อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 258
CF:บทที่ 258 ข้อมูลสุดช็อค
หลังจากได้รับข้อมูลจาก อู๋ ฮ่าวเหริน แล้วนั้น จื่อหยงจึงรีบรุดไปที่ที่ทำงานของผู้อำนวยการ นี่เขาตื่นเต้นหรือนี่
“ผู้อำนวยการครับ มาดูนี่สิครับ ข้อมูลพวกนี้ อู๋ ฮ่าวเหริน เพิ่งจะส่งมา”
เขามองจื่อหยงที่กำลังยืนหอบ ผู้อำนวยการรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย อะไรที่ทำให้จื่อหยงตื่นเต้นแบบนี้
เขาหยิบเอกสารจากมือจื่อหยง ก่อนจะพลิกดูทีละหน้า ยิ่งเขาพลิกหน้าย้อนกลับมา การเคลื่อนไหวของเขาก็ยิ่งช้าลง มือสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
“นี่ นี่มัน สมองของเขาโตไปจนสุดแบบนี้ได้ยังไง และยังสามารถวิจัยอะไรออกมาได้มากมายผ่านอย่างแหล้งพลังงานได้จริงๆงั้นหรือ”
เมื่อจื่อหยงเห็นท่าทางของผู้อำนวยการแล้วนั้น ความตื่นเต้นที่มีก็ค่อยๆหดลงอย่างช้าๆ เมื่อเขาได้เห็นวัสดุเหล่านี้ เขากลับรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่ได้เห็นอุปกรณ์ชีวภาพไฟฟ้าบำบัดซะอีก
สำหรับตัวเขาที่ศึกษาทางด้านอาวุธมา จึงเข้าใจเป็นอย่างดีเกี่ยวกับความสำคัญและบทบาทของวัสดุเหล่านี้
“ท่านผู้อำนวยการครับ ความคิดของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นแตกต่างจากคนทั่วไปโดยสิ้นเชิงเลยนะครับ เห็นไหมครับ ตรงนี้และตรงนี้ไปอยู่ข้างหลัง เขาเป็นคนออกแบบเองคนเดียวเลย”
“มีใครคนอื่นเห็นของชิ้นนี้นอกจากคุณอีกไหม”
“ไม่มีครับ เพราะผมใช้คอมพิวเตอร์ภายในส่งข้อมูลพวกนี้ คนอื่นไม่สามารถเข้าถึงได้ครับ”
“ดีมาก”
ผู้อำนวยการมองข้อมูลพวกนั้น การวิจัยเกี่ยวกับแรงขับเคลื่อน ข้อมูลเบื้องหลังเรื่องนี้ทุกรูปแบบ แล้วพลันดวงตาของเขาก็พราวระยับ
“ผ.อ. ครับ เขาให้วัสดุพวกนี้กับผมมาเพื่อที่จะร่วมมือกับบริษัทของกองทัพเราในเรื่องของการสร้างรถยนต์ครับ”
จื่อหยงนึกถึงสิ่งที่ อู๋ ฮ่าวเหรินเคยพูดไว้เมื่อเขาได้มอบวัสดุพวกนี้มาให้ ก่อนจะพูดขึ้นมาในทันที
“สร้างรถงั้นหรือ”
ผู้อำนวยการมองวัสดุที่อยู่ในมือและหน้าต่อๆมาที่เกี่ยวข้องกับการวาดภาพออกแบบรถยนต์ แต่ก็ไม่ได้ดูดีนัก
“ไปหาใครสักคนกันเถอะ” ความหมายคือร่วมมือกับเราในการสร้างรถ ในตอนนี้เขาอยากเข้ามาร่วมมือกับเราในการวิจัยรถถัง
ผู้อำนวยการคิดว่าถ้าเพียงแค่เขาโกงแหล่งพลังงานมาใช้ในสถาบันวิจัยด้านอาวุธได้ล่ะก็ ด้วยความสามารถของมันแล้วนั้น เขาจะแก้ปัญหาเรื่องอาวุธที่ยังไม่ลงตัวได้ก็ได้ ด้วยเหตุนั้น เขาจึงเดินทางไปยังหน่วยบัญชาการทางทหาร
ในกองบัญชาการทหารของภูมิภาค ผู้อำนวยการนำข้อมูลออกมา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ถัดจากตน เนื่องจากเพราะแก่มากแล้ว
“เหลา เหอ ดูความเรียบร้อยของตัวเองหน่อย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องจริงจังกันพอสมควรเลยนะ ถ้าข้อมูลพวกนี้เป็นจริง เทคโนโลยีการขับเคลื่อนของประเทศเราจะได้เป็นแบบตะวันตกมากยิ่งขึ้น”
“จาง เป๋าเวิน ไม่ต้องห่วงนะ คุณอยู่ที่นี่แล้ว ผมไม่รู้ความสำคัญของสิ่งต่างๆนั้นหรอก และอีกสักครู่ผมกำลังจะไปจงหนานไห่ และคุณจะต้องตามผมมา”
“มายืนรออะไรล่ะ ไปสิ” เขาหันไปหาจื่อหยง ก่อนจะกล่าว “กลับไปก่อน แล้วลบข้อมูลไฟล์ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์นั่นซะ อย่าให้เหลือร่องรอยและอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ไว้เดี๋ยวฉันจะพูดตอนฉันกลับมา”
พวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน ก่อนจะได้รับแจ้งว่าจางและกลุ่มช่างได้มารออยู่ที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เหลา จาง ข้อมูลพวกนี้มันอะไรกัน เรียกเราทั้งหมดมาที่นี่ นี่ผมยังมีงานต้องทำอยู่นะ รีบๆหน่อย เดี๋ยวผมจะต้องกลับไปจัดการเรื่องวัสดุอีก”
“ไม่ต้องห่วงครับ นี่ถ้าพวกคุณได้เห็นอะไรบางอย่าง ไม่แน่ว่าสถาบันวิจัยของคุณอาจจะชวนผมไปนั่งดื่มสักจอกก็ได้ สัญญานะว่าจะไม่ออกไปก่อน”
“ ท่านหลง ทุกคนมากันแล้ว เริ่มเลยเถอะ” เลขานุการว่าขึ้น
“เอาล่ะ อย่างแรกเลย ผมอยากจะรู้ว่ามันมีอะไรดี คุ้มค่ากันไหมกับการที่ท่านนายพลและผู้อำนายการจางโทรเรียกพวกคุณมาทุกคน”
จาง เป๋าเวินหยิบแผ่นปริ๊นท์วัดสุต่างๆขึ้นมา โดยแต่ละแผ่นได้ถ่ายเอกสารมาเป็นที่เรียบร้อย “วัสดุพวกนี้มาจากชายผู้โชคดีของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่ชื่ออู๋ ฮ่าวเหริน หลักๆแล้ว ของพวกนี้จะเกี่ยวกับเทคโนโลยีการขับเคลื่อน ลองดูนี่ซะก่อนแล้วพวกคุณจะเข้าใจหลังจากได้อ่านแล้ว”
เมื่อคนในกลุ่มพลิกกระดาษที่มีข้อมูลอยู่ในนั้นไม่กี่หน้าไปมา สถานการณ์ก็เป็นเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับจาง เป๋าเวิน เมื่อได้เห็นข้อมูลที่ว่า บางคนถึงกับแสดงสีหน้าถึงความอัศจรรย์ใจ
“เหลา จาง มีข้อมูลอะไรเพิ่มอีกไหม ทำไมแก่นของเทคโนโลยีสำคัญที่สุดแบบนี้ถึงได้หายไป”
จาง เป๋าเวินโบกมือผ่านหน้าไปก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ผมจะไม่พูดถึงตรงนี้ ที่อู๋ ฮ่าวเหรินมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีที่เราพัฒนา ดังนั้น สิ่งนี้จึงไม่ใช่เทคโนโลยีอันสมบูรณ์แบบ แต่จากข้อมูลที่ได้มาในภายหลัง เขาได้วิจัยถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงออกมาและทดสอบมันด้วย”
“อู๋ฮ่าวเหรินอีกแล้วงั้นหรือ อัจฉริยะจังเลย” เฒ่าหลงถอนหายใจก่อนจะว่าขึ้น
“ก็จริงอยู่ที่เรื่องวัสดุเส้นใยพืชทำให้ประเทศเหล่านั้นวุ่นวายกันไปหมด พวกเขาไม่มีเวลาจะเดินออกมาพบปะกับใครแล้ว ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำแรงขับเคลื่อนที่ก้าวหน้านี้ได้สำเร็จ”
“เพราะอู๋ฮ่าวเหรินมีข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ เราจะไปหาเขาโดยตรงและถามว่า มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่เขาต้องการ พวกเราสามารถเอาข้อมูลตรงนั้นมาใช้ได้”
“ฮ่าๆ พูดยากนะ เงินต่างหากคือสิ่งที่สำคัญน้อยที่สุดสำหรับอู๋ฮ่าวเหริน ดังนั้น ไม่ดีหรอกที่จะซื้อมันด้วยเงิน สถาบันวิจัยของคุณติดต่อเขาอยู่บ่อยๆ คุณก็ต้องมีหนทางสิ”
จาง เป๋าเวินพูดด้วยรอยยิ้ม “อู๋ฮ่าวเหรินมีความตระหนักว่าเขาไม่ต้องการสิ่งใดจากพวกเรา คำขอของเขานั้นง่ายมาก ผมหวังว่าเราจะสามารถส่งช่างยานยนต์บางคนเข้าไปจัดตั้งบริษัทยานยนต์ระดับโลกในจีนได้”
“ง่ายแบบนั้นเลย ไม่ล่ะ ฉันจะส่งช่างที่เรามีไป”
“นายไม่ไช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ฉันคิดว่าส่งคนของเราไปน่าจะเหมาะกว่า จะได้ไม่มีปัญหาเวลาศึกษาเรื่องรถถังกับรถยนต์ไง”
“รถถังกับรถยนต์จะเหมือนกันได้ยังไงล่ะ นายอย่ามาตลกหน่อยเลย ถ้านายส่งคนไปที่อื่นแล้ว ใครจะเรียนเรื่องรถถังล่ะ” อย่างเช่น สถาบันวิจัยยานอวกาศที่มีคนอยู่มาก ดังนั้นเราจึงจะส่งคนออกไปช่วยเขาศึกษาเรื่องรถยนต์
เมื่อเห็นคนพวกนี้ที่ไม่เคยรบกวนคนกำลังให้ความสนใจอยู่นั้น ในตอนนี้ เพื่อที่จะแข่งกันไปศึกษาเรื่องรถยนต์ เขาถึงกับพ่นลมหายใจผ่านเคราก่อนจะจ้องมองออกไป แล้วหัวเราะออกมา
“อย่าทำตัวน่าเกลียดแบบนั้น พวกเขาแค่ต้องการคนที่เป็นช่างมืออาชีพด้านการผลิตยานยนต์ ผมยังไม่เห็นรูปวาดออกแบบรถยนต์ของใครสักคนในข้อมูลเลยนะ แล้วแบบนี้จะให้คนเขาเรียนอะไร”
“จริงอยู่ที่อู๋ฮ่าวเหรินนั้นพร้อมที่จะร่วมมือกันกับเรา ไม่ใช่ปล่อยให้เราไปช่วยเขาสร้างโรงงานรถยนต์ มิฉะนั้นแล้ว พวกเราจะส่งช่างยานยนต์ทหารไปโดยตรงเพื่อนำทีมและอยู่ที่นั่น “ จางกล่าว
“เหลา จาง นายมีความคิดอะไรอีกไหม”
“ก็มีที่คิดไว้อยู่บ้าง นายควรรู้เรื่องเกี่ยวกับวัสดุมายาด้วย ฉันสงสัยว่าเราจะสามารถจัดตั้งสถาบันวิจัยระดับชาติได้ในอำเภอหยุนหลงหรือเมืองหลี่ชู ได้ไหม ถ้าได้ อู๋ฮ่าวเหรินมาช่วยก็จะสามารถดำเนินการเรื่องพวกนี้ได้สำเร็จผ่านทางแรงขับเคลื่อน หรือคุณคิดว่าเราควรศึกษาเรื่องอาวุธด้วยไหม”
เมื่อได้ยินในสิ่งที่ จาง เป๋าเวินกล่าว นี่ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นข้อมูลตรงนี้ ก็คงหัวเราะเยาะเขาแน่ๆ และตอนนี้ พวกเขาต่างรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ดี ใครจะรู้ว่าอู๋ฮ่าวเหรินจะมีเสี้ยวหนึ่งของแรงบันดาลใจและแก้ปัญหาที่ปรากฏขึ้นนี้
“จากนั้น เราจะจัดตั้งสถาบันวิจัยระดับชาติที่คลอบคลุมในทุกด้าน สถาบันทุกแห่งของเราจะส่งคนออกไปเพื่อรอรับพวกเขากลับมา”
“เป็นความคิดที่ดี การวิจัยหุ่นยนต์ของเราก็ก็กำลังจะย้ายในเร็วๆนี้แล้ว “โจ้ว เซว่หองว่าขึ้น
เทคโนโลยีหุ่นยนต์ของพวกเขาในตอนนี้ต้องประสบกับอุปสรรค แต่เทคโนโลยีด้านแรงขับเคลื่อนของอู๋ ฮ่าวเหรินทำให้พวกเขาเห็นถึงความหวังของความก้าวหน้า และพวกเขายังต้องการที่จะแลกเปลี่ยนมุมมองกับอู๋ ฮ่าวเหรินให้มากกว่านี้
ในเวลานี้ ท่านนายพลก็ได้ถามขึ้น “ท่านครับ ท่านคิดว่าในส่วนของกองทัพของเรานั้นจะเอาเรื่องนี้อยู่ไหมครับ หรือท่านต้องการจะถอนกำลังคนออกมาจากสถานที่ต่างๆ”
“อืม ทางกองทัพของท่านจะส่งคนมาและก็จะถอนกำลังคนจากที่อื่นไปบ้าง ในฐานะช่างและสถาบันวิจัย ก็ขึ้นอยู่กับท่านจะตัดสินใจครับ”
สำหรับ อู๋ ฮ่าวเหรินนั้น จางยังคิดว่าพวกเราควรใส่ใจเขาให้เพียงพอเพื่อจะได้ไม่เสียดายทักษะไปโดยเปล่าประโยชน์
———————-
คอมเม้นต์