อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 269
CF:บทที่ 269 แก้ไขให้ถูกต้อง
มองดูรัฐมนตรีเกิ่งและจื่อหยงที่เข้ามา ชายคนที่กำลังพูดอยู่นั้นก็ยกมือของเขาขึ้นมาด้วยความกระดากอาย
“มันเป็นคุณใช่มั๊ยที่พูดเมื่อกี้? ดี, ในเมื่อคุณบอกจะรับผิดชอบเรื่องนี้ ผมก็จะตอบสนองความต้องการให้คุณเอง, จื่อหยงไปตามรปภ.ข้างนอกมา ผมจะตรวจทั้งบริษัทนี้”
ในตอนนี้มีบางคนที่ยังไม่รู้เขาคือรัฐมนตรีเกิ่ง, แต่พวกเขาก็รู้สึกถึงความมีอำนาจได้จากท่าทีของเขา
รัฐมนตรีเกิ่งนั้นถึงจะเป็นรัฐมนตรี แต่ก็ทำงานอยู่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ และงานของเขามุ่งเน้นไปที่การจัดการผู้ที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ จึงเป็นเรื่องที่แน่นอนที่เขาย่อมจะมีอำนาจและความน่าเกรงขามมากกว่ารัฐมนตรีทั่วไป
ผู้คนที่อยู่ในห้องประชุมในตอนนี้นั้น พวกเขารู้สึกได้ว่ากำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ๆ
ครึ่งชม.ต่อมา, ผานเจี๋ยหมิง ผู้ว่าเมืองหลี่ฉุยที่เดินทางมาพร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่, ซึ่งในตอนนี้ในห้องโถงของบริษัท เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวินัยกำลังตรวจสอบเรื่องต่างๆในบริษัทอยู่
เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนถูกพาตัวออกไป แน่นอนว่ารวมถึงคนที่บอกว่าจะรับผิดชอบด้วย
“ท่านรัฐมนตรีเกิ่งครับ ทำไมคุณถึงได้เดินทางมาที่หลี่ฉุยด้วยตัวคุณเองงั้นเหรอครับ?”
ผานเจี๋ยหมิงมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องโถง ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เพราะบริษัทนี้จัดการโดยคนจากเบื้องบน ไม่ใช่การจัดการดูแลโดยหลี่ฉุย
“ผมมาที่นี่เพื่อมาพบกับประธานบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปน่ะ ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้เข้า, ผู้ว่าผานครับ ถึงแม้บริษัทนี้จะไม่ได้อยู่ในอำนาจขอบเขตของหลี่ฉุย แต่ในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองท้องถิ่น คุณเองก็ต้องมาดูแลด้วย และถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาอีก คุณจะต้องรายงานให้ผมทราบทันที”
ผานเจี๋ยหมิงถึงกับพูดอะไรไม่ออก เขานั้นเหมือนถูกจับกดนอนกับพื้นแล้วยิงทิ้ง เขานั้นจะต้องเข้ามาดูแลที่นี่ โดยไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย
“ได้ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ เรื่องในครั้งนี้เป็นความผิดของพวกเราด้วย รัฐมนตรีเกิ่งขอให้วางใจครับ พวกเราจะเข้มงวดเรื่องของบริษัทนี้ในอนาคตครับ”
ในเวลานี้เองที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวินัยได้เดินมาหาและพูดขึ้น “ท่านรัฐมนตรีเกิ่งครับ นี่คือรายงานสถานการณ์ที่พวกเราตรวจสอบได้ครับ มีเจ้าหน้าที่จากเบื้องบนบางคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ”
รัฐมนตรีเกิ่งอ่านเอกสารการตรวจของพวกเขา ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด และคิดว่าเป็นไปตามที่หัวหน้าหน่วยตรวจสอบวินัยว่าไว้ไม่ผิด เขาจึงพูดกลับไป “นำตัวพวกเขาไปไว้ที่สถานีตำรวจ บอกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวินัยทุกคนว่าให้ดำเนินการเรื่องนี้ไปตามกฏหมาย, สำหรับพวกคนที่รับสินบนให้เขาตรวจสอบทุกคนไม่มีการยกเว้น ให้ทำการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน แล้วจับกุมพวกเขา”
เนื่องจากต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้, จึงทำให้รัฐมนตรีเกิ่งนั้นไม่สามารถไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้และทำการตรวจสอบดูแลคนพวกนี้ตลอดทั้งวัน
เมื่อเขารายงานเรื่องนี้ไปยังท่านผู้นำ ซึ่งเรื่องนี้นั้นทำให้ทางเบื้องบนนั้นตกใจมาก พวกเขานั้นให้ความสำคัญอย่างมากกับเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ป ซึ่งพวกเขาก็ได้เน้นย้ำเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังเกิดปัญหาขึ้นมาจนได้
และผลของ ก็ได้ทำให้เรื่องนี้ขยายวงกว้างออกไป เหล่ารัฐมนตรีกระทรวงต่างๆก็ได้สั่งตรวจสอบทุกแผนก จะต้องไม่มีใครหลุดรอดออกไป
“ตาเฒ่าหยู, เรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?”
เจ้าหน้าที่บางคนได้สุมหัวกันเพื่อพูดคุยกันเรื่องผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้นที่บริษัทยานยนต์
“ตาเฒ่าเว่ยโดนไปแล้ว ฉันได้ยินมาว่าเขานั้นยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เทคโนโลยีรั่วไหลออกไปด้วย ซึ่งมีภัยต่อความมั่นคงของชาติและอื่นๆอีก”
“ดูเหมือนการเข้าตรวจสอบครั้งนี้จะไม่มีการประนีประนอมเลยนะ ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่พวกคนที่อยู่ก่อนบางคนก็โดนหางเลขไปด้วย”
“ก็นะ คราวก่อน, ดูเหมือนจะมีคนที่ใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากฟิวเจอร์กรุ๊ปคนพวกนั้นก็โดนเข้าตรวจสอบทันที, ดูเหมือนว่าถ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือล่วงเกินอะไรกับฟิวเจอร์กรุ๊ป ก็เรียกได้ว่าจบสิ้นแล้ว”
มีชายคนหนึ่งได้พูดกระซิบกระซาบมา “ผมได้ยินมาว่าเก๋อซานเฝิงและพรรคพวกไม่ได้หลบหนีล่ะ พวกเขายอมรับผิดเพื่อที่จะได้ลดโทษน่ะ ส่วนผู้คนที่ได้บรรจุเข้าบริษัทในครั้งนี้จะต้องถูกสอบสวนโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเพื่อดูว่าพวกเขานั้นรู้ความลับของทางรัฐบาลมากแค่ไหน”
เดิมที่, เจ้าหน้าที่พวกนี้ได้ถูกย้ายมาเพื่อดูแลบริษัทยานยนต์ มีผู้คนมากมายที่ตอนแรกก็ดูยินดี และตอนนี้พวกเขารู้สึกถึงอันตรายของงานนี้แล้ว
แต่ทว่า, พวกช่างเทคนิคต่างก็ดูมีความสุขกันดี หลังจากที่คนพวกนั้นถูกจับไปแล้ว พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาถ่วงแข้งถ่วงขาพวกเขาแล้ว
อย่างน้อย, พวกเขาก็ไม่ต้องมาทนฟังคำสั่งของพวกคนที่มาสั่งกันแบบมั่วๆ และแถมยังมีที่ว่างให้เลื่อนขั้นอีกด้วย ตราบเท่าที่เทคโนโลยีนี้ดีจริง พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้เลื่อนขั้น
ในหนึ่งวัน ทั้งบริษัทยานยนต์ก็ได้เปลี่ยนไป ซึ่งผลของการแก้ไขในครั้งนี้มีแสดงให้เห็นแทบจะทันที เมื่อผีและปีศาจทั้งหมดถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว จึงไม่มีใครที่คิดกล้าจะมายุ่มย่ามกับบริษัทนี้อีก
อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัวหลังจากที่เขาได้รู้เรื่องของสถานการณ์นี้เข้า ซึ่งเขานั้นคิดอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเร็วถึงขนาดนี้
ในห้องประชุมของบริษัท, อู๋ฮ่าวเหรินได้เจอกับรัฐมนตรีของกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเขานั้นรู้สึกได้ถึงความใจดีและไม่คิดว่าเขานั้นจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจมากถึงขนาดนั้น
แน่นอนว่า มันเป็นเพราะรัฐมนตรีเกิ่งไม่ได้ใช้บรรยากาศแบบเจ้าหน้าที่เลย การที่เขานั้นมาหาอู๋ฮ่าวเหรินในครั้งนี้เขารู้ดีว่าเขาควรจะใช้บุคลิกแบบไหน
“ท่านรัฐมนตรีเกิ่งมาที่นี่เพื่อเจรจาเรื่องของเทคโนโลยีที่ติดตั้งบนดาวเทียวอย่างงั้นสินะครับ”
“ในทางเทคนิคแล้วก็คงต้องบอกว่าใช่, แต่ผมมาที่นี่ก็เพื่อพบกับคุณและขอบคุณที่คุณช่วยเหลือประเทศมาโดยตลอด แล้วก็ท่านผู้นำได้บอกให้ผมนำของขวัญชิ้นนี้มามอบให้แก่คุณ”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่คาดคิดว่าท่านผู้นำคนนั้นจะมอบของขวัญให้แก่เขา
“ฝากขอบคุณไปยังท่านผู้นำด้วยนะครับ, แล้วก็เรื่องของเทคโนโลยีอันนั้นทางรัฐจะเอาไปใช้ก็ได้นะครับ แต่พวกคุณจะต้องช่วยผมปล่อยดาวเทียมด้วย”
“ไม่มีปัญหา ในตอนที่ผมกำลังจะเดินทางมาที่นี่, ท่านผู้นำเองก็ได้กำชับว่าถ้าหากคุณต้องการ คุณจะยืมใช้ดาวเทียมเป่ยโตวของประเทศก็ได้ครับ”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะใจปล้ำกันได้ถึงขนาดนั้น ที่พวกเขายอมให้เขาใช้ดาวเทียมเป่ยโตวได้, แต่ทว่าดาวเทียมเป่ยโตวนั้นไม่ตรงตามที่เขาต้องการ
เขาตั้งใจที่จะติดตั้งอุปกรณ์ A.I. ลงไปบนดาวเทียม, และจากนั้นก็ให้ A.I. สร้างเครือข่ายทางอากาศขึ้นมาเพื่อใช้กับรถบินได้ในอนาคต
นี่อาจจะเป็นระบบเครื่องข่ายนำแสงอันแรกของมนุษยชาติ แต่ก็เป็นจุดเริ่มของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่กำลังจะตามมาในอนาคต
เมื่อรัฐมนตรีเกิ่งได้เห็นแบบแปลนดาวเทียมของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว เขาก็ประหลาดใจมากที่อู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้เตรียมวางแผนที่จะจับตาดูทั่วทั้งโลกด้วยดาวเทียม
ถ้าเทคโนโลยีอันนี้เกิดถูกใช้ในทางทหาร นั่นก็หมายความว่าเขาจะสามารถจับตาดูทุกฝีก้าวของประเทศต่างๆได้
แต่จริงๆแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น ถ้ารถทุกคนติดตั้งระบบ A.I. แล้วจากนั้นก็เชื่อมต่อเข้าระบบของรถพวกนี้เข้าด้วยกัน
ระบบ A.I. ก็จะสามารถตัดสินใจจากสถานการ์บนท้องถนนได้จากตำแหน่งของรถแต่ละคันที่อยู่ในฐานข้อมูลเหล่านี้
ในกรณีนี้จะช่วยให้ระบบไร้คนขับสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ระบบ A.I. ไม่สามารถตัดสินใจได้
ซึ่งถ้าเราสามารถทำได้ถึงระดับนั้น พวกเราก็จะประสบผลสำเร็จในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนลงได้ในอนาคต
แน่นอนว่า ในอนาคตนั้นพวกเขาใช้สมองกลของแต่ละคนทำงานร่วมกับสมองกลของสหพันธ์ แต่ทว่ารถพวกนั้นก็สุดยอดมากๆอยู่แล้ว
ลองนึกภาพดูว่ารถทุกคันที่อยู่บนถนนอยู่ในภายใต้การควบคุมดูแลตลอดเวลา, เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับรถแต่ละคัน ข้อมูลเหล่านั้นก็จะถูกส่งไปเก็บไว้ในระบบสมองกล
เช่น ถ้าเกิดมีอุบัติเหตุขึ้นที่รถคันหน้า และรถคันที่ตามก็จะได้รับข้อมูลจากสมองกล จากในกรณี้ อุบัติเหตุที่เกิดจากการชนตามกันก็จะไม่เกิดขึ้น
เพื่อที่จะให้การแก้ปัญหาด้านการจราจรแบบนี้แสดงผล ก่อนอื่นเลยเขาจะต้องแก้ปัญหาเรื่องของการส่งข้อมูลด้วยดาวเทียมเสียก่อน
แล้วจากนั้น พวกรถก็จะต้องติดตั้งระบบไร้คนขับด้วย และในท้ายที่สุด ระบบนี้ก็จะต้องเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายของบริษัทยานยนต์ใหญ่ๆด้วย
อู๋ฮ่าวเหรินต้องการที่จะทำเรื่องนี้ให้ทำเร็จ แต่ปัญหาคือเขาจะแก้ปัญหาเรื่องที่จะให้รถทุกคนติดตั้งระบบนี้ได้อย่างไรนี่สิ
———————-
คอมเม้นต์