อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 213
CF:บทที่ 213 เหตุผลที่ทำให้กระอักเลือด
ในช่วงบ่ายพวกเขาเริ่มทำตามมาตรฐานที่ อู๋ ฮ่าวเหริน กำหนด
พอมาตรฐานชุดนี้ถูกส่งไปยังฟอรั่ม หลายคนพากันคาดเดาว่าอู๋ ฮ่าวเหริน จะอยากได้ของเก่าปลอมพวกนี้ไปทำอะไร
บ้างก็ว่าเขากำลังศึกษาอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ในปีนี้ ก็เลยจำเป็นต้องใช้ของเก่าปลอมพวกนี้
บางคนก็บอกว่าเขาซื้อของเก่าปลอมเพื่อมาตั้งไว้ในพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวนที่กำลังก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม มีคนคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ หลายคนเริ่มเพ่งความสนใจไปที่แผนกจัดซื้อของฟิวเจอร์กรุ๊ป ตราบใดที่พวกเขาซื้อวัตถุใดก็ตาม คนเหล่านี้จะคอยตามติดและหาโอกาสในการทำกำไร
พวกนักสืบที่ส่งมาจากประเทศเหล่านั้นก็ถูกปั่นหัวจนวุ่นไปกับพฤติกรรมของ อู๋ ฮ่าวเหริน พวกเขามัวแต่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับโบราณวัตถุ พวกเขาอยากรู้ว่าอู๋ ฮ่าวเหริน กำลังทำอะไรอยู่
อู๋ ฮ่าวเหริน ไม่รู้เรื่องอะไร เขาแค่ต้องการหาโบราณวัตถุสำหรับระบบซองแดง แต่เขาก็ทำให้นักสืบพวกนี้ให้วิ่งวุ่น
ที่ศูนย์ข่าวกรองของบางประเทศ คนกลุ่มหนึ่งกำลังสืบค้นหนังสือเกี่ยวกับโบราณวัตถุและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
พวกเขาต้องรู้สาเหตุให้ได้ว่าอู๋ ฮ่าวเหริน ต้องการทำอะไร รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นไม่เชื่อว่าเขาต้องการซื้อของเก่าสำหรับพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวนหลังใหม่นี้
นักปราชญ์ที่เพิ่งจะพัฒนาหุ่นยนต์ คงจะไม่จู่ๆ ก็เปลี่ยนงานอดิเรกของเขาให้กลายอะไรอีกอย่างที่ไม่เกี่ยวกันเลยโดยไม่มีเหตุผลหรอก
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่วิจัยโดยฟิวเจอร์กรุ๊ปส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง ยังไม่มีเหตุผลเข้าไปใหญ่
“ยังไม่รู้คำตอบอีกหรือ”
“ไม่เลยครับ ผู้อำนวยการ ยกเว้นเทคโนโลยีที่ใช้พิจารณาเครื่องดื่มแล้ว เราไม่พบเทคโนโลยีชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับโบราณวัตถุ”
“ได้ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของเราบ้างไหม”
“จากที่หน่วยข่าวของเราติดสินบนผู้ประเมินราคารายหนึ่ง เป้าหมายบอกแต่เพียงว่าโบราณวัตถุเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับเขา แต่เราไม่มีข้อมูลจนถึงขณะนี้ว่ามีประโยชน์อะไร อย่างไรก็ตามประธานอยู่ในโกดังที่โบราณวัตถุและถูกเก็บเป็นความลับ “
ผู้อำนวยการขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตรวจสอบต่อไปและหาวิธีติดสินบน และเข้าไปดูที่คลังสินค้า บางทีเราอาจจะได้คำตอบจากที่นั่น”
“ได้ครับ แล้วผมจะส่งข่าว”
ไม่ใช่แค่ไม่กี่ประเทศและบริษัทเท่านั้นนะ ที่สนใจและคอยติดตาม อู๋ ฮ่าวเหริน อย่างใกล้ชิด
พอได้มาเจอกับพฤติกรรมที่ผิดปกติของอู๋ ฮ่าวเหริน หลายคนเริ่มคาดเดาเขาจะทำอะไร
แม้แต่เบื้องบนของกระทรวงการต่างประเทศก็ฉงนอยู่เหมือนกันในตอนนี้
ถ้าหากว่า อู๋ ฮ่าวเหริน เก็บสะสมเฉพาะโบราณวัตถุ พวกเขาก็คงจะไม่ต้องมานั่งคาดเดา แต่คราวนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินไม่เพียงแต่ต้องการโบราณวัตถุแท้เท่านั้น แต่ยังต้องการโบราณวัตถุปลอมด้วยนี่แหละที่ซึ่งทำให้พวกเขาเริ่มคิด จากนั้นผมก็เริ่มวิเคราะห์พฤติกรรมของอู๋ ฮ่าวเหริน แต่ยิ่งวิเคราะห์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งหาเหตุผลไม่เจอ
สายลับในอำเภอหยุนหลงเริ่มกระตือรือร้น พวกเขาเริ่มคิดหาวิธีที่จะซื้อตัวคนที่เข้ามาในฟิวเจอร์กรุ๊ป สายลับบางคนก็หาโบราณวัตถุจากประเทศของตนและเดินทางไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อค้นหาความจริง
ตอนนี้ อู๋ ฮ่าวเหริน กำลังตกตะลึงกับจำนวนและมูลค่าของโบราณวัตถุของแท้ที่รวบรวมได้เพิ่มขึ้นมากในสองวันนี้
ตัวอย่างเช่น มีการกล่าวว่าดาบโบราณที่ครั้งหนึ่งสูญหายไป มีคนที่มาจากฝรั่งเศสขายไปในราคาแสนถูก
เพราะตอนนั้นผู้ประเมินราคาเข้าใจว่าดาบนั้นเป็นของปลอมและชาวฝรั่งเศสก็ไม่ลังเลที่จะขายมัน
มิหน้ำซ้ำ จำนวนคนต่างชาติที่มาขายของเก่าเพิ่มขึ้นอย่างมากในไม่กี่วันที่ผ่านมา
มีวัตถุโบราณดีๆ มากมายอยู่ในมือของชาวต่างชาติเหล่านี้ บางส่วนเป็นของเก่าแก่ของจีนที่หายไปในต่างประเทศ อู๋ ฮ่าวเหริน สามารถรวบรวมหยกโบราณจากชาวต่างชาติได้มากกว่า 80 ชิ้น
และจำนวนมากกว่านั้นสำหรับเครื่องกระเบื้องและหยกขนาดใหญ่
ตอนแรกอู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้ใส่ใจ เขาคิดว่าเป็นเพราะชื่อเสียงของฟิวเจอร์กรุ๊ป สหายชาวต่างประเทศเหล่านั้นนำของเก่าที่เป็นของจีนมาที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปก็เพื่อขายทำเงิน
ตอนใกล้จะหมดวัน เขาได้รับโทรศัพท์จากจื่อ หยง
“คุณกำลังศึกษาเรื่องอะไรอยู่หรือ ถึงได้ต้องการของโบราณตั้งมากมาย ถ้าต้องการอะไรเป็นพิเศษผมสามารถร้องขอต่อเบื้องบนให้นำโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์ในพระราชวังมาให้คุณใช้ได้นะ”
จื่อ หยง ไม่อยากโทรหา อู๋ ฮ่าวเหริน แต่ช่วยไม่ได้ถ้าอยากจะรู้ว่าทำไมอู๋ ฮ่าวเหริน ถึงซื้อโบราณวัตถุ กรมสารสนเทศจึงถูกบีบคั้นให้ต้องทำ
ตอนนี้คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ในแผนกข่าวกรองกำลังสนใจเรื่องนี้ไม่ว่าพวกเขาจะลงมือสืบหรือไม่ก็ตาม
ในท้ายที่สุด คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ไม่อาจจะรอทนฟังข่าวจากคนอื่นได้ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอู๋ ฮ่าวเหริน ก็เลยเอ่ยถามเขาโดยตรง
“โบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์ในวัง!”
อู๋ ฮ่าวเหรินสัญญาว่าเป็นเรื่องจริง โบราณวัตถุหลายชิ้นเป็นสมบัติของชาติ แต่เขาคิดว่าถึงแม้เขาจะยืมโบราณวัตถุมาได้ เขาก็จะไม่อาจจะเก็บเอาไว้ได้
“ช่างเถอะ ผมแค่อยากศึกษางานฝีมือโบราณและดูสิว่าผมสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อคัดลอกสมบัติล้ำค่าบางชิ้นที่สูญหายไปจากวังฤดูร้อนหลังเดิมได้หรือไม่ ผมไม่อาจนำสมบัติประจำชาติเหล่านั้นมาใช้หรอกครับ”
“เพราะอย่างนี้ คุณถึงได้รวบรวมโบราณวัตถุเลียนแบบพวกนั้นหรอกหรือ”
“เอ่อ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
จื่อหยง อยากจะแจ้นไปหาอู๋ ฮ่าวเหริน ซะตอนนี้แล้วเอานิ้วจิ้มจมูกของเขาแล้วตะเพิดซะเดี๋ยวนี้ เขามีปัญหาที่ฉลาดเกินไป เพราะอย่างนั้นเขาจึงควรไปศึกษาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ซะ
กรมข่าวกรองแห่งชาติต้องขบคิดจนหัวแทบแตกเพื่อจะรู้ว่าเขากำลังซื้อของโบราณไปทำอะไร เขาทำไปเพียงเพื่อต้องการศึกษาเทคโนโลยีการผลิตของโบราณ
จื่อหยง แทบขำไม่ออกกับท่าทางที่รัฐมนตรีข่าวกรองเอ่ยปากถามเขาในตอนนั้น ไม่รู้ว่าท่านจะถึงกับกระอักเลือดเลยไหมถ้าได้รู้เหตุผลเข้า
“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วจริงๆ ก็ศึกษาเทคโนโลยีหุ่นยนต์เพิ่มเติมสิ บางทีคุณอาจช่วยแก้ปัญหาให้กับงานแสดงหุ่นยนต์แห่งชาติได้บ้าง ศึกษาเทคโนโลยีการเลียนแบบโบราณวัตถุจะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณขาดแคลนโบราณวัตถุจริงๆ ผมจะส่งบางชิ้นให้คุณยืมสำหรับพระราชวังฤดูร้อนหลังเดิมของคุณแล้ววางไว้ที่นั่น”
อู๋ ฮ่าวเหริน ส่ายหัว มองไปที่โทรศัพท์วางสายไป ชายผู้นี้อยากช่วยเขาในการวิจัยหุ่นยนต์อย่างนั้นหรือ
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ พอจื่อหยงเล่าเหตุผลให้รัฐมนตรีหน่วยข่าวกรองฟัง ใบหน้าของท่านกลายเป็นสีม่วง
กลุ่มคนข้างต้นที่รอฟังเหตุผล พอเข้าใจเหตุการณ์ดีแล้ว ต่างก็ร้องไห้หรือหัวเราะไม่ออก พอผ่านไปหลายวันหลังจากนั้นกลับกลายเป็นว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นต้องการโบราณวัตถุจริงๆ สำหรับในพระราชวังฤดูร้อนไม่ใช่สำหรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ประเทศอื่นๆที่ยังไม่รู้สถานการณ์ในต่างแดนยังคงส่งโบราณวัตถุเก่าไปขายให้กับอู๋ ฮ่าวเหริน เพื่อสืบหาความลับ
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่บางประเทศส่งคนของตัวเองแทรกซึมเข้าไปในคลังสินค้าของอู๋ ฮ่าวเหริน เพื่อคอยตรวจดูสถานการณ์
กลางดึกตอนตีสองมีชายสองคนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีหลบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลาดตระเวนด้านนอก จากบริเวณหอพักที่สร้างขึ้นโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป และมุ่งตรงเข้าแทรกซึมในอาณาบริเวณโรงงานของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ตอนที่จี้มาปลุก อู๋ ฮ่าวเหริน ให้ตื่นจากการหลับใหล เขายังคงง่วงซึม ทุกคืนเขาเข้าระบบซองแดง จิตใจของเขายังอ่อนล้าและต้องการนอนหลับเพื่อให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง
“คุณทำอะไรพลาดหรือเปล่า ตอนที่สายลับแทรกซึมเข้าไปในบริเวณโรงงาน”
อู๋ ฮ่าวเหริน มองดูภาพที่ จี้ คัดแยกจากอุปกรณ์ตรวจตรา บางคนไม่ได้พูดอะไรเลยและมีสายลับ พวกสายลับต้องการแอบเข้าไปในห้องทดลองของเขา
“ชายสองคนนี้ฝ่าการคุ้มกันบุกไปถึงห้องทดลองได้หรือไม่”
“ไม่ได้ ถ้าพวกสายลับมุ่งหน้าเข้าไปอีก ก็จะตกอยู่ในวงล้อมและถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รออยู่จับตัว”
อู๋ ฮ่าวเหริน พยักหน้า เขาชัดเจนเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ส่งมาจากประเทศเหล่านี้ คนพวกนี้แค่ปกป้องห้องทดลองของเขาไม่ใช่พยายามเข้าไป
“ผมจะไปนอนก่อนและรอฟังผลวันพรุ่งนี้”
อู๋ ฮ่าวเหริน หาวและพร้อมที่จะเข้านอน ตอนนี้ เขาง่วงนอนจริงๆ
————————
คอมเม้นต์