อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 98
CF:บทที่ 98 รายการข่าว
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะมีเซอร์ไพรส์ขนาดใหญ่รออยู่ที่บ้าน ในคืนนั้น เหล่าเบื้องบนทั้งหลายได้รับการเรียกตัวเข้าร่วมประชุมด่วนเกี่ยวกับเครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัด
“ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะกลายเป็นรายงานได้ อย่างน้อยๆก็ไม่เชื่อสำหรับตอนนี้”
“อะไรไม่สามารถเป็นรายงานได้?เจ้าเครื่องนี่ไม่ใช่อาวุธล้ำสมัยซักหน่อย อีกอย่างถึงจะเป็นเราก็เอาไปใช้ปกป้องประเทศน่า ยิ่งไปกว่านั้น ช่วยเอานี่ไปทีจะได้ไหม? ตอนนี้พวกสิทธิบัตรถูกนำมาใช้เรียบร้อยแล้ว”
“ฉันไม่คิดว่ามันจำเป็นต้องหลบๆซ่อนๆนะ ด้วยความสามารถของคนในประเทศเราเอง พวกเราควรเผยแพร่เยอะๆแล้วให้พวกต่างชาติรู้ว่าประเทศเราไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลยในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แถมปัญหาเกี่ยวกับการรักษาต่างๆนาๆจะได้ถูกแก้ไขด้วยหลังจากโดนถล่มมานาน พวกเราสามารถลดความกดดันลงได้จากเรื่องนี้”
“ดูเหมือนนายจะลืมไปแล้วนะว่าจุดประสงค์ของพ่อหนุ่มที่วิจัยเรื่องเจ้าเครื่องนี้คือเพื่อการแพทย์ไม่ใช่เพื่อการทหาร ตอนนี้ถึงเราจะเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับทางการทหาร แต่ก็ปฏิเสธไม่ลงว่ามันเองก็ช่วยให้การแพทย์ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นด้วย ฉันเชื่อว่านายเองคงได้ลองระบบมันบ้างแล้ว และเจ้าสิ่งนี้ก็คงจะมาอยู่ในมือพวกเราคนละเครื่องในอนาคตแหละ”
“มันเป็นเรื่องจริง เจ้าเครื่องนี่ใช้งานได้จริงๆนะ ถ้านายได้ทดลองแล้ว นายไม่จำเป็นต้องตรวจร่างกายเลย นายจะประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้เยอะเลย ตอนนี้เราได้นำโครงการวัสดุใยพืชของคนอื่นมาแล้ว ถ้าเราเอามันมาอีก ไม่รู้คนจะพูดยังไง”
“พวกเราไม่จำเป็นต้องควบคุมการขายเจ้าเครื่องนี้ นั่นเพราะว่าพวกมันควบคุมตัวเองได้ เครื่องที่ใช้โดยทหารจะแตกต่างกับเครื่องที่ใช้โดยประชาชนอยู่นิดหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นคนของเราได้ทดลองใช้แล้วและโปรแกรมของมันไม่สามารถถูกเจาะได้ ดังนั้นแล้วเราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้เลย”
“ในกรณีนี้ เรามาเร่งการเผยแพร่มันกันดีกว่า เรียกสถานีโทรทัศน์มาและบอกเขาให้ทำตามแผน เขาได้มอบสิ่งดีๆให้กับประเทศเขามากมาย และเราควรจะพูดออกไป”
ไม่นานนัก CCTV ก็ได้รับการแจ้งเตือนนั้น ผู้ประกาศข่าวสองคนพูดไปตามCF:บทที่ตนได้รับ พวกเขาเองแทบไม่เชื่อ ขณะที่กำลังโฆษณาเครื่องมือนั้นผ่านรายการข่าว พวกเขาเองก็รู้สึกงงงวยไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับกำชับว่า “จำไว้ นี่คือโฆษณาจากเบื้องบน และเราต้องไม่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด เอาเข้าจริงนี่ไม่ใช่การโฆษณาเกินจริงหรอก ถ้าพวกคุณศึกษามันจริงๆจังๆ พวกคุณจะรู้ว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมากๆ แถมมันยังถูกปรับแต่งใหม่โดยกองทัพ ฉันเองก็ว่าจะสั่งมาเครื่องหนึ่งสำหรับครอบครัวเหมือนกัน”
ทั้งสองฟังคำพูดของผู้กำกับและพยายามควบคุมให้โฆษณาวิเศษนี้ออกมาดีที่สุด เพียงไม่นานนักพวกเขาก็หลงไปในเสน่ห์ของฟังก์ชั่นอันทรงพลังที่เครื่องไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนี้สามารถทำได้ไปเสียแล้ว
พวกเขายังคงไม่เชื่อนิดหน่อย ใครซักคนได้สร้างเครื่องนี้ขึ้นมา และที่ยิ่งไม่น่าเชื่อมากกว่าก็คือ ผู้อยู่เบื้องบนขอให้พวกเขาช่วยโปรโมตเจ้าเครื่องนี้ผ่านสื่อหลักเนี่ยแหละ
มองไปยังชื่อของผู้อยู่เบื้องบน… บริษัท ฟิวเจอร์ เทคโนโลยี จำกัด ภายใต้บริษัทแม่อย่างฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาจะไปเยี่ยมชมเว็บไซต์บริษัทในทีหลัง หากเจ้าสิ่งนี้มีจริง พวกเขาเองก็คงจะสั่งด้วยเช่นกัน
เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินกลับมาถึงบ้าน เขาถูกติเตียนโดยแม่ของเขาก่อนที่เธอจะนำอาหารร้อนๆออกมาจากหม้อที่ร้อนไม่แพ้กันมาวางตรงหน้าเขา มันเป็นภาพที่เห็นแล้วตัวเขาเองก็อดยิ้มไม่ได้ เขาไม่รู้หรอกว่าจะมีซักกี่ครั้งที่แม่เขาทำอะไรให้เขาตื่นเต้นเช่นนี้
หลังจากรับประทานมื้อเย็นเสร็จเขาก็กลับไปยังบ้านของเขา คิดหลายๆเรื่องไม่ว่าจะซ่อมแซมบ้านจากนั้นก็ไปรับส่งน้องสาวทุกๆวัน หรือแม้แต่เรื่องที่ครอบครัวของเขาเอาแต่จ้องมองเขา
ในห้องอื่นๆ เสียงคนคุยกันและดูข่าวเป็นปกตินั้นแสดงออกถึงวิถีชีวิตในชนCF:บทที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต พวกเขาก็จะดูทีวีกันเช่นนี้ และหากใครก็ตามที่ดูทีวีอยู่ในเมืองทุกๆคืน ก็เป็นไปได้ว่าเขาคนนั้นก็เริ่มจะมีอายุแล้ว
เหล่าคนหนุ่มต่างก็อยากรู้ว่านี่เป็นข่าวแบบไหน เพราะงั้นเข้าจึงถือโทรศัพท์มือถือและปัดจอค้างไว้
“คุณพูดอะไรเกี่ยวกับบริษัทของลูกชายพวกเรานะ? ฉันได้ยินมาว่าบริษัทเล็กๆจำนวนมากปิดตัวลง”
“ลูกชายชองฉันเปิดบริษัทเล็กๆด้วยเงินทุน 10 ล้านบาท เขาบอกมาว่าตอนนี้กำลังผลิตสิ่งของไฮเทคอยู่ ที่เรียกว่า ฟิวเจอร์เทคโนโลยีกรุ๊ป ใช่แล้ว นั่นเป็นชื่อที่อู๋ เชิงบอกฉันมา”
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้บอกครอบครัวของเขาเกี่ยวกับบริษัท
ดังนั้นคนในครอบครัวจึงไม่ได้รู้เกี่ยวกับบริษัททั้งหมด
บางครั้งเมื่อมีคนถามอู๋ เชิง พวกเขาจะพูดบางอย่าง อย่างไรก็ตามอู๋ เชิงไม่ได้ชัดเจนขนาดที่บอกไปว่าบริษัททำเกี่ยวกับอะไร
ในรายการข่าว มันพูดถึงข่าวสอบสวนและอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในจีน ก่อนที่ 5-6 นาทีสุดท้ายมันจะกลายเป็นข่าวเกี่ยวกับการฝึกของพวกทหาร
“ข่าวล่าสุดคือข่าวที่กองทัพเข้าถึงผู้สูงอายุโดยบริษัทที่ชื่อว่า ฟิวเจอร์กรุ๊ป พร้อมกับสิงประดิษฐ์ของบริษัทที่ชื่อว่า เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพ มันมียอดสั่งซื้อถึง 6 แสนเครื่องจากกองทัพ และฟังก์ชั่นของมันคือ…”
ในตอนแรกพวกเราเข้าใจว่าข่าวนี้มันเกี่ยวกับกองทัพ หากแต่เราก็เข้าใจแล้วว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับกองทัพ หากเป็นโฆษณาต่างหาก
หลายๆคนคิดว่าสัญญาณของรายการข่าวมันขาดแต่พอฟังดีๆก็ได้ยินเสียงของผู้ประกาศข่าว 2 คนกำลังพูดอยู่และในตอนนั้นเองภาพของเหล่าทหารที่กำลังถือสิ่งประดิษฐ์ก็โผล่ขึ้นมา
ในค่ำคืนนั้น ผู้คนที่ได้ดูข่าวต่างพากันตกตลึง รายการข่าวที่ใช้เวลาเพียง 6 นาทีสุดท้ายในการโฆษณาสิ่งประดิษฐ์นั้นถือว่าประสบผลสำเร็จในการสั่นสะเทือนทุกๆคนที่ได้ดูจนกระทั่งจบรายการเลย
“ที่รัก อย่าเพิ่งดูละครนะ คุณลองไปหาในเน็ตเกี่ยวกับบริษัทที่ชื่อว่า ฟิวเจอร์เทคโนโลยี กรุ๊ป หน่อย สิ่งประดิษฐ์ของเขา มันใช้ได้จริงโดยมีทหารยืนยัน”
“ที่รัก คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? คุณตกใจที่คุณกลายเป็นข่าวในรายการเหรอ?”
“อ่า ผมกำลังสับสน ผมขอเวลาเช็คพวกนี้เพิ่มอีกซัก 6 นาที ผมมั่นใจว่ามันจะต้องกลายเป็นข่าวใหญ่”
มันจะไม่เป็นข่าวใหญ่เหรอ? ต่อให้มันไม่เป็น แต่ตอนนี้มันก็เป็นแล้วหลังจากโดนโฆษณาด้วยรายการข่าว
ในตอนนี้ ปฏิกริยาของผู้คนที่ได้รับชมข่าวก็คงไม่ต่างกัน บางคนก็ช็อคบางคนก็ยังไม่เชื่อ ไม่ว่าจะเพราะสำนักข่าวช่วยโฆษณาให้หรือไม่ก็ตาม เมื่อผู้คนได้ยินยังไงก็ต้องแสดงปฏิกริยาแบบนี้ออกมา
ถ้าหากคิดว่าข่าวเร็วแล้ว สื่อข่าวในอินเตอร์เน็ตนั้นเร็วกว่า เพราะก่อนที่ข่าวจะออก 5 นาที หัวข้อข่าวเกี่ยวกับบริษัทแม่อย่าง ฟิวเจอร์กรุ๊ป ก็กระฉ่อนให้เห็นในอินเตอร์เน็ตแล้ว
และเร็วๆนี้หลังจากที่วีดีโอที่บันทึกข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ มันก็กลายเป็นกระแสจนคนแทบจะคลั่งกันไปเลย
ในตอนแรกผู้คนต่างไม่เชื่อกัน แต่เมื่อพวกเขาได้ชมวีดีโอก็เหลือเพียงส่วนหนึ่งที่ยังไม่เชื่อ และในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เข้าไปหาดูเว็บไซต์บริษัทของ ฟิวเจอร์กรุ๊ปพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย รวมถึงหาข้อมูลของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพด้วย
ในขณะนั้น ที่บ้านของอู๋ ฮ่าวเหริน ห้องของครอบครัวเขา มีคนสองคนกำลังจ้องสลับกันไปมา
“บริษัทของลูกชายฉันทำอะไรตอนนี้นะ?”
“ดูเหมือนว่าบริษัทของลูกชายพวกเราจะชื่อว่า ฟิวเจอร์ กรุ๊ปนะ ที่อยู่ที่ลงไว้ก็คือที่นี่ เพราะงั้นไม่ผิดพลาดหรอก”
“บริษัทของลูกเรากำลังอยู่ในรายการข่าว!”
บางส่วนจากคนเหล่านี้ยังคงไม่เชื่อ
อู๋ ฮ่าวเหรินกำลังคุยกับเหล่าผู้คนในระบบซองแดง เขาต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงของแม่เขาตะโกนขึ้นมา
อู๋ ชิงไห่มองไปยังภรรยาของเขาด้วยความรู้สึก “อิหยังวะ” เขาโด่งดังจากการที่ตัวเขาเองมีอำนาจในการสั่งการสูงสุดในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่คิดเลยว่าภรรยาของเขาเองก็มีเสียงที่แข็งแกร่งขนาดนี้ด้วย ซึ่งนั่นทำให้ครอบครัวของเขาต่างพากันมารวมตัวยังบ้านหลังนี้
“ลูก! ลูก! ออกมาเร็วๆ พ่อมีเรื่องที่จะต้องถาม เร็วหน่อย” อู๋ชิงไห่ร้องเรียก
เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินออกมาจากห้อง เขาไม่ได้รู้เลยว่าบริษัทของตัวเองดังแล้ว ในตอนนั้น เว็บไซต์หลักของบริษัทก็มีการเข้าถึงมากขึ้นราวกับพากันติดจรวดเลย
นอกจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ ยอดผู้สมัครเองก็ยังพุ่งขึ้นสูงทะลุ 500000 คนและยังพุ่งขึ้นเรื่อยๆด้วย
ผู้คนมากมายที่ได้อ่านข่าว แน่นอนว่าพวกเขาได้เห็นเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพอยู่ในคำแนะนำบริษัท มันมีฟังก์ชั่นที่ทรงพลังมากๆ โดยได้รับการรับรองจากกองทัพและสำนักข่าว และนั่นทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องสงสัยอะไรอีก ในเวลานั้นไม่มีใครคิดว่ารัฐบาลกำลังปั้นข่าวนี้มาหลอกพวกเขา เอาเข้าจริงมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำเลย
ก่อนที่จี้จะได้พูดอะไรบางอย่างกับอู๋ ฮ่าวเหริน เขาก็ชิงไปยังบ้านของครอบครัวเขาเสียก่อน
————————————
คอมเม้นต์