อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) – ตอนที่ 289
CF-บทที่ 289 WHO มาเยือน
ผ่านไปแล้ว 1 วันหลังจากที่เผยแพร่เรื่องนี้ออกไป และการผลิตยาต้านไวรัสที่เป็นปัญหาใหญ่ สําหรับผู้ป่วยหลายล้านคนก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ถึงแม้ว่าทางรัฐจะได้ส่งเจ้าหน้าที่การแพทย์มาช่วยก็ตาม แต่ความต้องการยาที่สูงมากก็ยังทําให้ผลิตยาได้ไม่ทันอยู่ดี
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการทํายาเช่นนี้, ฉินซ่งหลิง ผู้ที่รับผิดชอบด้านนี้เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา
ทางด้านห้องจ่ายยาในโรงพยาบาลเอง พวกหมอต่างก็วุ่นวายอย่างมาก แต่ละคนช่วยกันเตรียมยากันอย่างเต็มกําลัง
ตราบเท่าที่มีคนเริ่มเหนื่อย, ก็จะมีหมอที่รออยู่แล้วเข้ามาแทนที่ทันที
ในส่วนของออฟฟิซ, มีเหล่าศาสตราจารย์ที่กําลังหารือกันเพื่อที่จะแก้ไขปัญหา เรื่องของการผลิตยาที่ยุ่งยากซับซ้อนเช่นนี้
“พวกเราสามารถสกัดเอาเฉพาะส่วนที่ต้องใช้ทํายาจริงๆ จากนั้นก็หาทาง แล้วจัดการเพิ่มลงไปที่หลังไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้หรอก, อีกอย่างความยากของยาตัวนี้ไม่ใช่เรื่องของการสกัดตัวยาหรอก และ เป็นขั้นตอนสุดท้ายต่างหาก, ทันที่ที่มีปัญหาเกิดขึ้นในขั้นตอนของการผสมยา, ผลของมันจะลดลงไปทันที, จากที่อัจฉริยะว่าไว้ ในขั้นตอนการผสมยานั้น จะเป็นการทําให้ตัวยานั้นแสดงประสิทธิภาพในการต้านมะเร็งขึ้นมา” ต่งปี้หวูอธิบาย
พวกเขาจึงได้ลองที่จะสกัดตัวยาออกมา, จากนั้นก็ลองผสมตัวยาอย่างง่ายๆ แต่ตัวยาที่เสร็จสมบูรณ์นั้น ไม่แสดงผลของยาอะไรออกมาเลย
“ถ้าเป็นเช่นนี้, สิ่งที่พวกเราทําได้คงมีแต่ต้องเพิ่มบุคลากรสําหรับใช้อุปกรณ์และสังเคราะห์ยาเสียแล้ว, ในอนาคตดูเหมือนพวกเราอาจจะต้องเพิ่มตําแหน่งใหม่ให้กับสถานพยาบาลของพวกเราเสียแล้วล่ะ”
เหล่าศาสตราจารย์พวกนั้นรู้ดีว่า หลังจากที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปได้เผยแพร่เทคโนโลยีการรักษาออกไปแล้วนั้น วิธีการดั้งเดิมอย่างคีโมบําบัดนั้น คงจะต้องมาถึงจุดจบเสียแล้ว
ถึงแม้จะต้องมีหมอด้านมะเร็งที่จะต้องตกงานไป, แต่ด้วยตัวยานี้ จํานวนของผู้ป่วยโร คมะเร็งก็จะลดลงไปเรื่อยๆในอนาคตอยู่ดี
ในออฟฟิศนั้น, มองดูวัตถุดิบที่ถูกส่งเข้ามาโดยหวังหลานนั้น, อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“จี้, ตอนนี้สถิติเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?”
“ยังห่างไกล, มีอยู่ 2.57 ล้านคนที่ได้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบําบัดตรวจพบโรคมะเร็ง แต่ทว่ จากข้อมูลที่ทางโรงพยาบาลได้ให้พวกเรามานั้น, น่าจะมีผู้ปวยโรคมะเร็งอยู่ในประ 3 – 3.1 ล้านคน, แน่นอนว่านี่เป็นข้อมูลของทางจีนประเทศเดียวเท่านั้น”
จํานวนยาที่ต้องใช้ที่มากขนาดนั้น, กับความเร็วในการผลิตยา นี่มันช่างเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ป่วยโรคมะเร็งจริงๆนะ
ยาที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยคนๆเดียวในหนึ่งวัน
จะทํายาเพียงพอสําหรับใช้ 5 -10 คนเท่านั้น, โชคยังดีที่ ผลของยานั้นจะมีผลไปตลอด 1015 วัน
” จี้ , พวกเราสามารถใช้ขั้นตอนการผสมยาที่ง่ายกว่านี้ในการทํายาได้มั้ย ?”
จี้เริ่มทําการคํานวนจากคําถามที่อู๋ฮ่าวเหรินถามมา ไม่นานนักก็ได้คําตอบ
“ตัวยาสามารถทําง่ายขึ้นได้ด้วยการลดประสิทธิภาพของมันค่ะ, ซึ่งวิธีที่ว่าคือ การนําเอาขั้นตอนสุดท้ายของตัวยาที่สําเร็จอย่างครึ่งๆกลางๆไปให้ผู้ป่วยไปผสมเองค่ะ, ด้วยวิธีการนี้ความเร็วในการเตรียมยานั้นจะเร็วขึ้นถึง 5 เท่าจากตอนนี้ค่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูข้อมูล, ด้วยวิธีการทํายาแบบนี้นั้น มันสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องจํานวนยาที่ผลิตได้ก็จริง, แต่ทว่ามันไม่ได้คํานึงถึงประสิทธิภาพของยาด้วยนี่สิ, ในขั้นตอนสุดท้ายนั้น, ถ้าปราศจากการช่วยเหลือของอุปกรณ์แล้ว, ผู้ปวยมีโอกาสที่จะเตรียมยาพลาดจนแม้แต่ยาอาจจะไม่แสดงผลของมันเลย
ตัวยาที่ครึ่งๆกลางๆแบบนี้มันพึ่งพาไม่ได้มากเกินไป, อู๋ฮ่าวเหรินจึงยอมแพ้กับวิธีนี้
“ก็อกๆ”
“เข้ามาได้”
“ท่านประธานคะ, มีคนจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization/WHO) ได้ส่งจดหมายมาขอเข้าพบคุณค่ะ”
“คนพวกนี้เคลื่อนไหวกันเร็วดีจริงๆ คิดว่าพวกเขาจะรอให้ผลของการรักษาโรคมะเร็งออกมาสมบูรณ์ซะก่อนนะเนี่ย”
“จัดทํากําหนดการณ์มาเลย, ผมจะพบกับพวกเขาเอง, มีบางอย่างที่ผมต้องการให้พวกเขาช่วยเหมือนกัน”
เรื่องของการพัฒนาฐานข้อมูลเรื่องของโลกสําหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบําบัดนั้น อู๋ฮ่าวเหริน ไม่ได้ทําอะไรเพิ่มเติมกับมันเลย, เพราะเขากําลังรอโอกาสอยู่, และตอนนี้ WHO ก็ได้มาหาเขาแล้ว, ถ้าเขาสามารถขอข้อมูลพวกนี้จากพวกเขาได้, ก็จะสามารถจัดการกับเรื่องของดาต้าเบสของไฟฟ้าชีวภาพบําบัดได้
เมื่อถึงเวลานั้น, ข้อมูลการตรวจจับและระบบการเตือนก็จะถูกเปิดให้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่าเกิดอะไรผิดปกติขึ้นกับผู้ใช้หลังจากที่ตรวจพบค่าที่ผิดปกติในร่างกาย
คนพวกนี้กระตือรือร้นที่จะมาที่พิวเจอร์กรุ๊ปและต้องการขอพบกับอู๋ฮ่าวเหรินนั้น, น่าจะเพราะแรงกดดันจากบางประเทศแน่ๆ
การพบปะนั้นเริ่มขึ้นในตอนช่วงบ่ายเมื่อมีคนจากชาติตะวันตกที่มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่จํานวนหนึ่ง ได้มาถึงฟิวเจอร์กรุ๊ป
แน่นอนว่า ทั้งสองคนนี้มีความสงสัยเกี่ยวกับฟิวเจอร์กรุ๊ปอย่างมาก แต่พวกเขาก็ยังนั่งรถเพื่อชมและไม่ได้ถามข้อมูลอะไรเพิ่ม, มันคงจะไม่เป็นการดีแน่ถ้าถูกจัดให้เป็นสายลับ
“อาคารพวกนี้สุดยอด, วิศวกรที่ออกแบบที่นี้จะต้องเป็นยอดคนมากแน่ๆ”
“ขอบคุณสําหรับคําชม
เมื่อเห็นอู๋ฮ่าวเหรินเดินออกมาหา, โรเบิร์ตก็ได้รีบเดินไปพบ ก่อนจะยื่นมือของเขาออกไปและพูดขึ้น “สวัสดี, อัจฉริยะหนุ่ม คุณอู๋สินะครับ, ผมชื่อโรเบิร์ตมาจากองค์การอนามัยโลก และนี่คือ คู่หูของผมขอรูธ, คุณเป็นคนออกแบบอาคารพวกนี้เองอย่างงั้นเหรอ?”
“สวัสดีครับ คุณโรเบิร์ต และคุณรูธ, ยินดีต้อนรับสู่ฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ, ผมเป็นคนเอาแบบแปลนอาคารพวกนี้ออกมาเองแหละครับ, เราเข้าไปคุยธุระกันด้านในกันดีกว่า”
เมื่อเข้ามาในห้องประชุม, โรเบิร์ตก็ได้พูดขึ้น “จุดประสงค์ของการมาของพวกเราในครั้งนี้ คุณอู๋ก็น่าจะพอเดาได้อยู่แล้ว, พวกเรามาเพื่อต้องการที่จะรู้ถึงประสิทธิภาพของยาต้านมะเร็งว่า มันมีประสิทธิภาพตามที่ข้อมูลที่แจ้งเอาไว้หรือไม่นะครับ?”
“แน่นอนครับ, บริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปของพวกเราไม่เคยหลอกขายยาปลอมเพื่อหลอกผู้ ป่วยหรอกครับ”
“ผมขอโทษด้วยที่คําถามที่ออกจะดูหยาบคายไปซักเล็กน้อย, ผมไม่ได้สงสัยอะไร แต่คิดว่ามันสุดยอดมากเลย, ผมอยากให้คุณเข้าใจด้วย แล้วก็คุณอู๋ครับ อีกจุดประสงค์ที่เรามาที่นี่ก็เพื่ออยากจะทราบว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะให้สิทธิ์การสั่งซื้อนอกประเทศครับ, สําหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งแล้ว หากได้ตัวยานี้ได้เร็วเท่าไรก็จะสามารถช่วยคนเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้นครับ”
“ผมเองก็ไม่รู้จะตอบคําถามนี้ยังไงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากที่จะเปิดให้สิทธิ์การ งซื้อนอกประเทศหรอกครับ แต่กําลังการผลิตยาในปัจจุบันเป็นไปได้ช้ามาก ถ้าคุณสนใจก็ตาม ผมมาที่ห้องศูนย์การผลิตยาก็ได้นะครับ”
พวกเราสามารถไปได้ศูนย์การผลิตยาได้ด้วยเหรอคะ, ไม่ใช่ว่าเป็นความลับหรอกเหรอคะ?” รูธ มีหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆก็ถามกลับมา
“ฮ่าฮ่า, ผมคิดว่าคุณคงจะเข้าใจอะไรผิด, ต่อให้ผมเผยแพร่ส่วนผสมยาตัวนี้ออก, แต่ถ้าปราศจากการใช้อุปกรณ์ผลิตยาของบริษัทเรา, ตัวยานี้ก็ไม่สามารถผลิตออกมาได้อยู่ดีครับ”
มองดูทั้งสองคนที่มีแววตาไม่เชื่อ, อู๋ฮ่าวเหรินจึงพาพวกเขาไปที่โรงพยาบาล
ในเวลานี้, ที่นี่ไม่ได้ร้างอีกแล้ว, โรงพยาบาลในตอนนี้เต็มไปด้วยสมาชิกในครอบครัวของผู้มาเข้าร่วมการทดสอบ, สีหน้าของพวกเขานั่นไม่ใช่สีหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์อีกแล้ว, และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม, มีบางคนที่พูดคุยเรื่องของแผนในอนาคตกับลูกและภรรยาหรือสามีของพวกเขาหลังจากที่รักษาหายดีแล้ว
การมาถึงของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น ก็ได้ดึงดูดความสนใจของครอบครัวของผู้ป่วยพวกนี้เหล่านี้, ไม่นานนัก, อู๋ฮ่าวเหรินก็ถูกรุมล้อมด้วยเหล่าคราวครัวของผู้ป่วย
ความรู้สึกยินดีและขอบคุณของคนพวกนี้ทําให้อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับรู้สึกรับไม่ไหวแปลกๆ บางคน เมื่อเห็นอู๋ฮ่าวเหรินก็ถึงกับลงไปทรุด ความรู้สึกตื้นตันที่กดเอาไว้ไม่อยู่ทําให้น้ำตาหลั่งไหลออกมา
แน่นอนว่า, ผู้ปวยโรคมะเร็งและครอบครัวของพวกเขาเหล่านี้ต่างก็ต้องทนทุกข์เพราะโรคนี้มาอย่างยาวนานมาก
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนที่ตามมาต่างก็พากันตกใจเมื่อได้ยินคําพูดขอบคุณของครอบครัวของผู้ป่วยเหล่านี้, รวมถึงเรื่องของที่ผู้ป่วยพวกนี้บอกว่ากําลังจะหายดี
ในหนึ่งวันนั้น, การรักษานั้นก็สามารถแสดงผลแล้ว, และผลของการรักษานั้นก็ดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดมาก, ทําให้ผู้คนต่างก็เข้าใจว่าทําไมในตอนที่พิวเจอร์กรุ๊ปได้ประกาศเรื่องการรักษาออกไปนั้น, ถึงได้มีบางข้อมูลที่ยังไม่ถูกเผยแพร่ออกไป
ไม่เช่นนั้นแล้ว, ผู้ป่วยโรคมะเร็งคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับเลือกอาจจะได้บ้าคลั่งกันมากกว่าตอนนี้แน่
ด้วยการช่วยเหลือของรูธ ในที่สุดอู๋ฮ่าวเหรินก็ออกจากวงล้อมของครอบครัวของผู้ป่วยได้
คอมเม้นต์