CF:บทที่ 233 ความจริงของวิดีโอ
บางคนเริ่มเปรียบวิดีโอทั้งสองตัวด้วยวิดีโออนิเมชั่นบางตัวเพื่อหาส่วนที่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามเรือรบและชุดเกราะในวิดีโอทั้งสองตัวนั้นล้ำสมัยเกินไป เกินกว่าปูมหลังของการสร้างเกมส์ของอู๋ฮ่าวเหริน
ยิ่งไปกว่านั้น ในอนิเมชั่น มันไม่มีชุดเกราะ แต่มีเรือรบปรากฏขึ้นมา มีเพียงของบางอย่างที่ดูคล้ายกัน
สำหรับสิ่งของในอนิเมชั่น ก็คล้ายกับของบางอย่างในวิดีโอทั้งสองนั้น อู๋ฮ่าวเหรินคงไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันเป็นแน่
ถึงแม้ว่าปูมหลังของเกมส์ที่เขานำออกมาจะแตกต่างจากในวิดีโอทั้งสองตัวนั้น มันก็ยังมีบางสิ่งที่มนุษย์ไม่ได้เปลี่ยนมัน
มันกลายเป็นว่าเกิดอะไรขึ้น บวกกับวิดีโอทั้งสองตัวนั้นช่างยอดเยี่ยม และสิ่งของในนั้นก็เป็นแนวไซ-ไฟ ส่วนการแสดงออกของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นออกแนวปิศาจ และตอนนี้เขาก็มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ แน่นอนว่าทุกคนสงสัยในตัวเขา
โชคยังดีที่อู๋ฮ่าวเหรินได้จัดการกับทุกฉากของตัวละครในวิดีโอ ทิ้งไว้เพียงบางภาพของการต่อสู้ และไม่มีใครปรากฏอยู่ในวิดีโอ
มิฉะนั้นมันก็จะพิสูจน์ได้ว่าวิดีโอทั้งสองตัวนี้ถูกอัพโหลดโดยเขาแต่มันก็ยังไม่กระจ่าง
บนกระดานข่าว บางคนก็วิเคราะห์วิดีโอและอนิเมชั่น
“ในวิดีโอทั้งสองตัวนี้ มีการสู้รบของหุ่นยนต์ทางด้านหน้า การสู้รบนั้นช่างโหดเหี้ยม และต่อสู้กันบนฟ้าที่มีดาวพร่างพราย การสู้รบแบบนี้สามารถทำได้ด้วยเพียงเทคโนโลยีการสังเคราะห์คอมพิวเตอร์ ดังนั้นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงไม่หาร่องรอยสังเคราะห์ที่คล้ายคลึงกันกับเทคนิคพิเศษในอนิเมชั่น เพราะพวกเราใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและสงสัยว่ามันคือปัญญาประดิษฐ์นั่นเอง”
“วิดีโอตัวที่สองคือสตาร์วอร์ส มันเป็นเพียงการโจมตีของเรือรบซึ่งเป็นนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ แต่มันก็ดูสมจริงกว่านวนิยายแนววิทยาศาสตร์ อาวุธของเรือรบในวิดีโอนั้นเหมาะสมกับห้วงอวกาศนั้น พวกเขาสามารถโจมตีเรือรบจากทิศทางใดก็ได้โดยปราศจากจุดบอด แทนที่จะโจมตีศัตรูจากในแนวราบแต่เพียงอย่างเดียว”
“ลองมาพูดเกี่ยวกับอนิเมชั่นกันอีกครั้ง ตัวละครในการต่อสู้ครั้งนี้ดูเป็นเทพนิยายมากกว่า มันน่าจะเป็นตัวละครที่ออกแบบมาสำหรับเกมส์ แต่หลักๆ แล้วคือของบางอย่างในวิดีโอนั้นดูคล้ายกับวิดีโอก่อนหน้านี้สองตัว ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอนิเมชั่นและวิดีโอนั้นถูกสร้างขึ้นโดยคนคนเดียวกัน”
บางคนเห็นการวิเคราะห์นั้นและตอบกลับว่า “มันไม่มีประโยชน์ที่คุณจะมาวิเคราะห์เรื่องพวกนี้ ฉันมั่นใจว่าวิดีโอนั้นถูกสร้างขึ้นโดยอู๋ฮ่าวเหรินแห่งฟิวเจอร์กรุ๊ป เพราะว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของเขาช่างทรงพลังและเขาไม่เคยกลัวพวกแฮคเกอร์หน้าไหนในโลกนี้เลย”
“ใช่แล้ว เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของคุณอู๋ฮ่าวเหรินช่างดีนัก และวิดีโอทั้งสองตัวนั้นก็ดูเหมือนว่าจะฝ่ายการป้องกันเครือข่ายของเว็บไซต์วิดีโอและถูกอัพโหลดขึ้นโดยตรง เห็นได้ชัดว่าเป็นเขานั่นเองที่ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นี้
จะให้ทำไงล่ะ”
“ไปดูที่กระดานข่าวสิ มีบางคนดูเหมือนว่ากำลังค้นหาบางอย่าง”
เป็นความจริงที่ว่ามีบางคนกำลังค้นหาบางสิ่ง นั่นก็คือวิดีโอที่อู๋ฮ่าวเหรินกำลังขายหยกเจไดต์ (หยกพม่า)
วิดีโอของผู้ใช้นี้ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนว่าข้างบนนั้นไม่ได้ช่วยให้อู๋ฮ่าวเหรินเปลี่ยนแปลงอะไรระหว่างการตรวจสอบ พวกเขารู้ว่าการที่อู๋ฮ่าวเหรินขายมรกตนั้นไม่ใช่เรื่องลับอะไรและมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับวิดีโอนี้เลย
ก่อนหน้าที่อู๋ฮ่าวเหรินจะสร้างฟิวเจอร์กรุ๊ปขึ้นมา เขาทำหลายอย่าง จริงๆ แล้วก็หาได้ทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต
“จากข้อมูลที่ฉันโพสต์ด้านบน พวกเราสามารถเห็นได้ว่าเส้นทางโคจรชีวิตของคนอัจฉริยะเริ่มจากมรกตเพียงชิ้นเดียว นั่นคือทุนตั้งต้นที่ทุกคนพูดถึงในตอนต้น”
“ของพวกนั้นได้ถูกวิเคราะห์มาก่อนหน้านี้แล้ว มามองหาสิ่งที่พวกเราไม่ได้สังเกตมากก่อนจะดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ปล่อยวิดีโอออกมาดูเหมือจะเป็นเวลาเดียวกับวิดีโอมรกต”
“ฮ่าฮ่า ฉันรู้แล้ว นี่คงจะเป็นวิดีโอที่เขาทำมาก่อน ในตอนนั้น เขาควรจะเริ่มธุรกิจของเขาเรียบร้อยแล้ว แทนที่จะปกปิดความสามารถของเขาเขาจึงได้เอาวิดีโอออกมาเผยแพร่”
“ดูเป็นเหตุเป็นผลเหมือนกันนะ แต่มันก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ว่าวิดีโอนี้ถูกสร้างขึ้นโดยคุณอู๋ฮ่าวเหริน”
มันเป็นเพียงแค่ความบังเอิญของเวลา ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นวิดีโอของอู๋ฮ่าวเหริน
อย่างไรก็ตามหลายคนก็เริ่มที่จะเชื่อว่าวิดีโอนี้ถูกสร้างโดยอู๋ฮ่าวเหรินเพราะเขามีความสามารถทางด้านนี้
ยิ่งไปกว่านั้นหลายบริษัทได้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อตามหาคนที่อัพโหลดวิดีโอลึกลับนั่น คนที่ไม่ยอมปรากฏตัวออกมา
ประกอบกับฟิวเจอร์กรุ๊ปในตอนนี้ มันเห็นได้ชัดว่าคนอัจฉริยะคนนั้นไม่ได้มองถึงตัวเงินและพร้อมที่จะกลับมาและสร้างธุรกิจของเขาเอง
หลายคนทิ้งข้อความไว้บนเว็บไซต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป โดยหวังว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะออกมาอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาอยากรู้ว่าวิดีโอนี้เป็นของอู๋ฮ่าวเหรินจริงหรือไม่
ถ้าใช่ พวกเขาก็อยากจะรู้ว่ามีวิดีโอและเรื่องราวที่สร้างเสร็จแล้วมากเพียงใด
คุณรู้ไหมว่าเกี่ยวกับวิดีโอสองตัวนี้ ผู้คนต่างพากันขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียด
เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินรู้เรื่องนี้เข้าเขาถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ยอมรับว่าวิดีโอนั้นเป็นของเขา ในตอนนั้นมีหลายคนที่ทิ้งข้อความไว้ด้านใต้วิดีโอเหมือนการส่งดาบให้แก่เขาและปิดกั้นประตูบ้านของเขา
ไม่นานนัก โจ้วหลานก็มาถึง บริษัทต้องการรู้ว่าวิดีโอนั้นมาจากเจ้านายของเขาหรือไม่ คุณรู้ไหมวิดีโอทั้งสองตัวนั้นถูกเปิดดูและกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกในชั่วข้ามคืน
“เจ้านายคะ พวกเราควรจะทำยังไงกับวิดีโอนั้นคะ? ตอนนี้มีมากกว่า 50 ล้านข้อความแล้วค่ะที่พวกเราต้องตอบ”
โจ้วหลานจ้องไปที่อู๋ฮ่าวเหรินและสังเกตสีหน้าของเขา แต่โชคไม่ดีที่สีหน้าของอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูโจ้วหลาน แต่เธอก็ไม่คิดที่จะถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
“คุณไม่ต้องตอบอะไรทั้งนั้น คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก”
“ค่ะ เจ้านาย” โจ้วหลานมองไปที่อู๋ฮ่าวเหรินและถามด้วยเสียงต่ำ “เจ้านายคะ วิดีโอนั่นเป็นของคุณจริงๆ เป็นเนื้อหาที่จะทำต่อไปหรือเปล่าคะ?”
อู๋ฮ่าวเหรินเมินเฉยและทำงานของเขาต่อไปตามเดิม
โจ้วหลานมองเห็นว่าเจ้านายของเธอไม่ได้พูดอะไร และเธอก็เข้าใจ ฉันคิดว่าเจ้านายเธอช่างสุดยอดและฉันก็สามารถสร้างวิดีโอแบบนั้นขึ้นมาได้
ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายถึงไม่ยอมรับ แต่ในฐานะลูกจ้างเธอก็จะไม่ถามอย่างแน่นอน
เมื่อโจ้วหลานออกไปแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะอยู่เพียงไม่นานสำหรับวิดีโอสองตัวนั้น
บนเว็บไซต์หลักของฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่มีการให้คำตอบใดๆ ซึ่งทำให้เรารู้สึกได้จริงๆ ว่าวิดีโอนั้นถูกสร้างโดยอู๋ฮ่าวเหริน
พวกเขาเปลี่ยนจากการพิสูจน์ว่าวิดีโอถูกสร้างโดยอู๋ฮ่าวเหรินหรือไม่ มาเป็นขอให้อู๋ฮ่าวเหรินช่วยสร้างวิดีโอทั้งสองตัวนั้นให้เสร็จสมบูรณ์
ในสถานการณ์นี้ อู๋ฮ่าวเหรินซ่อนตัวอยู่ในห้องทดลองเพียงลำพังและศึกษาเกี่ยวกับแรงจูงใจของเขา
และจี้ นานๆ ครั้งจะเลือกข้อมูลที่น่าสนใจจากพื้นที่ความคิดเห็นและอ่านให้อู๋ฮ่าวเหรินฟัง
“จี้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันยอมรับออกไป?”
“มันอยู่บนอินเตอร์เน็ตแล้ว พวกเขาต้องการให้คุณปล่อยวิดีโอที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเขาหวังว่าบริษัทจะลงทุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และทีวีในอนาคต”
“ฮ่าฮ่า ฉันก็อยากจะลงทุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และทีวีนะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ หลังจากที่เทคโนโลยีบางอย่างเสถียรแล้วฉันถึงจะลงทุน นายจะว่าอย่างไรถ้าฉันจะใช้เทคโนโลยีการถ่ายแผนที่เสมือนจริงเอามาสร้างหนัง?”
“ลองดูก็ได้ และตอนนี้เทคโนโลยีนี้ก็เป็นที่รู้จัก ผ่านปัญญาประดิษฐ์ มันเป็นการรวมกันของการถ่ายแผนที่เสมือนจริง อย่างไรก็ตามคุณก็ยังต้องการที่จะสร้างเมืองเสมือนจริงซึ่งเป็นโครงการค่อนข้างที่ใหญ่”
อู๋ฮ่าวเหรินได้ไอเดีย เขาต้องการที่จะสร้างเมืองเสมือนจริง เขาควรจะสามารถที่จะสร้างเมืองเสมือนจริงโดยการติดตั้งอุปกรณ์การถ่ายแผนที่เสมือนจริงได้นับไม่ถ้วนบนพื้นที่ราบมหึมาสักแห่ง
——————–