I Found A Planet – ตอนที่ 31 มุ่งหน้าสู่เมืองฟอร์คเวิรธ์

อ่านนิยายจีนเรื่อง I Found A Planet ตอนที่ 31 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

31 มุ่งหน้าสู่เมืองฟอร์คเวิรธ์

หลังจากทำการตกลงกับแม่เรียบร้อย เฉินจินเองก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดแม่ของเขาก็ตกลงที่จะปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักที ในตอนนี้เขาสามารถนั่งพักและผ่อนคลายโดยที่ไม่มีใครคอยรบกวนเขากับเรื่องการแต่งงาน อย่างน้อยก็สองถึงสามปีนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถเพลิดเพลินไปกับอิสรภาพของเขาได้อย่างเต็มที่อย่างที่ใจของเขาหวังไว้ได้แล้ว

และเฉินจินเองก็รู้สึกดีมากหลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการเปิดตัวธุรกิจของเขาโดยเริ่มต้น เฉินได้รับเงินถึง 15 ล้านหยวน ซึ่งเป้าหมายแรกของเขาก็คือ 150 ล้านหยวน!ซึ่งจำนวนเงินขนานนั้นมันดูชั่งหอมหวานเสียเหลือเกิน! แต่ถ้ามันล้มเหลวล่ะ… แต่เฉินจินก็เชื่อว่าคนอย่างเขาจะไม่ทำมันล้มเหลวอย่างแน่นอน

สิ่งที่เขาต้องคิดให้มากที่สุดคือวิธีที่เขาสามารถทำการสำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและดึงแผนนี้ออกมาให้เร็วที่สุด ดังนั้นตีห้าในวันที่ 1 ตุลาคมซึ่งเป็นวันชาติ เฉินจินโทรหาพ่อแม่ของเขาเพื่อบอกพวกเขาทั้งคู่ว่า เขาเดินทางออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะกลัวรถติดตอนนี้เขาเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

“ ขอให้สนุกนะลูก ดูแลตัวเองด้วย แม่จะรอลูกอยู่ที่บ้านนะ” เฉาหลี่บอกลูกชายของเธอด้วยเสียงที่พึงจะตื่นนอน เธอวางแผนที่จะทำอาหารเช้าให้ลูกชายของเธอแต่แผนนี้กับล้ม เพราะเธอตื่นสายกว่าลูกชายของเธออยู่มาก เมื่อลูกชายของเธอพูดจบเฉาหลี่ก็กลับไปนอนต่อ

“ เฮ่…พร้อมแล้วที่จะไปตะลุยดาวไฮเออร์แอลฟา!” ไม่นานหลังจากที่เขาออกจากบ้านเฉินจินย่องเข้ามาเปิดประตูอย่างเงียบ ๆ และล็อคมันไว้ข้างหลังเขา และจากนั้นเขาก็เดินแบบย่องเท้าผ่านทางประตูในห้องน้ำพร้อมกับกระเป๋าของเขาวางไว้บนแท่นโลหะที่เขามอบหมายให้ดาหลินเตรียมไว้ที่ประตูมิติ

ที่แคมป์ปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมอแล้ว การแก้ไข “โรเวอร์หมายเลข 1 ” ถูกชาร์จเต็มแล้ว รถบลูแองเจิ้ลเองที่ทำงานเป็นยานพาหนะสำรองก็ถูกชาร์จจนเต็มและมีหุ่นยนต์ 51 ตัวที่ชาร์จแบตเตอร์รี่แล้ว นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 50 คันไว้ให้สำหรับหุ่นยนต์ทำการขี่รถเหล่านี้ในการสำรวจเพื่อที่พวกมันจะได้เร่งความเร็วในการสำรวจดาวได้เร็วขึ้น มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีประจุไฟเต็มและมีประสิทธิภาพสูงสำรองไว้ 200 ชิ้นและแบตเตอรี่ขนาดเล็ก 122 ตัว

ตอนนี้สิ่งที่เขาบรรทุกไปมันมีน้ำมากกว่า 1,000 ขวด, กล่องเก็บของมากกว่า 50 กล่อง, อาหารว่าง, บาร์พลังงาน, ผลไม้กระป๋อง, เนื้อสัตว์บรรจุกระป๋อง, ,มันมากกว่า 300 แพ็คที่เป็นอาหารพร้อมรับประทานอยู่ในพื้นที่เก็บสินค้าบนรถของไฮเออร์แอลฟา“ แลนด์โรเวอร์หมายเลข 1” เสบียงอาหารเหล่านี้เพียงพอที่จะเลี้ยงเฉินจินไปนานกว่า 3 เดือน การเตรียมอุปกรณ์อื่น ๆ ของเขาก็เพียงพอสำหรับทำภารกิจในช่วงอาทิตย์นี้แล้ว

