อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 172

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 172 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 172 ปัญหาเรื่องพลังงาน
อู๋ฮ่าวเหริน, ซึ่งถูกบังคับให้จัดการเอกสารต่างๆ ในบริษัทโดยพี่หลิว ถึงกับพูดไม่ออก เขาต้องเซ็นต์เอกสารบางใบด้วยตนเอง
ในช่วงเวลานี้ ก็มีบริษัทอื่นได้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและอุปกรณ์จ่ายพลังงานของตัวอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด
ทว่า ณ เวลานี้ อู๋ฮ่าวเหรินยังไม่อนุญาตให้บริษัทใดๆ ได้ใช้เทคโนโลยีนี้
หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง เขาจึงจะพูดคุยกับบริษัทเหล่านั้นเรื่องสิทธิ์ในการใช้เทคโนโลยีตัวนี้
“กิ๊ง ก่อง”
“เข้ามาได้”
“หัวหน้าครับ หัวหน้ากรมพลังงานของอำเภอมาที่นี่ครับ”
“โอ้ เขามาเรื่องอะไรล่ะนั่น”
“เขาต้องการคุยกับเราเรื่องการใช้ไฟฟ้าของบริษัทเราครับ”
อู๋ฮ่าวเหรินเกิดความสงสัย ทางบริษัทก็ได้ชำระค่าไฟฟ้าตามระเบียบของประเทศ บริษัทของพวกเขาปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของประเทศแทบจะทุกอย่างและทำให้ใช้จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมาก
“ไปกันเถอะ ไปดูว่ามีเกิดอะไรขึ้น”
โจ้วหองเหว่ย ผู้อำนวยการกรมพลังงาน หน้าตาไม่สู้ดี เขาเคยคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แต่ตอนนี้เขากลับพบว่านั่นเป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับพวกเขา
ถ้าหากเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าของของฟิวเจอร์กรุ๊ปและอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าภายในอำเภอ มันจะเป็นเรื่องโชคร้ายของพวกเขาเหล่านั้นถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมา ณ ตอนนั้น
“ท่านประธานอู๋มาแล้วสินะครับ ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาที่บริษัทของคุณครับ” โจ้วหองเหว่ยมีความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของตัวเองกับบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ป จึงลดฐานะของตัวเองลง
“ผอ.โจ้ว มีอะไรหรือครับ? มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับบิลค่าไฟฟ้าของบริษัทเรางั้นหรือครับ?”
“ไม่, บิลค่าไฟฟ้าของบริษัทคุณไม่ได้มีปัญหา ที่มีปัญหาคือแหล่งจ่ายพลังงานของสำนักงานเราต่างหาก อันนี้คือใบเสร็จที่ผมเอามาด้วย ประธานอู๋ดูเอาละกันนะครับ ว่าทำไม”
อู๋ฮ่าวเหรินรับใบเสร็จมาดู ทีแรกเขายังไม่เข้าใจเท่าไหร่ เมื่อเขาเห็นปริมานการใช้พลังงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่มีการเน้นเอาไว้ เขาจึงเข้าใจ
“ประธานอู๋, ปริมานการใช้พลังงานทั้งหมดของบริษัทของคุณคิดออกมาเป็น 1 ใน 10 ของทั้งอำเภอ พูดตามตรงนะ นี่เป็นผลประโยชน์อย่างมากกับกรมพลังงานของเรา แต่ปัญหาคือ ถ้าเรายังจ่ายพลังงานแบบนี้ต่อไป จะมีอะไรเกิดขึ้นกับแหล่งจ่ายพลังงานของเราแน่ครับ”
“ผมตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังแล้ว อำเภอของเรามีแผนที่จะใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟโดยอิงจากแผนงานการท่องเที่ยวของอำเภอ ไม่มีแผนการใหญ่สำหรับการใช้พลังในส่วนของอุตสาหกรรม ตอนนี้ปริมานการใช้พลังงานของบริษัทในอนาคตนั้นได้เกินกว่าแผนงานของปีนั้นแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะทำให้อุปกรณ์เกิดปัญหาได้ครับ”
โจ้วหองเหว่ยได้แต่ทำอะไรไม่ถูก
ถ้ามันไม่มากเกินไปขนาดนี้คงไม่มีอะไร แต่ตอนนี้มันเป็นปัญหาแล้ว มันไม่ใช่แค่มากเกินไป แต่มันเกินระดับมาตรฐานความปลอดภัยไปแล้ว
“เราแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการจ่ายพลังงานไปที่สายไฟของจังหวดได้ไหม?”
“ผมได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับทางจังหวัดไปแล้ว แต่ด้วยพลังงานที่เหลืออยู่ตอนนี้ เพราะว่าสายการผลิตของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดมันทำให้ไม่สามารถจ่ายพลังงานได้เพียงพอสำหรับบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปได้”

อู๋ฮ่าวเหรินเห็นสีหน้าของเขาและรู้เลยว่าวันนี้เขามาทำไม เพื่อให้เขาไปพูดคุยกับเบื้องบนและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ถ้าพวกเขารายงานเรื่องนี้เอง มันก็จะเป็นการแสดงออกถึงความไร้ความสามารถของทางการ แต่ถ้าพวกเราเป็นคนรายงานเรื่องนี้ด้วยตัวเองก็จะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
“ผมจะแก้ไขปัญหานี้เอง ผมจะไม่ทำให้คุณต้องขายหน้าแน่”
โจ้วหองเหว่ย เห็นว่าเป้าหมายของเขาบรรลุแล้วและไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปนานนัก
หลังจากที่ส่งผู้อำนวยการกลับไปแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็มองดูบิลค่าไฟ เขาก็พูดอะไรไม่ออก ขืนเป็นแบบนี้ อำเภอนี้คงไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าให้ได้แน่
ดังนั้น ถ้าเครื่องจักรในโรงงานเริ่มทำงานซักเครื่องแล้วล่ะก็ ทางอำเภอนี้จะไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าให้ได้อีกต่อไป จึงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวจริง ๆ
กลับไปที่สำนักงาน อู๋ฮ่าวเหรินมองหาแหล่งผลิตพลังงานไฮเทคในอนาคต ซึ่งเกือบทั้งหมด ใช้การไม่ได้
มันเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ที่จะใช้การนิวเคลียร์ฟิวชั่นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ณ เวลานี้ ส่วนพลังงานคริสตัล แค่คิดว่าถ้าหากถูกเอามาใช้จริงแล้ว ยิ่งเป็นปัญหายิ่งกว่านิวเคลียร์ฟิวชั่นเสียอีก

ดูท่าทางการใช้ดวงตะวัน ฟ้าฝ่าและสายฟ้าคงจะเป็นทางที่น่าจะมีคนสงสัยน้อยที่สุด
“สุดยอดตัวเก็บประจุ, วัตถุดิบที่จำเป็นนั้น จี้ มันสามารถหาได้บนโลกมั้ย?”
“ไม่, วัตถุดิบไม่สามารถพบได้บนโลก ณ เวลานี้”
“นั่นก็คือ วิธีนี้ใช้ไม่ได้สินะ?”
“ถูกต้อง, ถ้าหากคุณต้องการเก็บรวมรวมสายฟ้าด้วยสุดยอดตัวเก็บประจุ คุณอาจต้องลองเสี่ยงดู นอกจากนี้ เราคงต้องเตือนคุณว่าของแบบนั้นไม่สามารถผลิตขึ้นมาได้เลยถึงแม้คุณจะหาวัตถุดิบมาได้ก็ตาม มันสามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยระบบซองแดงเท่านั้น และของแบบนี้ปกติแล้วไม่ใช่ของเล็กๆ เลย”
เยี่ยม, นั่นคือจะบอกให้ยอมแพ้เสียเถอะนั่นเอง อู๋ฮ่าวเหรินเล็งไปที่หนทางอื่น อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อน
ทุกคนรู้ดีว่าอุณหภูมิในรอบวันนั้นเปลี่ยนไปตลอดเวลา และการสร้างพลังงานด้วยวิธีนี้ก็คือการใช้การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในรอบวันนั้นมาผลิตกระแสไฟฟ้า
ที่จริงแล้ว อุปกรณ์ชนิดนี้มีในยุคปัจจุบันแล้ว แต่มันก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับสุดยอดเทคโนโลยีที่อยู่ในบันทึกข้อมูลของจี้

การผลิตพลังงานปฏิกรณ์นิวเคลียร์เองก็ใช้วิธีการของการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานความร้อน, ซึ่งเป็นการเปลี่ยนพลังงานความร้อนที่ได้จากพลังงานฟิชชั่นให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า

แน่นอนว่า, แนวคิดการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานความร้อนของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น แตกต่างจากการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานความร้อนในปัจจุบัน

คือการนำตัวทำปฏิกิริยาพิเศษมาใช้ เมื่ออุณหภูมิของตัวทำปฏิกิริยาเพิ่มสูงขึ้น, จะยังไม่มีการไฟฟ้าผลิตออกมา แต่เมื่ออุณหภูมิของตัวทำปฏิกิริยาลดลง ความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาจะถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า

จริงๆแล้ว วิธีนี้ก็คล้ายๆกับแผงโซลาร์เซล, แต่ตัวทำปฏิกิริยาใช้อุณหภูมิให้มีประสิทธิภาพมากกว่า ตราบเท่าที่มีการคายความร้อนออกมาก็จะยังมีการสร้างพลังงานอยู่เรื่อยๆ แล้วตัวทำปฏิกิริยานี้ก็จะเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า

“จี้, แผนการนี้เป็นไปได้มั๊ย?”

“ได้, และมันง่ายสำหรับคุณที่จะทำขึ้นมาด้วย”

“ทำไมรึ?”

“เพราะการผลิตไฟฟ้าด้วยวิธีนี้, วัตถุดิบที่ใช้ในการทำตัวทำปฏิกิริยานั้น, พวกมันไม่ค่อยได้ใช้บนโลกนี้เท่าไร, ดังนั้นจึงน่าจะง่ายในการหาซื้อวัตถุดิบนี้”

“มันจะมีปัญหาอะไรตามมามั๊ย?”

“ในยุคของพลังงานไฟฟ้านั้น, ถูกเรียกได้ว่าเป็นพลังงานที่สะอาด, โดยอาศัยความร้อนที่ปล่อยออกมาจากดวงดาว, ซึ่งไม่มีผลกระทบอะไร ตราบเท่าที่คุณยังทำเป็นศึกษาเรื่องระบบการทำงานของไฟฟ้าชีวภาพบำบัดอยู่, และทันใดนั้นคุณก็พบสิ่งนี้่ขึ้นมา และในตอนที่คุณพบวัตถุดิบนี้, ก็พบถึงความพิเศษของมัน ซึ่งตอบสนองต่ออุณหภูมิ ทำให้คุณศึกษาเจ้าวัตถุดิบนี้อยู่”

อู๋ฮ่าวเหรินเริ่มเข้าใจว่าถ้าเป็นเรื่องของการตอบสนองต่ออุณหภูมิ เขาก็สามารถบอกได้ว่าเขากำลังศึกษาเรื่องของไฟฟ้าชีวภาพบำบัดอยู่ และหลังจากที่ค้นพบ, เขาก็คิดที่จะนำมาทดลองเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องพลังงาน

“ก่อนอื่นก็คงต้องซื้อเจ้าวัตถุดิบที่ว่า เพื่อเอามาโชว์ให้คนอื่นเห็นก่อนสินะ”

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกว่าแผนการนี้เป็นไปได้ ขณะที่เขากำลังศึกษาระบบการทำงานของไฟฟ้าชีวภาพบำบัดและพบว่าคุณสมบัติของวัตถุดิบชนิดนี้เข้า จากนั้นพอพบปัญหาเรื่องพลังงานไฟฟ้า เขาจึงได้ทำการทดลองเกี่ยวกับวัตถุดิบชนิดนี้และคิดทำอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานความร้อนขึ้นมา, ซึ่งรู้สึกพ่ายแพ้หน่อยๆแฮะ

แต่อย่างไรก็ตาม, ก่อนหน้านั้น เขาจะต้องหาทางอธิบายปัญหาเรื่องไฟฟ้าและบอกให้พวกเขาแก้ปัญหาให้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการน่าสงสัยเกินไปเมื่อถึงตอนนั้น

เขาได้โทรศัพท์ไปหาหลี่เหวินหัว เขาพูดถึงเรื่องพลังงาน, และขอให้หลี่เหวินหัวหาทางแก้ปัญหา, แล้วจากนั้นก็โทรหาลู่เผิงเฟยเพื่อสั่งซื้อวัตถุดิบมาเตรียมทำตัวทำปฏิกิริยา

ส่วนเรื่องของวัตถุดิบและตัวเก็บพลังงานไฟฟ้านั้น, คงจะต้องหลังจากที่พวกเขาได้ซื้อตัวทำปฏิกิริยาไปแล้วก่อนล่ะนะ

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้คิดถึงผลกำไรที่เขาจะได้หลังจากที่จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ไปแล้ว

เขาเชื่อว่าคงไม่มีประเทศไหนที่ยอมแพ้ในเรื่องของการใช้พลังงานที่สะอาด แลกกับค่าลิขสิทธิ์ที่จะได้พูดถึงกันเมื่อถึงเวลานั้น

ยิ่งไปกว่านั้น อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกว่าเขาน่าจะสร้างผลกำไรให้กับวัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์นี้ ตราบเท่าที่มีการเผยแพร่เทคโนโลยีนี้ออกไป ราคาของวัตถุดิบชนิดนี้จะต้องสูงขึ้นตามมาแน่นอน

อย่างไรก็ตาม, อู๋ฮ่าวเหรินเองก็พบถึงจุดอ่อนของอุปกรณ์สร้างไฟฟ้าด้วยพลังงานความร้อนชนิดนี้ นั่นคือมันสามารถใช้โดยคนธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากเจ้าอุปกรณ์นี้มีขนาดที่เล็ก, พลังงานที่ให้จึงไม่เพียงพอที่จะส่งพลังงานให้กับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูงๆได้
———————-

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด