CF:บทที่ 99 อิทธิพลของสื่อโฆษณา

 

มองไปยังครอบครัวที่กำลังตื่นเต้นกับอะไรซักอย่าง อู๋ ฮ่าวเหรินก็งุนงงและถามขึ้น “ทุกคน…เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

 

“ถามพวกเราแบบนั้นหมายความว่ายังไงน่ะ? นายไม่รู้เหรอ?”

 

เมื่อเขาพบว่าลูกชายของเขาคงจะไม่รู้จริงๆ อู๋ ชิงไห่จึงถามขึ้น “บริษัทของลูกใช้ ฟิวเจอร์ กรุ๊ป ถูกไหม? โรงงานที่สร้างในเมืองลิวเหอในเขตหยุนหลง?”

 

“ใช่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

 

“มันเป็นบริษัทของลูกชายฉันจริงๆด้วย ข่าวที่กำลังคึกโครมในตอนนี้คือบริษัทของลูก!”

 

แม่ของเขาแสดงออกถึงความตกใจซึ่งนั่นยิ่งทำให้อู๋ ฮ่าวเหรินสับสน ข่าวอะไร? แล้วบริษัทนั่นหมายถึงอะไร?

 

เขารู้เรื่องการเผยแพร่ เพราะมันอยู่ในแผนของลิว หมิงหยู่กับโจ้ว หลาน ที่ตั้งใจจะเผยแพร่ในช่วงนี้อยู่แล้ว

 

อู๋ ชิงไห่หายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดว่า “บริษัทของลูกกำลังเป็นข่าวอยู่ในสำนักข่าว เมื่อครู่นี้ช่วงท้ายของรายการข่าวคือโฆษณาของบริษัทของลูกที่ร่วมมือกับกองทัพ”

 

เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินได้ยินเช่นนั้น เขาเองก็มีอาการตกใจเล็กน้อยในทันที การร่วมมือกับกองทัพและความตรงเวลาของจื่อหยง เป็นอะไรที่ทำเขาตกใจมากๆ มันต้องเป็นโฆษณาบนรายการข่าวที่เขาคาดไม่ถึงแน่ๆ

 

เขาคิดว่าที่ร่วมมือกับกองทัพ คงเป็นบริษทโฆษณาชวนเชื่อที่ใช้ชื่อของกองทัพมาช่วยเผยแพร่เฉยๆ สินค้าจะได้ดูน่าเชื่อถือ

 

“พ่อ แม่ รอผมแปปนึงนะ ผมจะกลับไปที่บ้านก่อน”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินรีบกลับมายังห้องของเขา และในเวลาเดียวกันจี้ก็นำเสนอข่าวที่เขาต้องการจะรู้ขึ้นมาทันที

 

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของอู๋ ฮ่าวเหรินก็มีสายที่ไม่ได้รับกว่าโหลโดยที่จี้ไม่สามารถเตือนเขาได้เนื่องจากเป็นการเรียกเข้าจากข้อมูลที่ให้ไว้ในเว็บไซต์

 

อาจจะเพราะความมีอิทธิพลของสื่อโฆษณาที่ซึ่งดีเกินไป จึงทำให้เว็บไซต์โดนโจมตีจากหลายองค์กรเป็นครั้งแรก

 

ช่างโชคร้ายที่สิ่งที่ฉาบหน้าไว้นั้นคือการดีไซน์ที่ชาญฉลาดครอบทับเว็บไซต์ของรัฐบาลของประเทศที่บริษัทนั้นๆอยู่อีกที ดังนั้นแล้วการโจมตีจึงเหมือนกับการประกาศสงครามกับรัฐบาลไปโดยปริยาย

 

กลับมายังห้อง อู๋ ฮ่าวเหรินได้ดูวีดีโอที่จี้เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เขาตกใจและไม่อยากจะเชื่อว่าเบื้องบนนำเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพไปใส่ไว้ในช่วงท้ายของรายการข่าวที่ยาวเพียง 6 นาทีนั้น

 

ถึงแม้ว่าเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพจะถูกทดสอบโดยกองทัพในช่วงเวลาหนึ่งนั้นจะไม่มีปัญหาก็ตาม แต่นี่คือสิ่งประดิษฐ์ใหม่แถมเวลาทดสอบยังสั้นด้วย เขาจึงไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือเปล่า!

 

“จี้ รัฐไม่กลัวว่าสินค้าของเราจะมีปัญหาในอนาคตบ้างเลยหรือไง?”

 

“ไม่ครับ นั่นเพราะว่าวีดีโอทั้งหมดที่ถึงแม้จะเป็นการเผยแพร่เครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพของเราพร้อมกับการฝึกของกองทัพ หากแต่นั่นไม่ได้มองว่าเป็นการโฆษณาแต่เป็นข้อมูลเชิงประชาสัมพัรธ์ที่ประสานงานร่วมกับทหารในการสั่งซื้อเสียมากกว่า”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินคิดตาม หากเป็นกรณีนั้นฟังก์ชั่นทั้งหมดดูเหมือนจะเอาไว้ช่วยทหารในการฝึกซ้อมต่างๆรวมไปถึงการที่ถูกสั่งโดยฝ่ายพัฒนากองทัพก็ยิ่งทำให้มันเหมือนข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสวัสดิการและการรักษาไปโดยปริยาย

 

ถึงรัฐเองจะบอกว่านี่ไม่ใช่การโฆษณาแต่ในสายตาของประชาชน มันค่อนข้างชัดเจนแล้วว่านี่คือโฆษณาตัวใหญ่เลย แถมยังเป็นโฆษณาชั้นดีเลยด้วย ดีเสียจนบริษัทอื่นๆยังอิจฉา

 

“นอกจากนี้ ผมยังมีสิ่งอื่นที่ต้องบอกท่านครับ ในปัจจุบัน มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์สูงถึง 160 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้เข้าเยี่ยมชมส่วนรับสมัครมี 5..2 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำนวนเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพมีมากถึง 30 ล้านเครื่องและจำนวนยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

 

“เยี่ยม!”

 

อู๋ ฮ่าวเหรินได้ฟังก็รู้สึกเหมือนสมองโดนช็อตเลย นี่เป็นผลจากการโฆษณาผ่านสำนักข่าวสินะ ร้ายกาจ!

 

แท้จริงแล้วมันหาใช่ความน่ากลัวของโฆษณาไม่ หากแต่เป็นเพราะการที่มันถูกสั่งโดยกองทัพถึง 6 แสนเครื่องพร้อมๆกับการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ต่างหาก

 

สินค้าที่ดีผนวกกับราคาที่ถูกราวกับซื้อโทรศัพท์มือถือ มีเหรอที่คนจะลังเล

 

ถ้าระบบการจองจากต่างชาติไม่ได้เปิดไว้ กับข้อกำหนดจำนวนในการจองพร้อมๆกับตรวจสอบชื่อจริงของผู้จองอย่างเคร่งครัด คงได้มีชื่อเดิมๆเพิ่มมาเป็นชื่อที่ 2 แน่ๆ

 

แต่ก็นะ ตราบใดที่จำนวนการสั่งจองมันสัมพันธ์กัน อู๋ก็ยังคงไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร

 

“ท่านครับ มีสายเรียกเข้า จะให้รับสายไหมครับ?”

 

จี้เตือนให้อู๋ ฮ่าวเหรินรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งนี้ก็เพื่อให้เขาสงบจิตสงบใจด้วย ในโลกอนาคต ชื่อของ พ่อค้าของเก่า ถูกพูดอย่างแพร่หลายโดยรัฐบาล

 

เปรียบเทียบกับชื่อเสียงในที่นี่ ชื่อเสียงของเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพนั้นดูจะเล็กน้อยไปเลย

 

“ดี ฉันคือชายในตำนานที่ชะตากำหนดให้ยังมีชีวิตอยู่! นี่น่ะมันก็แค่สิ่งเล็กเท่านั้นแหละ!” อู๋ ฮ่าวเหรินสรรเสริญตนเอง

 

“สวัสดี”

 

“บอส!บริษัทของเราอยู่ในข่าว บริษัทของเราดังแล้ว! มีคนเยอะแยะไปหมดเลยกำลังติดต่อมาที่ฉัน ฮ่าๆๆๆ คนพวกนี้อิจฉาฉันใหญ่เลย”

 

“ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น นี่ไม่ใช่ข่าวสุดท้ายซักหน่อย มันจะยังมีข่าวให้น่าตื่นเต้นมากกว่านี้อีกในอนาคต เดี๋ยวคุณก็ต้องพบเจอมันอีกเร็วๆนี้แต่ถ้าคุณยังไม่เลิกตื่นเต้นจนทำงานพลาด นั่นจะเป็นความสูญเสียของบริษัทเราเลย”

 

“บอสอย่ามาหลอกฉันเลยน่า ฉันไม่เชื่อหรอกว่าบอสจะไม่ตื่นเต้น ดี ฉันต้องวางสายแล้ว บางคนกำลังโทรหาฉันอยู่ วางแล้วนะคะ” เซี่ยเสวี่ยวางโทรศัพท์ไป ในใจเธอก็คิดว่าเจ้านายของเธอน่ะดีมากๆเลยล่ะ

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองโทรศัพท์ที่เพิ่งวางไปก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย ตัวเขาเองพอสงบลงบ้างแล้วจึงค่อยๆตอบกลับทุกๆคนอย่างใจเย็น

 

สำหรับอุดมการณ์อันเยือกเย็นของเขานั้น ทุกๆคนรับรู้ได้มันคือการเสแสร้งและแสดงอีโก้สำหรับตัวเขาเอง

 

อู๋ ฮ่าวเหรินคิดว่าถ้าหากในวันนี้เรื่องหุ่นยนต์ถูกรายงานออกไป มันคงไม่ใช่แค่ในรายการข่าว แต่มันคงจะถึงหูของพวกคนใหญ่คนโตในประเทศเลยที่จะมาถกเถียงและเรียนรู้เกี่ยวกับมันกัน

 

หมายเลขโทรศัพท์ของจื่อหยงปรากฏขึ้น อู๋ ฮ่าวเหรินเข้าใจเขาดีว่านี่คือแรงสนับสนุนที่สำคัญ เขาน่าจะเพิ่งกลับจากการคุยกับเบื้องบน

 

ในขณะเดียวกัน เขาเองก็ยังได้รับข่าวเกี่ยวกับวัสดุใยพืชด้วย เร็วๆนี้เขาคงจะเตรียมการสำหรับข่าวใหญ่อีกระลอกหนึ่งเป็นแน่

 

อู๋ ฮ่าวเหรินคิดว่า ข่าวใหญ่ของสิ่งนั้นจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทถูกจับตามองโดยองค์กรใหญ่ๆชัวร์

 

เนื่องจากการสนับสนุนของรัฐบาล แม้แต่สถาบันแพทย์บางแห่งที่หมดหวังไปแล้วยังอยากจะกลับมาเพราะเล็งเห็นความสำคัญในการทำสิ่งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามในกรณีของสถาบันยาต่างประเทศนั้นยังไม่ง่ายที่จะพูดนัก

 

ตัดเรื่องความมั่นคงไปก็เหมือนฆ่าครอบครัวตัวเองทิ้ง สิ่งเหล่านี้มันเลี่ยงไม่ได้

 

แต่ไม่ใช่กับอู๋ ฮ่าวเหริน เพราะตอนนี้เขากำลังเป็นที่โด่งดังในอินเตอร์เน็ต จากรายการข่าวที่ทำให้ทุกคนคลั่งกันนั่นแหละ

 

บางคนเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับโฆษณาหลังข่าวนั้น ผู้คนมากมายต่างพยายามหาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ป และเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพเป็นอย่างไร พวกเขาอยากจะรู้ให้มากกว่านี้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้มาก่อนเลย

 

แน่นอนว่ากลุ่มคนที่สมองน้อยปราศจากความรู้ในสถานการณ์เช่นนี้ก็จะเริ่มบ่นไปเรื่อย ตั้งแต่บ่นรัฐบาล บ่นฟิวเจอร์กรุ๊ป บ่นเครื่องบำบัดด้วยไฟฟ้าชีวภาพ บ่นมันทุกอย่าง บ่นมันทุกที่ อันที่จริงแล้วโลกของคนพวกนี้ค่อนข้างจะมืด เพราะงั้นจึงไม่มีแสงแห่งความรู้สอดแทรกเข้าถึงแก่นแท้ของสมองเสียที

 

จากข้อมูลที่ได้จากกลุ่มเว็บเพจ พวกเขาก็พบว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทเปิดใหม่แถมยังตั้งอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ในปัจจุบันนอกจากเครืองบำบัดไฟฟ้าชีวภาพแล้วก็ยังไม่มีอะไรอื่นๆที่เป็นที่น่าชื่นชม

 

สิ่งที่จะตามมาคือฟิวเจอร์ดริงค์อันเป็นบริษัทย่อยที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ใดๆและนอกจากนั้นก็ยังมีฟิวเจอร์แมททีเรียลที่ยังไม่มีข้อมูลใดๆในส่วนนี้อีก

 

นั่นเป็นเพราะการร่วมมือกับรัฐ อู๋ ฮ่าวเหรินได้จัดการเคลียร์ข้อมูลบนเพจฟิวเจอร์แมททีเรียลเรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุใยพืชเองก็ดูบล็อคไปจากอินเตอร์เน็ตเช่นกัน

 

หลังจากที่รัฐคอยสนับสนุนเรื่องนี้แล้ว ข้อมูลของวัสดุใยพืชจะถูกทำต่อในเพจนี้ นั่นเพราะว่าการใช้ประโยชน์จากสำนักข่าว คงจะมีหลายๆคนไม่ได้นอนคืนนี้แน่ๆ

————————