อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 210
CF:บทที่ 210 สมาชิกใหม่ของซองแดง
อู๋ ฮ่าวเหรินเริ่มต้นสร้างซองแดงในกลุ่มซองแดงขึ้นในตอนกลางคืนเพราะของที่เก็บมาได้ในหนึ่งวันนั้นเป็นไปได้ด้วยดี
“เจ้าศิลปะไม่ได้อยู่ที่นี่งั้นหรือครับ”
“ผู้ชายคนนั้น มีคนบอกว่าเขาจะเข้าไปเสี่ยงอีกแล้ว เวลานี้น่ะ เขาไปดาวของสัตว์ป่า แล้วเขาก็อาจตาย มีคนบอกว่าสัตว์ป่าบนดาวนั้นสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญได้ทั้งจักรวาลเลย”
“นั่นล่ะความตายของแท้”
นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ผมเห็นรายนามของผู้คนในจักรวาลที่ต่อสู้กัน อู๋ ฮ่าวเหรินก็ได้เข้าใจในเรื่องพลังการต่อสู้ของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง
“แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็ได้ของโบราณมาบ้างแล้ว ดูเอานะว่าอยากได้อะไรหรือเปล่า”
อู๋ ฮ่าวเหรินมีของตั้งเรียงรายอยู่ในแถวเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งโหล ของทุกอย่างเป็นงานประดิษฐ์รูปแบบทันสมัยและมีขนาดเล็ก เช่น งานไม้แกะสลักและงานตัดกระดาษ
ของพวกนี้ยังไม่มีอายุเก่าแก่มากนัก แต่ทว่าระบบการประเมินราคาจำนวน 500 พลังงานเหรียญก็ใกล้ถึงกำหนดปีแล้ว
“และพวกของเย็บปักถักร้อย ที่ยังคงสงวนไว้อย่างดีมาเป็นเวลานาน ฉันจะเอาอันนั้น” ผลงานเย็บปักถักร้อยชิ้นหนึ่งของเมืองซูโจวถูกขโมยไปโดยทุกประเพณี
ในช่วงเวลาที่รำลึกถึงความหลังนี้ ไม้ที่ใช้แกะสลักทุกชนิดถูกปล้น เจ้าพวกฉกซองแดงไปคงสนใจไม้แกะสลักชนิดนี้อย่างเห็นได้ชัด
“เป็นอุปกรณ์ที่ดีเลยนะ แม้ว่างานทำมีดจะดูไม่ดีเท่าไหร่ แต่เก็บไว้มาถึงตอนนี้ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน ฉันเองก็รู้จักอาจารย์ที่สอนเทคนิคการแกะสลักโบราณนะ ฉันควรจะให้อะไรเขาเป็นของขวัญสักหน่อย”
เมื่อชายคนนี้พูดเรื่องซองแดงจบ การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ต่างๆเมื่อไม่นานมานี้ของอู๋ ฮ่าวเหริน ทำให้เขาได้รู้
เมื่อเขารู้ว่าซองแดงคืออะไร อู๋ ฮ่าวเหรินจึงรู้สึกประหลาดใจ
“นี่เป็นรูปสลักจีนโบราณที่สลักโดยอาจารย์หลง หยินและเพราะว่ามีแสง ก็จะเห็นว่าในนี้มีเงามังกรเคลื่อนไหวอยู่”
แปดพันพลังงานเหรียญช่างคุ้มค่า อู๋ ฮ่าวเหรินฟังเรื่องราวชีวิตย้อนหลังที่เกริ่นมาในช่วงต้นและจ้องตัวมังกรที่ออกแบบรูปร่างมาให้เคลื่อนไหวไปมาในไม้สลัก ช่างสวยงามมากจริงๆ
“ฉันชอบมันมากเลย คราวหน้า ถ้ามีของแบบนี้อีก เอามาให้บ้างนะ”
อู๋ ฮ่าวเหริน คิดว่าถ้านำรูปมังกรแบบนี้ไปสลักตามต้นไม้ชนิดต่างๆในหยวนหมิงหยวนล่ะก็ ที่นั่นจะต้องงดงามแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ของแบบนี้ทำได้แค่คิดเท่านั้น เพราะถ้าไม้พวกนี้มีมากเกินไป เขาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร
แต่ไม้แกะสลักประเภทนี้
แม้ว่าถ้ามี แต่เพราะรูปร่างที่เปลี่ยนไป คนอื่นๆอาจจะคิดก็ได้ว่านี่คือไม้ใช้แกะสลักกลายพันธุ์
ผู้สื่อข่าวบันเทิงฉก รูปสีน้ำมันไปเล็กน้อย บรรพบุรุษของคนๆนี้น่าจะมาจากประเทศทางยุโรปหรือไม่ก็อเมริกา
“แม้ว่ารูปวาดพวกนี้จะไม่ได้ดีมากนัก แต่ปีนี้ก็คงนานพอแล้ว รูปที่แขวนอยู่พวกนี้ทำให้รู้สึกถึงความเรียบง่าย”
เขาถูกปล้นซองแดงไปแปดซอง อู๋ ฮ่าวเหรินต้องทำเหรียญพลังงานเพิ่มอีก 30000 เหรีญเพื่อให้ถึง 100000 เหรียญ
ช่างโชคร้ายที่เหรียญพลังงานพวกนี้ไม่ได้รับอนุญาตจากทางกลุ่มเชฟพิเศษเพราะในกลุ่มดังกล่าวไม่มีเหรียญพลังงาน
อู๋ ฮ่าวเหริน คิดว่าเขาอาจจะเข้าร่วมกลุ่มยานอวกาศพิเศษเพื่อหาทางที่จะเอาเหรียญพวกนั้น
อาจจะเป็นเพราะว่าคะแนนทำอาหารจำเป็นต่อเชฟ ดังนั้นคะแนนยานบินก็จำเป็นต่อยานอวกาศ แต่ทว่าเขาเองกลับไม่มีวัสดุพิเศษใดๆที่จะเอาไว้ใช้ทำยานอวกาศเลย
เมื่อเขากลับมาที่กลุ่มของระดับแรก ซองแดงหลายซองที่เขาวางทิ้งไว้ข้างหลังก็ถูกคนที่ชื่อเอ็กท์ คลอว์ฉกไป
ที่สร้างความประหลาดใจให้กับ อู๋ ฮ่าวเหริน ก็คือร่องรอยของเอ็กท์ คลอว์นั้นมาจากอารยธรรมอื่น หรือถ้าจะให้พูดก็คือเขาคือคนใหม่จากอารยธรรมอื่นที่มาเข้าร่วม
ตอนแรกเขาเองก็ไม่ได้สนใจ แต่ตอนนี้ เมื่อเขาเดินออกมาจึงเห็นว่ามีคนหน้าใหม่เข้ามามากมายและทั้งหมดก็เป็นคนมาจากอารยธรรมอื่น
“บ้าเอ้ย ฟลายอิ้ง เร็วกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง โดนปล้นไปแบบนี้ฉันเลยไม่เห็นเลยว่าซองแดงคืออะไร” มนุษย์ชุดเกราะบ่นขึ้น
“ฮ่าๆพวกเขาใช้มือหยิบไป เร็วบ้างช้าบ้าง ดูพี่น้องเอ็กท์ คลอว์สิ พวกเขาปล้นซองแดงไปเยอะเลย”
“มึนหัวจริงๆ คงเหมือนคราวที่พ่อค้าของเก่าเข้ามา พวกเขาเองก็ปล้นเอาซองแดงไป โชคดีชะมัด”
อู๋ ฮ่าวเหริน รู้สึกงงไปชั่วครู่ แต่ไม่นานก็กลับมาสั่งได้ตามปกติและฉวยซองแดงที่เพิ่งโผล่ออกมา
ยังมีอะไรอีกไหม นี่เป็นซองแดงจากเอ็กท์ คลอว์ ผมแค่สงสัยว่าไข่มุกนั้นคืออะไร นี่ใช่ไข่มุกหรือเปล่า
เขาดูบทนำของซองแดง นี่ไม่ใช่ไข่มุกธรรมดา แต่เป็นไข่มุกที่จะส่องประกายเมื่อใส่ลงไปในน้ำและมีลูกปัดขนาดใหญ่ราวกับกำปั้นสีเขียว
อู๋ ฮ่าวเหรินตรวจสอบในสารานุกรม คนที่ชื่อเอ็กท์ คลอว์นั้นน่าจะเป็นพวกอารยธรรมใต้น้ำ พวกเขาอาศัยอยู่ในน้ำ และสำหรับพวกเขานั้น น้ำก็เปรียบได้เหมือนอากาศสำหรับมนุษย์
ดาวส่วนใหญ่ในที่ที่มีอารยธรรมนั้นมักมีน้ำปกคลุมอยู่และดาวบางส่วนก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
ดังนั้น สิ่งที่พวกเขาใช้ล้วนเกี่ยวข้องกับน้ำและมีความแตกต่างจากมนุษย์เป็นอย่างมาก
“แย่จังเลย พอเพิ่มคนสามคนนั้นเข้ามา พวกนั้นก็ไม่ได้ออนไลน์ เราเลยไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันอยู่ เอ็กท์ คลอว์ อย่าเป็นไข่มุกแห่งสายน้ำเช่นนี้เลย โปรดบอกสิ่งที่ไม่เหมือนใครในอารยธรรมแห่งน้ำของคุณจะได้ไหม”
“ได้สิ เพื่อนมนุษย์ แต่ว่าในระบบมีข้อห้ามมากมาย มีบางอย่างทำให้ฉันนำออกไปไม่ได้”
ตอนที่ซองแดงห้าซองปรากฏขึ้น อู๋ ฮ่าวเหริน จึงไม่มีท่าทีอะไรอีก ไม่แม้กระทั่งจะมองว่าพวกเขาเป็นอะไร
“พวกหื่นกามเต็มไปหมด ผมไม่เห็นเลยว่านี่คืออะไร” เมื่อหมอพูดจบ เขาจึงเดินออกไปพร้อมกับซองแดงอีกไม่กี่ฉบับ
ในตอนนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาใต้น้ำ เขาไม่ได้ฉกมันมาเพราะไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้น
เมื่อเขาออกมาจากระบบซองแดง เขาจึงคลิกที่หน้าจอ
สุดท้าย เขาจึงคว้าซองแดงซึ่งดูจะเป็นของดีมา ชื่อเรียกของมันคือหินเมอร์คิวรี สามารถทำให้น้ำบริสุทธิ์และเพิ่มระดับพลังงานของน้ำอีกด้วย
ถ้าหินชนิดนี้มีอยู่มากกว่านี้ล่ะก็ เราก็สามารถนำไปวางในช่วงฤดูใบไม้ผลิได้และจะทำให้ฤดูใบไม้ผลิเปลี่ยนเป็นฤดู “ใบไม้ผลิศักดิ์สิทธิ์”
อู๋ ฮ่าวเหรินส่ายหน้าก่อนจะเตรียมไว้เพื่อโยนลงบ่อน้ำให้บริสุทธิ์ในวันพรุ่งนี้
หลังจากที่ได้เห็นเนื้อหาของระบบซองแดงแล้วนั้น เขาก็รู้สึกค่อนข้างดี แม้ว่าการเข้าไปหยิบซองแดงจะยากกว่าแต่ก่อน แต่เขาก็ยังได้ของหายากมาอยู่
ในอนาคต พวกเราอาจจะได้เทคโนโลยีทางน้ำจากอารยธรรมของพวกเอ็กท์ คลอว์
หลังจากเลือกของในช่องแล้วนั้น อู๋ ฮ่าวเหริน ก็ได้นำไม้แกะสลัก หลงหยินและไข่มุกน้ำ วางไว้ด้วยกันบนโต๊ะ พอถึงพรุ่งนี้ เขาก็จะเอาของพวกนี้ไปที่บริษัท
…
ในตอนเช้าตรู่ ผู้คนก็ออกมาจากสถานีพร้อมกับถุงพลาสติกสีดำ
ชายหนุ่มรูปร่างเตี้ย แข็งแรง ผิวดำและผอมแต่มีกล้ามทั่วทั้งร่างกล่าวขึ้น “พี่ใหญ่ อย่า อย่าไปเลยนะ บริษัทนั่น…”
“อึกๆอักๆอะไรอยู่ได้ ไม่ต้องพูดแล้ว ฟังยาก หัวหน้าครับ บริษัทนั่นน่ะมันรวยจริงๆนะครับ แถมผมยังได้ยินมาว่าผู้บริหารที่นั่นอย่าง อู๋ ฮ่าวเหรินเนี่ยเป็นคนฉลาดอีกด้วย แล้วเราจะโกงเขาได้หรือครับ”
“ผัวะ”
ชายวัยกลางคน ใบหน้ามีเครา ในชุดสูทตบหัวลิงผอมในร่างที่อยู่ข้างๆเขาก่อนจะพูด “ไอ้ลิงแห้ง สมองแกคงไม่ได้ใช้งานบ้างเลยใช่ไหม พวกเราไม่ได้จะหลอกผู้บริหาร แต่พวกเราจะหลอกพวกผู้เชี่ยวชาญด้านของโบราณต่างหาก จำไว้นะ ยิ่งแกคุ้นเคยกับของโบราณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น อธิบายเหตุผลให้มันฟังด้วย”
“คนที่รู้วิธีจำแนกของโบราณจะใช้ตาในการแยกเพื่อบอกว่าของโบราณนั้นเป็นของแท้ มากกว่าที่จะเชื่อข้อมูลที่มาจากเครื่องตรวจจับ สิ่งที่เราทำนั้นคงพอที่จะทำให้สับสนว่าอันไหนของจริงหรือของปลอม ดังนั้นคนที่รู้จักของโบราณนี้จะถูกหลอก ส่วนคนที่ไม่รู้จักพวกของโบราณก็จะมาเอาของของเราไปตรวจสอบ ถึงจะรู้ได้ว่านี่คือของปลอม”
“นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่เพิ่งมาถึงที่นี่ แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกสับสนกับสิ่งที่พวกเขาดู แต่ก็คงไม่กล้าพูดหรอกว่ามันปลอม เพราะอยากที่จะแสดงความสามารถ ก็ต้องพูดว่าพวกนี้คือของจริงทั้งๆที่เห็นว่าความจริงเป็นอย่างไร”
“แกเข้าใจใช่ไหม เรากำลังต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญในเวลานี้ แค่หลอกพวกมันก็ได้เงินมาแล้ว ทีนี้ ลองไปหาที่ที่เราจะไปอยู่ก่อน จากนั้นค่อยไปถามเกี่ยวกับสถานการณ์”
————————-
คอมเม้นต์