ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 178 ฆ่าหวันเหยียนคัง!
ตอนที่ 178 ฆ่าหวันเหยียนคัง!
พวกเขาทอดสายตามองไป เห็นบนสนามต่อสู้หลักสองแห่งมี NPC เป็นผู้นำ แต่การต่อสู้กลับแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด
พวกเยี่ยเว่ยหมิงล่อโหวทงไห่ซึ่งเป็นหนึ่งในห้ายอดฝีมือออกมาแล้ว ฆ่าตายแล้ว แม้แต่อุปกรณ์กับศพก็แบ่งกันเรียบร้อยแล้ว แต่การต่อสู้ทางฝั่งหวังชู่อีกลับไม่แตกต่างอะไรกับตอนก่อนที่โหวทงไห่จะถูกล่อไป
ในฐานะตัวประกอบสำคัญคนหนึ่ง นักรบเต๋าท่านนี้พยายามแสดงบทบาทของตัวเองอย่างสุดความสามารถ
ก่อนหน้านี้ตอนสู้แบบหนึ่งต่อห้า เขาก็ทำได้อย่างสูสี ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งต่อสี่แล้ว ก็ยังสู้ได้อย่างสูสีเช่นเดิม
ไม่มากไม่น้อยไป!
คล้ายว่าการต่อสู้ที่สูสีนี้จะดำเนินต่อไปจนถึงที่สุด
ส่วนทางฝั่งกัวจิ้ง ตอนนี้กำลังถูกโอวหยางเค่อจับขัดอยู่บนพื้นอันเกลี้ยงเกลา
เพียงแต่เจ้าหมอนี่กลับอึดมาก BOSS เล็กๆ เลเวลสี่สิบคนหนึ่ง ถูก BOSS ใหญ่เลเวลเจ็ดสิบทุบนานขนาดนี้ แต่กลับไม่ตายเสียที
พลังชีวิตอันแข็งแกร่งนี้ไม่ต่างจากตัวละครหลักของเนื้อเรื่องเลยจริงๆ
เพียงแต่เมื่อเห็นท่าทางน่าเวทนาตอนเขาถูกซ้อม สุดท้ายเยี่ยเว่ยหมิงก็อดอยู่เฉยไม่ได้ จึงเสนอกับบรรดาเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ข้างกันว่า “ข้ารู้สึกว่าพวกเราควรไปช่วยเขาสักหน่อย”
เมื่อได้ยินข้อเสนอนี้ พวกเพื่อนในทีมก็แทบจะมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ พร้อมกัน ในจำนวนนั้นสะพานสวรรค์น้อยมองแปลกที่สุด
ท่ามกลางสายตาอันสับสนของสะพานสวรรค์น้อย เยี่ยเว่ยหมิงถึงขั้นเดาออกว่าตอนนี้ในใจนางกำลังคิดอะไร: พี่ใหญ่เยี่ย ก่อนหน้านี้เจ้าบอกใบ้ข้าไม่ใช่หรือว่าอย่าไปสนใจเจ้าคนดึงดันที่วางกับดักเพื่อนในทีมตัวเองแบบนี้ ถ้าทรยศได้ก็ควรทรยศไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้ทำตัวเป็นคนดีอีกแล้ว ที่เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่
น้องดาบเปิดเผยกว่ามาก ไม่ซ่อนความรู้สึกเหมือนสะพานสวรรค์น้อย คนองอาจผึ่งผายอย่างนางถามสิ่งที่ใจตัวเองสงสัยออกมาตรงๆ เลย “บอกความคิดของเจ้ามา”
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ “โอวหยางเค่อ ตอนนี้พวกเราสู้ไม่ชนะแน่นอน ดังนั้นถ้าพวกเราจะช่วยคนก็ต้องใช้กลยุทธ์ยอกย้อน กลยุทธ์ล้อมเวยช่วยจ้าว[1] พวกเจ้าเคยได้ยินหรือเปล่า…
…ตอนนี้ภารกิจหลักของโอวหยางเค่อก็คือคุ้มครองหวันเหยียนคัง การโจมตีกัวจิ้งต่างหากที่เป็นเรื่องรอง ส่วนหวันเหยียนคังนั่นแม้จะเลเวลเพียงสี่สิบห้า แต่นอกจากโหวทงไห่แล้ว BOSS ร่างสมบูรณ์อีกคนที่ไม่ได้อยู่ในโหมดเนื้อเรื่องก็มีเพียงเขา มิหนำซ้ำยังมีวิชากรงเล็บที่ร้ายกาจมากด้วย…”
พอฟังถึงตรงนี้ ทุกคนก็เข้าใจถึงแนวคิดที่ซื่อตรงไร้ความเห็นแก่ตัวของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว
เป้าหมายของเขาก็คือ…ช่วยกัวจิ้ง!
