อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 73
CF:บทที่ 73 ความท้าทาย
ในการพัฒนาโครงการไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนั้น อู๋ฮ่าวเหรินจำเป็นที่จะต้องสร้างเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตัวใหญ่ขึ้นมา
รวมถึงเครื่องสร้างวัสดุเส้นใยพื้นเองก็ต้องการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพื่อใช้เก็บข้อมูลเช่นกัน
อู๋ฮ่าวเหรินได้ถามกับจี้สำหรับข้อสงสัย ซึ่งประเด็นคือ จีนนั้นยังล้าหลังมากกับเรื่องนี้ เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่จะต้องนำเข้ามาอย่างเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ต้องการที่จะใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีขนาดเป็นร้อยตารางเมตร เขาไม่เคยเห็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์พวกนั้นในสายตาเขาอีกเลย หลังจากที่เขาได้เห็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลอัจฉริยะ
เรื่องของเรื่องคือ ถ้าคุณไม่อยากจะเปิดเผยความฉลาดของคุณแล้ว คุณสามารถแสร้งทำเป็นว่าคุณได้รับมาจากเซิร์ฟเวอร์ก็ได้
และในเมื่อเขาสร้างเองไม่ได้ ฉันจึงว่าจะพยายามลองฉกซองแดงจากในระบบซองแดงดู
และในขณะที่กำลังคิดอยู่ อู๋ฮ่าวเหรินก็นึกขึ้นได้ว่าเขาลืมที่จะถามเรื่องเกี่ยวกับตัวตนของคนที่ใช้ชื่อไอดีว่าหอยเม่นเก่าไปเสียสนิท
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังลืมเช็คดูอาหารในซองแดงที่หอยเม่นเก่าส่งมาให้ในระบบซองแดงอีกต่างหาก
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นอยากรู้ว่าคนปริศนาผู้มีอำนาจมากในระบบซองแดงนี้เป็นใครกัน
ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินมีอำนาจถึงระดับนั้นบ้าง เขาอาจจะไปถึงเลเวล 9 แล้วฉกยานรบอวกาศมาก็เป็นได้
“ดูนั่นสิ พ่อค้าของเก่าออนไลน์ล่ะ ขอบใจสำหรับเหรียญทองแดงนะ ยายแก่ชอบมันมากเลยล่ะ” คนขุดแร่ร้องตะโกนเมื่อเขาเห็นอู๋ฮ่าวเหรินออนไลน์เข้ามา
ดูเหมือนว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะไม่ว่างเข้าระบบซองแดงเลยช่วงนี้ ผู้คนในนั้นเลยเริ่มคิดถึงเขามาก
“พ่อค้าของเก่า ทำไมช่วงนี้ถึงไม่ได้ออนไลน์เลยล่ะ?”
อู๋ฮ่าวเหรินส่งข้อความเตือนเรื่องการตรวจสอบไอดีของเทียนหยูกรุ๊ปเพื่ออธิบายปัญหาของเขา
เนื่องจากเขาไม่สามารถอัพเกรดได้ด้วยวิธีฉกชิงได้แล้ว เขาจึงไม่ต้องการจะแข่งขันแย่งชิงกับคนเหล่านี้
“ไม่, ทำไมเทียนหยูกรุ๊ปถึงไม่ให้คุณอัพเกรดด้วยวิธีนั้นล่ะ? มีเหตุผลมั๊ย? คนสามารถสอบถามกับผู้ดูแลของเทียนหยูกรุ๊ปได้โดยตรงนะ ลองถามดูสิ” นักวิจัยกล่าว
“ไม่ ไม่เป็นไร ผมไม่ต้องการที่จะอัพด้วยวิธีนั้นแล้ว ผมจะใช้วิธีจ่ายเหรียญพลังงานเพื่ออัพเกรดทีหลังเอาครับ”
อู๋ฮ่าวเหรินคิด สถานการณ์ของเขาตอนนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ มันสายไปแล้วที่จะซ่อนตัวจากเทียนหยูกรุ๊ปและส่งพวกเขามาที่บ้านของเขา นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการตอบคำถามนี้ เขาจึงเปลี่ยนเรื่อง “พวกคุณรู้จักชายที่ชื่อหอยเม่นเก่าที่อยู่ในโลกพ่อครัวมั๊ยครับ? ชายคนนี้เขาน่าทึ่งมากเลยครับ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีอำนาจมากในกลุ่มพ่อครัว มากกว่าผู้ดูแลของเทียนหยูกรุ๊ป
“หอยเม่นเก่า ทำไมชื่อดูคุ้นๆอยู่น้า? เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนซักแห่ง” ผู้ชำนาญการแพทย์ตอบกลับมา
“ฉันนึกถึงใครซักคนในโลกพ่อครัว ผู้ที่สามารถเห็นจุดเริ่มและจุดจบได้ ฉันไม่รู้ว่าใช่รึเปล่านะ” พ่อค้าพลังงานกล่าว
“ใครกันนะ” ชาวไร่พูดขึ้นมาแบบอยากสงสัยใคร่รู้ “ครอบครัวของเขามีเชฟที่มีชื่อเสียงมามากมาย และส่วนมากที่มาที่บ้านของฉันก็เพื่อถามหาวัตถุดิบทำอาหาร เพราะพวกเราศึกษาเรื่องพืชผัก
“ตาแก่หัวแข็ง ที่รู้จักกันดีในฐานะ “ตอนอายุ 3 ขวบก็เริ่มที่จะกินอาหาร, ตอนอายุ 6 ขวบก็กลายมาเป็นเชฟ ตอนอายุ 10 ขวบก็ไร้เทียมทานแล้ว, ตอนอายุ 20 ปี ก็กลายเป็นที่โจษจันไปทั่วดาวอาหาร ตอนอายุ 30 ปี ก็ออกเดินทางไปทั่ว และปัจจุบันมองหาคนที่จะมาเป็นศัตรูในจักรวาล” ว่ากันว่าแม้แต่คนในสภาของสหพันธ์ยังต้องการโชคถ้าอยากจะกินอาหารที่ทำโดยฝีมือเขา
“เอ หรือจะใช่นะ ฉันเคยได้ยินจากปู่ของฉันพูดถึงคนนี้เหมือนกัน ว่ากันว่าไม่มีใครสู้เขาได้ในเรื่องการทำอาหาร”
“ถ้าเป็นคนๆนี้จริงๆ เขาก็มีอำนาจมากจริงๆในโลกพ่อครัว ข้าเคยได้ยินมาว่าเทียนหยูกรุ๊ป ได้เชิญคนระดับท๊อปจากสาขาต่างๆมาเป็นผู้ดูแลกลุ่มพิเศษ” คนขี้เมากล่าว
อู๋ฮ่าวเหรินเองคิดว่าหอยเม่นเก่านั้นอาจจะเป็นตาแก่หัวแข็งจริงๆ
พอรู้แบบนี้แล้ว เขาก็มองไปที่ซองแดงอาหารที่เขาได้รับมาจากตาแก่คนนั้น ซึ่งเขาไม่ได้ผิดหวัง แต่ในทางกลับกัน เขารู้สึกตื่นเต้นมาก อาหารนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ถึงแม้จะถูกบังคับให้มาก็เถอะ อู๋ฮ่าวเหรินตัดสินใจที่จะยังไม่เปิดเผยมัน แล้วกระตุ้นกลุ่มนิดหน่อยแทน
“จริงด้วยสิ ตาแก่นั่นบอกว่าจะเปลี่ยนกฏของกลุ่มอาหาร เชฟทุกคนในกลุ่มนั้น สามารถแนะนำคนธรรมดาเข้ากลุ่มได้คนนึง ถ้าพวกคุณรู้จักคนที่เข้ากลุ่มทำอาหาร คุณสามารถขอเขาใช้สิทธ์เข้ากลุ่มได้นะ”
“ว้าว มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย ทำไมคุณไม่รีบบอกให้เร็วกว่านี้? ชั้นจะรีบไปเดี๋ยวนี้ละ”
ว่าแล้วคนขี้เมาก็ได้ออฟไลน์ไปจากกลุ่ม ดูเหมือนว่าเขาน่าจะไปมองหาเชฟเพื่อขอเข้ากลุ่มพิเศษ
แล้วอู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่าทั้งกลุ่มนั้นได้ออฟไลน์หมดแล้ว ยกเว้นเขา ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก ไม่สิ เขายังเหลือปัญหาเรื่องตัวเก็บข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แก้ไข
ในเมื่อไม่เหลือใครในกลุ่มเลเวลหนึ่ง เขาจึงย้ายไปที่กลุ่มเลเวลสองแทน
เมื่อเทียบกับความกระตือรือร้นในกลุ่มเลเวลหนึ่ง กลุ่มเลเวลสองนั้นค่อนข้างจะเย็นชา ไม่มีใครสนใจเลยว่าเขาไม่ได้ออนไลน์เป็นเวลานานแล้ว
“ช่างยนต์อยู่มั๊ย? ผมอยากรู้ว่าเรื่องของมาตรวัดตัวเร่งพลังงานแปลงพืชไปถึงไหนแล้วครับ”
“ได้เลย ได้ พ่อค้าของเก่ามาแล้ว ขอบคุณสำหรับเรื่องเหรียญโบราณครั้งที่แล้วมาก มันช่วยฉันได้เยอะเลย สิ่งที่คุณต้องการ ฉันได้มันมาแล้ว เดี๋ยวจะส่งให้เดี๋ยวนี้แหละ ระวังอย่าให้ใครฉกไปเสียล่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูแล้พบว่ามีเพียง ห้าคนที่กำลังออนไลน์อยู่ และคงจะไม่มีใครสนด้วย
และตอนที่ของถูกส่งมานั้นเอง เขาก็รีบฉกมันมาและเสียเหรียญพลังงานไปมากกว่า500 โชคดีที่ว่าหลังจากการอัพเลเวลเขาได้รับรางวัลมา 1000 รวมกับเหรียญพลังงานที่ได้มาตอนส่งเหรียญทองแดง ดังนั้นเขาน่าจะมีมากพอ
“จริงด้วยสิ ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนแต่ ผมสามารถขออุปกรณ์บันทึกข้อมูลได้มั๊ยครับ?”
