อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 14
CF:บทที่ 14 มหาเศรษฐี
เกอ หมิงเฟยเพิ่งจะคิดว่าเขาเป็นผู้ชนะการประมูล ผู้จัดการหลิวก็เดินเข้ามาจากข้างนอก ทำลายความสงบสุขภายในห้องประชุมทันที
ได้ยินเสียงนี้แล้วเกอ หมิงเฟยก็หน้าเสียเล็กน้อย สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว
เขาหันไปมองผู้จัดการหลิวที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ สีหน้าของเกอ หมิงเฟยแข็งทื่อไปเล็กน้อย
“ผู้จัดการหลิว ถ้าคุณมีเรื่องอะไรก็ช่วยรอผมทำการซื้อขายกับคุณอู๋เสร็จก่อนได้รึเปล่า?”
“แน่นอนว่าไม่ เมื่อครู่ผมกำลังยุ่งอยู่น่ะ คุณประมูลไปเท่าไหร่แล้วนะ? 26 ล้านใช่ไหม? บริษัทเพชรพลอยฉินฉี่หยวนของเรา จะจ่ายให้ 27 ล้าน”
“นี่แก…”
เกอ หมิงเฟยมองผู้จัดการหลิวอย่างโกรธแค้น ไม่คาดว่าเขาจะออกมาตอนนี้เพื่อที่จะแทงหลังเขา
เขากัดฟันพูดไปว่า “28 ล้าน”
“อย่าเรียกมันเท่านั้นเลย ผมให้ 30 ล้านเป็นราคาสุดท้ายของบริษัทเรา ถ้าคุณให้มากกว่านี้ ทางเราจะขอถอนตัวจากการแข่งขันนี้เลย” ผู้จัดการหลิวกล่าว
ณ ราคา 30 ล้านหยวน ผู้คนที่จะมาซื้อหยกในห้องนี้ก็หน้าบูด
ในความคิดของพวกเขา แต่ให้ซื้อหยกมาได้ มันก็ทำกำไรได่ไม่มากนักอยู่ดี
“รอก่อน ขอออกไปโทรปรึกษาบริษัทข้างนอกก่อน”
เกอ หมิงเฟยไม่ได้คาดคิดเรื่องนี้เลยตอนที่เขามา เขาคิดว่าขอให้ได้หยกมาก็พอ ไม่ได้คิดถึงราคาที่สูงขนาดนี้จากใจเขา
ผ่านไปสักพัก เกอ หมิงเฟยก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไม่ดี มองไปที่หยกบนโต๊ะ และบอกกับผู้จัดการหลิวว่า ”30 ล้าน หยกนี่เป็นของคุณแล้ว”
แน่นอนว่าบริษัทของเขาไม่กล้าจะเพิ่มราคาไปมากกว่า 30 ล้านหยวน
“คุณอู๋ กรุณามากับผม เราต้องทำเรื่องการซื้อขาย”
มันเป็นความฝันที่ยาวนาน คนอื่นเสียใจกับมัน แต่ผู้จัดการหลิวก็รีบพาอู่ ฮ่าวเหรินไปทำเรื่องการซื้อขาย
เมื่อเงิน 30 ล้านหยวนถูกใส่มาในบัญชีของอู๋ ฮ่าวเหรินเขาก็ยิ้มออกมา เขาคิดว่าเขาต้องจ่ายภาษีด้วย ไม่คิดเลยว่าผู้จัดการหลิวจะบอกว่าทางบริษัทเขาจะจ่ายค่าภาษีให้ด้วย
“คุณอู๋ นี่คือนามบัตรของประธานบริษัทของเรา ถ้ามีหยกคุณภาพดีแบบนี้อีกในอนาคต สามารถติดต่อเราได้เลย ท่านประธานของเราบอกว่าเขาการันตีได้เลยว่าคุณจะได้ราคาที่พึงพอใจ”
อู๋ ฮ่าวเหรินรับนามบัตรมาและพบว่ามีเพียงชื่อของคนๆเดียวและเบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งชัดเจนเลยว่ามันเป็นนามบัตรส่วนตัว
เขาใส่มันลงไปในกระเป๋าแล้วพูดว่า ”ได้ ผมจะโทรมาถ้ามีหยกอีกในอนาคต”
ผู้จัดการหลิวก็ยิ้มออกมา บริษัทของเขาเสนอราคาที่สูงเช่นนี้และซื้อหยกมาแม้มันจะทำกำไรได้ไม่มาก เพราะเขาต้องการคำพูดนี้ของอู๋ ฮ่าวเหริน
หยกชิ้นนั้นถูกทุบออกมาจากหยกก้อนใหญ่ มันสรุปได้ว่ามันต้องมีหยกในมือของชายคนนี้อีกแน่นอน ซึ่งอาจจะคุณภาพดีกว่าหยกชิ้นนี้อีกก็ได้
…
เขาแบกประเป๋าโทรมๆเดินออกมาจากร้านเครื่องประดับ ใครจะคิดว่าตอนที่เขาเดินเข้าไปเขามีเงินแค่ 300 กว่าหยวนแต่เมื่อเขาเดินออกมาเขาก็กลายเป็นเศรษฐีแล้ว
มองขึ้นไปดูท้องฟ้าที่เริ่มมืดขรึ้ม แต่อู๋ ฮ่าวเหรินกลับอารมณ์ดีสุดๆ
หลังจากเดินออกมาจากย่านการค้าเขาก็เรียกรถแท็กซี่และขึ้นไป
“ไปแอปเปิ้ลสโตร์ที่ใกล้ที่สุดที”
“โอ้ พ่อหนุ่มจะไปซื้อของขวัญหรอ”
“ก็นะ ผมไม่ได้กลับบ้านไปในวันปีใหม่น่ะ ผมเลยจะซื้อมือถือใหม่ไปฝากน้องสาวสักหน่อย”
เรื่องเงินกลายมาเป็นเรื่องง่ายสุดๆ อู๋ ฮ่าวเหรินได้คุยกับคนขับรถไปตลอดทาง
หลังจากลงมาจากรถแล้วอู๋ ฮ่าวเหรินควักเงินออกมาหนึ่งร้อยหยวน ยื่นให้คนขับแท็กซี่แล้วพูดว่า ”ไม่ต้องทอนนะลุง”
ก่อนจะหันไปและเดินตรงไปที่แอปเปิ้ลสโตร์
คนขับแท็กซี่ที่อยู่ในรถพึมพำขณะที่ถือเงินร้อยหยวนอยู่ในมือ “ชายคนนี้แต่งตัวแบบนี้ แต่ดันมีเงินเยอะซะงั้น”
คนขับรถส่ายหัวและขับรถออกไป
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้ตัวเลยว่า เขาถูกคนขับแท็กซี่มองว่าเป็นคนงี่เง่า เพราะการกระทำของเขา
มีคนอยู่ในแอปเปิ้ลสโตร์ไม่มากนัก แม้แต่พนักงานยังมีแค่สามคน เหมือนว่าทุกคนยังอยู่ในช่วงกลับบ้านในวันปีใหม่อยู่
อู๋ ฮ่าวเหรินมองดูและเลือกพนักงานชายที่ดูแล้วน่าจะอายุยี่สิบต้นๆและดูบริสุทธิ์
เห็นอู๋ ฮ่าวเหรินมาเดินดูของที่นี่ หลาน หลิงผู้ที่ไม่ได้กลับบ้านในช่วงปีใหม่นั้นถามขึ้นว่า ”คุณมาที่นี่เพื่อซื้อโทรศัพมือถือหรือสินค้าอื่นๆของเราครับ”
พนักงานขายอีก 2 คนที่อายุเยอะกว่าและเยอะสุด มองอู๋ ฮ่าวเหรินและหลาน หลิงที่กำลังคอยอยู่ แล้วส่ายหัว เขาคิดว่าคนเพิ่งเคยมาก็คือคนเพิ่งเคยมา ไม่รู้หรอกว่าจะซื้อของหรือเปล่า
ลูกค้าแบบอู๋ ฮ่าวเหรินนั้นเขาเห็นมาเยอะแล้ว ปกติก็แค่มาเดินดูราคาของแล้วก็หันกลับออกไป
อู๋ ฮ่าวเหรินได้ยินเสียงของหลาน หลิง แล้วก็คิดถึงน้องสาวของเขาแล้วจึงพูด ”ผมขอไอโฟนรุ่นล่าสุดสี่ชุดครับ”
อู๋ ฮ่าวเหรินพูดออกไป ทั้งร้านก็เงียบทันทีไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนอื่นหรือพนักงานขายที่ออกความเห็นเมื่อครู่ พวกเขามองมาทางนี้ทั้งหมด
หลาน หลิงใช้เวลากว่าสิบวินาทีกว่าจะกลับมาตอบสนองและถามว่า ”คุณครับ แน่ใจนะว่าจะเอาไอโฟนรุ่นใหม่สี่ชุดน่ะครับ?”
“เอ่อ งั้นช่วยเลือกแบบที่เหมาะกับผู้หญิงที ผมกำลังรีบ”
อู๋ ฮ่าวเหรินเอามือถือรุ่นฉานไฮ่เก่าๆมาดูเวลา และคำนวณถึงสิ่งต้องที่ต้องซื้อถัดไป
นอกจากมือถือให้น้องสาวแล้ว เขายังต้องไปซื้อเสื้อผ้า ของขวัญและท้ายที่สุดคือรถสำหรับครอบครัว
“ได้ครับ กรุณานั่งรอสักครู่”
อู๋ ฮ่าวเหรินเดินตรงไปที่ม้านั่ง คิดแล้วก็พูดขึ้นว่า ”สุดยอดไปเลย”
ห้านาทีผ่านไป หลังจากที่อู๋ ฮ่าวเหรินจ่ายเงินไป 80,000 หยวน ก็ถือถุงสองถุงเดินออกมาจากร้าน ในร้านทั้งร้านนอกจากความสุขของหลาน หลิงแล้ว ที่เหลือก็ยังไม่ตอบสนองเนื่องจากความประหลาดใจ
พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้าสัวและเคยเห็นคนรวยในอินเตอร์เน็ตมามากมาย แต่ในโลกแห่งความจริง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเจ้าสัวแบบอู๋ ฮ่าวเหริน
เขาไม่ถามอะไร และไม่พล่ามอะไร พอจะซื้ออะไร เขาไม่ตรวจดูมันด้วยซ้ำ แค่ถามราคาแล้วก็จ่ายเงิน
ออกมายืนคิดอยู่ข้างถนนอู๋ ฮ่าวเหรินก็เดินไปโรงขายรถที่ใหญ่ที่สุด
เมื่อก่อนเขาไปที่นั่นกับเพื่อนร่วมงานเพื่อดูรถ คิดว่าอีกสิบกว่าปีเขาอาจจะมีเงินพอซื้อรถมูลค่าหมื่นหยวน
ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้มาซื้อรถที่ในภายในหนึ่งปี
อู๋ ฮ่าวเหรินมองไปแล้วพบว่าที่นี่มีคนอยู่เยอะมาก
เมื่อเขาเห็นป้ายที่ประตูเขาพบว่ามีงานออโต้โชว์จัดขึ้นในวันนี้
คิดดูแล้ว การซื้อรถซื้อบ้านอะไรแบบนี้ ปกติมันมันไม่ใช่ตอนที่เรามีวันหยุดยาวแบบนี้หรือ?
—————————
คอมเม้นต์