อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 140
CF:บทที่ 140 แผนการก่อสร้าง
ประกาศรับสมัครพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ถูกเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทในขณะนี้, ซึ่งสามารถดึงดูดผู้คนจำนวนมากมายให้มาสนใจสมัครงานกับฟิวเจอร์กรุ๊ป
เมื่อพวกเขาเห็นข้อมูลการรับสมัครของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว, พวกเขาถึงกับเดือดพล่าน บางคนก็เป็นยิ่งกว่านั้น
“ใครช่วยอธิบายให้ผมได้บ้างว่านี่หมายความว่าอย่างไร? การรับสมัครทั่วประเทศ เพื่อจัดตั้งเพื่อเพิ่มช่องทางการขายของบริษัท?”
“ฮ่าฮ่า, ไม่ได้อ่านคำอธิบายด้านบนรึไง? มันก็ชัดอยู่แล้วว่า รับสมัครทั่วประเทศ นอกจากจะไม่ต้องไปที่สำนักงานใหญ่แล้ว ยังสามารถทำงานได้ที่จังหวัดของตัวเองอีกด้วย ข้ากำลังจะสมัครงานอยู่ ข้าจำได้ว่าบ้านของลุงนั้น มีร้านค้าในย่านการค้ากำลังประกาศขายอยู่”
“อย่ามาแย่งงานฉันนะ ฉันหางานมาสามเดือนแล้ว กว่าจะหางานที่ตรงกับฉันได้ อย่ามาโต้แย้งกับผมด้วย ผมอยู่ที่จังหวัด XX ห้ามมาสมัครของจังหวัดนี้ด้วย”
“ท่านนักธุรกิจใหญ่ ช่วยคำนวณให้หน่อยได้มั๊ยว่า การจะตั้งร้านหลายเมืองขนาดนี้ต้องใช้เงินเท่าไร”
“ไม่เห็นที่คนพูดคุยกันรึไง เขาบอกว่า 5 พันล้านแน่ะ?”
“5 พันล้าน, ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มีมากกว่า 300 จังหวัดในจีน ใช้เงินมากกว่า 10 ล้านเพื่อตั้งร้านในจังหวัดนึง และเกือบ 20 ล้านเพื่อลงทุน นี่มันบริษัทมหาเศรษฐีชัดๆ แม่เจ้าโว้ย, ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่าตอนนี้บริษัทนี้่สามารถทำเงินได้เท่าไร ใครก็ได้ช่วยตอบหน่อยซิ”
“พวกคุณต้องไปถามประเทศแล้วล่ะคำถามนี้ พวกเขาถึงจะให้คำตอบได้ชัดเจนที่สุด เอาล่ะ, ใบสมัครเสร็จแล้ว ส่งไปล่ะนะ”
“บ้าจริง, คุณเป็นถึงผู้จัดการนะ อย่างมาแย่งงานแบบนี้ไปจากพวกเราเซ่ หัดละอายใจหน่อยเซ่”
“ใช่แล้ว, ผู้จัดการ คุณมางานขายแบบนี้ได้ยังไง คุณป่วยอยู่รึไง?”
“พวกแกน่ะสิที่ป่วย ฉันไปสมัครก่อนล่ะ ตราบเท่าที่ฉันสามารถแสดงผลงานได้ดี, ฉันก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เลื่อนขั้นเมื่อดูจากสถานการณ์ของบริษัทนี้ ตอนนี้มีโอกาสง่ายๆแล้ว ต่อไปการสมัครเข้าทำงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะต้องยากมากแน่ๆ อุ๊บ,เผลอหลุดปากไปซะแล้ว, ลบๆ”
คนๆนี้รีบลบข้อความของเขาในทันที, แต่ก็มีหลายคนได้อ่านไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่ทันได้อ่านคอมเมนท์นี้
แต่หลายคนคงจะเดาได้ ใช่แล้ว,มันเป็นหนทางที่ง่ายที่สุดที่จะเข้าบริษัทในเวลานี้ ตราบเท่าที่คุณสามารถทำผลงานออกมาได้ดีในอนาคต ย่อมไม่มีปัญหาเรื่องการเลื่อนขั้นแน่นอน
ในเวลานี้เหล่าพนักงานแผนกฝ่ายบุคคลในบริษัทชั่วคราวของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นต่างก็จะพากันล้มพับ เมื่อมองมาที่อีเมล์สมัครงานที่ไหลมากันอย่างกับน้ำตก, ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง
“พวกเราควรจะทำยังไงกันดีคะ? พวกเราควรจะตอบกลับไปใช่ไหม?”
เซี่ย เสวี่ย, ผู้จัดการฝ่ายบุคคล, มองมาที่อีเมล์จำนวนมากก็ยิ้มและพูดขึ้น, “พวกเธอ, คงจะยังไม่เคยมีประสบการณ์การรับสมัครของบริษัทครั้งก่อน มันง่ายมาก ให้พวกเขาได้ทำแบบทดสอบออนไลน์ของบริษัทเราก่อน, แล้วคนที่มีความสามารถจะถูกคัดกรองออกมาเอง จริงสิ, คุณยังไม่ได้ใส่เรื่องการรับสมัครรปภ.ลงไปใช่มั๊ย?”
“ไม่ค่ะ, ผู้จัดการเซี่ย, คุณได้บอกพวกเราแล้ว, แน่นอนว่าพวกเรายังไม่ได้ใส่ลงไป”
“ดี, ดีแล้ว อีกสักพัก พวกเธอก็ค่อยเข้าไปยังระบบเก็บข้อมูลคนมีความสามารถของบริษัทนะ คนที่ผ่านการทดสอบออนไลน์ของบริษัทนั้น พวกเธอจะสามารถหาข้อมูลของพวกเขาได้จากที่นั่น แล้วจากนั้น, ก็จับกลุ่มคนที่อยู่จังหวัดใกล้ๆกันไว้ และเดี๋ยวเราจะจัดการสอบสัมภาษณ์ทีหลัง
ในตอนนี้, ทางกองทัพเองก็ได้รับเรื่องของการรับสมัครเช่นเดียวกัน, เพียงแต่มีแต่การรับสมัครงานรักษาความปลอดภัย
เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้เห็นประกาศรับสมัครงาน, พวกเขาเองต่างก็รู้สึกเวียนศรีษะ พวกเขาได้รับทราบเรื่องว่าอู๋ฮ่าวเหรินต้องการรับสมัครคน 200 คน แต่ไม่ทันจะพ้นวันก็มีข่าวการรับสมัครเปลี่ยนเป็น 1,000 คน
ทางกองทัพเองก็กำลังรอคำสั่งจากเบื้องบนอยู่ มีเจ้าหน้าที่มากมายกำลังนั่งอยู่ที่ห้องสัมมนาของทางกองทัพ กำลังโต้เถียงกัน
ทุกคนต่างรู้กันดีว่า การจัดการเรื่องงานของทหารผ่านศึกนั้น เป็นปัญหาที่ยากลำบากทุกปี ซึ่งตอนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดี, สำหรับคนที่ไม่ต้องการที่จะเป็นทหารต่อ
“ประกาศมาถึงแล้ว พวกคุณก็เอาไปดูกันเอง ซึ่งผมจะขอบอกไว้ก่อนว่า นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของผม, ดังนั้นเปล่าประโยชน์ที่จะมาถามผมหากพวกคุณไม่พอใจ”
“เยี่ยม, พวกเราได้ 200 ตำแหน่ง”
“ผมได้แค่ 100 เอง ไม่ยุติธรรมเลย มีคนจำนวนไม่น้อยในกองทัพของเราที่ต้องการที่จะลาออกในตอนนี้”
“น่าจะดีใจนะ, ฉันได้แค่ 50 เอง”
“ทำไมพวกเราไม่ได้ซักตำแหน่งเลย?”
“……….”
เมื่อมองดูสีหน้าของแต่ละคนแล้ว, ท่านนายพลก็ได้พูดขึ้น: “การแบ่งสรรของโควต้าในครั้งนี้ยึดตามสถานการณ์ในกองทัพของพวกคุณ นี่เป็นคำสั่ง พวกคุณทำได้เพียงแค่ทำตามเท่านั้น แต่วางใจเถอะ, ใครที่พลาดโอกาสนี้ไป ผมเชื่อว่าพวกคุณจะได้โอกาสในคราวหน้า”
ท่านนายพลนั้นไม่ได้บอกกับพวกเขาว่า ในห้องประชุมอีกห้องนั้น, เหล่านายพลต่างกำลังโต้เถียงกันเพื่อแย่งชิงโควต้ากันอยู่
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้ให้จี้คำนวณเพื่อเตรียมแผนการพิเศษเพื่อรับมือกับแผนการผูกมัดของทางรัฐ, ซึ่งรวมถึงการปกป้องตัวเขาเองด้วย
หลังจากที่กลับมาบ้าน, อู๋ฮ่าวเหรินได้เซิร์จหาข้อมูลของผู้คนอยู่ ซึ่งเขาพบว่าหากเขาต้องการที่จะเลียนแบบหยวนหมิงหยวนแล้ว ย่อมที่จะต้องมีปัญหาต่างๆตามมาแน่นอน
แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะจัดการเรื่องของพวกงานศิลป์ด้านในได้ มีหลายชิ้นที่เสียหายและอีกหลายชิ้นที่ยังหาไม่พบ
“ช่างมันก่อนละกัน, อันดับแรกก็ต้องสร้างโครงภายนอกและพวกสิ่งของที่สามารถสร้างได้ก่อนล่ะนะ แล้วค่อยจัดการเรื่องอื่นๆทีหลัง”
“ลองส่งจดหมายเชิญไปก่อนละกัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยรอดูว่าจะมีใครสนใจมาร่วมด้วยบ้าง ส่วนในเรื่องของการก่อสร้าง, ดูเหมือนว่าคงทำได้แต่ทำการประกวดราคาไปก่อนละกัน”
ในตอนค่ำ, ข่าวทุกรูปแบบในอินเตอร์เนทได้ออกมา รวมถึงสำนักข่าวต่างๆ ต่างก็พากันวิเคราะห์กันถึงเรื่องของร้านค้าเฉพาะอย่างของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ในตอนนี้ทางรัฐยังไม่ได้ประกาศออกไป, จึงยังไม่มีใครทราบถึงจำนวนเงินที่ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปทำได้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลของบริษัทนี้ก็มีน้อยมาก, ซึ่งข้อมูลหลายอย่างได้ถูกปกปิดโดยทางรัฐและห้ามไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลออกไป
ในปัจจุบัน, ทุกคนต่างให้ความสนใจกับท่านประธานของบริษัทนี้ บางคนก็ว่าประธานบริษัทนี้ไม่มีตัวตนจริงๆ เป็นบริษัทที่ถูกควบคุมโดยทางรัฐเท่านั้น
บ้างก็ว่าเบื้องหลังของบริษัทนี้มีสถาบันวิจัยส่วนตัวขนาดใหญ่ ซึ่งมีการร่วมมือกับทางรัฐอยู่
สำหรับคนที่บอกว่าบริษัทนี้อยู่ในมือของคนหนุ่มคนหนึ่งนั้น, มีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อในเรื่องนี้ในตอนนี้
หลังจากที่มีข้อมูลบางอย่างของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ถูกเปิดเผยออกมา ทำให้ผู้คนต่างสงสัยฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นก่อตั้งโดยคนหนุ่ม
แน่นอนว่า, ข้อมูลของอู๋ฮ่าวเหรินก็ได้หลุดออกมาเช่นกัน, เช่นว่าบริษัทผลิตเครื่องดื่มฟิวเจอร์นั้น, มีส่วนเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านซุยฉุย มีบางคนก็รู้ด้วยว่าตัวเขานั้นคือประธานบริษัทของบริษัทผลิตเครื่องดื่มฟิวเจอร์ด้วยเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม, ความลึกลับของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นคงจะเก็บซ่อนได้อีกไม่นาน ยิ่งบริษัทของเขาพัฒนามากขึ้นเท่าไร ก็ย่อมที่จะต้องมีผู้คนเข้ามาติดต่อมากขึ้นเท่านั้น, และจึงเป็นธรรมดาที่จะมีใครบางคนเอาข้อมูลออกมาเปิดเผย
ในระบบซองแดงในคืนนั้น, ชาวไร่ได้ส่งเมล็ดทั้งหมดที่เขาต้องการมาให้
คนพวกนี้ไม่ค่อยได้แอคทีพมากเท่าไรเมื่อเทียบกับความตื่นเต้นเมื่อไม่กี่วันก่อน และได้ยินมาว่ามนุษย์ชุดเกราะนั้นถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ที่บ้านเพราะขับยานอวกาศออกไปที่ดาวหมานหลิง
นักร้องดังหลิงหยิ่ง, ช่วงนี้มีงานคอนเสิร์ตชุกชุม และไม่มีเวลาว่างเข้ามาเลย อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ไม่ได้รีบเร่งช่วยเธอตามหาต้นตระกูลด้วย
ในเมื่อกลุ่มเลเวลหนึ่งไม่ค่อยมีคน อู๋ฮ่าวเหรินจึงย้ายไปเข้ากลุ่มเลเวลสอง แล้วเขาก็พบว่าที่นี่ครึกครื้นกันดี
“พ่อค้าของเก่าของพวกเรามาแล้ว ขอบคุณสำหรับข่าวที่คุณให้ผมมาเมื่อคราวที่แล้วมาก ผมได้รับรางวัลใหญ่ด้วยล่ะ” นักข่าวดารากล่าว
“ผมล่ะอิจฉานายจริงๆ ได้พบกับเทพธิดาเป็นการส่วนตัวด้วย เอ้า, รับซองแดงแห่งความเศร้าของผมไปเสีย” ชีวิตรำลึก
“บ้าจริง, ส่งของแบบนี้มาให้อีกแล้ว, คุณส่งของธรรมดาๆมาให้ไม่เป็นรึไง”
“ใช่แล้ว, ชีวิตรำลึก, ผมรู้นะว่าคุณมีของสะสมเป็นจำนวนมาก, ส่งมาให้บ้างเซ่”
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูและหลังจากที่ได้ยินว่ามีคนส่งซองแดงมา, เขาจึงคิดว่าน่าสนใจดี จึงฉกซองมาแล้วพบว่าเป็นโมเดลแปลกๆ
“ชีวิตรำลึก, ซองแดงของนายโดนฉกไปแล้วล่ะ ดีเหมือนกันนะ ที่ได้อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันกับพวกชอบฉกซอง, อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีรับซอง”
“ฮะๆ ผมว่าเจ้านี่ก็ดูดีอยู่นะครับ งานก็ละเอียดละอ่อนดี ถ้าพวกคุณไม่อยากได้ก็ส่งมาให้ผมบ้างก็ได้นะ”
ทันใดนั้นเองอู๋ฮ่าวเหรินก็เข้าใจว่าเจ้าโมเดลแปลกๆนี่ น่าจะมาจากหนังในอนาคต
“หืม, พวกนายนี่ช่างไม่เห็นคุณค่าของมันเสียเลยนะ, แต่นักฉกซองกลับเข้าใจว่านี่ไม่ใช่โมเดลธรรมดาๆ”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้สนใจว่าเขาพูดอะไร ขอมองดูนาฬิกาและพูดขึ้น, “ผมไปก่อนนะ พวกคุณคุยกันต่อเถอะ
———————
คอมเม้นต์