อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 186
CF:บทที่ 186 ความเสียใจของผู้เชี่ยวชาญ
ทันทีที่เข้ามาในบริษัท เขาพบว่าบรรยากาศมันผิดปกติ ทุกทีเวลาที่เข้ามาในบริษัท ทุกคนจะหัวเราะอย่างร่าเริง ทำไมวันนี้บรรยากาศมันช่างดูเงียบเหงานัก
“หวังหลาน, เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทในวันนี้”
“ประธานคะ, มีกลุ่มคนเข้ามาที่นี่เมื่อเช้าค่ะ ดูเหมือนว่าเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมโบราณจากปักกิ่งจะไปพูดขัดใจอะไรพวกผู้จัดการบางคนเข้าน่ะค่ะ สภาพบริษัทก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ”
“คุณหมายถึงศาสตราจารย์จากปักกิ่งที่จะมาสร้าง พระราชวังฤดูร้อนให้เราน่ะหรือ?”
“ใช่ พวกเขานั่นแหละค่ะ”
“ผมเห็นพวกเขาละ ผมจะไปดูหน่อยว่าพวกเขาไปทำอะไรให้ใครขัดใจได้อย่างไร?”
อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกสับสนนิดหน่อย พวกนั้นมาถึงที่นี่ไม่ทันไรก็มีปัญหากับคนในบริษัทเสียแล้ว
ภายในเขตหอพัก อู๋ฮ่าวเหรินไปพบกับศาสตราจารย์ทั้งห้าคนจากปักกิ่งซึ่งกำลังประเมินสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในเขตที่พักพนักงานอยู่
เขารู้ว่าก่อนหน้านี้่เกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากฟังเรื่องมาสักพัก เขาก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นสาเหตุ
เมื่อวานนี้ พวกคนในบริษัทพึ่งจะทำการเลือกแผนงานก่อสร้างสำหรับพื้นที่พนักงานซึ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองบริษัทก่อสร้างที่รับทำแล้ว แต่น่าเสียดายที่ว่า ตอนนี้มีศาสตราจารย์สองคนที่กำลังค้านกับพวกเขาเรื่องการแผนการก่อสร้างในพื้นที่เขตมันจะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลได้อย่างไร
ทว่า หลังจากฟังเรื่องราวมาสักพัก อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัว คนพวกนี้คงทำวิจัยเรื่องสถาปัตยกรรมสวนแบบโบราณมามากเกินไป มัวแต่สนใจเรื่องภาพลักษณ์ ไม่สนใจเรื่องการใช้งานจริงเลยแม้แต่น้อย แถมยังมีการก่อสร้างรูปแบบพิเศษบางอย่างซึ่งถึงมันจะไม่ได้แย่อย่างที่พวกเขาว่ากันนั้น เพราะมันมองไม่ออกจากภายนอก
ถ้ายึดตามการก่อสร้างที่พวกเขาบอกแล้ว นอกจากจะไม่ได้ทำให้ดีขึ้นกว่าตอนนี้แล้ว จะทำให้ผู้คนที่จะเข้ามาอยู่อาศัยที่นี่ในอนาคตรู้สึกอึดอัดไปด้วย
“มาแล้วหรือครับ ท่านประธาน”
มีคนเห็นอู๋ฮ่าวเหรินยืนอยู่ไม่ไกลจึงได้เรียกเขา แล้วทุกคนหันมามองเป็นทางเดียว
“ท่านประธานในตำนานคนนั้นเองสินะ แผนการก่อสร้างพวกนี้ เป็นของคุณงั้นหรือ?”
“ใช่ครับ มันเป็นแผนการก่อสร้างที่ผมวางไว้เอง”
“แผนการก่อสร้างของคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูที่รูปภาพนี่สิ ถ้าคุณดำเนินการตามแผนงานนี้จริง ๆ มันจะดูไม่มั่นคงแถมยังส่งผลถึงภาพลักษณ์โดยรวมด้วย แถมจากการออกแบบนี่ สระว่ายตรงนี้มันจะสร้างได้ยังไงกัน? ควรจะย้ายมาตรงนี้ดีกว่าจะได้ดูเข้ากันดีกว่า”
อู๋ฮ่าวเหรินยืนฟังเงียบ ๆ
แล้วให้จี้บันทึกเรื่องที่พวกเขาพูดเอาไว้
ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งห้านั้น อีกสามคนไม่ได้พูดอะไร แต่ดูท่าทางอึดอัดพอสมควร เหมือนอยากจะบอกอะไรกับอีกสองคนนั้นแต่ก็พูดไม่ออก
งานวิจัยหลักของพวกเขาเป็นสถาปัตยกรรมโบราณ งานศึกษาสถาปัตยกรรมสมัยใหม่นี้รู้เพียงผิวเผินเท่านั้น
เหตุผลหลักที่ถูกเชิญมาที่นี่ก็เพราะคนเชิญกับอิทธิพลของฟิวเจอร์กรุ๊ปเท่านั้น
ต้องให้พวกเขารู้ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น เรื่องที่เขาต้องการจะสร้างเลียนแบบพระราชวังฤดูร้อนนั้น ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่จะทำจริงๆ
สรุปคือ พวกเขามาพร้อมกับนักศึกษา และเหตุผลที่มาไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน คนนึงมาเพื่อที่จะได้ไปสอนนักศึกษา อีกคนนึงมาดูว่าพวกเขาจะสร้างสิ่งที่เป็นความน่าเสียดายของอารยธรรมจีนด้วยมือของพวกเขาเองได้หรือไม่
ในระหว่างทาง พวกเขาก็ได้เรียนรู้เกี่ยวของฟิวเจอร์กรุ๊ปจากพวกนักศึกษาไปบ้างแล้ว
ในตอนนี้ พวกเขาก็พบว่าอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้พูดอะไรออกมาและได้แต่จ้องมองพวกนั้นอย่างสงสัย จนในที่สุดทั้งสองคนก็หยุดพูด
“ผมขอบอกก่อนละกันว่า ต่อให้เปลี่ยนไปผลก็เหมือนเดิม”
“พวกคุณทั้งสองพูดจบแล้วสินะครับ ผมจะพาไปดูจุดที่พวกคุณพวกคุณบอกให้แก้ไขกันให้เห็นชัดๆ”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้อธิบายอะไรให้กับพวกเขาเช่นกัน เขาผายมือเชื้อเชิญแล้วเดินนำไปยังรถอย่างมีมารยาท
เขาแน่ใจแล้วว่าเถียงกับคนพวกนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ ต้องพาไปดูให้เห็นกับตาเท่านั้น
ผู้จัดการบางคนที่กำลังหงุดหงิดอยู่ พอได้เห็นท่าทีของท่านประธานก็พากันหัวเราะออกมา
เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างงุนงง พวกเขาขึ้นรถพร้อมกับอู๋ฮ่าวเหรินไปยังห้องจัดแสดง
พอได้เห็นสภาพของห้องจัดแสดง พวกเขาต่างก็ตกใจกันอย่างที่คิดไว้ พวกเขาไม่คิดว่าภายนอกกับภายในนั้นจะต่างกันถึงเพียงนี้
“นี่คือห้องจัดแสดงที่สร้างโดยประธานของพวกเรา ซึ่งประกอบไปด้วยตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปที่กำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาต่อไปในวันข้างหน้า สิ่งเหล่านี้คือเครื่องฉายภาพเสมือนจริงซึ่งคุณสามารถทำการจำลองรูปแบบการเปลี่ยนแปลงได้ตามที่พวกคุณคิดไว้ได้” โจ้วหลานอธิบาย
พร้อมกับที่อู๋ฮ่าวเหรินเปิดการทำงานของเครื่องเอาไว้ จากนั้นก็คลิ๊กบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
ทันใดนั้น อุปกรณ์ฉายภาพก็เริ่มแสดงภาพโครงการที่เพิ่งจะถูกพูดถึงโดยพวกศาสตราจารสถาปัตยกรรมแบบโบราณทั้งสองคนภายในห้องจัดแสดง
เมื่อภาพแผนการปรับปรุงแผนแรกปรากฎขึ้น สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญทั้งสองก็เปลี่ยนไป พวกเขาได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว
ยิ่งภาพของสถานที่และสิ่งก่อสร้างเปลี่ยนไปเท่าไหร่ พวกเขายิ่งรุ้สึกอับอาย เดิมทีพวกเขานั้นศึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ถึงแม้ว่าจะเน้นไปทางสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม แต่พวกเขาก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับสถานปัตยกรรมสมัยใหม่มาพอสมควร
ไม่งั้นแล้ว คงไม่สามารถที่จะมองดูภาพวาดเหล่านั้นแล้วตั้งคำถามขึ้นมาได้มากมายได้
หนึ่งในศาสตราจารย์ที่ไม่พูดอะไรเลยในตอนนั้นพูดขึ้นมา “พวกคุณทั้งสองคนคงเข้าใจแล้วสินะ ว่าทำไมพวกเราทั้งสามคนถึงไม่ประเมินอะไร”
“คุณรู้อยู่แล้วสินะ!”
“ทีแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอก แต่พอมองภาพรวมเข้าด้วยกัน ผมได้เห็นจุดที่แตกต่าง นอกจากนี้ พวกเรายังไม่คุ้นเคยกับแผนงานของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่แบบนี้เท่าไหร่ ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณทั้งสองควรเลิกทำตามใจตัวเองก่อน ถ้าพวกคุณยังไม่ยอมเข้าใจอีกก็มีแต่จะเสียหน้ามากขึ้นเท่านั้น”
ถ้าพวกเราไม่มาดูภาพรวมทั้งหมดนี้พร้อมกัน ก็น้อยคนนักที่จะเห็นความวิเศษที่อยู่ในแผนการดำเนินงานที่ จี้ กับ อู๋ฮ่าวเหริน ได้วางแผนกันเอาไว้
ทว่า เมื่อสิ่งก่อสร้างทุกอย่างปรากฏขึ้นมาแล้ว ก็จะได้เห็นถึงความสมเหตุสมผลของแผนผังนี้ พอผู้ดำเนินงานจากบริษัทก่อสร้างทั้งสองบริษัทได้เห็นแผนนี้แล้วต่างก็ยอมรับในการออกแบบของอู๋ฮ่าวเหริน
“จากทางด้านข้าง มีดอกไม้สวย ๆ แล้วทางด้านหน้าก็เป็นรูปทรงที่แปลกตา เป็นการออกแบบที่ยึดตามท้องฟ้าได้อย่างแยบยล ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ “
“ขอโทษนะครับ ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบสถานที่แห่งนี้กัน?
“แบบแปลนการก่อสร้างของบริษัททั้งหมด ทำโดยท่านประธานของพวกเราครับ”
อู๋ฮ่าวเหรินเดินมาและพูดขึ้น “เอาจริงๆ ผมก็แค่ใช้คอมพิวเตอร์ให้สร้างแบบแปลนขึ้นมาน่ะครับ, ไม่ได้มีวิธีอะไรเป็นพิเศษ”
“เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์, มันสุดยอดขนาดนี้เลยเหรอ? ถ้าแบบนี้ต่อไปในอนาคตก็คงไม่ต้องมีนักออกแบบกันแล้ว?”
“แน่นอนครับว่า นักออกแบบยังมีความจำเป็นอยู่ คอมพิวเตอร์เองก็ได้พื้นฐานมาจากสิ่งก่อสร้างจริงๆมาคำนวณ สิ่งประดิษฐ์และผลงานต่างๆก็ล้วนแล้วแต่ออกมาจากฝีมือของมนุษย์ทั้งสิ้น คอมพิวเตอร์ก็ออกแบบแปลนโดยมีพื้นฐานจากสิ่งที่พวกเราสร้างขึ้นนั่นแหละครับ แน่นอนว่า, ของที่สมบูรณ์แบบเกินไปนั้นมันไม่ดีหรอกครับ ความไม่สมบูรณ์นี่แหละที่สุดยอด”
ศาสตราจารย์ทั้ง 5 คน ผงกหัว, เป็นธรรมดาที่ผู้คนต่างก็ต้องการให้คนอื่นมาชื่นชมคุณ พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างว่า อะไรคือนักสถาปัตยกรรมที่แท้จริง
เขามองดูศาสตราจารย์ทั้งสองคน ก่อนจะหันไปบอกกับเหล่าผู้จัดการให้กลับไปทำงานกันแล้ว ก่อนจะหันมาพูด, “ที่ผมเชิญพวกคุณมาร่วมงานด้วยครั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้มาช่วยผมคอยดูแลการก่อสร้างหยวนหมิงหยวนนี้ เพราะผมกังวลว่าพวกคนงานนั้นจะไม่คุ้นเคยงานแบบนี้ แต่ศาสตราจารย์ทั้ง 5 คนก็ดูชำนาญในงานนี้ดีนะครับ ดูเหมือนพวกคุณจะวิจัยเรื่องของหยวนหมิงหยวนกันมาบ้าง”
“แน่นอน, เนื่องจากพวกเราศึกษาเรื่องของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม, พวกเราย่อมที่จะศึกษาเรื่องของหยวนหมิงหยวนด้วย มันไม่ได้มีแค่เอกลักษณ์ของอารยธรรมจีนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของต่างประเทศอีกด้วย, ซึ่งเป็นความสำเร็จที่สุดยอดของจีนโบราณและปัจจุบัน รวมถึงศิลปะการแต่งสวนของต่างชาติด้วย, แต่ก็น่าเสียดายที่ภูมิปัญญาและสิ่งที่ตกผลึกจากหยาดเลือดและเหงื่ออันนี้, เหลือไว้เพียงแต่ซากปรักหักพังดั่งเช่นทุกวันนี้”
มองดูสีหน้าของพวกเขาแล้ว แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจว่าพวกเขานั้นต่างก็เสียใจที่ศิลปะอันล้ำค่านี้ ผลงานชิ้นเอกของมนุษยชาติถูกทำลายลง
“ศาสตราจารย์ครับ, ผมมีแบบแปลนจำลองจากข้อมูลที่มีอยู่ พวกคุณน่าจะได้เห็นมันก่อนนะ”
เมื่อได้ยินที่อู๋ฮ่าวเหรินพูด พวกเขาต่างก็รู้สึกตื่นเต้น พวกเขาอยากจะเห็นประสิทธิภาพของเครื่องฉายภาพจำลองเหมือนกัน
—————————
คอมเม้นต์