาตรฐานสำนักมือปราบเทพ]
ป้องกันกายภาพ +30
ป้องกันกำลังภายใน +30
พลังชีวิตสูงสุด +100
……
[หมวกมือปราบฉางจง: อุปกรณ์มาตรฐานสำนักมือปราบเทพ]
ป้องกันกายภาพ +10
ป้องกันกำลังภายใน +10
กำลังภายในสูงสุด +50
……
[รองเท้าขุนนาง: อุปกรณ์มาตรฐานสำนักมือปราบเทพ]
ป้องกัน +5
ท่าร่าง +5
……
[กระบี่ชิงจู๋: กระบี่ล้ำค่าที่สร้างโดยใช้ตำราพิษของแดนม้ง]
โจมตี +150
ท่าร่าง +5
ดาเมจธาตุพิษ +5
……
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดกรณี ‘ค่ำคืนยาวนาน นอนฝันไปเรื่อย[1]’ หลังจากนำศพทั้งหมดรวมทั้งศพเฉินหมิงที่พกติดตัวมาตลอดทางฝังแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ขึ้นเรือกลับภาคกลางทันที จากนั้นก็นั่งรถม้ากลับนครหลวงตะวันออก เมืองเปี้ยนเหลียง ไปหาโหยวจิ้นเพื่อส่งมอบภารกิจ
จนกระทั่งได้ยินเสียงแจ้งเตือนภารกิจสำเร็จ เขาถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
[ติ๊ง! คุณสืบหาความจริงคดีฆ่าล้างสำนักคุ้มภัยหลงเหมินแล้ว อีกทั้งยังจับตัวจ้างเย่ว์ ศิษย์พรรคอินทรีฟ้ามาดำเนินคดีสำเร็จ ทำภารกิจ ‘สำนักคุ้มภัยหลงเหมิน’ สำเร็จได้อย่างดีมาก ได้รับรางวัลภารกิจ:
ค่าประสบการณ์: 7000 แต้ม
ค่าตบะ: 700 แต้ม
เงิน: 20เหรียญทอง
ตำราลับเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ 1 เล่ม]
ระดับความสำเร็จของภารกิจเพิ่มขึ้นอีกแล้ว?
แต่ที่บอกว่าจับกุมจ้างเย่ว์นั่นมันเรื่องอะไรกัน
เยี่ยเว่ยหมิงแสดงออกถึงคุณธรรมดั้งเดิมอันงดงามของชนชาติจีนทันที นั่นก็คือสอบถามขอความรู้อย่างถ่อมตัว จากนั้นก็ได้รู้จากปากโหยวจิ้นว่า “เนื่องจากลักษณะพิเศษของผู้เล่นเกมนี้ ถ้าจะให้จับเป็นเขา ก็แทบจะไม่มีโอกาสทำภารกิจสำเร็จเลย เพื่อให้สำนักมือปราบเทพปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวกขึ้น จึงกำหนดให้สังหารผู้เล่นที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วยมือตัวเองภายในระยะเวลาภารกิจก็พอ แล้วอีกฝ่ายจะมาฟื้นคืนชีพอยู่ในคุกของสำนักมือปราบเทพเองโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็อิงตามขนาดของคดี คุมขังหนึ่งถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง หรือไม่ก็ถึงขั้นส่งไปเกณฑ์ทหารที่ชายแดน…
…ในขณะเดียวกัน ระหว่างที่ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพกำลังอยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจ หากถูกผู้เล่นคนอื่นโจมตีด้วยเจตนาร้าย หลังจากสังหารผู้เล่นที่โจมตีด้วยเจตนาร้ายแล้ว อีกฝ่ายก็จะเข้ามาฟื้นชีพอยู่ในคุกใหญ่ของสำนักมือปราบเทพเช่นกัน จะถูกลงโทษคุมขังหนึ่งถึงสามชั่วโมงในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่”
กฎข้อนี้มันยอดไปเลย!
ขณะกำลังตื่นเต้นดีใจ เยี่ยเว่ยหมิงก็คิดจะตรวจดูเคล็ดกระบี่ระดับกลางที่ชื่อว่า ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ เล่มนั้นสักหน่อยว่าเลิศเลออย่างไร แต่กลับได้ยินโหยวจิ้นบอกว่า “เว่ยหมิง อาวุธบนตัวเจ้าตอนนี้ ใช่กระบี่ชิงจู๋ที่มาจากแดนม้งหรือเปล่า”
เว่ยหมิง?
พวกเราสนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอ
แม้ในใจจะวิจารณ์การกระทำอันสนิทสนมของโหยวจิ้น แต่ภายนอกเยี่ยเว่ยหมิงก็ยังแสดงท่าทางของนักเรียนที่ดี ตอบอย่างว่านอนสอนง่ายว่า “หัวหน้าโหยวเดาไม่ผิดเลยสักนิด กระบี่หลงเฉวียนที่สำนักมือปราบเทพแจกให้ก่อนหน้านี้ถูกเซี่ยซุนทำลายไประหว่างต่อสู้ โชคดีที่ข้าได้กระบี่ชิงจู๋เล่มนี้มาแล้ว ไม่ถึงขั้นไร้กระบี่ใช้งาน หรือว่ากระบี่เล่มนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าขอรับ”
“แน่นอนว่าไม่มีปัญหา!”
โหยวจิ้นใช้น้ำเสียงแหบพร่าที่ไร้ความไพเราะของตัวเองพูดต่อไปว่า “ประการแรก กระบี่เล่มนี้ไม่มีสเตตัสพิเศษของกำลังภายใน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อาวุธระดับสีฟ้าขึ้นไปมีแทบทุกชิ้น จึงไม่มีผลเพิ่มกำลังภายใน แต่แน่นอน ความคมของมันเพียงพอที่จะชดเชยจุดด้อยได้ ปัญหาที่แท้จริงของกระบี่เล่มนี้มีอีกข้อ นั่นก็คือธาตุพิษของมัน!”
ธาตุพิษมีปัญหาเหรอ อย่าบอกนะว่าส่งผลร้ายต่อร่างกายตัวเอง?
เยี่ยเว่ยหมิงทำหน้าเหมือนภาพมีม ‘Confused Nick Young’ แต่กลับได้ยินโหยวจิ้นอธิบายต่อว่า “บนยุทธภพนี้ การใช้อาวุธชุบพิษก็มีข้อห้ามอยู่เหมือนกัน หากเป็นสำนักที่เชี่ยวชาญเรื่องพิษอย่างสำนักถังเหมิน หรือพรรคมารกับพวกสำนักนอกรีตก็ว่าไปอย่าง พอเป็นศิษย์ของสำนักใหญ่สายธรรมะ หรือสำนักที่เป็นกลางอย่างสำนักมือปราบเทพ การใช้อาวุธที่ชุบพิษก็จะถูกหักค่าวีรบุรุษ แล้วถ้ายิ่งใช้งานเยอะ ค่าวีรบุรุษก็ยิ่งถูกหักเยอะด้วย”
“มีหลักการอย่างนี้ด้วยหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วตกใจ
ค่าวีรบุรุษเป็นสเตตัสที่ค่อนข้างพิเศษในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ มีผลกระทบต่อผู้เล่นเยอะมาก เช่นศิษย์สำนักใหญ่สายธรรมะอย่างอินปู้คุย หากค่าวีรบุรุษต่ำจนถึงระดับใดระดับหนึ่ง ก็จะต้องถูกไล่ออกจากสำนัก ต่อให้เป็นสำนักที่มีจุดยืนเป็นกลางอย่างสำนักมือปราบเทพ แม้จะไม่มีแรงกดดันจากสำนัก แต่ก็จะส่งผลกระทบต่อท่าทีที่ NPC มีต่อคุณโดยตรง
เมื่อได้ยินว่ากระบี่ชิงจู๋ยังมีผลด้านลบอย่างนี้ด้วย เยี่ยเว่ยหมิงก็ต้องให้ความสำคัญอย่างอดไม่ได้
เขาจึงรีบซักไซ้ “หักคะแนนโหดขนาดนั้นเชียวหรือ”
โหยวจิ้นมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างรู้สึกสนุกแวบหนึ่ง แล้วตอบอย่างไม่ใส่ใจ “หากเจ้าใช้มันฆ่ามอนสเตอร์อัปเลเวล เป้าหมายคือมอนสเตอร์ทั่วไปที่มีภัยต่อยุทธภพ อาศัยความสามารถของเจ้าตอนนี้ ก็พอจะทำได้โดยที่ค่าวีรบุรุษไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง”
อันที่จริง ไม่ว่าผู้เล่นจะทำภารกิจอะไร หรือว่าฆ่ามอนสเตอร์ ก็ล้วนสะสมค่าวีรบุรุษได้พอสมควร เพียงแต่การฆ่ามอนสเตอร์จะทำให้สะสมแต้มได้ค่อนข้างช้า ด้วยความสามารถของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ต่อให้นั่งยองๆ อยู่ที่จุดอัปเลเวลวันเดียว ก็จะได้รับค่าวีรบุรุษประมาณสองสามแต้มแล้ว
และตามที่โหยวจิ้นกล่าวไว้ หากใช้กระบี่ชิงจู๋นี้เป็นเวลาหนึ่งวัน ก็จะถูกหักค่าวีรบุรุษสองถึงสามแต้ม!
เยี่ยเว่ยหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วจู่ๆ ก็เกิดความคิดกล้าหาญบางอย่างขึ้น ไม่แน่นะ บางทีอาจจะพอแก้ไขปัญหานี้ได้
“ขอบคุณหัวหน้าโหยวที่เตือน ข้าจะระวัง”
หลังจากแสดงความขอบคุณต่อโหยวจิ้นอย่างจริงใจแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้นำเคล็ดกระบี่ระดับกลางที่เพิ่งได้รับออกมา หลังจากมองค่าสเตตัสปราดหนึ่ง ความรู้สึกดีเล็กน้อยที่เพิ่งมีต่อชายหน้ากากเหล็กผู้นี้ก็สลายหายไปราวกับหมอกควันทันที
“หัวหน้าโหยว เปลี่ยนเล่มเคล็ดกระบี่นี้ให้ข้าได้ไหม”
[1] ค่ำคืนยาวนาน นอนฝันไปเรื่อย 夜长梦多 หมายถึง เวลายิ่งยาวนานอุปสรรคยิ่งมาก
คอมเม้นต์