อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 288

อ่านนิยายจีนเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ตอนที่ 288 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

CF-บทที่ 288 ความอิจฉาของชาวต่างชาติ

 

เมื่อข่าวนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป, ก็มีหลายต่อหลายคนที่ได้รับทราบข่าวนี้มากขึ้นเรื่อย, ซึ่งหลายคนก็รู้สึกไม่คาดฝันว่าโรคมะเร็งนั้นสามารถรักษาใต้

 

ทั้ง Wechat, Weibo, Facebook รวมถึงพาดหัวข่าวใหญ่ของสือใหญ่ต่างๆก็พากันรายงานข่าวนี้

 

เดิมที่, พาดหัวข่าวใหญ่ของสื่อต่างๆจะต้องเป็นข่าวเรื่องของเรือดําน้ำญี่ปนถูกจมโดยอเมริกา, แต่จนกระทั่งมีข่าวที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ประกาศออกมา, พาดหัวข่าวใหญ่ก็รีบถูกเปลี่ยนในทันที

 

ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศ, แน่นอนว่าข่าวนี้ได้แพร่สะพัดออกไปต่างประเทศด้วย, ด้วยระบบการทําการที่สุดยอดของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบําบัด บวกกับข่าวของฟิวเจอร์กรุ๊ปที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทําให้เกือบทุกประเทศในโลกต่างก็ต้องเคยได้ยินชื่อของบริษัทจีนบริษัทนี้

 

สําหรับผู้ที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง, ต่างก็มาดูข่าวนี้อย่างใจจดใจจ่อ และรู้สึกได้ถึงพลังเทคโนโลยีที่สุดยอดของฟิวเจอร์กรุ๊ป, และจะได้เลิกกังวลว่าจะเป็นโรคมะเร็งในอนาคต

 

และสําหรับผู้ที่ปวยเป็นโรคมะเร็งและไม่สามารถที่จะรักษาได้และได้แต่รอความตาย, ข่าวนี้ก็ได้ให้ความหวังกับพวกเขา, ความหวังที่จะมีชีวิตรอด

 

ใน 4 ชั่วโมงต่อมา, จํานวนผู้ขอเข้าร่วมการทดลองนั้นได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่มีอยู่ 10,000 คนใน 5 นาทีแรกได้พุ่งขึ้นจนไปถึงเกือบ 1 ล้านคนแล้วในตอนนี้, ซึ่งเป็นจํานวนที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ในส่วนของหมวดการแพทย์ในฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, ต่างก็มีคนโพสท์เข้ามาถามถึงยายับยั้งโรคมะเร็งถึง 2 ล้านโพสท์

 

ซึ่งมีผู้ป่วยโรคมะเร็งบางรายที่ยินดีที่จะหาถึงที่อําเภอหยุนหลง

 

ความหวัง, ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้มอบความหวังที่จะได้มีชีวิตอยู่ให้กับพวกเขา, รวมถึงได้จุดไฟแห่งความตั้งใจที่จะมีชีวิตรอดต่อไปด้วย

 

ผู้ปวยโรคมะเร็งในประเทศนั้นต่างก็ได้เห็นความหวัง, ในขณะที่ผู้ปวยโรคมะเร็งนอกประเทศต่างก็พากันกระตือรือรั้นเป็นอย่างมาก

 

พวกเขานั้นพบว่าในเวลานี้, ผู้เข้ารับการทดลองนั้น คัดเลือกเอาแต่คนในประเทศจีนก่อน และยายับยั้งโรคมะเร็งนั้นก็ให้ความสําคัญกับประเทศจีนก่อนเช่นกัน

 

ในเฟซบุ๊ค ได้มีกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อหวังว่าทางฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะเปิดให้มีการซื้อขายยาให้ในต่างประเทศบ้าง, พวกเขานั้นไม่มีความสงสัยอะไรเลยว่า ยาที่ผลิตโดยบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะใช้ได้ผลหรือไม่ก็ตาม

 

แน่นอนว่ามีคําถามเกี่ยวความสามารถในการรักษาโรคมะเร็งอยู่บ้าง, ซึ่งเทคโนโลยพวกนี้ยังอยู่อยู่ขั้นตอนการทดลอง, แต่ทําไมทางฟิวเจอร์กรุ๊ปถึงได้ประกาศว่าพวกเขานั้นมีเทคโนโลยีที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้แล้วกันนะ

 

ผู้ปวยโรคมะเร็งนอกประเทศนั้นเมื่อเห็นว่าแผนนี้น่าจะไม่ได้ผล, พวกเขาจึงได้เปลี่ยนวิธีการ และเริ่มติดต่อไปยังรัฐบาลเพื่อให้ช่วยแก้ไข

 

เมื่อทางรัฐบาลได้เห็นผู้ป่วยโรคมะเร็งจํานวนมากมายพากันมาขวางประตูเข้าออก พวกเขาก็ได้รับแจ้งไปยังเหล่าผู้นํา, และผลก็คือเหล่าพวกผู้นําประเทศต่างก็ได้โทรศัพท์ไปหาประเทศจีนเพื่อขอให้ทางการจีนไปขอร้องให้เปิดการสั่งซื้อสําหรับคนนอกประเทศได้

 

แต่ทว่า, เมื่อเรื่องนี้ได้รับทราบมาถึงหูของกระทรวงสาธารณะสุข, พวกเขานั้นเขาใจถึงความยุ่งยากในการผลิตตัวยานี้ดี จึงได้ปฏิเสธคําขอนี้ไป

 

ทางจีนเองก็กําลังประสบกับปัญหาเรื่องของมะเร็งเช่นกัน มีจํานวนผู้ปวยโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้นเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่กดดันกับระบบของสาธารณะสุขเป็นอย่างมาก

 

ถ้าพวกเราไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ แรงกดดันก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ซึ่งมันอาจจะทําให้ระบบการรักษาถึงกับล่มไปได้เลย

 

ในตอนนี้ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นได้คิดค้นเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาแล้ว ซึ่งมันได้ช่วยแก้ไขปัญหาใหญ่นี้ของประเทศ, หลังจากที่ได้ทราบถึงการร้องขอมาจากฉินซ่งหลิงแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งช่างเทคนิคจากศูนย์วิจัยยาบางแห่งมาให้เพื่อช่วยทํายายับยั้งโรคมะเร็ง

 

หลังจากที่การร้องขอถูกปฏิเสธ, ทางประเทศพวกนี้ก็รู้สึกผิดหวัง แต่พวกเขาก็ไม่รู้จะทําอย่าง

 

เมื่อข่าวได้ถูกเผยแพร่ออกมา, ผู้คนต่างประเทศต่างก็รู้สึกเสียใจ, แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป, เพราะพวกเขานั้นเคยกีดกั้นเทคโนโลยเอาไว้, พวกเขาเองก็เคยทําแบบนี้กับจีนเช่นกัน

 

“ผู้คนในเฟซบุ๊คต่างก็เลิกออกมาโวยวายเรื่องปัญหาในจีนแล้ว, ตอนนี้มีแต่คนอยากเป็นคนจีนแล้ว”

 

“ฮ่าๆ, เทคโนโลยีโรคมะเร็งของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น สุดยอดจริงๆ ถ้าคุณได้เห็นข่าวที่ออก ในต่างประเทศนะ, เชื่อว่าพวกเขาคงอยากที่จะปล้นฟิวเจอร์กรุ๊ปแน่ๆ”

 

“จะว่าไป, มีคนจํานวนมากที่ถามหาเรื่องของวัตถุดิบที่ใช้ทํายายับยั้งโรคมะเร็งกัน สงสัยพวกนั้นคิดจะกักตุนแน่เลย, สงสัยคิดจะใช้โอกาสนี้ทําเงินแน่นอน”

 

“ฝันไปเถอะ, ถ้ามีใครกล้าที่จะฉวยโอกาสในครั้งนี้ จะบอกไว้ก่อนเลยว่ามันไม่ง่าย, เมื่อสักครู่ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศถึงเรื่องนี้แล้วว่า ถ้ามีใครที่ฉวยโอกาสนี้กักตุนวัตถุดิบทํายาและขึ้นราคาจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย”

 

“ใช่, ถึงแม้ทางกระทรวงสาธารณสุขเหมือนจะบังคับไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็ต้องชมเชยล่ะนะ, พวกคนที่คิดจะฉวยโอกาสนี้ทําเงินกับชีวิตของคนปวยไม่ใช่เรื่องดีเลย, แม้แต่ทางฟิวเจอร์กรุ๊ปเองยังช่วยออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดเลย, ในคราวนี้ สําหรับผู้ที่ต้องการยายับยั้งโรคมะเร็งแต่มีปัญหาทางด้านการเงิน จะได้รับการสนับสนุนจากองค์กรการกุศลของฟิวเจอร์กรุ๊ป ช่วยเรื่องการรักษาทั้งหมด โดยไม่ต้องจ่ายเงินซักหยวนเสียว!”

 

ยิ่งไปกว่านั้น, ราคายาที่อู๋ฮ่าวเหรินตั้งเอาไว้นั้นก็ราคาไม่สูงมาก, ซึ่งคนธรรมดาก็สามารถหาซื้อได้

 

ในตอนนี้, เขาไม่ได้ต้องการที่อาศัยตัวยานี้ทําเงิน, ถึงแม้จะเสียงตอบรับจะดีก็ตามที

 

แต่อย่างไรก็ตาม, สําหรับผู้ป่วยต่างประเทศแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ได้ใจดีด้วย, และราคายังเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าต่างหาก

 

เรื่องของการขายยายังยั้งมะเร็งนี้จําเป็นต้องมีการตรวจสอบรายชื่อ, ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขเองก็ได้ถามไปยังโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ส่งรายชื่อของผู้ป่วยทั้งหมดไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ป เพื่อที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะได้ทําการตรวจสอบตัวตนของพวกคนที่เข้ามาติดต่อซื้อยาว่าปวยเป็นโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ถึงจะอนุญาติให้ซื้อยาตัวนี้ได้

 

หรือก็คือ, ในตอนนี้ยาตัวนี้ไม่ได้อนุญาติให้ใครก็ได้เข้ามาซื้อยาตัวนี้

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ต้องการให้ตัวยาที่เขาผลิตมาถูกๆเพื่อชาวจีนนั้น ถูกนําไปขายต่อยังต่างประเทศ

 

การคัดเลือกผู้เข้าร่วมการทดลองก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว ผู้ป่วยทั้งหมดที่อยู่ในขั้นรุนแรงได้ถูกเลือก โดยการสุ่มโดยคอมพิวเตอร์ ส่วนผู้ป่วยในขั้นแรกนั้น สามารถหาซื้อยาเพื่อป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็งไปก่อน

 

ซึ่งแต่ละที่ที่มีการประกาศตัวเองได้รับเลือกนั้นต่างก็ยินดีโห่ร้อง, แม้แต่มีคนที่ต้องกา รที่จะจ่ายเงินเพื่อให้ได้เข้ารับเลือกด้วย

 

น่าเสียดายที่, ฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นบริษัทที่มีเงินมากที่สุด, ถึงแม้ในปัจจุบัน ไม่มีใครที่รู้ว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมีเงินมากขนาดไหนก็ตามที

 

แต่ก็มีเงินจํานวนนั้นก็มีมากพอที่จะให้อู๋ฮ่าวเหรินใช้ได้ตลอดชีวิต แม้ไม่ต้องใช้จ่ายเท่าที่จําเป็นก็ตาม

 

ท่านผู้นํานั้นได้มองเห็นความสําคัญในเรื่องนี้ จึงได้มีการนําพากลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ได้ถูกย้ายไปช่วยจากเบื้องบนด้วย

 

หน้าที่หลักของพวกเขาก็เพื่อช่วยฟิวเจอร์กรุ๊ปในการผลิตยายับยั้งโรคมะเร็งในอนาคต, และเรียนรู้วิธีการใช้อุปกรณ์เพื่อที่จะเตรียมตัวสําหรับแผนการรักษาโรคมะเร็งในขั้นต่อไป

 

แน่นอนว่า, มีผู้ป่วยโรคมะเร็งอยู่อีกมากในจีน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโฟกัสการรักษาในฟิวเจอร์กรุ๊ปที่เดียวได้ ซึ่งมันดูไม่เป็นจริงเอาเสียเลย

 

ทางเลขานุการของท่านผู้นําก็ได้เรียกตัวอู๋ฮ่าวเหรินเข้าพบเป็นการส่วนตัวและถาม เกี่ยวกับเรื่องนี้

 

อู๋ฮ่าวเหรินนั้นได้ทราบจากเลขานุการว่ามีหลายประเทศที่ต้องการที่จะนําเทคโนโลยีบางอย่างแลกเปลี่ยนกับการซื้อสิทธิ์ในการซื้อยาต้านมะเร็ง

 

ไม่มีทางเลือกอื่นสําหรับประเทศเหล่านั้นที่ถูกบีบบังคับโดยผู้ป่วยโรคมะเร็ง, จึงมีแต่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น

 

แม้แต่สหรัฐอเมริกาเองยังได้เสนอขอซื้อสิทธิ์การซื้อยาต้านมะเร็ง, ซึ่งพวกเขาได้มอบข้อเสนอบางอย่าง ซึ่งทําให้อู่ฮาวเหรินนั้นถึงกับพูดอะไรไม่ออก

 

เขาไม่คิดว่าเทคโนโลยีโรคมะเร็งนี้จะทําให้เกิดผลกระทบได้ถึงขนาดนี้

 

ไฟฟ้าชีวภาพบําบัดจะไม่สามารถบังคับประเทศพวกนั้นให้ทําได้ถึงขนาดนี้เลย

 

เพราะในเวลานี้, ครอบครัวของผู้ที่เป็นโรคมะเร็งได้พากันยกขบวนมาปิดล้อมทางเข้าออกของรัฐบาล, เพื่อให้ขอร้องให้น้ําเข้ายาต้านมะเร็งและได้รับการรักษาจากฟิวเจอร์กรุ๊ปมองดูคนชาวจีนที่เล็กกลัวการมะเร็งแล้ว, พวกเขาต่างก็รู้สึกอิจฉากันอย่างมาก

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด