อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 232
CF:บทที่ 232 ไม่มีการโฆษณา
ในอนาคตมันคงจะมีปรากฎการณ์แปลกๆ ในหมวดบันเทิงของบริษัท จำนวนผู้เข้าชมการ์ตูนและอนิเมชั่นพุ่งทะลุไปที่ 100 ล้านวิวภายในเวลาห้าชั่วโมง และยอดวิวก็ไม่มีทีท่าจะลดลงเลย
คะแนนการทำงานนั้นสูงมากแต่ในพื้นที่การสนทนา ผู้คนไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับการ์ตูนและอนิเมชั่นแต่กลับพูดถึงเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์
ทุกคนอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป โดยเฉพาะอยากเรียนรู้ว่าเทคนิคพิเศษบางอันในขั้นตอนการสร้างอนิเมชั่นนั้นถูกสร้างโดยปัญญาประดิษฐ์
คอมเม้นท์ในพื้นที่คอมเม้นท์ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง หลายคนเริ่มศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคพิเศษในอนิเมชั่นและหาจุดบกพร่องไปด้วยในเวลาเดียวกัน
“ด้วยเทคนิคพิเศษนี้ ฉันคิดว่าเทคนิคพิเศษของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนรอดแล้วล่ะ ฉันเชื่อว่ามันทำได้ระดับฮอลลีวุ้ดเลย”
“พี่ชายข้างบนน่ะ ฉันคิดว่าคุณคงรู้ว่ามันต้องใช้เงินสักเท่าไรในการสร้างปัญญาประดิษฐ์ บริษัทภาพยนตร์พวกนั้นต้องมีเงินจำนวนเท่านี้ ได้โปรดให้ฟิวเจอร์กรุ๊ปทำเทคนิคพิเศษพวกนี้ให้บริษัทภาพยนตร์พวกนั้นที ดูสิว่าจะมีใครอยากทุ่มเงินให้กับพวกดาราอีกไหม”
“ใช่แล้ว แม้แต่บริษัทตู้หาวก็ไม่ได้ต้องการเงินและช่วยพวกเขาแบบฟรีๆ แต่ฉันรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรที่จะใช้ปัญญาประดิษฐ์กับของพวกนี้”
“ฉันคิดว่าพวกเราควรจะมองไปที่บริษัทที่จะทำหนังของตัวเองในอนาคตนะ ฉันได้ยินมาว่าอนิเมชั่นของพวกเขาจะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในอนาคต”
ฉันยังคงหวังว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะสามารถสร้างหุ่นยนต์ที่มีปัญญาประดิษฐ์ ฉันอยากจะซื้อหุ่นยนต์ฉลาดๆ มาไว้สักตัว”
“….”
สื่อต่างๆ และนานาประเทศต่างพากันให้ความสนใจเกี่ยวกับระดับของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป
ลิวหมิงเยว่และโจ้วหลาน ที่อยู่ในออฟฟิศของอู๋ฮ่าวเหรินในขณะนั้น และกำลังรายงานสถานการณ์
“เจ้านาย ข่าวของปัญญาประดิษฐ์ จะให้พวกเราเผยแพร่ออกไปตอนนี้เลยไหมคะ?”
“เผยแพร่ออกไปเลย มันไม่ได้เป็นความลับอะไรนี่”
ในขณะเดียวกัน เขาต้องการศึกษาแรงจูงใจ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ ซึ่งจะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจให้แก่พวกเขาล่วงหน้า เมื่อข่าวอย่างเป็นทางการได้ถูกประกาศออกไปยังสื่อต่างๆ ของฟิวเจอร์กรุ๊ปว่า พวกเขาได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์จริงๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วแต่ก็ยังคงทำให้ผู้คนตื่นเต้น
“ฮ่าฮ่า ดีมาก ในที่สุดประเทศของเราก็มีปัญญาประดิษฐ์แล้ว ใครจะกล้ามาว่าเทคโนโลยีของพวกเราล้าหลังอีกนะ”
“ฉันหวังว่าในอนาคตบริษัทจะสามารถพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ยิ่งขึ้นไปอีกและสู้กับกูเกิ้ลได้”
“ก่อนหน้านี้ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้รับสมัครผู้มีพรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์ แต่ฉันไม่ได้เข้าร่วม ตอนนี้ยังพอจะมีโอกาสไหม? ฉันอยากจะศึกษาปัญญาประดิษฐ์และจะมาเล่าให้พวกคุณฟังว่าจะเข้าไปทำงานที่แผนกคอมพิวเตอร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ยังไง”
“พี่ชาย ตื่นได้แล้ว ดูซิว่ามีคนมากมายต้องการที่เข้าไปทำงานที่ฟิวเจอร์กรุ๊ป ฉันได้ยินมาว่าถ้ามีญาติพี่น้องทำงานอยู่ในนั้น บริษัทก็จะให้สิทธิพิเศษกับญาติพี่น้องให้เข้าไปทำงานในพื้นที่หอพักได้นะ”
เห็นได้ชัดว่า ความเย้ายวนของปัญญาประดิษฐ์นั้นส่งผลกับบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เสียสละตัวเองเพื่อการวิจัยปัญญาประดิษฐ์โดยไม่มีเงินสนับสนุน
โชคไม่ดีนัก ที่ตอนนี้อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ต้องการคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้เพิ่มอีกแล้ว จุดประสงค์หลักของเขาในการก่อตั้งแผนกวิจัยคอมพิวเตอร์ก็คือการดึงดูดความสนใจของทุกคนนั่นเอง
บริษัทภาพยนตร์และผลิตรายการทีวีหลายแห่งได้เข้ามามีบทบาทในตอนนี้ หลังจากที่ได้ดูเทคนิคพิเศษของอนิเมชั่น พวกเขาก็เข้าใจถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ต่อการสร้างภาพยนตร์
ตราบใดที่บริษัทเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ เริ่มที่จะพุ่งเป้ามาที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปซึ่งพวกเขากังวลว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมภาพยนตร์นี้
ปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์สองอย่างของบริษัท คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด และเครื่องผลิตไฟฟ้าจากอุณหภูมิ ก็มีผลกระทบเล็กๆ ต่อบางอุตสาหกรรม
ยกตัวอย่างเช่น เจ้าของโรงงานด้านอุปกรณ์การแพทย์ก็ได้รับผลกระทบ แต่ผลกระทบนั้นยังไม่มากนัก รายเดียวที่ได้รับผลกระทบก็คงจะเป็นโรงพยาบาล
ปัจจุบัน เครื่องผลิตไฟฟ้าจากอุณภูมิ ยังไม่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมใดๆ อย่างไรก็ตามหลายคนคาดการณ์ไว้ว่า ถ้าหากอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดสามารถย่อส่วนได้ อุตสาหกรรมแบตเตอรี่จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะเจ้าของโรงงานด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการชาร์จไฟ ถ้าพวกเขาไม่สร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีออกมา ซึ่งจะถูกกำจัดไปอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่รู้ว่าบริษัทจะทำการศึกษาปัญญาประดิษฐ์ประเภทใดต่อไปในอนาคต ผู้คนมากมายไม่ได้คิดในแง่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลักๆ คือปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยกูเกิ้ลซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
เพื่อให้มั่นใจ เป็นเพราะว่าอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ อนิเมชั่นและการ์ตูนล้อเลียนถูกสร้างขึ้นโดยคนเหล่านั้นอย่างดุเดือด
ตราบใดที่หัวข้อของปัญญาประดิษฐ์ปรากฏบนข่าว ก็จะนำมาซึ่งการล้อเลียนพวกนั้น
เมื่อเวลาสองทุ่ม จำนวนผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมอนิเมชั่นพุ่งทะลุ 600 ล้านวิว นอกไปจากนี้ก็ยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ มันคงจะไม่เป็นปัญหาที่จะใช้จ่ายเงินกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญในคืนนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ บริษัทอนิเมชั่นทั้งหลายต่างพากันอิจฉากันถ้วนหน้า เพราะแต่ละยอดวิวคือเงินทั้งนั้น แต่ฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ได้ใส่โฆษณาลงบนอนิเมชั่นนั้น ซึ่งหมายความว่า ยอดวิวพวกนี้ไม่ได้นำกำไรใดๆ มาสู่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเลย
แต่บางคนต้องการที่จะติดต่อกับฟิวเจอร์กรุ๊ปและลงโฆษณาบนนั้น อย่างไรก็ตามบริษัทส่วนใหญ่ล้มเลิกความตั้งใจเมื่อพวกเขาคิดถึงฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเขาปฏิเสธแม้แต่การประชาสัมพันธ์ให้ฟรีๆ จากเหล่าดาราทั้งหลาย พวกเขาต้องจ่ายเงินสักเท่าไรให้แก่ฟิวเจอร์กรุ๊ปถ้าหากว่าพวกเขาต้องการลงโฆษณา? นี่คือสิ่งที่เห็นได้ชัดในด้านของค่าโฆษณา หลายบริษัทไม่สามารถจะจ่ายได้ ยิ่งไปกว่านี้คุณต้องมั่นใจด้วยว่าในอนาคตบริษัทจะเห็นด้วยกับการลงโฆษณาบนนั้น
กลุ่มอนิเมชั่นก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน พวกเขาคือแผนกที่เกี่ยวข้องกับบริษัท คำตอบคือบริษัทไม่มีผลิตภัณฑ์ที่จะเอามาโฆษณา สำหรับการโฆษณาภายนอก บริษัทเองก็ไม่ได้พิจารณาถึงประเด็นนี้ และจะตอบคำถามของประธานบริษัทในการประชุมนัดหน้า
หลังจากที่ทราบข่าวแล้ว ผู้คนในทั้งสองแผนกต่างพากันพูดไม่ออก ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการที่จะทำเงินให้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปและสามารถขายได้เพียงชุดอุปกรณ์เสริม
บริษัทเห็นชอบกับการเปิดขายอุปกรณ์เสริม ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทก็มีอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ทำอุปกรณ์เสริมนั้น พวกเขาต้องการทำให้ผู้คนที่ทำมันด้วยตัวเอง หรือ พวกเขาสามารถโพสต์ข้อความบนเว็บไซต์หลักเพื่อรับสมัครงาน ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทุกอย่างที่เจ้านายทำลงไปนั้นคือคำมั่นสัญญาในการจัดแสดง และพวกเขาไม่ได้คาดหวังที่จะทำเงินเลยแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะที่ได้ยินมาจากแผนกอื่น ฉันได้ยินว่ายอดขายอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดของบริษัทนั้นมียอดขายมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างการ์ตูนและอนิเมชั่นให้ดีเพื่อไม่ให้เจ้านายต้องเสียหน้า แทนการทำเงิน
ยิ่งมีผู้คนมาชมมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็มีปัญหาว่าบางสิ่งที่เห็นในอนิเมชั่น ราวกับพวกเขาเคยเห็นฉากนี้มาก่อน
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนก็เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร ก็กลายเป็นว่าอู๋ฮ่าวเหรินได้อัพโหลดวิดีโอถึงแม้ว่ามันจะมีข้อแตกต่างเป็นอย่างมากระหว่างอนิเมชั่นกับวิดีโอ แต่ก็มีบางส่วนในนั้นที่คล้ายคลึงกับในวิดีโอ
กระดานข่าวบนเว็บไซต์หลักของบริษัทก็แทบจะแตกในทันที เพราะทุกคนสงสัยว่าวิดีโอทั้งสองตัวนี้ถูกสร้างขึ้นโดยอู๋ฮ่าวเหรินและได้ถูกอัพโหลดขึ้นบนอินเตอร์เน็ต
สำหรับวิดีโอสองตัวนี้ หลายคนมีความข้องใจอยู่ลึกๆ ถ้าคุณมองเห็นข้อความด้านล่างของวิดีโอนั้น คุณก็จะรู้ว่าทุกคนรักและเกลียดพฤติกรรมแบบนี้
———————
คอมเม้นต์