อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 191

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 191 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 191 สร้างเขตชุมชนใหม่

แม้อู๋ฮ่าวเหรินจะไม่ได้อธิบายข้อมูลอะไรเพิ่มเติมไว้บนอินเตอร์เนทก็จริง, แต่ก็คงพอจะเดากันได้ไม่ยาก

มีเศรษฐีบางคนต้องการที่จะขายผลิตภัณฑ์เถื่อน แล้วพวกเขาจึงมาที่นี่เพื่อขอซื้อรหัสเปิดใช้งาน

แต่ทว่า, หลังจากที่ได้เห็นราคาเปิดใช้งานเครื่องแล้ว คนพวกนี้จึงหุบปากกันทันที

เนื่องจากราคานั้นเท่ากับราคาที่ซื้อจากฟิวเจอร์กรุ๊ปโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น ทางบริษัทยังไม่รับรองคุณภาพและปัญหาของข้อมูลของผลิตภัณฑ์เถื่อนอีกด้วย

ถ้าเป็นเช่นนี้, จะไม่มีใครซื้อผลิตภัณฑ์เถื่อนอีกแน่นอน แต่ถ้าไม่มีข่าวอะไรออกก่อน, บางที่คนพวกนี้อาจจะยังพอขายผลิตภัณฑ์ไปได้บ้างแล้ว

หลังจากที่อยู่ที่บริษัทอยู่ได้สักพัก อู๋ฮ่าวเหรินพร้อมด้วยศาสตราจารย์ทั้ง 5 คนและเหล่าลูกศิษย์ที่ชื่นชมตัวเขาเป็นอย่างมาก ก็ได้ไปที่เขตก่อสร้างหยวนหมิงหยวนในหนานชาน

มีเครื่องจักรกำลังทำงานอยู่ที่นี่ พวกเขาจำเป็นที่จะต้องปรับสภาพหน้าดินและเคลียร์พื้นที่ตามแผนที่อู๋ฮ่าวเหรินได้มอบหมายไว้

มองดูโครงการสิ่งก่อสร้างขาดใหญ่แล้ว ศาสตราจารย์ทั้ง 5 คนก็ผงกหัวของเขาและชื่นชมอย่างจากก้นบึ้งของหัวใจ

“ศาสตราจารย์เก๋อครับ คุณเห็นการก่อสร้างทะเลสาบตรงนั้นมั๊ยครับ, ผมอยากให้คุณช่วยให้คำแนะนำตรงจุดนั้นให้หน่อยครับ”

“ได้, ได้ เอ้าพวกเธอตามฉันมา พวกเราไม่ได้มาที่นี่เฉยๆ โชว์ให้ท่านประธานดูหน่อยว่า พวกเราสามารถทำอะไรได้”

ศาสตราจารย์และเหล่าลูกศิษย์ของเขา หลังจากที่ได้รับหมวกนิรภัยก็พากันเดินไปที่บริเวณที่กำลังขุดกันอยู่

ขณะที่พวกเขาเดินไป ก็ได้ถามเหล่าทีมวิศวกรเกี่ยวกับสถานการณ์ของที่นี่ ความคืบหน้าของการขุดเจาะและแผนปรับปรุงสถานที่ของพวกเขา

คนพวกนี้แม้จะไม่เก่งเท่านักขุดเจาะมืออาชีพอย่างพวกเขาในด้านของการปฏิบัติก็จริง แต่คนพวกนี้ก็ไม่มีปัญหาในด้านของวิธีการและการออกแบบอย่างแน่นอน

อู๋ฮ่าวเหรินยืนและมองดูอยู่สักพัก หลังจากที่ผ่านไปได้ 10 นาที จากเดิมที่ไซต์ก่อสร้างนั้นสับสนวุ่นวายก็กลายเป็นเรียบร้อยและประสิทธิภาพการทำงานก็เพิ่มขึ้นด้วย

เขามองเห็นนักศึกษาคนหนึ่งปีนลงไปที่บริเวณขุดเจาะ เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยตัวเขาเอง

“ดูนั่นสิ ท่านประธานอู๋, พวกลูกศิษย์ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปว่าศาสตราจารย์ของพวกเขาเองเลยใช่มั๊ยล่ะ?”

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นพบว่า คนพวกนี้ไม่ใช่พวกนักศึกษาที่วันๆเอาแต่อ่านตำราหาความรู้แล้วไม่เคยลงมือทำอะไรเลย

ไม่ว่าจะเป็นอย่างเรื่องของอุปกรณ์วัด หรือเครื่องมือที่พวกคนงานมืออาชีพใช้กัน พวกเขาเองก็มีความรู้ในระดับหนึ่ง และใช้ได้อย่างชำนิชำนาญ

ฉันจึงเดินไปรอบๆไซต์ก่อสร้าง, เมื่อฉันเดินกลับมา ก็พบว่าเหลือแต่ศาสตราจารย์ทั้ง 5 คนแล้ว มีเพียงพวกลูกศิษย์ที่ยังลงไปลุยงานอยู่

“ศาสตราจารย์ครับ, พวกลูกศิษย์นี่ พวกคุณเคยพาพวกเขาทำงานในไซต์ก่อสร้างมาก่อนหรือครับ?”

“แน่นอนสิว่าต้องเคยพาไปอยู่แล้ว คุณคิดจริงๆเหรอว่าพวกเขาจะจบการศึกษาได้ด้วยการเรียนจากในตำราเขียนรายงาน แล้วทำการทดลองนิดหน่อยแค่นั้น! ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เมื่อใดที่พวกเขาจบการศึกษาไป ก็มีแต่จะสร้างชื่อเสียให้เราเท่านั้น”

“พวกเราเคยรับเอาโปรเจ็คมาทำบ้างเป็นบางครั้ง เช่นช่วยออกแบบสวนแบบดั้งเดิมอะไรแบบนั้น แล้วเราก็เอางานพวกนี้มาให้พวกเขาทำเป็นข้อสอบ ถ้าไม่ได้ลงมือทำจริงแล้วศึกษาเอาแต่ทฤษฎี มันก็เป็นเพียงแค่กระดาษเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรดี”

“ถ้างั้นผมฝากตรงนี้ให้พวกคุณละกันนะครับ, ถ้าพวกคุณขาดเหลืออะไร ก็แจ้งไปที่คนคุมโครงการที่อยู่ที่นี่ได้เลย พวกเขาจะช่วยเหลือและจัดแจงให้เองครับ, แต่ถ้ามีปัญหาอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้จริงๆ ก็ติดต่อมาหาผมได้เลยนะครับ”

มองดูศาสตราจารย์ทั้งห้าคนและหัวหน้าทีมของบริษัทก่อสร้างกำลังปรึกษากันเรื่องของการสร้างกันอยู่นั้น อู๋ฮ่าวเหรินก็รู้โล่งใจ ตอนแรกเขาก็กลัวว่าศาสตราจารย์พวกนี้จะเก่งกันแต่ปากเท่านั้น และทำอะไรไม่ได้ แล้วสุดท้ายก็จะสั่งการกันแบบคนตาบอด

แต่ตอนนี้ดูเหมือนศาสตราจารย์และเหล่านักศึกษาพวกนี้มีความสามารถและความรู้เชิงปฏิบัติกันอย่างแท้จริง จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องอยู่ที่นี่เลย

กลับไปที่บริษัท เขาก็พบเว่ยหมิงและผอ.กรมโยธาของอำเภอกำลังคุยอะไรกันบางอย่างที่บริเวณห้องโถงรับรอง, เมื่อพวกเขาเห็นฉันกลับมา ทั้งคู่ก็ยืนขึ้น

“ผอ.เหลียงมาที่นี่ มีธุระอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?”

“สวัสดีครับท่านประธานอู๋, ผมมาที่นี่เพราะมีเหตุผลหลักคือเรื่องของการสร้างเขตชุมชนแห่งใหม่ขึ้นน่ะครับ”

“ถ้างั้น พวกเราไปคุยกันที่ห้องประชุมกันดีกว่ามั๊ยครับ?”

เว่ยหมิงแยกตัวออกไป ส่วนอู๋ฮ่าวเหรินกับผอ.เหลียงก็เดินไปที่ห้องประชุมที่ชั้นหนึ่ง

“ก่อนอื่นเลย, ผมไม่เข้าใจว่าเขตชุมชนใหม่ที่ผอ.เหลียงพูดถึงมันคืออะไร?”

เหลียงหงหมิงหยิบเอาเอกสารที่เตรียมมาออกมาจากในกระเป๋าของเขาซึ่งมีรูปถ่ายจำนวนมากรวมอยู่ด้วย

“ดูนี่นะครับ ประธานอู๋, รูปถ่ายเหล่านี้คือพื้นที่รอบๆของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ”

เขาเปิดแผนที่ขึ้นมาแล้วพูดต่อ “พวกเรากำลังจะสร้างเขตชุมชนแห่งใหม่ขึ้นทางตอนใต้ของฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ”

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่คิดว่าอำเภอหยุนหลงนั้นจะสร้างเขตชุมชนขึ้นใกล้ๆกับฟิวเจอร์กรุ๊ป, เขามองดูแผนที่แล้ว ก็คิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาติดขัดอะไรกับการพัฒนาของบริษัทในอนาคต พวกเขาได้เหลือที่ว่างไว้ให้เพียงพอสำหรับการพัฒนาของฟิวเจอร์กรุ๊ป

“แบบแปลนนี้ดีมากครับ บริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปของเราก็จะให้การสนับสนุนกับทางอำเภออย่างเต็มที่ครับ พวกคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรจากเราหรือเปล่าครับ?”

สำหรับอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี, ด้วยเขตชุมชนแห่งใหม่นี้ จะทำให้พนักงานในบริษัทมีตัวเลือกหลังเลิกงานมากขึ้นในอนาคต

“พวกแค่ต้องการถามจะถามว่าทางบริษัท ต้องการอะไรเป็นพิเศษในอนาคตไหมครับ? ถ้าเกิดมีอะไรต้องการ พวกเราก็จะร่วมมือสร้างร่วมกับทางบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปให้ครับ”

“สิ่งที่ต้องการ! ผมไม่มีอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษในเขตชุมชนใหม่นี้หรอกครับ พวกคุณสามารถสร้างตามแผนของพวกคุณได้เลยครับ”

“ผมได้ยินมาว่าทางฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เชิญศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งมาสินะครับ, พวกเราต้องการให้พวกเขาให้คำแนะนำเรื่องการวางแบบแปลนเขตชุมชนใหม่ของเราหน่อยได้ไหมครับ”

อู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่ผอ.มาที่นี่ในวันนี้แล้ว, เขานั้นตั้งใจที่จะให้ศาสตราจารย์ทั้งห้าคน วางแบบแปลนสร้างเขตชุมชนแห่งใหม่ให้พวกเขาฟรีๆนั่นเอง”

ก็จริงอยู่ที่ว่า มันค่อนข้างมีปัญหามากที่จะหาใครซักคนช่วงวางแบบแปลนกับเรื่องอย่างนี้ เขานิ่งคิดอยู่พักหนึ่งก็พลันคิดมีความคิดอะไรขึ้นมา

“ผอ.เหลียงครับ ช่วยรอผมอยู่ที่นี่ซักแปบได้ไหมครับ ผมจะให้คำตอบที่คุณพึงพอใจแน่นอน”

“ไม่มีปัญหาครับ ไม่มีปัญหา”

อู๋ฮ่าวเหรินรีบเดินไปที่ลิฟท์และไปที่ออฟฟิศของเขา

“จี้, ช่วยวาดแบบแปลนรอบๆฟิวเจอร์กรุ๊ปที่เราเคยออกแบบกันไว้วันนั้นให้หน่อยสิ…..ใช่ อันนี้แหละ ช่วยปริ้นท์แบบแปลนอันนี้ออกมาให้ที”

มองดูแบบแปลนแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ยิ้มขึ้นมา ซึ่งเดิมทีอันนี้คือแผนการก่อสร้างฟิวเจอร์กรุ๊ปและบริเวณรอบๆในความคิดของเขาร่วมกับจี้ แต่ไม่ได้คิดที่จะสร้างขึ้นมาจริงๆ”

หลังจากที่เดินลงมาจากชั้นบน อู๋ฮ่าวเหรินก็เดินเข้าไปในห้องประชุม มองดูผอ.เหลียงที่กำลังร้อนใจและพูดขึ้น “ผอ.เหลียงครับ ช่วยดูอันนี้ให้หน่อยครับ”

“แบบแปลน! ประธานอู่ครับ นี่คือแบบแปลนที่ออกแบบโดยบริษัทคุณงั้นเหรอครับ?”

“ใช่ครับ, แต่ผมคิดว่ามันค่อนข้างไร้ประโยชน์ เพราะผมไม่คิดว่าจะมีการสร้างเขตชุมชนขึ้นมาใหม่ในอำเภอ”

“ประธานอู๋ครับ, ผมขอแบบแปลนนี้กลับไปได้หรือไม่ครับ?”

“ได้สิ, มันเป็นของคุณแล้ว ถ้าคุณสามารถสร้างเขตชุมชนแห่งใหม่ได้ตามในแบบแปลนนี้ มันจะส่งผลดีให้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างมากครับ

ผอ.เหลียงออกไปอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าเขานั้นจะพึงพอใจกับแบบแปลนนี้มาก จนอู๋ฮ่าวเหรินต้องหัวเราะออกมา

ถ้าพวกเขาทำตามแบบแปลนนั้นสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาจริงๆ มันก็จะช่วยเรื่องของแผนการในอนาคตของเขาอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น, เมืองใหญ่แห่งใหม่ก็ตั้งอยู่ใกล้ๆ มันก็จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของพนักงานในบริษัทดีขึ้น

“เว่ยหมิง, คนกำลังทำอะไรอยู่ไหม?”

“หัวหน้าครับ, ผมอยากจะถามคุณว่า ผมควรจะตั้งราคาขายเครื่องดื่มที่ทำมาจากผลของกล้วยไม้ม่วงเท่าไรดีครับ?”

“ก็แล้วแต่คุณเลย ผมเองก็ไม่รู้หรอกจะขายเท่าไรดี ว่าแต่เครื่องดื่มพร้อมจะวางขายแล้วเหรอ?”

“ใช่แล้วครับ, เครื่องดื่มชุดแรกถูกส่งออกไปเมื่อวานนี้ และน่าจะถูกส่งไปถึงที่ร้านค้าในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้กำลังรอเรื่องของราคาและวางจำหน่ายครับ”

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่คิดว่าเขาจะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ เขาจึงพูดขึ้น “ผมว่าผมบอกไปแล้วนะว่า เรื่องของเครื่องดื่มผมให้คุณรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว, ในเมื่อคุณได้เข้าไปคลุกคลีกับวงการเครื่องดื่มขนาดนี้แล้ว ผมคิดว่าคุณน่าคุ้นเคยกับเรื่องนี้มากกว่าผมเสียอีกนะ”

เว่ยหมิงพูดขึ้นอย่างมีความสุข “ได้ครับหัวหน้า พวกเราจะตั้งราคากันเอง เมื่อถึงตอนนี้คุณอย่าตกใจก็แล้วกันครับ!”

มองดูเว่ยหมิงที่รีบวิ่งออกไป อู๋ฮ่าวเหรินก็ส่ายหัว แค่เครื่องดื่มจะมีอะไรให้ตกใจกัน
————————

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด