CF:บทที่ 66 การดูแลที่ไร้ความช่วยเหลือ

 

ต่อมา, ก็เริ่มมีคนออนไลน์เข้ามาเรื่อยๆ หลังจากที่เห็นสถานการณ์แล้ว พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกัน

 

แล้วที่ทำให้รู้สึกแย่สุดๆคือ เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินพูดไปก็ไม่มีใครสนใจ ราวกับว่าการคุยกับเขาเป็นสิ่งที่ผิดอะไรแบบนั้น

 

เมื่ออ่านคำถามที่พวกเขาคุยกัน นอกเหนือจะสิ่งที่คุยกันตอนแรก พวกเขาก็เริ่มคุยกันถึงเรื่องวัตถุดิบแปลกๆ หรือศัพท์เฉพาะที่ใช้กันในสายอาชีพ

 

ถึงแม้จะมีหลายเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ แต่อู๋ฮ่าวเหรินก็พอจะรู้ได้ว่า คนพวกนี้คือพ่อครัวฝีมือดีอย่างแน่นอน

 

เช่นว่า การจะทำอะไรสักอย่างให้อร่อย จะต้องจัดการกับวัตถุดิบอย่างไร, ใช้มีดอย่างไร เป็นต้น

 

บางครั้ง เขาก็คิดที่จะจดสูตรอาหารพวกนี้ แต่ก็แย่หน่อย เพราะอู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้จักวัตถุดิบส่วนใหญ่

 

เป็นไปได้ว่า วัตถุดิบพวกนี้เป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ในยุคนั้น ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องไปขอดูบันทึกพืชผลของคุณชาวไร่ในห้องนั้นแล้วศึกษาเกี่ยวกับพืชผลเพิ่มเติม

 

และเพราะว่า เขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร พออู๋ฮ่าวเหรินเห็นซองแดงถูกส่งมา เขาจึงยังไม่คิดจะฉกมาแต่อย่างใด

 

เขาพบว่าจำนวนซองแดงที่ถูกส่งออกมาดูเหมือนจะมีจำนวนเท่ากับคนในกลุ่ม

 

และการฉกซองแดงนั้นก็แปลกมาก มันไม่ได้ใช้เหรียญพลังงาน แต่กลับใช้แต้มวัตถุดิบอาหารแทน

 

ซึ่งเมื่อสังเกตุดูก็พบว่าแต้มวัตถุดิบอาหารพวกนี้ได้จากการส่งซองแดงเป็นจำนวนมาก

 

ยกตัวอย่างคือ ถ้าเขาส่งไก่ไป ก็จะไม่ได้แต้มอะไร แต่ถ้าเขาส่งไก่ใส่ในซองแดง เขาก็จะได้แต้มวัตถุดิบเพิ่มขึ้นมา

 

และในเมื่อยังไม่มีแต้ม เขาจึงยังไม่สามารถฉกซองแดงอาหารพวกนี้ได้

 

“บ้าจริง ถ้าไม่มีแต้มวัตถุดิบ งี้ก็เปล่าประโยชน์น่ะสิ?”

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นแล้ว เขายังพอสามารถเอาของโบราณมาใช้แลกกับเหรียญพลังงานได้ แต่กลุ่มนี้ถ้าไม่มีแต้มวัตถุดิบอาหารแล้ว แม้แต่ซองแดงเขาก็ยังฉกไม่ได้

 

“พี่ชาย, พอจะมีใครมีอาหารหรือวัตถุดิบดีๆบ้างมั๊ย ช่วยส่งมาให้ผมหน่อยสิ ผมจะเอาไปใช้ในกลุ่มพิเศษเพื่อแลกแต้มวัตถุดิบมาฉกซองแดงอาหาร

 

ในเมื่อเขาไม่มีแต้ม อู๋ฮ่าวเหรินก็คงทำได้เพียงแค่ไปขอความช่วยเหลือจากคนในกลุ่มเลเวล1 ส่วนกลุ่มเลเวล2นั้น มีคนอยู่แค่โหลเดียว แถมยังไม่จะรู้จักกันดีด้วย เขาจึงไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขอ

 

“น้องชาย ฉันช่วยอะไรนายไม่ได้หรอก วัตถุดิบที่พวกนั้นต้องการน่ะ จะต้องเป็นวัตถุดิบคุณภาพดีเท่านั้นแหละ” มิสเตอร์เรดาร์พิมพ์บอก

 

“เหมือนข้างบน”

 

“เหมือนข้างบน”

 

“เหมือนข้างบน”

 

“…”

 

เมื่อมองดูคำตอบจำนวนมากที่ล้วนเหมือนกันหมด อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่าการหาวัตถุดิบในระดับนั้นจะเป็นเรื่องยาก

 

แล้วในตอนนั้นเอง ชาวไร่ก็พิมพ์บอกว่า “ถ้าคุณต้องการวัตถุดิบดีๆ ฉันก็จะพอหาให้ได้อยู่นะ แต่ว่าวัตถุดิบคุณภาพดีๆ มันจะเกินลิมิตของกลุ่มเลเวล1ไป ทำให้ไม่สามารถส่งให้ได้

 

“อ้า! งั้นมาลองดูกันเถอะ ฉันจะลองฉกซองแดงอาหารแล้วดูว่าข้างในมีอะไร”

 

“ได้ รอแปบนึงนะ ชั้นจะไปเตรียมไว้ให้ มันน่าจะมีอะไรที่คุณน่าจะใช้ได้ในสวนของฉัน”

 

แล้วคนนั้นก็หายไปที่สวนผักของตัวเองเพื่อเก็บมา มันมีค่าพอที่จะเรียนรู้จากแปลงผักของตระกูลตัวเอง ซึ่งต้องพึ่งพาสถานภาพ และมีแปลงผักอยู่มากมาย

 

หลังจากนั้นไม่นาน ชาวไร่ก็กลับมาพร้อมกับส่งซองแดงมาให้

 

แต่คราวนี้ไม่มีใครแย่งฉกซองแดงไปจากอู๋ฮ่าวเหริน เพราะมันเป็นแค่ผักดอง ซึ่งจำเป็นต้องเสียถึง 83 เหรียญพลังงาน จึงไม่มีใครอยากฉกมัน

 

“ฉันว่า ถ้าคุณต้องการจะอยู่กลุ่มนั้นจริงๆ ฉันว่าคุณน่าจะต้องปลูกผักหายากเองแล้วล่ะ” จู่ๆชาวไร่ก็พิมพ์ขึ้นมา

 

อู๋ฮ่าวเหรินนิ่งคิดอยู่พักนึงก่อนจะตอบกลับไป “ฉันตั้งใจจะรอดูสถานการณ์ไปสักพักก่อน ถ้าพวกเขาไม่เตะฉันออกมา ฉันจะอยู่ที่นั่นเพื่อศึกษาดู และตอนนั้นคุณก็ช่วยแนะนำเมล็ดพันธุ์ผักพิเศษให้ผมหน่อยก็แล้วกัน

 

ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นอะไร แต่อู๋ฮ่าวเหรินไม่ต้องการที่จะซื้อเมล็ดพันธุ์ต่อจากชาวไร่ เพราะว่าเขารู้ดีว่าเมล็ดพันธุ์พวกนั้นจำเป็นต้องอาศัยสภาพแวดล้อมที่เฉพาะของมัน จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะสามารถปลูกมันได้ในสภาพแวดล้อมของโลก

 

จากนั้นอู๋ฮ่าวเหรินก็สลับกลับมายังกลุ่มพิเศษอีกครั้ง ดูเหมือนว่าคนที่ชื่อเชลีกำลังพิมพ์บอกเรื่องที่ไปสอบถามมา

 

“ฉันเพิ่งรับคำตอบมาจากผู้ดูแลของเทียนหยูกรุ๊ป พวกเขาแจ้งมาว่า น่าจะเกิดจากปัญหาเล็กน้อยขึ้นในระบบ

 

“ถ้างั้นก็ช่างมันเถอะ เชลี งานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? คุณมีความมั่นใจพอที่จะเอาชนะเชฟคิง ในการแข่งขันในดาวของคุณแล้วรึยัง?”

 

เชฟลีลังเลอยู่พักนึงก่อนจะตอบกลับมา “กลัววันมันจะยากนี่สิ แล้วก็ฉันได้ยินมาว่ามีคนที่เหมือนฉันเข้าร่วมกลุ่มจูเนียร์เชฟอีกกลุ่ม น่าจะชื่อเชฟเวรัค”

 

“เวรัค น่าจะหมายถึงจูเนียร์เชฟคนนั้น ผีมือเขายังไม่ถึงขั้นเชฟระดับกลางหรอก เขาคงจะเข้ากลุ่มนั้นไม่ได้หรอก เอ้อเอางี้มั๊ย? เดี๋ยวชั้นจะเอาซุปสูตรลับให้คุณไปเอาชนะเชฟคิงดีมั๊ย?” เดอะเชฟพิมพ์บอก

 

ดูเหมือนว่าคนนี้นั้นจะสนิทกับเชฟลี และสูตรลับนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้เหรียญพลังงานในการส่ง

 

อย่างไรก็ตาม อู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่าเขามองไม่เห็นสูตรลับที่ส่งมากจากเดอะเชฟ ดูเหมือนว่าระบบทำให้ไม่เห็นหากต้องการจะส่งให้คนแบบเจาะจง

 

อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจเขา เขาจึงส่งวัตถุดิบที่ได้มาจากชาวไร่ออกไป

 

“ไหนขอดูหน่อยซิ วัตถุดิบนี้ดีไปเลยนี่นา ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายไปหามันมาได้ยังไง แต่แค่แปบเดียวฉันสามารถหามาเองได้แล้ว แต่เห็นแก่ความจริงใจของนาย เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะส่งเค้กที่ฉันเพิ่งทำให้นายก็แล้วกัน”

 

เมื่อเห็นว่าซองแดงนั้นถูกฉกไปโดยผู้ใช้ที่ชื่อมีดทองคำ, เขาก็ได้รับมา 25 แต้มวัตถุดิบ เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก 83 เหรียญพลังงานแลกกับ 25 แต้มวัตถุดิบ เขาไม่รู้เลยว่านี่ขาดทุนหรือกำไรกันแน่

 

แล้วเขาก็พบว่ามีดทองคำได้ส่งเค้กมาให้เขาซึ่งต้องใช้ 25 แต้มอาหารพอดี อู๋ฮ่าวเหรินคิดอยู่พักนึงก่อนจะฉกมันมา

 

เขาไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อมีคนส่งของมาให้เขาซึ่งมีค่าเท่ากับวัตถุดิบของเขาแบบพอดิบพอดี

 

เค้กนั้นดูปราณีต และเปร่งประกายมาก ดูราวกับเป็นคริสตัล มันช่างทำให้คนรู้สึกอยากอาหารขึ้นมา

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูก็พบว่าไม่มีใครสนใจเขาอีก เขาเริ่มที่จะคิดว่าเขาน่าจะยอมแพ้สร้างความสัมพันธ์กับเชฟฝีมือดีพวกนี้ เว้นแต่เขาจะหาอาหารอะไรมาติดสินบนคนพวกนี้

 

นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องที่เขาจะต้องคิด นั่นคือสถานการณ์ของเขาเอง เทียนหยูกรุ๊ปน่าจะรู้ถึงตัวตนของแล้ว และไม่รู้ว่าเขาจะจัดการอย่างไร

 

หรือเขาควรจะขายไอดีนี้ดี ถึงมันจะดูน่าเสียดาย แต่ว่าผลประโยชน์ที่เขาได้มาจากระบบซองแดงก็มากพอที่จะทำให้เขาเป็นคนรวยที่สุดในโลกและมีความสุขสบายกับชีวิตที่เหลือ

 

แล้วในตอนนั้นเอง อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้สึกเป็นวิตก เมื่อมีข้อความอย่างเป็นทางการมาจากเทียนหยูกรุ๊ปปรากฏขึ้นที่ส่วนหน้าจอข้อมูล

 

ถึงคุณพ่อค้าของเก่า พวกเราพบว่าไอดีของคุณมีสิ่งผิดปกติ ระบบจะขอดำเนินการใช้มาตรการกับไอดีของคุณตามขั้นตอน 1. ไอดีของคุณจะหมายหัวจากระบบและเฝ้าดูเป็นพิเศษ 2.ในช่วงนี้ คุณจะไม่สามารถใช้วิธีพิเศษในการอัพเกรดไอดีของคุณได้ คุณสามารถทำได้เพียงส่งซองแดงเพื่อแลกแต้มมาแลกเหรียญพลังงานมาอัพเกรดเท่านั้น 3.ไอดีของคุณหากมีปัญหาอะไรขึ้น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซง ทางบริษัทจะไม่จัดการอะไร 4.ในกรณีที่มีการทำผิดกฏของทางบริษัท ไอดีของคุณจะถูกแบน”

 

เมื่อมองไปที่ข้อความ อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกถึงความไร้การช่วยเหลือจากเทียนหยูกรุ๊ป  มีการจำกัดการใช้งานเขา ที่เขาต้องจัดการ บางทีเขาคงไม่สามารถใช้วีธีอัพเกรดแบบเศรษฐีใหม่ได้แล้ว เขาไม่สามารถอัพเกรดแบบก้าวกระโดดได้ในอนาคต

 

ส่วนอีก 3 ข้อที่เหลือ ไม่ค่อยจะมีผลอะไรกับเขาเท่าไร

 

ในความเป็นจริง อู๋ฮ่าวเหรินก็คาดไว้อยู่แล้วว่า ผู้ดูแลของเทียนหยูกรุ๊ปคงช่วยอะไรเขาได้ไม่มาก เพราะเขาไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลไอดีของเขาได้ด้วยซ้ำ

 

ในอีกความหมายก็คือ ไอดีของอู๋ฮ่าวเหรินน่าจะไม่มีอยู่ในระบบซองแดง จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ในฐานข้อมูล

 

แล้วพวกเขาก็ไม่สามารถปิดระบบซองแดงเพราะคนเพียงคนเดียวเพื่อตรวจสอบไอดีของอู๋ฮ่าวเหรินได้ พวกเขาจึงทำได้แค่เพียงสร้างมาตรการไว้เท่านั้น

 

ดังนั้นถึงอู๋ฮ่าวเหรินจะไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้ แต่เขาก็รู้ว่าอย่างน้อยเขาก็ยังใช้ระบบซองแดงต่อได้ แต่ถ้าเกิดผิดกฏขึ้นมา ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะคิด

———————–