“อุปกรณ์แบบไหนเหรอ? แบบที่บริษัทใหญ่ๆใช้กันน่ะเหรอ ถ้าคุณต้องการ ฉันน่าจะช่วยถามหาให้คุณได้นะ”
“จริงเหรอครับ ขอบคุณมากเลยครับ ผมต้องการตัวเก็บข้อมูลที่สามารถเก็บข้อมูลของคน 8 พันล้านคน ที่อาศัยบนดาวดวงนึงได้น่ะครับ”
“ที่คุณต้องการคืออุปกรณ์ตัวเก็บข้อมูลภายใน ไม่ใช่ตัวเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บข้อมูลระหว่างดาวสินะ ถ้าเป็นแบบตัวแรก มันจะหาได้ง่ายกว่ามาก รอแปบนึงนะ เดี๋ยวผมจะลองไปมองหาดูให้ น่าจะช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้”
อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก เขาไม่ได้ต้องการอุปกรณ์ขนาดที่สามารถใช้เก็บข้อมูลหลายๆดาวได้
ไม่สิ ถ้าเขาได้ยานอวกาศและไปที่ดาวซักแห่งเพื่อความสนุก อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าเขาอาจจะใช้ตัวนั้นเก็บข้อมูลก็ได้ ดูเหมือนว่าการคนดวงดาวที่ใกล้ที่สุดที่เหมาะสมจะให้มนุษย์อยู่ได้ จะไม่ไกลเกินจริงแน่
แต่แย่หน่อยที่ว่า ระบบคำนวณยังไม่ได้ถึงขั้นนั้น มันใช้พื้นฐานเทคโนโลยีระดับหงเบ่าเท่านั้น
“ตอนแรกฉันจะเอาตัวเก็บข้อมูลที่พัฒนาแล้วให้คุณนะ แต่มันตัวใหญ่ไปซักหน่อย แต่เนื่องจากติดข้อจำกัดของเลเวล ฉันเลยส่งตัวเก็บข้อมูลตัวเล็กมาให้แทน
ดูเหมือนช่างยนต์น่าจะมีอำนาจมากพอสมควร สามารถหาอุปกรณ์แบบนี้ได้ในเวลาอันสั้น
เมื่อเขารู้ว่าของที่ช่างยนต์มองหาให้นั้นเป็นตัวเก็บข้อมูลขนาดสี่ตารางเมตร ซึ่งอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ในตอนแรกเขาต้องการจะส่งตัวเก็บข้อมูลขนาดเท่ากล่องที่อยู่ข้างหลังเขา แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะว่าระบบจำกัดไว้ทำให้เขาไม่สามารถส่งซองแดงมาได้
ในท้ายที่สุด เขาก็มองหาของในโรงเก็บก็พบตัวเก็บข้อมูลตัวที่เขาคิดจะทิ้งอยู่นานแล้วส่งมาให้แทน
แน่นอนว่า เขามีท่าทางเหมือนอยากจะลองดู ถ้าเขาสามารถก้าวข้ามอดีตได้ คุณก็จะไปข้างหน้าได้ มีคนบางคนต้องการอุปกรณ์แบบนี้เหมือนกัน ถึงมันจะดูเก่าไปเสียหน่อยก็เถอะ
อู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้ว่าช่างยนต์นั้นเคยอยู่ในเหมือง แต่เมื่อตอนเขาเห็นอุปกรณ์ถูกส่งมาเขาก็รีบฉกมาโดยไว
เมื่อมองเหรียญพลังงานที่เสียไป เขารู้สึกดีใจมาก เขาไม่คิดว่าว่าตัวเก็บข้อมูลขนาดนี้เขาจะเสียแค่ 300 เหรียญพลังงาน ซึ่งน้อยกว่ามาตรวัดตัวเร่งพลังงานแปลงผักเสียอีก
“ขอบคุณมาก”
อู๋ฮ่าวเหรินรีบออกจากระบบซองแดงและเตรียมจัดการกับเซิร์ฟเวอร์ โดยที่ไม่มีใครรู้
———————–
คอมเม้นต์