ไม่ผิดหรอก! หลังจากรู้ว่าการกำจัดหวันเหยียนคังอาจนำมาซึ่งผลตอบแทนมหาศาล ทุกคนก็คิดเหมือนกันว่าตอนนี้เป็นเวลาแสดงถึงจิตวิญญาณของยอดยุทธ์คุณธรรมแล้ว!
ดรอปไอเทมจากหวันเหยียนคัง…แค่กๆ ไม่ใช่สิ!
เป็นคุณธรรมของชาวยุทธ์ ต้องเริ่มต้นจากตัวเอง ช่วยเหลือกัวจิ้ง ในทางศีลธรรมไม่อาจปฏิเสธได้!
เมื่อเห็นทุกคนถูกคุณธรรมอันเคร่งครัดของตัวเองเกลี้ยกล่อมแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยรอยยิ้มปลื้มอกปลื้มใจออกมา จากนั้นก็บอกทุกคนในช่องทีมว่า [รายละเอียดของแผนการนี้ข้าคิดไว้แล้ว พวกเราควรจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น…]
หลังจากได้ฟังแผนการของเขาจบ แม้แต่น้องดาบที่ขุ่นเคืองใจต่อเขามาตลอด ตอนนี้ก็ยังยกนิ้วหัวแม่มือให้ “ขนาดความคิดที่ไร้คุณธรรมเช่นนี้เจ้ายังคิดออกมาได้ สมกับเป็นเยี่ยเว่ยหมิงจริงๆ!”
“ชมกันเกินไปแล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงรับคำชมจากน้องดาบอย่างสุขกายสบายใจ จากนั้นโบกมือ “ในเมื่อทุกคนไม่คัดค้านอะไรกับแผนนี้ เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้แล้วกัน แยกย้าย!”
เมื่อสิ้นเสียง คนในทีมก็แยกย้ายกันทันที เริ่มเข้ามาล้อมหวันเหยียนคังเป็นรูปวงกลมอย่างเงียบเชียบ แน่นอนว่าทุกคนในทีมต่างก็รักษาระยะห่างกับหวันเหยียนคัง หรือโอวหยางเค่อในระยะปลอดภัยยี่สิบเมตรขึ้นไป เพื่อรับประกันว่าจะไม่ถูกกำจัดไปพร้อมโอวหยางเค่อด้วย
จากนั้นก็ยังเป็นเยี่ยเว่ยหมิงที่เปิดฉากโจมตี เขาเริ่มใช้ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์โจมตีไปตรงหว่างคิ้วของหวันเหยียนคัง
-7456!
คริติคอลดาเมจ แต่ปลิดชีพไม่สำเร็จ
ถึงอย่างไรหวันเหยียนคังก็เป็น BOSS คนหนึ่งเช่นกัน ถ้าไม่ทำให้ค่าพลังชีวิตหมด อาศัยแค่การทำคริติคอลดาเมจอย่างเดียวทำให้เขาตายไม่ได้
“เจ้าหนู รนหาที่ตาย!”
เมื่อเห็นผู้ที่ตัวเองคุ้มครองอยู่ได้รับบาดเจ็บหนักอีกครั้ง โอวหยางเค่อก็คำรามอย่างเกรี้ยวกราด แล้วไล่ตามมาทางเยี่ยเว่ยหมิงทันที
เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่กล้าปะทะกับ BOSS ใหญ่เลเวลเจ็ดสิบห้าซึ่งหน้าอยู่แล้ว เมื่อเห็นเขาไล่ตามมา ก็เลี้ยวหนีโดยไม่สนใจภาพลักษณ์แม้แต่น้อย ส่วนโอวหยางเค่อก็ย่อมไม่ปล่อยเจ้าหนุ่มที่ทำให้หวันเหยียนคังเกือบตายไปง่ายๆ ใช้ท่าร่างที่เหนือกว่าเยี่ยเว่ยหมิงเกินหนึ่งระดับตามไปติดๆ
เยี่ยเว่ยหมิงวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต พร้อมทั้งเปิดคอลัมน์สกิลในหน้าอินเตอร์เฟสระบบออกมา แล้วเริ่มนำแต้มค่าตบะที่ได้ก่อนหน้านี้ไปเพิ่มเลเวลสกิลอย่างบ้าคลั่ง
เพียงชั่วอึดใจเดียวก็เพิ่มเลเวลเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ จนถึงเลเวลแปด เพิ่มเลเวลคัมภีร์หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็นจนถึงเลเวลเจ็ด แล้วก็เพิ่มเลเวลวิชาตัวเบา ‘แปดก้าวไล่ทันคางคก’ จนถึงเลเวลเจ็ด
แม้ในบัญชีจะยังเหลือค่าตบะอยู่อีก 13666 แต้ม แต่ไม่ว่าจะเพิ่มไปที่ทักษะยุทธ์วิชาไหน ก็ไม่มีทางอัพเลเวลได้อีกแล้ว เขาถึงได้หยุดเพียงเท่านี้
เรื่องจริงก็ได้พิสูจน์แล้ว ว่าวิธีการของเขาถูกต้องทุกอย่าง
ตอนที่เขาเพิ่งใช้แต้มค่าตบะไปแล้วพอสมควร จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกบร้องดังมาจากข้างหลัง
ตามด้วยลมพายุวูบหนึ่ง กดให้เขาก้าวเท้าลำบาก
เขาคิดในใจว่าโอวหยางเค่อตามทันแล้วแน่นอน พลันหมุนตัว ถือโอกาสฟันกระบี่อาญาสิทธิ์ออกมา…มังกรร่อนล่อหงส์!
ชวิ้ง! คมกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิงแทงไปบนลมฝ่ามือของโอวหยางเค่อที่ตามมาถึง ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ที่เลเวลแปด พลังป้องกัน 160% ทั้งมีเอฟเฟกต์ดีบัฟ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะต้านการโจมตีอันน่าสะพรึงนี้ของโอวหยางเค่อไม่ได้!
เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกเพียงว่ากำลังภายในที่รุนแรงราวกับผลักภูเขาพลิกทะเลกำลังพรั่งพรูจากตัวกระบี่เข้ามาในร่างกายตัวเอง จากนั้นทั้งตัวก็กระเด็นออกไปข้างหลังเรากับว่าวสายป่านขาด ขณะที่ตัวลอยอยู่กลางอากาศ เขากระอักเลือดสดออกมาคำใหญ่อย่างควบคุมไม่ได้
-1656!
ตามด้วยดาเมจรุนแรงสี่หลัก ร่างของเยี่ยเว่ยหมิงชนกระแทกกับร้านขายของเบ็ดเตล็ดที่อยู่ริมถนน ของตกกระจัดกระจาย
ในขณะเดียวกันนี้เอง บนตัวของเขาก็ติดสถานะด้านลบ
[บาดเจ็บสาหัส: โจมตี -50% ป้องกัน -50% ท่าร่าง -50% ความเร็ว -50% เวลาต่อเนื่อง: ครึ่งชั่วโมงหลังจากหลุดออกจากสถานะต่อสู้]
การโจมตีนี้ของโอวหยางเค่อ ไม่น่าเชื่อว่าจะน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้!
เยี่ยเว่ยหมิงในตอนนี้ ความสามารถด้านต่างๆ ถูกลดให้อ่อนแอลงเยอะมาก โอวหยางเค่อโจมตีต่อไปอีกแค่สองครั้ง ก็ทำให้เขากลายเป็นแสงสีขาวได้แล้ว เอาพลังชีวิตของพี่หมิงไปแล้ว
ทว่าตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเผชิญกับสถานะแบบนี้ โอวหยางเค่อกลับไม่คิดจะตามโจมตีต่อ เพราะว่า…
เพื่อนร่วมทีมของเยี่ยเว่ยหมิงฉวยโอกาสตอนที่โอวหยางเค่อถูกเยี่ยเว่ยหมิงล่อออกไป พุ่งขึ้นไปข้างหน้าพร้อมกัน เปิดฉากล้อมโจมตีหวันเหยียนคังที่สูญเสียความสามารถในการต่อสู้อย่างไร้มนุษยธรรม
เคล็ดกระบี่ดรุณีหยก เคล็ดวิชาดาบโลหิต วิชากระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร มังกรร้ายคำราม (ขีดทิ้งเถอะ) เป็นมังกรผยองได้สำนึก…ไปทักทายบนตัวเขาพร้อมกันโดยไม่สนใจอย่างอื่น อัลติเมทสกิลต่างๆ เรียกได้ว่าสวยวิจิตรตระการตา
และตามสูตรคำนวณระหว่างศูนย์กับหนึ่งที่เคยใช้ไปครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ โอวหยางเค่อตัดสินใจทิ้งเยี่ยเว่ยหมิงอย่างไม่ลังเล รีบกลับไปช่วยท่านอ๋องน้อยของเขาแล้ว
เมื่อเห็นโอวหยางเค่อเลี้ยวกลับมา เพื่อนร่วมทีมแสนน่ารักของเยี่ยเว่ยหมิงก็แยกย้ายทันที ทิ้งไว้เพียงหวันเหยียนคังที่ถูกโจมตีจนเหลือค่าพลังชีวิตไม่ถึงเจ็ดพันและกำลังถูกผู้เล่นคนอื่นที่คิดจะฉกฉวยผลประโยชน์ล้อมโจมตีต่อไป
เมื่อโอวหยางเค่อรีบกลับมา ผู้เล่นที่คิดจะตักตวงผลประโยชน์กลุ่มนั้นก็โดนโจมตีจนกลายเป็นแสงสีขาวกันเป็นแถบๆ แม้แต่เซียวเหยาถอนใจที่หนีออกมาช้าก็ยังถูกส่งให้ไปทอดถอนใจเพียงลำพังอยู่ที่จุดคืนชีพแล้ว
ขณะมองโอวหยางเค่อกลับมายืนข้างกายหยางคังอีกครั้ง ครั้งนี้เหมือนจะตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะปกป้องอยู่ข้างกายไม่ออกห่างแม้แต่ก้าวเดียว แต่ค่าพลังชีวิตบนศีรษะท่านอ๋องน้อยกลับยังลดลงอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำ
คนที่ทำได้ถึงขั้นนี้ก็คือสะพานสวรรค์น้อย หรือพูดได้อีกอย่างก็คือ ก่อนที่นางจะลงมือ นางได้ทาพิษร้ายเอาไว้บนตัวกระบี่ล่วงหน้าแล้ว
[ยาตัดวิญญาณ: เป็นพิษอัศจรรย์จากหุบเขาเย่าหวัง หากทาบนอาวุธ หรืออาวุธลับ พิษจะลามทันทีเมื่อถูกเลือด!]
ภายใต้การทำงานของพิษร้าย ผ่านไปไม่ถึงสิบกว่าวินาที ค่าพลังชีวิตของหวันเหยียนคังก็ถูกพรากไปหมดแล้ว
ขณะเดียวกันนี่เอง ข้างหูของคนในทีมทั้งห้าก็มีเสียงแจ้งเตือนอันไพเราะจากระบบดังขึ้น
[ติ๊ง!…]
[1] กลยุทธ์ล้อมเวยช่วยจ้าว 围魏救赵 ใช้กลอุบายแยกข้าศึกออกจากกัน ทำให้กำลังพลกระจัดกระจาย ห่วงหน้าพะวงหลัง จากนั้นค่อยเข้าโจมตี
คอมเม้นต์