อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 293
CF-บทที่ 293 ไม่รู้
เมื่อประเทศเหล่านั้นเริ่มตรวจสอบสถานการณ์ของยาสมุนไพรจีน พวกเขาก็ไม่ได้มีสวัสดุยาอยู่ในตลาดสมุนไพรจีน
เรื่องนี้ทําให้พวกเขาสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปกําลังผลิตยาต้านมะเร็งอยู่ นั่นแหละเป็นปัญหา
“ไม่ใช่ว่าพวกเราซื้อสมุนไพรมาหมดแล้วหรือ? แล้วฟิวเจอร์กรุ๊ปไปเอามาจากไหน”
“เราอาจจะพลาดแล้ว ตอนนี้เราต้องรายงานปริมาณของวัสดุยาที่ซื้อมาและคํานวณปริ มาณรวมของวัสดุยาทั้งหมดแล้วเราจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลายประเทศเริ่มคํานวณจํานวนยาที่ที่พวกเขาซื้อมาและในไม่ช้าก็ประมาณได้อย่างคร่าวๆตอนนี้พวกเขาสมุนไพรในครอบครองต่างจากจํานวนสมุนไพรทั้งหมดที่คํานวณได้อยู่สามเท่า
“ไม่จําเป็นต้องคํานวณเลย มีสมุนไพรเพียงหยิบมือที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปมี นี่คือข้อมูลที่เพิ่งส่งกลับมา เมื่อที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้พัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์นี้ มันก็ซื้อวัสดุยาเอาไว้แล้ว”
“นี่พวกเราติดกับเขารึเปล่า?”
” บอกได้เพียงแต่ว่าข้อมูลของเราไม่เท่ากัน และข้อมูลที่ให้เรามานั้นก็ไม่ผิด ยาที่เรามีตอนนี้ไม่เพียงพอสําหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งนอกเหนือจากชาวจีน อย่างน้อยก็ต้องใช้อีกสามเท่าเพื่อจะผลิต ยาสําหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วโลกได้อย่างเพียงพอ”
“หรือก็คืออีเมลที่เราส่งไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่เพียงแต่จะไม่ได้ผล แต่ยังอาจจะถูกแก้ทางได้ด้วยไม่น่าแปลกใจที่รัฐบาลจีนไม่ได้ให้ความสนใจกับเราเลย นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่จําเป็นต้อง ใส่ใจจริงๆ”
ตัวแทนของประเทศเหล่านี้ช่างโง่เขลา พวกเขาไม่คาดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถสกัดกั้นการรักษาโรคมะเร็งของชาวจีนได้สําเร็จแล้วจะได้รับเครื่องมือในการรัก ษามา
หลังจากผ่านเวลาไปนาน สมุนไพรที่พวกเขาซื้อมาทั้งหมดก็จะเก็บรักษาไว้ไม่ได้ในอนาคต
“ตอนนี้เราจะทํายังไง? ถ้าฟิวเจอร์กรุ๊ปไม่ยอมขายอุปกรณ์ให้พวกเราเพราะเรื่องนี้ ผลลัพธ์มันจะเลวร้ายมาก”
“ พวกเขาก็คงไม่ขายให้พวกเราหรอก ไม่มีการตอบกลับจากฟิวเจอร์กรุ๊ป บอกได้เพียงว่าประธานมองว่าพฤติกรรมของเราเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาเท่านั้น”
ทุกคนหน้าเสียเป็นอย่างหนัก บางคนคิดว่าโชคดีที่ตอนนั้นไม่ได้ปากดีอะไรไว้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้พวกเขาคงต้องคิดหาวิธีขอโทษบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปขอให้พวกเขายกโทษให้แล้วชดใช้
อู่ อ่าวเหรินที่นั่งอยู่ในสํานักงานเห็นประเทศเหล่านั้นรู้สึกมีความสุขหลังจากส่งอีเมลถึงเขาคนคิดน้อย
คนพวกนี้ติดกับแล้ว พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเขาติดกับ บอกเป็นนัยว่าพวกเขาเล็งเห็นว่าสามารถเปิดเผยข่าวได้
อู่ ฮ่าวเหรินหมดคําจะพูด เขาไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะมีสีหน้าแบบไหนตอนที่พวกเขาเห็นราคาของวัสดุยาอีกชุดที่จะเข้ามาในตลาดเมื่อพวกมันโตเต็มที่
ด้วยการลดลงของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ยิ่งผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รับการรักษามากขึ้นความต้องการวัสดุยาจะลดลงเรื่อยๆ
จากนั้นราคาจะเริ่มลดลง เมื่อวัสดุยากลุ่มที่สองออกมาความต้องการวัสดุยาจีนจะลดลงลง
ยิ่งไปกว่านั้นราคาของวัสดุยาที่ประเทศเหล่านั้นซื้อนั้นต่ํามาก สําหรับวัสดุยาราคาเพียงชิ้นละสิบหยวนแต่พวกเขาแข่งกันปันราคากับประเทศอื่นจนถึงราคาชิ้นละร้อยหยวน
ด้วยต้นทุนที่สูงเช่นนี้ คนพวกนี้ก็ไม่สามารถผลิตยาและขายมันในราคาต่ํา ถึงตอนนั้นคนของประเทศเหล่านี้ก็จะเอายาของประเทศเขามาเทียบกับของฟิวเจอร์กรุ๊ปซึ่งคุณภาพดีกว่า
บางทีตอนนั้นผู้คนในประเทศๆ ก็จะเริ่มตําหนิรัฐบาลของตัวเอง
ในขณะที่ทุกคนกําลังพูดถึงการรักษามะเร็งของฟิวเจอร์กรุ๊ป ในบริษัทรถยนต์หลีฉุย รถที่หน้าตาแปลกๆก็ได้ถือกําเนิดขึ้น
รูปร่างของรถคันนี้แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิงเพราะมันดูเป็นวงรี
หลังคาของรถก็ไม่ใช่หลังคาเหล็กแบบดั้งเดิม แต่เป็นกระจกพิเศษซึ่งดูเหมือนจานบิน
การออกแบบตัวรถนั้นช่างมีศิลปะ มันดูเหมือนแมงกะพรุนมากกว่ารถ
” หัวหน้า นี่ใช่รถปกติจริงหรือ? ล้อมันสามารถหันได้ถึง 90 องศาและเคลื่อนที่ในแนวตั้งได้”ผู้ผลิตรถยนต์ถามนักออกแบบที่กําลังทําการตรวจสอบขั้นสุดท้ายของรถ
“ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากแรงจูงใจในครั้งนี้คือมีขนาดเล็กกว่าและแข็งแกร่งกว่ารถคันก่อนผมเพิ่งจะเปลี่ยนแบบแปลนไปเอง”
เขาชี้ไปที่ยางใต้รถแล้วพูดว่า “ดูสิยางเหล่านี้สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยอุปกรณ์ที่ปรับเปลี่ยนมาใหม่นี้ดังนั้น 90 องศาจึงไม่ใช่ปัญหาสําหรับรถคันนี้เลย”
“ผมคิดว่ามันเป็นความจริงที่เชื่อได้ยาก งั้นขับออกไปทดสอบน่าจะดีกว่า”
“นั่นล่ะง่ายดี”
เหอ ยูหมิง ผู้ออกแบบและหัวหน้าวิศวกรต่างพยักหน้ามองอุปกรณ์บนรถแล้วพูดว่า “ไปข้างนอกแล้วทดสอบเถอะ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลย”
ภายใต้การขับขี่ของระบบปัญญาประดิษฐ์ รถก็แล่นออกไปลานด้านนอก
ตอนนี้ เหล่าคนที่รู้ข่าวต่างออกมาดู
“ทําไมรถคันนี้ถึงหน้าตาแปลกจัง? นั่งได้กี่คนนี้?”
“เห็นบอกว่านั่งได้สี่คน ตอนที่ออกแบบผมก็ไม่รู้ว่าหัวหน้าวิศวกรกําลังคิดอะไรอยู่ รถคันนี้มันดูโง่ไปหน่อย”
“ใครจะไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเคลื่อนที่แบบไปด้านข้าง 90 องศา”
“ฟังจากคนที่ผลิตรถนี่ มันคือสิ่งที่นักออกแบบของพวกเขาเหอ ยูหมิงคิดมา เพิ่ม เกียร์พิเศษบนแกนกับล้อเมื่อล้อของรถถูกหัน 90 องศาระบบเกียร์อื่นๆ จะเชื่อมต่อกับเพลาคู่เพื่อให้แน่ใจในระบบพลังงานของรถ”
“ณ ปัจจุบันรถยังไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับผลการทดสอบนี้แล้ว”
คนกลุ่มนี้ไม่กล้าเท่ากับ ฮ่าวเหริน สําหรับการทดสอบครั้งแรกพวกเขาไม่นั่งในรถเอง
พวกเขาใช้หุ่นจําลองเนื่องจากรถใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติ ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องหุ่นขับรถไม่ได้
“พระเจ้า มันหันได้ 90 องศาจริงๆ แล้วแบบนี้ทําอย่างไรถึงจะไม่สูญเสียความสามารถของมันล่ะ”
“ไม่สูญเสียความสามารถหรอก เพลาคู่ของรถได้ถูกดัดแปลงแล้ว มีเพลาที่ยืดหดได้ในล้อสองอัน ซึ่งเชื่อมต่อกับเพลาอยู่ตลอด เมื่อล้อหัน 90 องศาเพลาทั้งสองที่ยืดหดได้นี้และเกียร์บางส่วนจะปกป้องรถจากการเคลื่อนไหวปกติ”
“นอกจากนี้ ถึงจะบอกว่านั่งได้สี่คนแต่ก็มีพื้นที่ในรถเยอะมาก ต่อให้เพิ่มอีกสองที่นั่งก็ไม่มีปัญหา”
รถดูเล็กกว่ารถทั่วไป ที่จริงถ้าเอาส่วนเครื่องยนต์กับกระโปรงหลังออกไปนี่ก็คือรถทรงกลมเลยทีเดียว
เมื่อติดเครื่องรถทุกคนต่างมองไปที่มัน พวกเขาอยากจะรู้ผลการทดสอบขั้นสุดท้ายของรถคันแรก
“โอ้ รถนี่ติดเครื่องได้เร็วไปหน่อย ผมรู้สึกเหมือนจะออกตัวได้ทันทีเลย”
“เพราะว่าแรงขับเคลื่อนล่ะนะ ระบบพลังของแรงขับเคลื่อนนี้แข็งแกร่งกว่าแรงขับเคลื่อนของรถรุ่นก่อนๆหลายเท่าตัว”
พวกเขาทุกคนสามารถเห็นแรงขับเคลื่อนอันทรงพลังรูปแบบใหม่นี้ ตอนที่พวกเขามองไปที่รถที่ทะยานไปในพริบตา
คอมเม้นต์