อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 272

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 272 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF:บทที่ 272 หายสาบสูญ

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้รู้เลยว่าหลุมแรกที่เขาขุดเอาไว้ในแปลนเครื่องยนต์นั้นพวกอเมริกาได้โดนเข้าไปแล้ว, และตอนนี้คนพวกนั้นก็กำลังจะโดดลงหลุมที่สองต่อ

 

หลังจากที่หารือเรื่องรถกับจื่อหยงเสร็จแล้ว, ฉันก็ได้ไปหารือกับจี้ในห้องแล็บเรื่องของแผนงานบนเกาะต่อ ก่อนที่จะกลับบ้าน

 

ช่วงเดือนนี้, ที่บ้านของเขาค่อนข้างจะวุ่นวาย, เหตุผลหลักๆเพราะว่าน้องสาวของเขาปิดเทอมแล้ว และทันทีที่เขากลับมาถึงบ้าน, ทั้งสามคนก็ใช้ให้เขาไปเอาผลไม้แสนอร่อยออกมาจากห้องเรือนกระจก

 

ในช่วงนี้, อู๋ฮ่าวเหรินได้เจอบทเพลงบางอย่างในยุคอวกาศอนาคต และได้นำกลับมาลองให้หลิงเมิ่งเสวี่ยหัดร้องดู, แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถจำบทเพลงได้ และเธอก็กำลังทำอย่างอื่นอยู่ขณะที่กำลังร้องเพลง

 

เมื่อพบว่าทำไม่ได้, เขาจึงส่ายหัวแต่เขาก็รวบรวมสิ่งที่เกี่ยวข้องกับดนตรีในโลกอนาคตไว้มากมาย

มีเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีที่เขาฉกมาจากพวกคนในระบบซองแดงมามากกว่า 40 ชนิด

 

อู๋ฮ่าวเหรินเองก็ได้ฉกรถบินมาจากเจ้าแห่งรถบิน ถึงแม้ของที่เขาให้มานั้นจะถูกเรียกว่าเป็นของเก่า, แต่แน่นอนว่ามันเป็นของเก่าในโลกอนาคต แต่สำหรับในโลกยุคปัจจุบันแล้ มันคือสุดยอดรถที่ยอดเยี่ยมกว่าเครื่องบินเสียอีก

 

แต่น่าเสียดาย, ที่เขานั้นไม่กล้าที่จะหยิบของออกมาจากซองแดงมากเท่าใดนัก ถ้าเกิดมีใครรู้เข้า จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้

 

แล้วก็เรื่องของแผนการก่อสร้างชั้นใต้ทะเลของเกาะนั้น, แปดหนวดก็ได้ให้ของดีแก่เขามาหลายอย่าง เช่นแสงไฟ และเทคโนโลยีขุดเจาะใต้น้ำ รวมถึงอาวุธจู่โจมใต้น้ำ

 

ในตอนค่ำ, เมื่ออู๋ฮ่าวเหรินเข้ามายังระบบซองแดง แล้วเขาก็ได้เห็นรายการข้อมูลของระบบซองแดง, มองดูสิ่งของในระบบซองแดงที่อยู่เหนือเลเวล 3 ขึ้นไป ก็ได้แต่ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินน้ำลายสอเท่านั้น

 

จากการเพิ่มจำนวนผู้คนในกลุ่ม ทำให้มีคนที่เลเวลสูงกว่ามากขึ้นกว่าแต่ก่อน

 

ซึ่งคนในกลุ่มนี้นั้นจะฉกกันแต่ซองแดงที่เลเวลสูงกว่านั้น โดยเฉพาะเลเวลที่สูงกว่า 3 ขึ้นไป ทั้งนี้ก็เพื่อเลี่ยงไม่ให้อู๋ฮ่าวเหรินถูกฉกซองแดงไป

 

เพราะเลเวลของเขาตอนนี้อยู่แค่เลเวล 3, ส่วนซองแดงที่อยู่เหนือกว่าเลเวล 3 ไป เขาทำได้แค่มองเท่านั้น ไม่สามารถที่จะฉกได้

 

ทั้งนี้, ก็เพื่อผลประโยชน์ของคนในกลุ่มนี้ คนพวกนั้นต้องการให้เขานั้นเลเวลอัพและเพิ่มกลุ่มได้มากขึ้น ตราบเท่าที่เป็นซองแดง ไม่ว่าเขาจะต้องการหรือไม่ เขาก็ต้องฉกมันให้ได้

 

เขานั้นได้รวบรวมเหรียญพลังงานมาได้ครึ่งหนึ่งสำหรับที่ใช้อัพจากเลเวล 3 ขึ้นไปเลเวล 4, ซึ่งนั่นทำให้ของเก่าที่อู๋ฮ่าวเหรินมีในครอบครองนั้นถูกใช้ไปหมดอย่างรวดเร็ว

 

เขานั้นจำเป็นต้องหาของที่มีลักษณะเด่นเฉพาะมาเก็บไว้ เพราะติดปัญหาที่ค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาเป็นจำนวนมากนั้นมีค่าไม่สูงมากนั้น

 

เช่นแจกันทำมือในยุคปัจจุบัน,

ในตอนแรกนั้น, มันมีมูลค่าถึง 10,000 เหรียญพลังงาน, แต่พอมีจำนวนมากเข้า ราคาของมันก็ตกลงมาจนเหลือแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญพลังงานเท่านั้น, แม้แต่กลุ่มของเก่าเอง ก็ไม่มีใครอยากได้แจกันใบนั้นแล้ว

 

จากที่กลุ่มของคนชอบของเก่าว่ามานั้น, ถึงแม้ว่าจะเป็นของเก่าก็จริงอยู่ แต่มันก็จะไม่มีค่าอะไรเลยถ้ามันไม่มีเอกลักษณ์อะไรเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่าของทำมือในโลกอนาคตนั้นมันก็ดีกว่าแจกันในโลกยุคปัจจุบันเสียอีก

 

เรื่องนี้ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจว่า การคิดจะเพิ่มราคาสิ่งของด้วยการผลิตออกมาเป็นจำนวนมากนั้น จะทำให้มันสูญคุณค่าของการเป็นของโบราณไป เหมือนเอากำแพงธรรมดาๆ แล้วไปขุดมาแล้วขายบอกว่าเป็นของเก่า

 

ในขณะที่อู๋ฮ่าวเหรินมองดูบันทึกข้อความแชทคนพวกนี้ผ่านๆอยู่นั้น, แล้วเขาก็พบกับข่าวที่เขาสนใจขึ้นมา

 

“ขอโทษนะครับ, เกิดอะไรขึ้นกับการหายไปของอารยธรรมพาลอสงั้นเหรอครับ?”

 

มีคนที่ใช้ชื่อว่าทรีทตอบกลับมา “ยังไม่แน่ชัดนะ แต่อาจเป็นเพราะพวกเขาใช้เทคโนโลยีข้ามอวกาศอีกก็ได้, พวกเขาอาจจะออกจากจักรวาลของสหพันธรัฐ แล้วไปยังจักรวาลอื่นที่ไม่มีใครรู้จักก็ได้ เพราะพวกเขานั้นกำลังศึกษาเรื่องของเทคโนโลยียานข้ามกาล-อวกาศกันอยู่”

 

“ฉันได้ยินมาก่อนหน้านี้ว่ามีมนุษย์โลกที่ชื่อหลิงหยิ่งได้ขโมยเอาสมบัติจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไป และเพื่อเป็นการเอาคืน, พวกเขาจึงคิดใช้เทคโนโลยีเทคโนโลก้าวข้ามกาล-อวกาศก็ได้” คนจากอารยธรรมอื่นพูดขึ้นมาบ้าง

 

“เหลวไหลน่า, ถึงเรื่องการข้ามกาลเวลามันถูกยืนยันว่าเป็นไปได้ก็จริง แต่มันก็ยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ, มันจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ”

 

“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น, แต่เรื่องที่พวกเขาหายสาบสูญไปนั้นก็เป็นเรื่องจริง ไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรเลยทุกดวงดาวในเขตของอารยธรรมพาลอส, ดาวทุกดวงนั้นเหมือนกับผ่านสงครามครั้งใหญ่มาเลย ทั้งหมดถูกทำลาย”

 

“คงได้แต่ต้องรอผลจากการตรวจสอบเท่านั้น พวกอารยธรรมชั้นสูงในสหพันธรัฐแห่งจักรวาลนั้นกำลังเข้าสอบสวนเรื่องราวในครั้งนี้อยู่, แล้วก็ได้ยินมาด้วยว่าคนจากอารยธรรมมนุษย์ของพวกคุณที่หลิงหยิ่งก็ได้หายสาบสูญไปด้วยเช่นกัน พวกคุณทราบกันบ้างไหม?”

 

อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับช็อคไปชั่วขณะ, การที่หลิงหยิ่งหายสาบสูญไปนั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่? สิ่งที่เขาเดาไว้มันผิดอย่างงั้นเหรอ?

 

“เจ้าแห่งเรดาร์(มิสเตอร์เรดาร์)​, ออกมาหน่อย, มีใครช่วยผมติดต่อกับเจ้าแห่งเรดาร์ได้บ้าง? คนๆนั้นน่าจะรู้ข่าวของหลิงหยิ่ง, ผมอยากจะรู้ว่าเธอนั้นหายสาบสูญไปจริงๆรึเปล่า?” อู๋ฮ่าวเหรินพูดถามอย่างรีบร้อน

 

หลังจากนั้นสักพัก, ฉันก็ได้เห็นเจ้าแห่งเรดาร์พิมพ์ตอบกลับมา “หายไปแล้วจริงๆ และมันน่าแปลกมากที่เธอหายตัวไปในอารยธรรมวิญญาณ, ในตอนนี้ท่านเทพสงครามกำลังพยายามติดต่อไปหาอารยธรรมวิญญาณอยู่ แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

หายสาบสูญไปแล้วจริงๆ, อู๋ฮ่าวเหรินไม่อยากที่จะเชื่อ

 

“แต่ทว่า, เรื่องของการหายตัวไปนั้น มันน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของพวกอารยธรรมพาลอสแน่ๆ”

 

ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนี้ ทั้งสมองกลและพ่อค้าพลังงานไม่ค่อยได้ออนไลน์ระบบซองแดง, อาจจะเป็นเพราะข่าวนี้ก็ได้

 

“มันเป็นเรื่องจริงสินะ ที่เทพธิดาหายสาบสูญไป, บ้าชิบ สงสัยฉันคงจะต้องหาทางไปที่อารยธรรมพาลอสทีหลังซะแล้ว

 

“พาข้าไปด้วย, ข้าไปฉีกแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันให้เป็นชิ้นๆ”

 

“เอาเทพธิดาของฉันคืนมาาา!”

 

“…..”

 

มองดูข้อความของคนในกลุ่มที่ขึ้นมาบนหน้าจอ, ดูเหมือนว่าข่าวนี้น่าจะเป็นจริง, ถึงแม้ว่าตอนแรกยังไม่มีการยืนยันอะไร, แต่ตอนนี้เจ้าแห่งเรดาร์ได้ออกมายืนยันข่าวนี้แล้ว

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดว่าอยู่สักพักและจึงได้ถามเจ้าแห่งเรดาร์กลับไป “คุณพอจะมีวิธีติดต่อเทพสงครามให้ผมได้บ้างไหม? ผมมีเรื่องที่อยากจะถามเขาอยู่”

 

“ได้, แต่ขอผมคิดวิธีก่อนนะ, เพราะตอนนี้ผมไม่สามารถติดต่อกับเขาได้เลย, ได้ยินมาว่าเทพสงครามได้ออกเดินทางไปยังเขตดาวอารยธรรมพาลอสแล้ว”

 

จากคำตอบของเจ้าแห่งเรดาร์ ทำให้อู๋ฮ่าวเหรินผิดหวังเล็กน้อย, เขานั้นต้องการที่จะรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเทพสงครามในตอนที่เขาถูกโจมตีเมื่อ 20 ปีก่อนกันแน่

 

และตอนนี้หลิงหยิ่งก็ได้หายสาบสูญไปอีก, ทำให้เงื่อนงำอันนี้หายไป อารยธรรมพาลอสก็หายสาบสูญไปด้วย หนทางเดียวที่อู๋ฮ่าวเหรินจะสามารถขจัดความสงสัยของเขาเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของระบบซองแดงของเขานั้น อยู่กับเทพสงครามแล้ว

 

ปราศจากคำตอบ, อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่มีอารมณ์ที่จะฉกซองแดงอีก เขาจึงได้ปิดระบบซองแดงและถอนตัวออกมา

 

เขาจึงเริ่มที่จะหาอ่านประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติจากฐานข้อมูลของจี้

 

แต่ทว่า, ประวัติศาสตร์เหล่านี้ก็ยังไม่สมบูรณ์ดี” เพราะมีอยู่หลายจุดที่ถูกทำลายไปในช่วงยุคมืดของมนุษยชาติ

 

แม้แต่โลกก็ยังเกือบถูกทำลาย, และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมหลายสิ่งหลายอย่างและประวัติศาสตร์ถูกลืมหายไปตามกระแสกาลเวลา

 

“จี้, นายคิดว่ามันจะมีคำตอบอะไรบ้างไหม ถ้าฉันสามารถหาประวัติศาสตร์ที่ถูกฝังไปได้?”

 

“จากสถานการณ์ไม่สามารถทำการตัดสินได้, แต่ทว่าจากประวัติศาสตร์นั้น มีคำถามที่น่าสงสัยหลายอย่างที่ยังไม่พบคำตอบ”

 

“โอ้, คำถามอะไรรึ?” อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้าง เขานั้นพูดออกไปตามสัญชาตญาณ ซึ่งมันน่าจะเกี่ยวของอะไรกับคำถามที่เขากำลังคิดอยู่ในตอนนี้เป็นแน่

 

“ศัตรู, ศัตรูของมนุษยชาตินั้นแปลกมาก, พวกเขานั้นดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่เป็นแรงจูงให้พวกเขานั้นคิดจะทำลายล้างมนุษย์ค่ะ”

 

เมื่อได้ยินที่จี้พูดออก, อู๋ฮ่าวเหรินก็รีบอ่านบันทึกประวัติศาสตร์ช่วงนั้นทันที, ซึ่งก็เป็นไปตามที่จี้ว่ามา

 

มันชัดเจนตามที่ว่ามา การปรากฏตัวของศัตรูพวกนั้นไม่มีมูลเหตุอะไรเลย, ราวกับว่าเป็นอารยธรรมที่โผล่มาเพื่อพยายามฆ่าล้างมนุษย์ให้หมดไปเท่านั้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น, พวกเขาก็เกือบจะทำได้สำเร็จเสียด้วย, ถ้าไม่ใช่เพราะพันธมิตรของมนุษยชาติในจักรวาลในโผล่มาช่วยไว้ บางที่อารยธรรมมนุษย์อาจจะได้สูญสิ้นไปจากจักรวาลแล้วก็ได้

 

อู๋ฮ่าวเหรินก็พบว่าพวกตัวเลือดเองที่มาสู้กับอารยธรรมมนุษย์นั้น จู่ๆก็โผล่มาแบบไม่มีเหตุผลเช่นกัน เหมือนอยู่ดีๆพวกเขาก็โผล่มาและประกาศสงครามกับอารยธรรมมนุษย์

 

ซึ่งเรื่องนี้มันแปลกเสียจนทำให้อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกสับสน, เขารู้สึกว่าเหมือนใกล้จะได้คำตอบแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามันคืออะไร?

———————–

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด