อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 103
CF:บทที่ 103 แฮ็คเกอร์เตรียมพร้อมที่จะโจมตีเป็นกลุ่ม
ในตอนแรก คนเหล่านี้ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าคำเตือนเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิ์นั้นไม่ได้จะทำจริง บางคนยังขู่กลับว่าพวกเขาจะไม่ซื้อของจากเว็บไซต์หลักหรือซื้อต่อจากคนอื่นอีกด้วย
ผู้ที่ใส่ร้ายป้ายสีมากมายมีความคิดนี้อยู่ในใจ พวกเขายังคงใส่ร้ายป้ายสีผลิตภัณฑ์ต่อไป เพราะเงินนั้นสำคัญกว่าสิ่งใด เรื่องอื่นค่อยมาพูดทีหลังก็ได้
ดังนั้นแล้ว เหล่าคอมเมนต์บนเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพเครื่องอื่นๆจึงเพิ่มทวีคูณความเกรี้ยวกราดมากขึ้นกว่าตอนก่อนประกาศเสียอีก
หลังจากที่เขาพบสถานการณ์นี้ อู๋ ฮ่าวเหรินก็ถึงกับพูดไม่ออกและไม่มีความสุขในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าเขาต้องหาทางที่จะลงโทษคนเหล่านี้
พวกคุณไม่คิดว่าจะซื้อมันได้ด้วยตัวเอง ในขณะที่พวกคุณเองก็พยายามจะซื้อมันด้วยวิธีอื่นๆ โอเค ฉันจะตัดพวกคุณออกเอง ยังไงก็แล้วแต่ เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพมีฟังก์ชั่นที่จะบันทึกข้อมูลด้วยตัวมันเอง
เขาโทรหาลิว หมิงหยู่เพื่อจะปล่อยข้อความออกไป มันง่ายมากในการใช้งาน เมื่อเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพทำงาน มันจำเป็นต้องสำรองข้อมูลของคลื่นไฟฟ้าทุกๆคนเอาไว้ และจะส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับมา
นั่นหมายความว่า ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถล็อคคลื่นไฟฟ้าของใครก็ได้และทำให้มันผิดปกติ
ตามหลักการแล้ว คลื่นไฟฟ้าของแต่ละคนจะแตกต่างกัน ถึงคุณจะใช้เจ้าเครื่องนี้เป็นประจำ แต่คุณก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าคลื่นไฟฟ้าในครั้งนั้นๆเป็นของจริงหรือเปล่า
แน่นอนว่านี่เป็นแค่หลักการ เพราะหากอู๋ ฮ่าวเหรินต้องการทำจริงๆ คนเหล่านี้สามารถถูกระบุที่อยู่ได้ทันทีที่พวกเขาเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เขาจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ หากมันเผลอแพร่กระจายออกไป นั่นหมายถึงเขาจะมีปัญหาในด้านการระบุตำแหน่งแล้ว เมื่อใครซักคนถามว่าเขาใช้ดาวเทียมอะไรในการระบุตำแหน่ง มันยากมากที่จะตอบ สิ่งที่ตอบได้คงเป็นแค่ “ดาวเทียมที่ไม่ค่อยมีคนใช้งาน”
เหตุผลที่กองทัพกล้าที่จะใช้เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพนั่นก็เพราะว่ามันมีฟังก์ชั่นในการปิดระบบสัญญาณได้ มิเช่นนั้นแล้วพวกเขาคงไม่ยอมเอาสิ่งที่สามารถระบุตำแหน่งตัวเองได้ไปใช้แน่ๆ มันไม่ต่างจากโทรศัพท์เลยหากเป็นแบบนั้น
ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปเพียงไม่นาน เหล่าแฟนคลับของลิว หมิงหยู่ให้ความสนใจข่าวนี้มากกว่า 5 ล้านคน ในฐานะของผู้เผยแพร่ข่าวอย่างเป็นทางการของฟิวเจอร์กรุ๊ป เธอเป็นที่ยอมรับ
เพราะเช่นนั้นข่าวจึงถูกเผยแพร่ออกไปเร็วมากๆ ซึ่งนั่นทำให้พวกชอบใส่ร้ายบางคนถึงกับเป็นกังวล
ตั้งแต่ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปสามารถจับตัวตนของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วและถ้าพวกเขาถูกจับได้ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะไม่สามารถใช้เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพได้จริงๆ
พวกที่ใส่ร้ายในตอนนี้กำลังพยายามหาเงินเพื่อจะใช้สร้างประโยชน์ส่วนตัว เมื่อไหร่ถ้าข้อมูลคลื่นไฟฟ้าถูกส่งไปแล้ว เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพก็จะไม่สามารถทำงานได้อีก และเมื่อหากเป็นเช่นนั้นจริงๆมันไม่ดีแน่
“ดูนี่สิ เหมือนว่ากำลังมีใครซักคนกำลังตรวจสอบพวกคอมเมนต์หยาบๆพวกนี้อยู่นะ”
“ดูจากฝั่งฉันนี่ ข่าวจากครอบครัวนี้บอกว่าพวกเขายอมแพ้และโพสต์ขอโทษแล้ว บอสเคลื่อนไหวได้ถูกจุดจริงๆ”
“แต่ก็ยังมีพวกที่ไม่ยอมสำนึกผิดอยู่ด้วยนะ”
“ปล่อยพวกเขาไปเถอะ เดี๋ยวพวกเขาก็ต้องชดใช้สิ่งที่ทำลงไปในวันนี้”
จริงๆแล้วนักเลงคีย์บอร์ดและพวกกองทัพที่มักเอาแต่ดิสเครดิตคนอื่นบนอินเตอร์เน็ตเช่นนี้ไม่ได้เป็นที่น่าเชื่อถือนัก เอาเข้าจริงจะมีซักกี่คนกันที่เชื่อเพราะทั้งกองทัพต่างก็ให้การยืนยันแล้วว่าเครื่องมันทำงานได้จริง หรือถ้าคุณจะยังบอกว่ามันผิด เช่นนั้นแล้วทหารและรัฐบาลจะโฆษณาสิ่งที่ผิดๆไปเพื่ออะไรกัน? ดูท่าความคิดนี้คงจะเป็นไปได้ในประเทศที่รัฐบาลเกิดคุ้มคลั่งขึ้นมาซักประเทศนั่นแหละ
แน่นอนว่าคนบางคนให้ความสนใจกับสิ่งอื่นซะมากกว่า ในอนาคต เมื่อคนกลุ่มนี้มีกำลังมากขึ้นในด้านข้อมูลโครงข่ายในเวลาสั้นๆ นั่นก็จะทำให้หาคนที่คอยใส่ร้ายได้
คนเหล่านี้คืออินเตอร์เน็ต แฮ็คเกอร์ ผู้ที่ซึ่งจะทิ้ง ‘หยาดเลือดและรอยน้ำตา’ ไว้ทุกครั้งที่ทำการโจมตีใดๆสำเร็จ
แฮ็คเกอร์ที่โจมตีเว็บบริษัทนั้นยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็งแบบไม่หยุดยั้ง บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็เดี่ยวๆแล้วแต่โอกาส
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้คิดถึงระบบป้องกับของเว็บไซต์สำหรับเหตุการณ์เหล่านี้เอาไว้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คนเหล่านี้เข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ได้ ถึงแม้พวกเขาจะเก่งกล้าขนาดไหนก็ตาม หลังฉากของเว็บไซต์ก็มีสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆรอต้อนรับพวกเขาอยู่แล้ว
ตามความต้องการของอู๋ ฮ่าวเหริน จี้ได้จัดการสร้างเซิร์ฟเวอร์ปลอมไว้ที่ด้านนอกเซิร์ฟเวอร์หลักแล้ว ซึ่งทำขึ้นมาเพื่อต้อนหลับ ‘การเข้าถึงที่ก้าวร้าว’ เหล่านี้โดยเฉพาะ
เพราะฉะนั้น ก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าใจผิดไปว่าสามารถเข้าเซิร์ฟเวอร์หลักได้แล้ว เมื่อไหร่ที่พวกเขาเริ่มโจมตีเซิร์ฟเวอร์ปลายทางของพวกเขาเหล่านี้จะถูกสับเปลี่ยนไปยังเว็บไซต์ของรัฐบาลประจำประเทศนั้นๆ
แต่ถ้าหากเป็นการกระทำแบบบุกเดี่ยว เป้าหมายจะถูกสับเปลี่ยนไปเป็นเครื่องมือของคนๆนั้นเอง
แน่นอนว่าอู๋ ฮ่าวเหรินจะไม่ยอมให้คนเหล่านี้สามารถแก้ปัญหาได้ง่ายๆ เมื่อใดที่เซิร์ฟเวอร์ถูกสลับ โปรแกรมบางอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อพบสิ่งเหล่านี้อย่างเท่าทันควรจะรีบหาวิธีแก้ให้เร็วที่สุดก่อน มันสามารถตัดไฟโดยตรงเพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายเกิดกับอุปกรณ์บางตัวได้
และสำหรับผู้ที่ไม่คิดจะถอยกลับ นั่นคือจุดจบของอุปกรณ์ของเขา นั่นเพราะว่าโปรแกรมที่ถูกส่งกลับไปนั้นจะทำความเสียหายให้กับเครื่องโดยตรง
ในเวลานี้ ณ ห้องพูดคุยลับ แฮ็คเกอร์มากมายรอบโลกต่างรวมตัวกันและถกเรื่องนี้อยู่
“ฉันได้ยินมาว่านายเข้าโจมตีเมื่อคืน เป็นยังไงบ้าง?”
“อย่าพูดถึงมัน เครื่องของฉันเละเทะหมดเลย มันทำอะไรก็ไม่รู้ยากที่จะแก้ชะมัด”
“นายยังไม่แย่ที่สุดหรอก เพราะพวกที่สุดน่ะคือพวกที่ไม่ได้โผล่มาวันนี้ ป่านนี้โดนเรียกไปจิบชาอยู่ในธรรมเนียบขาวแล้วมั้ง พวกนั้นดันทะลึ่งไปยิงเว็บของรัฐบาลทิ้ง ทั้งข้อมูลทั้งเซิร์ฟเวอร์ยับเยินไปหมด เพราะงั้นแล้วคนที่แย่ที่สุดน่ะ อยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก”
“เอ้อ มีคนบอกว่าน่าจะจัดกลุ่มเพื่อไปแฮ็คเว็บไซต์นั้น อันนี้จริงเหรอ?”
“ใช่ เมื่อต้องเจอกับบริษัทที่เจ๋งๆแบบนี้มันก็รู้สึกคันไม้คันมือไปหมดเลย พวกเราจะลองไปด้วยกัน ยิ่งเจอของยากก็ยิ่งทำให้พวกนายได้ประสบการณ์มากขึ้น”
“เชื่อสิว่านายไม่อยากได้ประสบการณ์แบบพวกเราเมื่อคืนแน่ๆ ทันทีที่เราเข้าไปและระดมโจมตีเว็บไซต์บ้านั่น ไม่ว่าเราจะพรางตัวดีขนาดไหนท้ายสุดแล้วปลายทางเรากลับกลายเป็นเครื่องตัวเองซะงั้น”
“มันเป็นเรื่องจริงที่กว่าฉันจะรู้เกิดอะไรขึ้นเครื่องฉันก็กลับบ้านเก่าไปแล้ว คอมพิวเตอร์ที่เหลือล็อตสุดท้าย แน่นอนว่าเพราะถอดปลักทันถึงได้รอด ฉันคิดว่ามันยังมีโปรแกรมหลงเหลือในเครื่อง ตราบใดก็ตามที่เปิดเครื่อง เอาอะไรมารับประกันไม่ได้หรอกว่ามันจะไม่ระเบิดเหมือนดอกไม้ไฟรับปีใหม่น่ะ”
“นายพอจะส่งโปรแกรมนั่นมาได้ไหม? เราจะได้ตรวจสอบดูกันหน่อย”
“ทำใจร่มๆแล้วคิดถึงสิ่งที่นายพูดใหม่ดีๆนะ รู้ไหมว่านายเพิ่งจะขอให้เอาโปรแกรมที่อยู่ในเครื่องจากคนที่เปิดเครื่องยังไม่ได้อย่างฉันอยู่นะ ขอแนะนำให้ลองใช้เครื่องในกลุ่มทดสอบ ไม่งั้นนายได้เป็นหนี้จากรายจ่ายแน่”
“ไม่ต้องกังวล ไม่มีสิ่งใดที่จะรอดพ้นจากการเจาะระบบของพวกเราได้ ในตอนนี้ถ้าเราสามารถเจาะระบบเว็บบ้านั่นได้ ธุรกิจการจองเครื่องบำบัดนั่นก็อยู่ในมือเราแล้ว มีแต่รวยกับรวยนะ”
หลังจากที่คำปลุกระดมถูกล่าวออกมา คนบางส่วนก็เกิดความฮึกเหิมและมั่นใจในตัวเองขึ้นมา ในขณะเดียวกันพวกเขาก็กล่าวเยาะเย้ยพวกคนที่โดนโจมตีมาก่อนและไม่คิดจะสู้อีกว่าไม่มีจิตวิญญาณแห่งนักสู้อีกด้วย เพียงถ้อยคำปลุกใจไม่กี่คำมันก็มากพอให้เหล่าผู้กล้าลุกโชนด้วยไฟที่เผาผลาญความกลัวไปจนหมดสิ้นแล้ว
กลุ่มของผู้ที่ถูกไฟแห่งความอยากได้มาซึ่งชัยชนะลุกไหม้ ตัดสินใจเริ่มที่จะวางแผนยุทธศาสตร์ต่อไปกันโดยไม่สนใจว่าคนที่โดนโจมตีมาก่อนหน้าจะเตือนอะไร
ถึงแม้จะดูพวกเขามั่นใจในตัวเองมากๆแต่กระนั้นก็ยังมีซึ่งความรอบครอบในสิ่งเหล่านั้นอยู่ แต่ละขั้นตอนถูกวางแผนอย่างรัดกุม จะโจมตีอย่างไร ใครจะรับผิดชอบส่วนนี้ รวมไปถึงเป้าหมายของทุกคนนั้นค่อนข้างจะชัดเจนเอามากๆ
แม้จะต้องเสี่ยงกับความล้มเหลวแต่พวกเขาก็วางแผนและจัดการรายละเอียดยิบย่อยไว้ดีมากๆรวมถึงวางแผนตัดสินใจต่างๆเอาไว้ด้วย
พวกเขาเชื่อว่าการโจมตีภายใต้การนำของพวกนายหน้า ไม่สามารถมีเครือข่ายไหนสามารถหยุดพวกเขาได้
————————
คอมเม้นต์