อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 115
CF:บทที่ 115 การโจทตีของแฮกเกอร์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
เพราะอิทธิพลจากงานแถลงการณ์ของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด จากควรจะเป็นการโจมตีอย่างลับๆของแฮกเกอร์ ก็กลายมาเป็นการเปิดเผยสู่ผู้ใช้อินเตอร์ส่วนใหญ่
ในการเผชิญหน้ากับเหล่าแฮกเกอร์ ผู้ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอินเตอร์เน็ตที่อยากรู้อยากเห็น ความสนใจของทุกคนนั้นได้ย้ายจากอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด มาสู่สงครามแฮกเกอร์เป็นที่เรียบร้อย
ลิว หมิงหยูที่ได้รายงานสถานการณ์แล้ว ไม่มีอะไรจะพูดกับบทความของหัวหน้าที่ทำให้ผู้คนต้องอ้าปากค้างไปชั่วขณะ พวกเขาควรจะปล่อยให้ประเทศที่ขัดขวางพวกเขาต้องทุกข์ทนด้วยการขยายอิทธิพลของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด
ตอนนี้ ความสนใจของทุกคนได้ย้ายไปที่สงครามแฮกเกอร์แล้ว และเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดก็ถูกมองข้ามไปก่อน
ยิ่งกว่านั้น ก็มีนักต่อต้านแฮกเกอร์ที่เป็นที่รู้จักบนอินเตอร์เน็ตด้วย สงครามครั้งนี้ ซึ่งเดิมทีเป็นการโจมตีขององค์กรแฮกเกอร์เพียงผ่ายเดียว ตอนนี้ได้กลายมาเป็นกว่า 90% ของแฮกเกอร์ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
คนพวกนี้ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊บ หวังว่าจะได้ช่วยพวกเขาป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์พวกนี้
แต่ไม่ช้า คนพวกนี้ก็ปฏิเสธไปโดยบริษัท ซึ่งจะไม่รับความช่วยเหลือใดๆจากใครทั้งสิ้น
ในเบื้องหน้าของพฤติกรรมเช่นนี้ของฟิวเจอร์กรุ๊บ กลุ่มขององค์กรแฮกเกอร์ได้โกรธและเตรียมจะดูเรื่องตลกของฟิวเจอร์กรุ๊บ ดังนั้นพวกเขาจึงถ่ายทอดสดสงครามลงบนอินเตอร์เน็ต
ในกรณีนี้ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วไปก็สามารถรับรู้ถึงสถานการณ์สงครามของการโจมตีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแฮกเกอร์ผ่านพวกเขา
แน่นอนว่า ถ้าพวกเขามีเทคโนโลยีของแฮกเกอร์ พวกเขาก็จะสนใจที่จะเข้าร่วม ตามในงานเปิดตัวของผลิตภัณฑ์ ณ ปัจจุบันของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดของฟิวเจอร์กรุ๊บ ไม่มีใครคิดว่ารางวัล 10 ล้านหยวนจากประธานบริษัทจะเป็นเรื่องล้อเล่น
นี่สามารถพูดได้เลยว่าเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากแฮกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่เพียงแค่ชาวเน็ตที่ให้ความสนใจ แต่ยังรวมไปถึงทุกประเทศต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้กันหมด
ณ โลกวันนี้ ตราบเท่าที่เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ของประเทศถึงขั้นแล้ว ประชากรในประเทศไม่สามารถละไปจากโลกอินเตอร์เน็ตได้เลย อิทธิพลจากอินเตอร์เน็ตกลายมาเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งกับทุกประเทศ
จื่อ หยงได้รับรายงานข่าวแล้ว จึงโทรหาอู๋ ฮ่าวเหรินและถามว่าเขาต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม แต่เขาก็ปฏิเสธ
เมื่อสถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์รู้ถึงสถานการณ์นี้แล้ว พวกเขาก็ศึกษาข้อมูลที่อู๋ ฮ่าวเหรินให้พวกเขา
ณ ปัจจุบัน 80% ของโปรแกรมคอมพิวเตอร์อัจริยะทั้งหมดได้วิจัยเสร็จสิ้นแล้ว และในความคิดของพวกเขาที่มีต่อความสามารถของอู๋ ฮ่าวเหรินนั้นช่างน่าอัศจรรย์
เมื่อได้รู้ว่ากลุ่มของแฮกเกอร์กำลังจะโจมตีเว็บไซต์ทางการของบริษัทเขา เหล่านักวิจัยที่ได้รู้ถึงระดับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของอู๋ ฮ่าวเหรินแล้วก็ได้แต่ไว้อาลัยจากใจจริง แก่กลุ่มแฮกเกอร์พวกนั้น
แม้แต่ผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์ เมื่อถามเกี่ยวกับการโจมตีกับผู้บริหารระดับสูง ก็ได้ความเห็นว่ามันเป็นเพียงกลุ่มของพวกน่ารำคาญที่กำลังจะโจมตีอัจฉริยะผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงกับให้กับวงการคอมพิวเตอร์
มันเป็นแค่โปรแกรมเล็กๆ และทั้งสถาบันวิจัยคอมพิวเตอร์ของพวกเขาก็ไม่มีทางจะเจาะมันได้ แต่ให้วงการแฮกเกอร์มีการโจมตีพิเศษ พวกเขาก็ควรจะรู้ก่อนว่าการสามารถจะโจมตีได้มันหมายความว่าอย่างไร!
รู้สถานการณ์นี้แล้ว คนเบื้องบนก็วางใจเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้บริษัทของอู๋ ฮ่าวเหรินมีเรื่องผิดพลาด ซึ่งจะนำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาสู่พวกเขา
ในตอนนี้ บางประเทศกำลังฉลองกัน คำประกาศในงานแถลงการณ์ทำให้หลายประเทศรู้สึกมีปัญหา การเผชิญหน้ากับการตอบโต้แบบนี้พวกเขาไม่มีทางจะจัดการกับมันได้เลย
ถ้าคนของประเทศถามเกี่ยวกับข้อมูลแล้ว พวกเขาจะต้องอยู่ในสถานการณืที่น่าอึดอัด แล้วจากนั้นพวกเขาก็ทำได้เพียงยอมแพ้ให้กับบริษัทนั่น
อย่างไรก็ตาม ถ้าการโจมตีของแฮกเกอร์สำเร็จ พวกเขาจะหาทางโจมเว็บไซต์ของบริษัทอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะทำให้พวกเขามีปัญหา
ในตอนนี้ ความสนใจของทุกคนกำลังเปลี่ยนไป และพวกเขาสามารถใช้เวลานี้แก้ปัญหาวัสดุได้
“ไปรายงานคนในฝ่ายเครือข่าย และให้คนของพวกเขามีส่วนร่วมในการโจมตี”
“แต่ครั้งล่าสุด ถ้ามันเกิดขึ้นอีกล่ะก็…”
“ฉันไม่เชื่อว่าในการโจมตีครั้งไม่ถ้วน เข้าจะสามารถสู้กลับได้ เอาล่ะ เตรียมอุปกรณ์แยกไว้ให้พวกเขา และตัดการเชื่อมต่อของพวกเขาจากเมนเฟรม”
รัฐมนตรีความปลอดภัย ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในอุบัติเหตุครั้งล่าสุด เขาต้องอยู่ใต้แรงกดดันอันใหญ่หลวง ถ้าเขาทำมันอีกล่ะก็ เขาจะต้องหลุดจากตำแหน่งต่อให้เขาไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบก็ตาม
“โยวซึ เราสูญเสียจักรวรรดิญี่ปุ่นอันยิ่งใหญ่ของพวกเราให้กับสิ่งที่น่ารื่นรมย์เช่นนี้ได้อย่างไร? ให้ฟุจิวาระบอกเราว่าแฮกเกอร์แห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นอันยิ่งใหญ่จะเข้าร่วมทั้งหมด”
“ครับ”
“ฮ่าๆ ผู้ที่แกร่งที่สุดจากเกาหลีคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลของเรา ท่านผู้ที่แกร่งที่สุด ทำลายพวกเขาให้ฉันที”
“เราต้องการคอมพิวเตอร์…”
“เชื่อมต่อพวกเขากับเครือข่ายภายนอก ถ้าจำเป็น ก็ฆ่าเว็บไซต์ทางการของอเมริกาและปักธงของพวกเราบนนั้นด้วย”
“…”
สงครามของแฮกเกอร์ที่เกิดจากอู๋ ฮ่าวเหรินได้กลายมาเป็นสงครามโลกของการเผชิญหน้า และมันก็คือบริษัทที่ต่อต้านบริษัทที่มาจากทั่วโลก
การพัฒนาการนี้เหนือไปจากความคิดดั้งเดิมของอู๋ ฮ่าวเหริน จี้กำลังคำนวณจำนวนผู้เข้าร่วมและสำรองข้อมูลของพวกเขาให้อู๋ ฮ่าวเหรินได้เลือกผู้มีความสามารถ
ผู้คนกำลังทุ่มสุดตัวเพื่อโจมตีในสงครามครั้งนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินก็นั่งออกความเห็นกับวิธีการโจมตีของประเทศอื่นอย่างสบายๆ และกำลังเลือกผู้มีความสามารถ
“แบบนี้ไม่ได้แน่ มันถูกสังเกตการณ์โดยอเมริกา เป็นไปไม่ได้ที่จะรับสมัครเข้ามาในบริษัทแน่นอน ส่วนนี่ใช้ได้เลย แล้วยังเป็นแค่มือใหม่ แต่เทคโนโลยีเยี่ยมมาก ช่างมีพรสวรรค์!”
“ไม่เลวเลย แถมยังเป็นสาวงามอีกด้วย ฉันไม่คาดคิดเลยว่าจะมีสาวที่ไหนจะมีเทคโนโลยีนี้ เยี่ยมเลย เยี่ยมไปเลย ถ้ารับคนนี้เข้ามาในบริษัทล่ะก็จะสามารถกระตุ้นความกระตือรือร้นของทุกคนในการทำงานได้ด้วย
กลุ่มคนไม่รู้ตัวเลย พวกเขาคิดว่ามันเป็นการพลางตัวที่สมบูรณ์แบบ และพวกเขาไม่มีทางหาข้อมูลอะไรเกี่ยวกับการโจมตีได้เลย ที่นี่ไม่มีการป้องกัน
แต่ข้อมูลทั้งหมดของคนเหล่านี้ที่ทิ้งไว้บนอินเตอร์เน็ตได้ถูกเก็บไปโดยจี้
ตอนที่พวกเขากำลังทำสงครามแตกหัก อู๋ ฮ่าวเหรินก็กำลังดูข้อมูลของพวกเขา เข้าใจสภาพของพวกเขา และเลือกพวกเขาราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้าน
“จำนวนการโจมตีในขณะนี้เท่าไหร่แล้ว?”
“1867 คน ส่วนใหญ่มาจากแผนกอินเตอร์เน็ตของรัฐบาล และพวกเขากำลังพยายามจะขโมยข้อมูลของบริษัท”
“คนพวกนี้รอบคอบมาก พวกเขารู้จักที่จะตกปลาในกระแสน้ำที่วุ่นวาย เอาล่ะ นำทางผู้โจมตีจากรัฐบาลทุกคนไปยังฐานข้อมูลของเว็ปไซต์เลียนแบบ”
อู๋ ฮ่าวเหรินคิดเกี่ยวกับมันแล้ว เขาคิดว่าต่อให้ทำลายอุปกรณ์ในประเทศเหล่านี้ไป มันก็ไม่ทำให้พวกเขาเจ็บอะไร เขาคิดถึงวิธีการจะวางกับดักกับญี่ปุ่น
“จี้ ฉันจำได้ว่ามันยังมีเทคโนโลยีที่ฉันใช้เวลาวิจัยไปเยอะแต่ไม่ได้ใช้อยู่ เอาข้อมูลวิจัยแรกเริ่มให้พวกเขาสักหน่อยและให้พวกเขาได้เล่นกับมันไปอย่างช้าๆ”
“อ้อ แล้วก็พอพวกเขาได้ข้อมูลไปแล้ว อย่าลืมทำลายอุปกรณ์ของพวกเขาในจังหวะหลังที่พวกเขาบันทึกข้อมูลไปแล้ว ให้ความรู้สึกลวงว่าพวกเขาได้พบข้อมูลรั่วไหลแต่ก็ถูกทำลายไป”
เป็นเวลาสักพักหนึ่ง ที่ประเทศที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีที่อยู่ภายใต้การนำทางของจี้ ได้เจาะผ่านฐานข้อมูลของเว็บไซต์เลียนแบบ และจากนั้นจี้ก็ได้ปล่อยข้อมูลพวกนั้นที่ผสมกับข้อมูลที่ไร้ประโยชน์ออกมา
สถานการณ์นี้ได้ทำให้หลายประเทศตื่นเต้นและเริ่มทำงานหนักขึ้นเพื่อจะขุดข้อมมูลในฐานข้อมูลปลอม ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี หลังจากที่พบสถานการณ์นี้แล้ว ก็มีความมันใจอยู่บ้างว่าการป้องกันของบริษัทนี้ไม่ได้ไร้เทียมทาน
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือพวกเขาที่มาจากหลายประเทศได้เข้าไปในฐานข้อมูลปลอมด้วยการช่วยเหลือจากจี้ องค์กรและบุคคลอื่นๆไม่ได้รับการปรนนิบัติที่ดีเช่นนี้
ดังนั้น หลังจากระเบิดความมั่นใจออกมา คนพวกนี้ก็เริ่มมองข้ามบางอย่างไป ซึ่งมันก็จะนำราคาแห่ง ”เลือด” มาสู่พวกเขา
แน่นอนว่า ในตอนนี้ การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการโจมตีของแฮกเกอร์บนอินเตอร์เน็ต ได้ดุเดือดยิ่งกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด ต้องขอบคุณการถ่ายทอดสดของพวกต่อต้านแฮกเกอร์
แม้แต่คนดังระดับโลกบางคนก็ได้มีส่วนร่วมในการคุยกันเรื่องสงครามแฮกเกอร์
——————
คอมเม้นต์