อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 50
CF:บทที่ 50 วัสดุเส้นใยพืช
ในวันถัดมา หลังจากที่แม่ของเขาตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำอาหารเช้า อู๋ ฮ่าวเหรินก็ขับรถไปที่โรงงานชั่วคราว
เฉิง ซูเจี้่ยมองที่ลูกชายที่ออกไปด้วยความเร่งรีบแล้วพูดด้วยความปวดใจเล็กน้อย “ลูกคนนี้ ทำไมต้องพยายามขนาดนี้ ตอนนี้ที่บ้านก็มีกินมีใช้แท้ๆ”
อู๋ ชิงไฮ่วางชามลงแล้วพูดว่า “ภรรยาเอ๋ย รู้อะไรไหม ลูกเรากำลังจะทำงานที่ยิ่งใหญ่ บางทีข่าวที่จะออกอากาศในอนาคต อาจจะเป็นข่าวของลูกเราก็ได้”
“แหม รู้เยอะจริงนะคุณ ทำไมยังกินข้าวเช้าของฉันได้อยู่อีก?”
มองที่ถ้วยและตะเกียบที่ถูกเอาไป อู๋ ชิงไฮ่พูดอย่างหม่นหมอง “ดูปากฉันนะ เรื่องนี้มันไม่ทำให้เธอไม่สบายใจหรอก เอาล่ะ หยุดกินแล้วขึ้นไปดูที่ภูเขาสักหน่อย ได้ฟังมาจากชาวบ้านว่ากล้วยไม้สีม่วงแตกหน่อแล้ว นี่มันเร็วมากเลย”
สำหรับกล้วยไม้สีม่วงที่มอบหมายให้หมู่บ้านซุยฉุยปลูกขาย ชาวบ้านก็ดูแลราวกับเป็นลูกเป็นหลาน ทุกๆวัน ชาวบ้านจะไปที่ภูเขาเพื่อดูสภาพของกล้วยไม้สีม่วงของพวกเขา
นี่ไม่ปกติ เมื่อเขารู้ว่ากล้วยไม้ม่วงแตกหน่อ ในเช้านี้ชาวบ้านที่เพิ่งกินข้าวเช้าเสร็จก็รีบไปที่ภูเขากันหมด
อู๋ ฮ่าวเหรินใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงในการมาที่โรงงาน ไม่มีใครอื่นอยู่นอกจากชายที่กำลังเฝ้าอยู่ที่ประตู
วันนี้ วัสดุทดแทนพลาสติกจะถูกคิดค้นขึ้นในโรงงานโทรมๆนี้
“คุณไม่จำเป็นต้องมาเช้าขนาดนี้หรอก โรงงานมันเต็มไปด้วยอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ๆ และคนอื่นก็ขโมยมันไม่ได้หรอก”
“นั่นไม่ดีเลยนะครับ ถ้าคุณให้เงินเดือนที่สูงขนาดนี้กับผม ผมก็ต้องรับผิดชอบที่จะช่วยคุณดูของพวกนี้ไม่ให้ถูกขโมยไป”
ดูท่าที่ดื้อดึงของชายสูงอายุคนนี้แล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็ไม่พูดอะไรอีก
ความจริงแล้ว ต่อให้ไม่มีคนเฝ้าที่เมืองลิวเหอ ก็ไม่มีใครมาขโมยมันไปหรอก
แต่เมื่อเขามาดูโรงงาน เขาก็ได้ยินว่ามีทหารผ่านศึกปฏิวัติที่เฝ้าระวังโรงงานที่นี่และใช้ชีวิตในสถานการณ์ที่คับขัน เขาเลยขอให้ชายแก่คนนี้มาเฝ้าประตูให้
สำหรับเรื่องภูมิหลังของชายแก่ อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้เข้าใจมัน มีทหารเก่ายืนกรานว่าจะไม่มีใครมาทำลายโรงงานได้ เขาก็หมายความเช่นนั้น ทำไมต้องไปยุ่งเรื่องของเขาเกินไปล่ะ
อู๋เชิงอยู่คุยกับชายแก่ต่อ อู๋ ฮ่าวเหรินก็เดินเข้าไปในห้องทดลองโทรมๆ
เงื่อนไขที่ไม่เป็นใจ แต่เขาทำงานได้แต่ในที่แบบนี้เท่านั้น โชคดีที่มีผู้ช่วยอัจริยะ ปัญหาหลายอย่างจึงแก้ได้อย่างง่ายดาย
มองดูที่ของเหลวแข็งตัวในภาชะโลหะ อู๋ ฮ่าวเหรินก็รู้ว่ามันพร้อมที่จะใช้งานแล้ว
เขาเปิดอุปกรณ์ทดลองที่อยู่ใกล้ๆ ที่เขาต้องทำในวันนี้คือใช้วัสดุเส้นใยพืชทำตัวอย่างหลายๆชิ้นและทำพวกมันไปสู่ขั้นตอนทดสอบ
เทของเหลวในภาชนะโลหะลงในหม้อต้ม และเติมฟางข้าวโพดลงไป แล้วปิดฝา อู๋ ฮ่าวเหรินก็ไปนั่งรอที่เก้าอี้
“จี้ นายแน่ใจนะว่ามันจะง่ายแบบนี้? ฉันคงไม่ต้องถามถึงผลที่จะตามมานะ?”
“มันง่ายแบบนั้นแหละ ไม่เช่นนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ในระดับที่ใหญ่ขึ้น ถ้าตอนนั้นเราไม่ได้เข้าสู่จักรวาล ค้นพบอารยธรรมต่างดาว และมีวัสดุที่ดีกว่า เทคโนโลยีนี้ก็จะถูกพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ”
อู๋ ฮ่าวเหรินดูประวัติศาสตร์การพัฒนาของมนุษย์แค่ผ่านๆตาในช่วงนี้
เขารู้ว่า จี้พูดถูก การที่จู่ๆก็เข้าสู่ยุคอวกาศ ติดต่อกับอารยธรรมต่างดาวจะต้องมีผลกระทบอย่างหนักกับมนุษย์ นั่นก็คือการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆ
ในช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุด มนุษย์พัฒนาอย่างช้าๆโดยการช่วยเหลือจากอารยธรรมต่างดาวในการให้แรงงานราคาถูก
มันถูกต้องเพราะในสภาพเช่นนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ได้ถูกละทิ้งไปเพราะสิ่งของที่ผลิตโดยเทคโนโลยีพวกนี้ไม่มีตลาดรองรับเลย
ถ้าเส้นใยพืชถูกคิดค้นเร็วกว่านี้ มันอาจจะถูกพัฒนาจนมีมูลค่ามากกว่านี้ โชคร้ายที่เทคโนโลยีนี้ออกมาช้าไปและผิดเวลาด้วย
“ถ้าเป็นเช่นนี้ ให้ฉันได้ดึงประสิทธิภาพของวัสดุนี้ออกมาเถอะ พอถึงตอนนั้น มนุษย์จะได้เผชิญหน้ากับการรุกรานของเอเลี่ยนพวกนั้นด้วยสถานะที่แข็งแกร่ง”
“ปัง!”
อู๋ ฮ่าวเหรินถูกขัดจังหวะด้วยเสียงดังเล็กน้อยจากขั้นตอนก่อรูป จึงไปดูที่หน้าจอแสดงผลของอุปกรณ์ มันคือวัสดุเส้นใยพืชชิ้นแรก
“อนิจจา มันมีความต่างอันยิ่งใหญ่ระหว่างความฝันกับความจริง ตอนนี้เราควรจะซื่อตรงกับงานตรงหน้าและทำมันให้เสร็จ”
จี้เงียบ เขารู้ว่าเขาไม่ควรขัดอู๋ ฮ่าวเหรินตอนนี้ ไม่เช่นนั้น คนๆนี้อาจจะหงุดหงิดขึ้นมาได้ นี่เป็นสิ่งที่คลุมเครือที่สุดระหว่างมนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์
อู๋ ฮ่าวเหรินดูวัสดุเส้นใยพืชแปรเปลี่ยนเป็นแก้ว เขาก็รู้ว่าขั้นตอนแรกสำเร็จแล้ว ต่อไปคือทำตัวอย่างทุกแบบจากวัสดุเส้นใยพืชนี้
ใส่วัสดุเส้นใยพืชลงในหม้อต้มความร้อนสูง จากนั้นเครื่องจักรก็สร้างตัวอย่างที่เขาต้องการเองโดยที่เขาไม่ต้องสั่ง
เพราะการทดลองผลิตที่กำหนดโดยอู๋ ฮ่าวเหรินเป็นไปอย่างเชื่องช้าเพื่อที่จะเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
ไม่กี่นาทีถัดมา เมื่อถุงจากเส้นใยพืชชิ้นแรกปรากฏออกมา รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา
ต่อไปเป็นถ้วยเส้นใยพืช แล้วก็แผ่นกระดานเส้นใยพืชเป็นต้น
หลังจากผลิตวัตถุจากเส้นใยพืชออกมาเป็นโหล อย่างกับผลิตวัตถุจากพลาสติก อู๋ ฮ่าวเหรินก็เหมือนจะเห็นว่าโลกจะต้องสั่นคลอนเพราะสิ่งประดิษฐ์นี้ขนาดไหน
หลังจากที่วัสดุเส้นใยพืชทั้งหมดถูกใช้ไป เขาดูกองตัวอย่างแบบต่างๆ ต่อไปก็ต้องส่งตัวอย่างพวกนี้ไปที่กรมทดสอบแห่งชาติ
ในขณะเดียวกันก็ใส่รายละเอียดของวัสดุนี้ไปด้วย เขาหวังว่านี่จะสามารถวางรากฐานให้กับการพัฒนาต่อไป
“จี้ มาส่งข้อความประกาศที่เราเตรียมไว้กัน แล้วก็สร้างแรงกระตุ้นก่อนนะ ครั้งนี้เราจะทำให้บริษัทของเราโด่งดัง”
“ข้อความได้ส่งออกไปแล้วครับท่าน”
อู๋ ฮ่าวเหรินก็คิดได้แล้วว่าข้อความชวนเชื่อนี้จะสร้างความรู้สึกที่ใหญ่ขนาดไหน
อู๋ ฮ่าวเหรินปิดเครื่องอุปกรณ์ทั้งหมดในห้อง ออกมาจากห้อง ล็อคประตู และกลับออกไป
…
นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง เห็นอีเมล์ที่เพิ่งได้รับมาในกล่องจดหมาย “นี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนวัสดุในอนาคต” เขากดเข้าไป
ชั่วโมงถัดมา เขาก็ถือแล็ปท็อปวิ่งไปที่สำนักงานของหัวหน้าบรรณาธิการ
ในเว็ปวิทยาศาสตร์ชื่อดัง กระทู้ที่ชื่อ “วัสดุที่จะเปลี่ยนอนาคต” ก็ถูดันให้อยู่บนสุดทันที
เมื่อนักวิจัยบางคนในแผนกวัตถุดิบ หลังจากเข้าไปดูในโพสนี้ พวกเขาก็หลงใหลมันทันที และไม่สามารถไขข้อสงสัยให้ตัวเองได้เลย
ข้อมูลนี้ถูกส่งไปยังแผนกต่างๆที่เกี่ยวข้อกับวัตถุดิบ แม้แต่บางบริษัทใหญ่ๆที่ผลิตพลาสติกก็ยังได้ข้อมูลพวกนี้ด้วย
นี่คือโฆษณาชวนเชื่อของอู๋ ฮ่าวเหริน เขาอยากให้โลกรู้ว่า วัสดุที่พิเศษ ราคาถูก และย่อยสลายง่ายที่สามารถใช้แทนผลิตภัณฑ์พลาสติกส่วนใหญ่ได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว
สองชั่วโมงถัดมาวงการอุตสาหกรรมวัตถุดิบก็โลดเต้น หลายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยวัตถุดิบกำลังจับจ้องบริษัทฟิวเจอร์ ว่าเป็นบริษัทแบบไหน และทำไมถึงไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
จำนวนการกดเข้ามาดูในเว็ปไซต์ของบริษัทก็พุ่งสูงขึ้นทันที
ในอเมเริกา ณ บริษัทผลิตพลาสติกที่ใหญ่ที่สุด เพราะข้อมูลพวกนั้นสมาชิกคณะกรรมการบริษัทก็ถูกเรียกรวมตัวทันทีแม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะได้พักก็ตาม
นี่เป็นเพียงตัวอย่าง ตราบใดที่วงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องผลิตภัณฑ์กับพลาสติกได้รับข้อมูลนี้ พวกเขาก็จะศึกษาเรื่องนี้
และผู้ผลิตพลาสติกพวกนั้นก็ต้องจัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นซึ่งเป็นชะตาของบริษัทพวกเขา
แม้แต่บางแผนกในบางประเทศก็ต้องตกใจกับข้อมูลที่โผล่มาอย่างกะทันหันนี้ ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่ข้อมูลนี้บอกเป็นความจริง อิทธิพลที่มันนำมาด้วยจะเป็นเรื่องร้ายแรงแน่นอน
ในขณะนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินตัวการของเรื่องนี้ อยู่ในสำนักงานของบริษัทและกำลังมีข้อโต้แย้งอย่างรุนแรงกับเจ้าหน้าที่
———————–
คอมเม้นต์