อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 137
CF:บทที่ 137 การเจรจาล้มเหลว
จุดประสงค์ของโฮวาร์ดนั้นเป็นไปตามที่อู๋ฮ่าวเหรินคิดไว้จริงๆ, มันไม่ใช่การเจรจาธรรมดาๆเสียแล้ว
แต่เป้าหมายของเขาก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เขานั้นเป็นตัวแทนจากพรรคริพับลิกัน ส่วนเรื่องของเหตุการณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนั้น ดูเหมือนจะเป็นแผนของพรรคเดโมแครต
แต่ทว่า, จุดประสงค์การมาเยือนของเขาครั้งนี้กลับกลายเป็นการช่วยพรรคเดโมแครตสะสางปัญหาในครั้งนี้ซะงั้น, ซึ่งทำให้อู๋ฮ่าวเหรินสงสัยหนักเข้าไปอีก คนๆนี้เป็นสปายของพรรคริพับลิกันที่แฝงตัวอยู่ในพรรคเดโมแครตงั้นเหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้นคือ, ดูเหมือนว่าคนๆนี้จะไม่ได้รับรู้เรื่องการขโมยเครื่องจักรเลยด้วย
ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินงงมากขึ้น สรุปว่าเขานั้นเป็นคนของพรรคเดโมแครตหรือริพับลิกันกันแน่ และจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไร
ถ้าเกิดเขาเป็นริพับลิกัน, เป้าหมายของเขาก็จะเป็นไปตามที่เขาและจี้คาดไว้แต่แรก คนๆนี้ย่อมไม่ต้องการให้การเจรจานี้ราบลื่น เขาต้องการที่จะอาศัยโอกาสนี้เอาเปรียบทำให้พรรคเดโมแครตนั้นหน้าหงายและทำให้พรรคริพับลิกันชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
แต่ถ้าเขาเป็นพรรคเดโมแครต, ก็เชื่อได้เลยว่าเขาย่อมที่จะรู้เรื่องของการขโมยเครื่องจักร, และการเจรจานี้ก็จะมีไปเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการสนับสนุนของประชาชน ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้
เพราะว่าเขาต้องการที่จะซื้อเวลา, จนกว่าพวกเขาจะสามารถแฮกระบบของเครื่องจักรผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดได้, และจากนั้นเขาจะเขี่ยเราทิ้ง, หรือเล่นงานเราก็สามารถทำได้
แล้วเมื่อถึงตอนนั้น, พวกเขาก็จะประกาศว่าพวกเขาสามารถผลิตอุปกรณ์แบบเดียวกันกับอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดได้ ซึ่งก็จะทำให้ดึงคะแนนเสียงจากประชาชนให้ไปหาพวกเขาได้
แน่นอนว่า, ยังมีปัญหาเรื่องการจดสิทธิบัตรอยู่ ปัจจุบัน,การจดสิทธิบัตรของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนั้นยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบและยืนยันอยู่, ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน, ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาถึง 2 ปี
อู๋ฮ่าวเหรินไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ได้แต่หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาจะไม่บอกว่าการจดสิทธิบัตรล้มเหลวก็แล้วกัน ไม่งั้นมันคงเป็นเรื่องตลกร้ายเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม, ด้วยศีลธรรมอันดีของบางประเทศ, จึงพอที่จะหาทางช่วยในเรื่องนี้อยู่
แต่ไม่ว่าจุดประสงค์ของคนๆนี้จะคืออะไร, อู๋ฮ่าวเหรินก็พร้อมที่จะร่วมมือกับเขา, ซึ่งนั่นก็เป็นแผนดั้งเดิมของเขา
ในการเจรจาช่วงบ่าย, บรรยากาศนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย, ไม่รู้ว่าโฮวาร์ดนั้นอยู่ฝั่งเดียวกันหรือตรงข้ามกับอู๋ฮ่าวเหรินในเวลานี้
“คุณอู๋ครับ, คุณคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
“ผมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของคุณ ผมคิดว่าควรจะใช้ข้อเสนอของผมจะดีกว่า”
อู๋ฮ่าวเหรินหยิบเอกสารแผนการที่เตรียมไว้ออกมาและยื่นให้กับโฮวาร์ดได้อ่าน นี่คือข้อเสนอที่เขาได้เตรียมเอาไว้
ซึ่งเดิมทีเป็นข้อเสนอที่เขาได้เตรียมไว้ใช้ กับประเทศที่จะมาขอให้เขายกโทษให้
โฮวาร์ดเองก็พอจะรู้ได้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นกำลังร่วมมือกับเขาอยู่ เมื่อเขาเห็นแผนการแล้ว, สีหน้าของเขาพลันมืดขึ้นมา, ชนิดที่ว่าไม่ต่างอะไรจากแก๊งโจร
“คุณอู๋แผนของคุณมันโหดร้ายเกินไปแล้ว พวกเราไม่มีทางเห็นด้วยกับแผนนี้หรอกครับ”
“ถ้าคุณไม่เห็นด้วย, พวกเราก็ไม่ต้องคุยอะไรกันอีก เงื่อนไขของผมคือตามนี้เท่านั้น และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก”
“คุณนี่ช่างเป็นคนที่ดื้อด้านเสียจริง!”
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูชายคนนี้ ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเขานั้นถูกต้องมาก
“ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันอีก ผมมีธุระอื่นต้องไปทำ ผมขอตัวก่อน ถ้าพวกคุณตกลงจะเห็นด้วยแล้ว, พวกคุณค่อยติดต่อผมมาละกัน”
อู๋ฮ่าวเหรินลุกขึ้นยืนและเดินออกไปท่ามกลางสายตาผู้คนที่กำลังตกตะลึง และต่อหน้าของโฮวาร์ดที่กำลังตะโกนใส่เขา, เขาทำทีท่าเป็นเมินเฉยเพื่อแสดงให้เห็นถึงความยโสโอหัง
ก่อนที่เขาจะเดินทางถึงบริษัท, หลี่เหวินหัวก็ได้โทรเข้ามา จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว, ทำให้เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นรึ?”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของผม การเจรจาก็เลยล้มเหลว ทำไมรึ, พวกคุณต้องการให้ผมเจรจากับพวกเขาสำเร็จงั้นเหรอ?”
“เปล่าหรอก, ผมเองก็หวังจะให้ลากยาวแบบนี้เหมือนกัน, เอาไว้เรื่องจบแล้ว ผมจะบอกเรื่องนี้กับคุณทีหลัง”
อู๋ฮ่าวเหรินคิด, เบื้องบนก็คงหวังให้เขาลากยาวเหมือนกัน, เพื่อที่พวกเขาจะหวังผลกำไรจากเรื่องนี้
ในเมื่อการเจรจาไม่ได้ผล, พวกเขาย่อมจะต้องหาทางที่จะให้ได้ผลประโยชน์ และให้ทางรัฐมากดดันเขาอีกที, ซึ่งนั่นเองก็เป็นอะไรที่อู๋ฮ่าวเหรินก็กำลังเป็นกังวลอยู่
“หัวหน้าครับ, ผมได้ยินมาว่าคุณออกไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ของอเมริกามา เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“คุณได้ยินมาถูกต้องแล้ว แต่การเจรจาล้มเหลว ผมยื่นข้อเสนอที่โหดร้ายเกินไปสำหรับพวกเขา พวกเขาจึงไม่เห็นด้วย”
“ก็สมควรแล้ว, เพราะใครกันล่ะที่ทำให้วัตถุดิบของบริษัทเราต้องขาดแคลนในตอนนั้น? มาตอนนี้จะมาให้เรายอมปล่อยไปง่ายๆงั้นเหรอ ถ้าผู้จัดการลู่ไม่สามารถหาวัตถุดิบมาให้ได้ทันการ บริษัทของเราก็คงแย่ไปแล้ว บางทีพวกเราอาจจะต้องยอมไปก้มหัวให้พวกมันด้วย ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ”
“แล้วก็หัวหน้าครับ, คุณช่วยมาที่แผนกการขายทีครับ, พวกเราเจอปัญหาใหญ่”
อู๋ฮ่าวเหรินเข้าไปในแผนกการขาย และพบผู้คนข้างในกำลังจัดทำแผนผังสถิติกันอยู่
“หัวหน้ามาแล้ว”
“ผู้จัดการหวัง, เกิดอะไรขึ้นและมีปัญหาอะไรงั้นรึ?”
ผู้จัดการหวังชี้ไปที่ข้อมูลและพูดขึ้น “มีการสั่งจองอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดมากเกินไป พวกเราไม่สามารถแพร่เครือข่ายการกระจายสินค้าไปได้เลย ถ้าเป็นแบบนี้, มันจะมีปัญหาในเรื่องของช่องทางการขายแน่ครับ”
“โอ๊ะ, อุตสาหกรรมการขนส่งด่วนของจีนพัฒนาไปมากแล้วไม่ใช่เหรอ, ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?”
ผู้จัดการหวังพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ทุกข์ใจ “หัวหน้าครับ, อุตสาหกรรมการส่งด่วนพัฒนาแล้วก็จริงครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ปริมาณการขนส่งในแต่ละรอบ และยิ่งในอนาคต ปริมาณขนส่งจะต้องยิ่งมากขึ้นๆเรื่อยๆ เช่นเดียวกับการบริการหลังการขาย นี่ขนาดการขายในต่างประเทศยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ปัญหาก็เริ่มทับถมมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ”
อุ๋ฮ่าวเหรินมองดูข้อมูลข้างต้น, และก็เข้าใจได้ในทันทีว่า สิ่งที่ผู้จัดการหวังพูดไม่ใช่เรื่องอื่นไกลเลย, เขาจะต้องจัดส่งสินค้ารอบละ 5 ล้านชิ้น, ซึ่งเขาคิดไม่ออกเลยว่าจะจัดส่งไปได้อย่างไร
“มีบริษัทที่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อนมั๊ย แล้วเขาหาทางแก้กันยังไง?”
“มีครับ, แต่ไม่สามารถปรับใช้กับสถานการณ์ของบริษัทเราได้ครับ ตอนนี้พวกเรากำลังศึกษาอยู่ ผมคิดว่าทางที่ดีที่สุดคือพวกเราควรจะเปิดร้านแฟรนไชส์ในแต่ละเมืองครับ, ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการบริการหลังการขายได้ด้วย”
“ร้านค้าเฉพาะอย่าง!”
อู๋ฮ่าวเหรินคิดถึงแผนการขายของบริษัทแอปเปิ้ลขึ้นมา, และอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดของเขานั้นก็ดีกว่าของแอปเปิ้ลอีก, จึงเป็นแผนที่น่าสนใจ
“แล้วติดปัญหาอะไร?”
“การลงทุนมันมหาศาลไปน่ะสิครับ การตั้งร้านๆหนึ่งก็จะต้องใช้เงินเฉลี่ยอย่างต่ำประมาณ 1ล้านหยวน และถ้าเราคิดจะตั้งร้านแฟรนไชส์ไว้ทุกจังหวัดแล้วล่ะก็, พวกเราต้องการอย่างน้อย 302 ร้าน (รวมถึงในไต้หวันอีก 7 แห่ง), ซึ่งจะต้องใช้เงินถึง 300 ล้านหยวน และแน่นอนว่า, นี่ยังเป็นแค่การคำนวณคร่าวๆ ถ้าคิดถึงสภาพแวดล้อมอื่นๆที่พิเศษอีก, ค่าใช้จ่ายก็ต้องมากขึ้นไปอีก”
“เงินน่ะไม่ใช่ปัญหาหรอก สิ่งมีมากที่สุดในบริษัทของเราก็คือเงินนี่แหละ” อู๋ฮ่าวเหรินพูดให้เหล่าพนักงานขายฟัง
ที่จริงเแล้ว, ตัวเขานั้นไม่เคยกังวลเรื่องของเงินในตอนนี้เลย สิ่งที่เขาคิดจริงๆคือปัญหาอื่น
บริษัทแบบไหนกัน, ที่แม้แต่ทางประเทศก็ยังไม่กล้าจะเคลื่อนไหวได้ง่ายๆ แน่นอนว่า, บริษัทที่ใหญ่ขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องมีพนักงานที่มากขึ้น
หากจะต้องเคลื่อนย้ายบริษัท, คุณจะต้องคำนึงถึงหนทางแก้ปัญหาเรื่องของพนักงานที่ต้องกินต้องใช้ขณะที่บริษัทกำลังเคลื่อนย้าย
“รอเดี๋ยวก่อนนะ, เดี๋ยวผมจะกลับมาให้คำตอบพวกคุณ”
กลับไปที่ออฟฟิศ, อู๋ฮ่าวเหรินนั่งลงที่เก้าอี้และเปิดคอมพิวเตอร์, และพูดขึ้น: “จี้, ช่วยคำนวณอัตราการเจริญเติบโตของบริษัทในกรณีนี้ให้หน่อย”
“ไม่นานนักข้อมูลก็ออกมา, ซึ่งอู๋ฮ่าวเหรินก็ถึงกับตกใจ ถ้าเขาต้องทำแบบนั้น, ทางบริษัทจะต้องมีพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 5,000 กว่าคนในช่วงเวลาอันสั้น
แน่นอนว่า, ถ้ายึดตามแก่นแท้ของการลงทุนแล้ว, มันก็ไม่ใช่อะไรที่มากมายอะไรเลย แต่มันคือเรื่องของการใช้จ่ายเงินออกจากกระเป๋าๆเดียวมากกว่า
อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่า เพราะการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดนั้น จะสามารถทำเงินได้มากชนิดที่ว่าแม้แต่ทางประเทศยังต้องอิจฉา
ถ้าเขาต้องการจะหาทางใช้เงิน, มันจะดีที่สุดถ้าเขาจะเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นอย่างอื่น
“ไม่, มันไม่ใช่ การลงทุน 300 ล้านหยวนมันยังน้อยเกินไป จริงๆต้องใช้ถึง 5 พันล้านหยวนต่างหาก ในการลงทุนทำร้านค้าเฉพาะอย่าง รวมถึงทรัพย์สินที่จำเป็นของบริษัท”
ในตอนนี้, อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้แล้วว่าตัวเขานั้นกำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่, นั่นคือ, เขาทำเงินได้เยอะเกินไป, และมีหลายคนที่จ้องจะทำร้ายเขา
บางทีคงไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเงินสำรองจ่ายส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นได้จ่ายออกเป็นค่าการผลิตไปแล้ว
ใช้เงิน, จ่ายเงิน, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นรู้ดีว่าสิ่งต่อไปที่เขาจะทำคือใช้จ่ายเงินให้หมด ยิ่งใช้มากเท่าไรก็ยิ่งดี, มีเงินมากเท่าไร เขาก็ยิ่งร้อนใจมากขึ้นเท่านั้น
————————
คอมเม้นต์