สำหรับเมืองฟอร์ตเวิร์ธ นั้นห่างจากแคมป์ประมาณ 200 กิโลเมตรเพียงเท่านั้น มันใช้เวลาไม่เกินหนึ่งวันในการเดินทางไปกลับดังนั้นเขาจึงมีเวลามากพอที่จะสำรวจเมืองจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นตราบใดที่เขายังคงขับรถไปทางเหนือตามถนน – และถ้าถนนไม่หายไปครึ่งทาง – เขาสามารถไปถึงเมืองฟอร์ตเวิร์ธ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่หลงทาง และนั่นคือเหตุผลที่เขามั่นใจที่จะขับรถโรเวอร์หมายเลข 1 และนำทีมไปค้นหา (บุก) เมืองเป็นด้วยตัวเอง

“ ฉันสงสัยว่าอะไรกำลังรอฉันอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีจำนวนประชากรมากขนาดนั้น บางทีฉันอาจจะพบทองคำจำนวนมากมายเครื่องประดับหรือข้อมูลที่น่าอัศจรรย์บางอย่าง! ไม่ว่าในกรณีใดฉันมั่นใจว่าจะมีขุมทรัพย์ในเมืองนั้น มากกว่าเมืองเทอรรี่อย่างแน่นอน!” ตอนนี้เฉินจินดูสนใจเมืองฟอร์ตเวิร์ธเป็นอย่างมากและกำลังตื่นเต้นที่จะเดินทางไปถึงเมืองนั้น

ใบหน้าของเฉินจินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขากดปุ่มสตาทบนโรเวอร์หมายเลข.1 โดยไม่ลังเล “ไปเลย!”

บูมๆๆ บูมๆ!

เสียงเครื่องยนต์ดังดังขณะล้อนั้นหมุนอย่างรวดเร็ว เฉินจินจับพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งอย่างมั่นคง

บูมๆ!

ยางเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อรถโรเวอร์หมายเลข 1 เริ่มสั่นสะเทือน รถกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เฉินจินเร่งเครื่องขณะที่เขาเหยียบคันเร่งหนักยิ่งขึ้นทำให้ความเร็วสูงขึ้นถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หุ่นยนต์ของเขาก็ติดตามมาเช่นกัน พวกมันเรียงแถวขึ้นมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสจากหุ่นยนตร์ 16 ตัวเพื่อเคลียร์ทางโดยมีหุ่นยนตร์ที่ขี่มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าถืออาวุธปืนอยู่แถวแรกโดยใช้เรดาร์ผ่านคลื่นระดับมิลลิเมตรของพวกมันในการสแกนถนนข้างหน้าเพื่อหาเส้นทางที่ดีที่สุดเช่นเดียวกันพวกมันต้องการหลีกเลี่ยงทุ่นระเบิดที่วางไว้ตามจุดต่างๆด้วย . ด้านข้างมีหุ่นยนต์ 16 ตัวสองแถวคอยดูแลทีมทั้งหมดโดยดาหลินขับยานพาหนะสำรอง“ รถบูลแองเจิ้ล” ที่ด้านหลัง

เพื่อให้รถทุกคันเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้นเฉินจินสั่งให้หุ่นยนต์ขุดอุโมงค์เป็นระยะทาง5 กิโลเมตร. ไปทางด้านตะวันออกของปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ การขุดอุโมงค์หลอดผ่านหลุมอุกาบาตที่เป็นที่ต้องของแคมป์ทำให้เฉินจินพาทีมสำรวจของเขาเดินทางได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องอ้อมขึ้นไปถนนหลัก โดยเดินทางได้เร็วขึ้น 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!

ตอนนี้พวกเขาเหมือนเข้าไปในทะเลทรายโกบีที่กว้างใหญ่ ขบวนรถขนาดเล็กที่ไม่เล็กนี้ขับและลอยได้อย่างอิสระในดินแดนที่แห้งแล้งของทะเลทราย ยางที่หมุนอยู่นั้นทิ้งรอยฝุ่นกลิ้งตามที่พวกมันเร่งไปตามถนนทะเลทราย เสียงและการเคลื่อนที่ทั้งหมดที่พวกมันสร้างขึ้นนั้นทำให้โลกที่เต็มไปด้วยความเงียบนั้นนี้กลับมามีชีวิตชีวอีกครั้ง

ในที่นั่งคนขับในโรเวอร์หมายเลข 1 เฉินจินเข้าใจการขับรถอย่างล้ำลึก ฉากสีดำและสีขาวผ่านกระจกหน้าดินแดนอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยทรายสถาปัตยกรรมและอาคารที่หายากมาก … ทั้งหมดนี้ทำให้เฉินจินรู้สึกเหมือนเขากำลังทำการสำรวจบนพื้นผิวของดาวเคราะห์ต่างดาวบางแห่ง

ถึงแม้เขารู้ดีว่านี้คือดาวไฮเออร์แอลฟา สิ่งต่างๆที่เขาเห็นมากมายนั้นล้วนเกิดมาจากการพัฒนาถึงขีดสุดของอารยธรรม และมันเป็นธรรมชาติที่ความขัดแย้งภายในมนุษย์ที่ทำให้เกิดการทำลายล้างนี้ขึ้น การทำลายที่มาจากความทะเยอทะยานความปรารถนาและความโลภของพวกเขา

อย่างไรก็ตามโลกก็ไม่ได้ดีไปกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับดาวไฮเออร์แอลฟา มันมีอาวุธนิวเคลียร์นับหมื่นนับพันพร้อมด้วยความขัดแย้งทุกประเภทและความต้องการเป็นเจ้าผู้ครอบครองโลกยังคงมีอยู่ แม้ว่าโลกนี้จะไม่ได้อยู่ในสงครามและผู้คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตที่มีค่าและมีความสงบสุข แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่โลกจะจบลงอย่างเช่นดาวไฮเออร์แอลฟาตราบใดที่บนโลกยังมีความขัดแย้งกันอยู่ มนุษย์บนโลกสามารถทำลายตัวเองได้เสมอ

“ บางทีฉันควรทำบางสิ่งเพื่อปกป้องสันติภาพบนโลกเพื่อป้องกันไม่ให้มันถูกทำลายเหมือนดาวดวงนี้” เฉินจินพึมพำกับตัวเอง แต่แล้วก็ส่ายหัว

รักษาสันติภาพของโลก? ฉันเป็นแค่คนตัวเล็กๆ และฉันจะเป็นผู้ตัดสินใจอนาคตของโลกได้ยังไง แม้ว่าฉันเปิดเผยเรื่องดาวไฮเออร์แอลฟาให้โลกรู้และเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับดาวดวงนี้ ฉันก็ยังคิดถึงการมีชีวิตอยู่และทำให้ครอบครัวของฉันปลอดภัยฉันจะไม่ได้สนใจคนอื่นว่าจะเป็นยังไง! ฉันไม่ใช่นักบุญเหมือนเวอร์จิลแมรรี่; ฉันไม่รับผิดชอบที่จะรักษาโลกให้ปลอดภัย ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้นจริงฉันจะซ่อนตัวอยู่ที่ดาวไฮเออร์แอลฟาแห่งนี้ จนกว่ามันจะจบลง และถ้าฉันได้พบดาวเคราะห์ดวงอื่นเพิ่มล่ะ แล้ว … มันจะดีแค่ไหนกัน?

เช่นเดียวกับการเพิ่มขึ้นของจุดจบหรือการแตกตัวของสสารที่เรียกว่าเอนโทบีในจักรวาลสิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์มีความซับซ้อนอย่างยิ่ง บางคนก็ใจดีบางคนก็ชั่ว บางคนเห็นแก่ตัว มีคนที่นับถือศาสนาและมีคนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ มีคนที่รักความสงบ แต่ก็มีคนที่สนับสนุนความรุนแรง บางคนร่ำรวย แต่บางคนก็ยากจน สิ่งนี้ย่อมสร้างความขัดแย้งมากมาย สังคมที่ดำเนินต่อไปจากความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยและความสับสนนั้นแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้

เว้นแต่มนุษย์ทุกคนจะกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ควบคุมและถูกตั้งค่าโปรแกรมไว้ ดังนั้นไม่ใช่แค่เฉินจิน แต่จะไม่มีใครสามารถรักษาสันติภาพของโลกไว้ได้จริงๆ

พวกเขาขับรถไปตามถนนที่เต็มไปด้วยยานพาหนะทุกประเภทมันเป็นเวลาสี่ชั่วโมงและพวกเขาอยู่ทางเหนือของเมืองเทอรรี่ข้างหน้าของพวกเขาสภาพอากาศเริ่มมีลมแรงและมีทรายมากขึ้น การสะสมทรายบนพื้นดินมีความหนาและหนาขึ้น

การขับรถบนทางหลวงที่ปลอดการจราจรเฉินจินต้องพึ่งพาเครื่องตักทรายของโรเวอร์หมายเลข 1 เพื่อปาดทรายทั้งหมดก่อนดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเขากำลังขับรถอยู่ที่ไหน ทุกอย่างดีจนกระทั่งการสะสมของทรายมีความหนาหนึ่งเมตรและเครื่องตักไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป ไม่มีการมองเห็นถนนข้างหน้าแต่อย่างใด เฉินจินต้องบังคับให้โดรนจากกล้องของดาเจียน ทำงานเพื่อให้สามารถตรวจจับและค้นหาพื้นที่จากหลายพันเมตรด้านบนท้องฟ้าได้

โชคดีที่ขบวนทั้งหมดนั้นอยู่ห่างจากเมืองฟอร์ตเวิร์ธไม่ถึง 10 กิโลเมตร เสียงพึมพำถูกส่งมาพร้อมภาพแบบขาดๆหายๆ – มันเป็นภาพเบลอของโครงร่างของเมือง เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังขับรถไปในทิศทางที่ถูกต้องเฉินจินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมากและนำทีมไปตามทางนั้นต่อไป

อย่างไรก็ตามหลังจากพวกเขาไปถึงด้านนอกของเมืองฟอร์ธเวิร์ธ พวกเขาจอดรถบนเนินเขาเล็ก ๆ ที่พวกเขาสามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมด เฉินจินตกใจอย่างมาก มีปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีรัศมี 5 กิโลเมตรอยู่ใจกลางเมืองฟอร์ตเวิร์ธ ประมาณร้อยละ 70% ของมันถูกทำลายโดยระเบิดนิวเคลียร์

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด