CF:บทที่ 263 ไม่มียาแก้เสียดายในโลก

มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่รู้สึกเสียดายอย่างหนักขึ้นมาหลังจากที่ได้เป็นคลิปนี้ พวกเขานั้นไม่ได้สงสัยเรื่องของคลิปนี้เลย, พวกเขานั้นมั่นใจมากว่านี่จะต้องเป็นรถที่ผลิตโดยอู๋ฮ่าวเหรินแห่งฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างแน่นอน

ในเวลานี้เอง ที่คนพวกนี้เข้าใจแล้วว่าพวกเขาได้พลาดโอกาสนั้นไปเสียแล้ว และพวกเขาก็ไม่ได้คาดคิดถึงผลลัพท์นี้มาก่อน

ในสถาบันวิจัยนั้น ก็มีชายคนหนึ่งที่มีสีหน้าเศร้าหมองเดินมาพบกับผู้อำนวยการ “ผอ.ครับ ตอนนี้ผมอยากไปที่สถาบันวิจัยนั้นแล้วล่ะครับ พอจะมีหนทางบ้างมั๊ยครับ?”

ผู้อำนวยการมองดูชายคนนั้น แล้วส่ายหัวก็พูดกับเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ไม่ได้หรอก, พวกเราไม่มีที่ว่างเหลือแล้ว, แล้วก็คุณเป็นคนที่แปดแล้วที่เข้ามาถามผมแบบนี้ ตอนที่คุณออกไปก็บอกคนพวกนั้นด้วยนะว่า พวกคุณไม่ต้องเข้ามาแล้ว, ไม่มีตำแหน่งว่างเหลือแล้ว”

“ถ้างั้น, ผอ.ครับ ถ้ามีโควต้าเข้ามาเมื่อไร คุณอย่าลืมบอกผมนะครับ ผมไม่กลัวงานหนักและเหนื่อยแน่นอน และผมก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อสถาบันของพวกเราอย่างแน่นอนครับ”

ผู้อำนวยการส่ายหัวของเขา เขาขอให้ไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง? แต่คนพวกนี้ไม่มีใครต้องการที่จะไป และไม่มีใครสนใจเขาเลยตอนนั้น ในท้ายที่สุดก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องบังคับส่งไปคนไปกลุ่มหนึ่ง

และตอนนี้, หลังจากที่คลิปนี้เผยแพร่ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีเครื่องยนต์และเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วน ซึ่งถูกส่งมาโดยผู้คนที่ไปนั้น คนพวกนี้ก็เริ่มรู้สึกเสียดายแล้ว

ในสถาบันวิจัยนั้น มีกลุ่มคนที่รู้สึกเสียใจและอยากจะตบหน้าตัวเองซักสองที ที่ปล่อยให้โอกาสดีๆหลุดลอยไป

ซึ่งกลุ่มคนที่ได้ไปนั้นต่างก็บอกว่าให้การดูแลดีมาก ยิ่งไปกว่านั้นประธานของฟิวเจอร์กรุ๊ปเองยังแบ่งเงินที่ได้จากการขายชิ้นส่วนของยานยนต์กับสถาบันให้ด้วย

“อย่าเข้าไป ผู้อำนวยการฝากให้ผมมาบอกพวกคุณว่าโควต้าไปที่นั่นหมดแล้ว เปล่าประโยชน์ที่จะเข้าไป”

“ผมรู้สึกเสียดายขึ้นมาตอนที่ผู้อำนวยการมาขอให้ผมไป ทำไมผมถึงไม่ตอบตกลงไปนะ”

“อะไรที่บอกว่าเสียดาย? ฉันน่ะตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แต่ลูกสะใภ้ดันทะเลาะกับฉันที่บ้านนี่สิ เลยอดไปเลย”

“อย่าเสียใจเลยน่า ในเมื่อพวกคุณปล่อยโอกาสนั้นไปแล้ว ก็เปล่าประโยชน์ที่จะมาเสียดาย, รีบทำงานให้เสร็จกันเถอะ พวกเรายังไม่เสร็จงานในส่วนของวันนี้กันเลยนะ”

ผู้คนในสถาบันก็เริ่มทำงานกันด้วยบรรยากาศค่อนข้างอึมครึม

มีหลายสถาบันวิจัยที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ผู้อำนวยการของสถาบันเหล่านี้ต่างก็บอกปัดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ว่าพวกเขานั้นไม่มีอยากไปทั้งนั้น

พอมาตอนนี้ ตอนที่พวกเขารู้เรื่องของเหตการณ์ที่นั่นแล้ว พวกเขาก็มาข้อร้องผู้อำนวยการทีละคนว่าพวกเขาขอย้าย แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะโอกาสนั้นไม่มีแล้ว

ในสถาบันวิจัยร่วมที่ตั้งขึ้นใหม่ในหลี่ชุยนั้น, กลุ่มผู้คนที่อยู่ที่นั่นกำลังมีความสุขมาก โดยเฉพาะเรื่องของข้อมูลที่พวกเขาได้รับมาเมื่อเช้านี้

“ฉันบอกแล้ว,
ตราบเท่าที่มีความสัมพันธ์กับฟิวเจอร์กรุ๊ป ก็เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน ซึ่งในคราวนี้ก็เรียกได้ว่าชนะพนันนั้นแล้ว”

ฮ่าฮ่า, ผมนี่ช่างโชคดีจริงๆ ตอนนั้นเหลือโควต้าอยู่เพียงที่เดียว แต่กลับไม่มีคนอยากไป ฉันมองไปเห็นสีหน้าของผอ.แล้วผมจึงได้ตอบตกลงไป แต่ดูเหมือนว่าตอนนั้นผมจะเข้าใจผิดผู้อำนวยการไป นึกว่าเขาโกรธพวกเราที่ไม่ยอมรักษาโอกาสดีๆไว้

“ตอนนี้พวกคนในสถาบันคงกำลังเสียใจมากหลังจากที่ได้ข่าวนี้ อุปกรณ์พวกนั้นก็น่าจะต้องล้ำสมัยกว่าที่ใช้กันสถาบันแน่นอน ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการวิจัยและผลิตชิ้นส่วนและเครื่องจักรก็น่าจะลำหน้าไปกว่าของพวกยุโรปและอเมริการแล้ว ผมมั่นใจมากเลย”

“ใครบอกว่าไม่ล่ะ? ฉันไม่คิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะสุดยอดถึงขนาดนี้, ผู้ชายคนนั้นเก่งกาจมาก ฉันล่ะอยากรู้จังเลยว่าสมองของเขานั้นเติบโตมายังไง ฉันขอแค่ฉลาดได้ซักครึ่งนึงของเขาก็ยังดี”

“อย่าแม้แต่จะคิดเลย อัจฉริยะแบบนี้ร้อยปีถึงจะโผล่มาซักคนหนึ่ง มันเป็นปีศาจอัจฉริยะ, วันนี้ฉันเห็นคลิปรถคันนั้นแล้ว มันสุดยอดมาก, ผมมั่นใจเลยว่าเครื่องยนต์นั้นจะต้องดีกว่าในข้อมูลที่พวกเราได้มาแน่ๆ”

“ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันมั่นใจว่าพวกเราจะมีโอกาสได้เห็นมันแน่ในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อจะเรียนรู้เทคโนโลยีเหล่านี้อยู่แล้ว”

“…..”

คนพวกนี้มาจากสถาบันต่างๆกัน และเข้าใจดีว่าจุดประสงค์ที่พวกเขามาที่นี่ ก็เพื่อที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีล้ำสมัยของฟิวเจอร์กรุ๊ป และนำมาประยุกต์เพื่อใช้ในการวิจัยของกองทัพ

อีกทางด้านหนึ่ง, เหล่าช่างเทคนิคและคนงานที่มาที่นี่เพื่อผลิตรถยนต์นั้น ซึ่งมีบางคนที่มาโดยสมัครใจ ก็ได้นับถือบูชาอู๋ฮ่าวเหรินมากขึ้นไปอีก ซึ่งทำให้กลายเป็นผู้คลั่งไคล้เลยทีเดียว

มีบางคนที่ถูกบังคับให้ออกมาจากบริษัทเก่า บางคนก็มาจากการจับฉลาก ในเวลานี้ พวกเขานั้นต่างก็ดีใจกระโดดโลดเต้น, พวกเขาคิดว่าชีวิตของพวกเขาจะจบลงแล้ว แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะมาพบกับอนาคตที่สดใสในหมู่บ้านแห่งใหม่, บางทีหมู่บ้านนี้อาจจะดีกว่าหมู่บ้านเก่าเสียอีก

ในตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขานั้นตราบเท่าที่ตั้งใจศึกษาและทำงาน พวกเขาจะต้องกลายเป็นบุคลากรที่มีความสามารถระดับต้นๆแน่นอน

เปรียบเทียบกับพวกเขา ผู้คนที่อยู่ในบริษัทยานยนต์ของกองทัพทั้ง 4 บริษัทยังน่ากังวลกว่า

มีบางคนกำลังคิดหาทางที่จะทำให้ตัวเองย้ายมาด้วยตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ว่า เรื่องนี้ได้ถูกส่งมอบให้เบื้องบนไปแล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคลากรหลังจากที่ถูกส่งไปแล้วได้

ที่กระทรวงเทคโนโลยี, รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีกำลังมองมาที่กลุ่มคนที่กำลังท้อแท้จึงส่ายหัวของเขา, เขาเองนั้นก็เสียดายที่ไม่ยอมรับในอดีต

“ท่านรัฐมนตรีครับ, พวกเรายังมีโอกาสในอนาคตอีกมั๊ยครับ?”

“ก็คงจะมีโอกาสอยู่ เทคโนโลยีของที่นั่นล้ำสมัยกว่าของพวกเรานัก บางทีในอนาคต เบื้องบนอาจจะสั่งให้พวกเรารวมบริษัทยานยนต์เข้าด้วยกัน และเทคโนโลยีใหม่นั้นจะต้องถูกใช้โดยบริษัทยานยนต์ของพวกเราอย่างแน่นอน”

แต่รัฐมนตรีไม่ได้พูดออกไปว่า พวกคนที่ได้ออกไปในคราวนี้นั้น จะกลายมาเป็นหัวหน้าของพวกเขา เมื่อคนพวกนั้นกลับมา

เพราะเขาได้ตั้งใจเรื่องของการดูแลกลุ่มคนพวกนี้ที่จะกลับมาจากการเรียนรู้เทคโนโลยีที่นั่น

เขาเองก็หาทางที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่พวกนั้นเหมือนกัน เพื่อที่จะได้เหนือกว่าคนพวกนั้น มิฉะนั้นแล้ว ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีคงได้เปลี่ยนอย่างแน่นอน

บริษัทยานยนต์ชั้นนำทั้ง 4 บริษัท ต่างก็เริ่มกังวลขึ้นมาในคราวนี้ พวกเขานั้นรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างหนักจากสถานการณ์ในปัจจุบัน

จากข้อมูลที่ได้รับมาพบว่า เทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นล้ำสมัยมาก, ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีเหล่านั้นก็ถูกคิดค้นขึ้นโดยตัวของผู้วิเศษอู๋ฮ่าวเหรินเอง และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับบริษัทต่างชาติ ดังนั้นเขาจึงไม่มีปัญหาเรื่องของสิทธิบัตรในการผลิตรถขึ้นมา

ถ้าพวกเขาต้องการที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ พวกเขาจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เทคโนโลยีล้ำสมัยนี้จากฟิวเจอร์กรุ๊ป, แต่น่าเสียดายที่ ในปัจจุบันเทคโนโลยีเหล่านั้นยังอยู่ในขั้นตอนที่เป็นความลับ จึงยังไม่สามารถให้เทคโนโลยีแก่พวกเขาได้

ตอนนี้พวกเขาจึงอยู่ในภาวะวิกฤติ ตราบเท่าที่ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปยังร่วมมือทางรัฐในเรื่องของบริษัทยานยนต์ ชะตากรรมของพวกเขาก็จะอยู่ในการควบคุมของคนพวกนั้น ไม่สามารถควบคุมด้วยตัวเองได้อีก

แน่นอนว่า มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเองที่อยู่ในบรราดาคนที่เสียดายในครั้งนี้ ซึ่งพวกเขานั้นพลาดโอกาสดีไปเสียแล้ว

บางคนก็เริ่มที่จะหาทางดูว่าพวกเขาจะสามารถโยกย้ายตัวเองได้หรือไม่

เมื่อคลิปนั้นได้ถูกเผยแพร่ข้ามประเทศออกไป บางประเทศและบริษัทต่างก็เริ่มทำการวิเคราะห์รถที่อยู่ในคลิปนี้

หนึ่งคือสามารถขับรถได้ด้วยความเร็วสูงในสถานที่แบบนั้นได้อย่างไร ซึ่งค่อนข้างไม่เป็นวิทยาศาสตร์, อู๋ฮ่าวเหรินเป็นคนขับ หรือว่ามีนักขับที่มีพรสวรรค์เป็นคนขับกันแน่?

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของระบบเบรคของรถอีก พวกเขานั้นทึ่งกับระบบนี้มาก คนพวกนี้พอจะรู้รถสามารถหยุดกะทันหันได้ด้วยทฤษฎีอะไร และพวกเขาต่างก็เหลือเชื่อมากว่ารถนั้นจะสามารถใช้เทคโนโลยีแบบนี้ได้

จุดสำคัญคือมันจะต้องมีเครื่องยนต์ที่สามารถส่งพลังได้เพียงพอและการดูแลพิเศษที่จำเป็นสำหรับรถ ในปัจจุบัน ในบรรดาเทคโนโลยีต่างๆที่พวกเขาชำนาญ ซึ่งพวกเขาได้วิจัยด้านนี้มายาวนาน แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีใครเลยที่จะสามารถทำได้แบบในคลิปนี้

ดังนั้นพวกเขาจึงอยากที่จะรู้ว่าเทคโนโลยีด้านยานยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น ได้วิจัยกันไปถึงขั้นไหนแล้ว? ถ้าเป็นไปได้, พวกเขาเองก็อยากที่จะได้เทคโนโลยีการผลิตรถของฟิวเจอร์กรุ๊ปเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีเครื่องยนต์
——————-