อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 54
CF:บทที่ 54 ปฏิกิริยาในเมือง
ผู้นำของรัฐบาลเขตยุนหลอง กำลังจัดการประชุมช่วงเช้าเพื่อกำหนดการป้องกันและควบคุมโรค แมลงและศัตรูพืชในการเพาะปลูกข้าวในฤดูใบ้ไม้ผลิ
ณ ตอนนี้เลขาของนักปกครองเขตได้เดินเข้ามากระซิบประโยคข้างหูของนักปกครองเขต
“วันนี้มีการชุมนุมขึ้นที่นั่น ให้ฉันได้บอกข่าวดีว่า เสี่ยว อู๋เพิ่งประกาศในเมืองลิวเหอว่าโรงงานพลาสติกของเขาจะไม่สร้างในเขตหยุนหลงแล้ว”
“นั่นมันเยี่ยมไปเลย สำหรับเสี่ยว อู๋ที่ลงทุนในเขตหยุนหลงของเรา มันจะไม่ดีสำหรับเราที่จะไปบอกเขาตรงๆว่าเราค้านการสร้างโรงงานพลาสติกของเขาในเขตนี้”
“ตอนนี้ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องมลพิษของสิ่งแวดล้อมแล้ว” เมื่อเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพูดแล้ว สีหน้าของฟาน เหวินหมิงก็แย่ลง เขาคิดอยู่ตลอดว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดในเรื่องนี้แน่ๆ แต่ในความรู้สึกเขา โรงงานพลาสติกมันก็เป็นโรงงานที่ก่อมลพิษอย่างหนักจริงๆ ซึ่งนั่นไม่เข้าเงื่อนไขการพัฒนาของเขตหยุนหลง ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรในตอนนั้น
ตอนนี้อู๋ ฮ่าวเหรินสัญญาแล้วว่าจะไม่สร้างโรงงานพลาสติกในเขตหยุนหลง ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและคิดว่าจะส่งหลี เหวินหัวไปดูเขาสักพัก
…
ในสำนักงานของนายกเทศมนตรีหลีฉุย ดู่ โบผู้อำนวยการกรมพ่อค้าจีนขนกองเอกสารมารออยู่ที่นี่แต่เช้า
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้เขารู้สึกแปลกๆ มีบริษัทใหญ่เป็นสิบมาที่นี่เพื่อสอบถามเกี่ยวกับบริษัทที่เรียกว่าวัถตุดิบแห่งอนาคต
ยิ่งกว่านั้น บางบริษัทที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศก็ยังส่งอีเมล์มาสอบถามเพื่อดูว่าพอจะมีความเป็นไปได้ที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทที่ว่ารึเปล่า
ในเวลานี้ หลี มู่ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย ก็เดินตามเทศมนตรีอยู่ข้างๆ
“คุณดู่ ทำไมถึงมาที่นี่แต่เช้าล่ะ?”
“เพราะมันมีเรื่องใหญ่น่ะสิ แน่นอนว่าผมมาที่นี่แต่เช้าเพื่อจะรายงานมันกับเทศมนตรีว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นในเช้านี้”
หลี มู่ที่ใส่แว่นสายตา ได้ยินคำพูดของดู่ โบแล้วจึงถามอย่างสงสัยว่า “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?”
“ก็นะ มันเป็นธุรกิจของพ่อค้าจีนนี่ ทำไมผมถึงจะไม่รู้ แต่ผู้อำนวนการหลี วันนี้คุณมาหาเทศมนตรีด้วยเรื่องอะไรล่ะ?”
“นี่คุณไม่รู้งั้นรึ?”
“แล้วคุณรู้อะไรมาล่ะ?”
“คุณขิง เหลาจากสถาบันวิจัยวัตถุดิบแห่งชาติจะมาที่เมืองเราเพื่อสอบสวนผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ผลิตโดยบริษัทวัตถุดิบแห่งอนาคต และยังมีบางสถาบันวัตถุดิบจากต่างประเทศส่งอีเมล์มาที่สถาบันวิจัยของเรา โดยหวังว่าจะได้ร่วมงานกับสถาบันวิจัยของเราเพื่อจะได้งานวิจัยวัตถุดิบออกมาบ้าง”
“อ้าว! งั้นผมก็พูดคนละเรื่องกับคุณน่ะสิ คืออีเมล์ผมได้รับทั้งเมื่อวานและวันนี้ มันมาจากบริษัทขนาดใหญ่ หวังที่จะได้มาเยี่ยมบริษัทที่ชื่อว่าวัตถุดิบแห่งอนาคต แต่ผมได้ตรวจสอบแล้วว่ามันไม่มีบริษัทแบบนั้นในเมืองของเรา”
เทศมนตรีปาน เจี่ยหมิงก็เข้าใจแล้วว่าเรื่องที่ทั้งสองคนกำลังพูดอยู่ตอนนี้ เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เรียกว่าวัตถุดิบแห่งอนาคตแน่นอน มันดูเหมือนว่าชื่อนี่เป็นที่รู้จักกันจริงๆ!
ในขณะนี้เลขาของเทศมนตรีก็วิ่งเหยาะๆเข้ามา พูดทั้งๆที่ยังหอบอยู่ว่า ”ท่านเทศมนตรี ฉันเพิ่งข่าวจากเบื้องบนว่า ท่านรัฐมนตรีเฉิน ใจ๋เจี่ยแห่งกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะมาที่เมืองของเราในวันนี้ เพื่อสอบถามหาบริษัทที่เรียกว่าวัตถุดิบแห่งอนาคต ดังนั้นเราจึงต้องพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับเขาด้วย”
ทั้งสามคนก็ตะลึงทันทีที่ได้ยินคำพูดของเลขา ทำไมกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติถึงได้ตื่นตัว? แถมรัฐมนตรีก็มาที่นี่ด้วยตัวเองอีก
“ดูเหมือนว่าจะมีบริษัททรงอำนาจอยู่ในเมืองของเราโดยที่เราไม่รู้จัก แต่ว่าตอนนี้ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า มันมีบริษัทที่เรียกว่าเครื่องดื่มแห่งอนาคตในเขตหยุนหลงเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นรึเปล่า?”
“มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องแน่นอน เทศมนตรี ผมจำได้ว่าบริษัทต่างประเทศขนาดใหญ่ที่อยากลงทุนกับวัสดุที่บริษัทนี้วิจัย”
“ไปเถอะ ตรงไปที่ห้องประชุมเลย และรายงานหัวหน้าของทุกหน่วยงานตอนที่พวกเขามา เราจะจัดการประชุมขึ้น”
เทศมนตรีรู้สึกแล้วว่ามันกำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในเมืองของเขา ซึ่งเป็นความหวังต่อไปของเขา
ในห้องประชุมของหน่วยงานเทศบาล สำเนาของเอกสารรายงานได้ตีพิมพ์และแจกจ่ายให้กับทุกคน
ในขณะนี้ ผู้อำนวยการของกรมอุตสาหกรรมและการค้าพูดขึ้นว่า “มันไม่มีบริษัทที่ผลิตวัถตุดิบแห่งอนาคตแบบนั้นในเมืองของเราหรอก มีแต่บริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มแห่งอนาคต ซึ่งเพิ่งจะก่อตั้งในเมืองหลิวเหอของเขตยุนหลองตามที่เทศมนตรีกล่าว”
“แล้วข้อมูลมันผิดรึเปล่า?”
“มันไม่ใช่การเข้าใจผิด แต่เป็นปัญหา บริษัทนั้นยังไม่ได้ลงทะเบียนเสร็จสิ้น เลยยังไม่แย่เท่าไหร่ คุณดู่พูดเช่นนั้น ถ้ามันไม่แน่ชัดนักก็โทรหาเขตหยุนหลงตรงๆเลยดีกว่า”
เลขาของเทศมนตรีจึงโทรไปที่สำนักงานรัฐบาลของเขตหยุนหลง ไม่กี่นาทีถัดมาสีหน้าเขาก็แปลกไป จากนั้นเขาจึงไปกระซิบกับเทศมนตรี
“โฮ่ มันเป็นเรื่องจริงๆสินะ”
“ได้ยินมาจากสายว่าตอนนี้ผู้นำของเขตหยุนหลงกำลังจัดการประชุมเพื่อปรึกษาเรื่องนี้อยู่”
ทั้งห้องประชุมก็เงียบลง พวกเขาไม่รู้เลยว่าเทศมนตรีได้ข่าวอะไรมา แต่ว่าตัดสินจากสีหน้าของเทศมนตรีแล้ว ข่าวนั้นคงไม่ใช่ข่าวดีเท่าไหร่นัก
“เอาเป็นว่า เหลาดู่กับเหลาฮงไปที่เขตหยุนหลงเพื่อไปตรวจดูว่าบริษัทเครื่องดื่มแห่งอนาคตนี้อยากจะจดทะเบียนบริษัทวัตถุดิบแห่งอนาคตเพิ่มด้วยรึเปล่า แล้วก็ไปสืบมาด้วยว่าวัสดุอะไรที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ถึงทำให้เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ และถ้าเป็นไปได้ เชิญหัวหน้าของบริษัทนั่นมาที่นี่ด้วย ฉันอยากจะคุยกับเขาโดยตรง”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเทศมนตรีได้ข่าวอะไรมา แต่ในเมื่อเทศมนตรีสั่งให้พวกเขาไปตรวจสอบด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่ามันจะต้องมีปัญหาในบริษัทนั้นและต้องการให้พวกเขาไปแก้ไขมัน
หลังจากการประชุม พวกเขาก็ไปที่เขตหยุนหลงด้วยรถทันที และไม่ได้แจ้งกับคนของรัฐบาลเขตหยุนหลงก่อน เพราะพวกเขายังไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไรจึงระวังไว้ก่อนดีกว่า
ที่สำนักงานบริษัทของอู๋ ฮ่าวเหรินก็มีการประชุมเหมือนกัน แต่ทุกคนกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ
“หัวหน้า นี่เรายังจะสร้างโรงงานอยู่รึเปล่า?” เว่ย หมิงถาม
“ทำไมจะไม่ล่ะ ต่อให้เราไม่ผลิตวัสดุเส้นใยพืชแล้ว เราก็ยังต้องผลิตอย่างอื่นอยู่ดี”
ในขณะนี้หลิว เหมยหรู่ก็ถามขึ้นบ้างว่า “เราจะต้องซื้อวัตถุดิบพวกนั้นแทนงั้นหรือ?”
“เรายังต้องผลิตสิ่งของเพื่อขายอยู่ ถ้ามันไม่ใช่พลาสติก พวกเขาก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเราก่อมลพิษให้กับธรรมชาติ”
ดูสีหน้าจริงจังของทุกคนแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะต้องเสียใจในเร็วๆนี้แน่ แล้วตอนนั้นพวกเขาก็จะต้องมาขอร้องพวกเรา แต่ทว่า ในอนาคตบริษัทวัตถุดิบไม่เหมาะที่จะสร้างโรงงานในเขตหยุนหลง ที่นี่มันเล็กเกินไปสำหรับการพัฒนาโรงงานเช่นนี้ ยิ่งกว่านั้นแผนการดั้งเดิมของฉันคือการร่วมมือกับรัฐบาล”
“แต่พวกเราซื้ออุปกรณ์พวกนั้นมาแล้ว”
“เรายังต้องการอุปกรณ์พวกนั้นอยู่ เราต้องใช้อุปกรณ์พวกนั้นในการสร้างขวดบรรจุเครื่องดื่มของบริษัทเครื่องดื่ม จริงๆแล้วอุปกรณ์พวกนั้นก็มีไว้สำหรับบริษัทเครื่องดื่มล่ะนะ”
“ดูจากสีหน้าพวกนายแล้ว งั้นฉันจะบอกอะไรที่จะทำให้พวกนายมีความสุขละกัน”
อู๋ ฮ่าวเหรินเอาบางส่วนของข้อมูลอุปกรณ์รักษาไฟฟ้าชีวะภาพที่ได้มาเมื่อคืนออกมา และส่งสำเนาให้ทั้งสองคน
หลังจากนั้นสักพัก ทั้งคู่ก็ร้องออกมาในเวลาเดียวกัน และหันมามองที่อู๋ ฮ่าวเหรินด้วยสายตาที่ตกใจ ราวกับมองดูสัตว์ประหลาด
“หัวหน้า อย่าบอกนะว่าข้อมูลพวกนี้เป็นเรื่องจริง มันเหลือเชื่อเกินไปหน่อยนะ!”
เทียบกับเว่ย หมิงแล้วหลิว เหมยหรู่นั้นใจเย็นกว่ามาก แต่จากมือที่สั่นเทาของเธอ เราก็เห็นได้ว่าตอนนี้เธอกำลังตื่นเต้นมากๆ
หลิว เหมยหรู่พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “หัวหน้า ฉันคิดว่าต่อให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นของจริง แต่เราก็ไม่สามารถผลิตมันตอนนี้ได้”
“ทำไมล่ะ?”
เว่ย หมิงมองที่หลิว เหมยหรู่ด้วยสายตาแปลกๆ มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าวัสดุเส้นใยพืชเสียอีก มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขตและผู้คน
—————-
คอมเม้นต์