I Found A Planet – ตอนที่ 48

อ่านนิยายจีนเรื่อง I Found A Planet ตอนที่ 48 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

48 เพื่อนสมมุติ

ในวันแรกของการเปิดร้านขายเครื่องประดับที่เฉินจินเป็นเจ้าของ ถือว่าในวันแรกนั้นทำยอดขายได้ค่อนข้างดี เพราะยอดขายในวันนั้นสูงถึง 10 ล้านหยวนมันค่อนข้างเป็นที่พอใจกับเจ้าของร้านอย่างเฉินจิน และผู้จัดการร้านอย่างชิววันติง

และในวันที่สองที่ยังจัดแคมเปญและโปรโมชั่นเหมือนวันแรกที่เปิดร้าน วันนี้ปริมาณของลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยนั้นเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ตอนนี้ทางร้านมีรายได้จากการขายเครื่องประดับสูงถึง 18,600,000 หยวนภายในวันเดียว

ในวันที่สามสี่และห้ารายได้จากการขายอยู่ที่ 8,700,000 หยวน 8,300,000 หยวน และ 7,400,000 หยวนตามลำดับ เฉพาะในวันที่แปดเมื่อโปรโมชั่นสิ้นสุดลงรายได้จากการขายก็ลดลงต่ำกว่า 5,000,000 หยวน

ในเจ็ดวันรายได้ของยอดขายรวมจากร้านขายเครื่องประดับมีมากกว่า 64,000,000 หยวน! นี่ถือเป็นยอดขายที่เยี่ยมยอดที่สุด จากประสบการณ์กว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมเครื่องประดับของชิววันติน เธอไม่เคยสร้างรายได้จากการขายที่สุดยอดเช่นนี้มาก่อน

แน่นอนว่าชิววันตินรู้ว่าอะไรคือเหตุผลของความสำเร็จในครั้งนี้ มันเป็นเพราะราคาของเครื่องประดับที่ค่อนข้างถูก! โดยเฉพาะเครื่องประดับพวกทอง ร้านขายเครื่องประดับอื่นๆจะตั้งราคาปกติอยู่ที่ 350 หยวน หรือ 360 หยวนกรัม แม้ว่าพวกร้านเหล่านั้นจะพยายามจัดโปรโมชั่นแล้ว ก็ลดราคาสิ้นค้าได้แค่ 10 หยวนเท่านั้น กลับกัน

สำหรับที่ “มรดกแห่งอัญมณี”แห่งนี้ ราคาทองมันกับถูกตั้งราคาอยู่ที่ 336 หยวนต่อกรัม และยังมีส่วนลดเพิ่มเติ่มจากแคมเปญเปิดร้านอีกถึง 10% หรือมากสุด 15% มันเลยทำให้ราคาเฉลี่ยของสินค้าในร้านอยู่ที่ 300 หยวนต่อกรัม สำหรับลูกค้าแล้วนี้เป็นราคาน่าจับจองไว้อย่างมากเพราะมันถูกกว่าราคาตลาดปกติ

ส่วนทองคำแท่งเล็กๆจำนวน 50 กรัมที่ทำขึ้นเพื่อให้นักลงทุน ทองเหล่านี้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมันไม่ได้มีความสวยงามมากนัก ทองแท่งเหล่านี้มีราคาอยู่เพียง 288 หยวนต่อกรัม มันอยู่ใกล้กับราคาตลาดสากลมาก แต่อย่างไรก็ตามราคามันก็น่าดึงดูดใจมากและเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ อีกทั้งทองเหล่านี้ยังสร้างกำไรให้ร้านของเฉินจินคิดเป็นหนึ่งในสามของกำไรที่ได้ทั้งหมดด้วย

ถึงแม้ลูกค้าหรือนักลงทุนบางจะส่วนซื้อทองคำแท่งขนาดเล็ก 50 กรัม แต่พวกเขาก็ยังต้องการทองคำแท่งขนาดใหญ่กว่านี่ที่มีน้ำหนัก 100, 200, 500 หรือ 1,000 กรัม เพราะมันจะสะดวกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองน้ำหนักที่ละมากๆ

ชิววันติง เองก็ต้องการทำตามความต้องการของลูกค้า เธอคิดว่าจะเสนอเพิ่มจำนวนทองคำแท่งที่มีน้ำหนัก 100 กรัม, 200 กรัมและ 500 กรัมเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าที่มากหน้าหลายตาหรือนักลงทุนที่ต้องการตัวเลือกมากกว่านี้

ในขณะเดียวกันเธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ลึกๆภายในใจ“ ในเมืองนี้มีแต่คนที่ร่ำรวย ฉันอยากรู้จริงๆพวกเขาทำอาชีพอะไรแน่ถึงได้มีเงินเป็นถุงเงินถังเช่นนี้” อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ารายได้จากการขายในช่วงสองสามวันนี้จะสูงมาก แต่กำไรที่ได้รับนั้นไม่สูงเลย เป็นเพราะทางร้านได้ใช้กลยุทธ์ในการขายแบบเน้นปริมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทองคำซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เสียประโยชน์ แต่ยังทำให้เขาขาดทุน 2 หยวนถึง 3 หยวนต่อการขายทุกหนึ่งกรัม หากไม่ใช่ผลกำไรนับล้านๆที่ได้มาจากการขาย ทองคำขาวเพชรและเครื่องประดับอื่นๆ ทางร้านแทบจะไม่ได้กำไรเลยจากการขายเจ็ดวันในครั้งนี้!

มันดีมากที่ช่วงเวลาโปรโมชั่นได้สิ้นสุดลงแล้ว การประชาสัมพันธ์ของร้านขายเครื่องประดับแพร่กระจายไปทั่วเมือง เกี่ยวกับเรื่องราคาของเครื่องประดับ ที่กลับมาอยู่ในราคาปกติและปริมาณของสินค้าก็ลดตามลงไปด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามชิววันติงเธอก็มองว่าร้านของเธอที่มีเธอเป็นผู้จัดการจะทำกำไรได้มหาศาลอย่างแน่นอน!

ในทางกลับกันเฉินจินกับมีทัศนคติที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เขามีความสุขมากจนเขาไม่สามารถหยุดยิ้มได้ เป็นเพราะทองคำ 100 กิโลกรัมที่เขาหามาให้ทั้งหมดถูกพบบนดาวไฮเออร์แอลฟา หลังจากไปที่ผู้ผลิตเครื่องประดับได้แลกเปลี่ยนทองคำเของเขาเป็นเครื่องประดับทองคำน้ำหนัก 90 กิโลกรัมซึ่งค่าต้นทุนที่เฉินจินเสียไปนั้นแทบจะเท่ากับศูนย์

เครื่องประดับทองคำ 90 กิโลกรัมนั้นถูกขายออกมาจำนวนเยอะมากในช่วงโปรโมชั่น พวกมันถูกเปลี่ยนเป็นเงินก้อนใหญ่จำนวนเงินเกือบ 26,000,000 หยวนในบัญชีลับชองเขา (บัญชีนี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ตัวตนของลุงฉินเป็นนามแฝง)

กระบวนการเปลี่ยนทองคำเป็นเงินสดนั้นเสร็จสมบูรณ์ภายในไม่กี่วัน การรักษาผลกำไรของร้านขายเครื่องประดับก็เป็นหลักประกันในความสำเร็จครั้งนี้ ขณะนี้ อาจกล่าวได้ว่ากระบวนการที่เฉินจินวางแผนนั้นสมบูรณ์แบบมาก แต่อย่างไรก็ดีเฉินจินพยายามเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพื่อให้ร้านสามารถดำเนินการได้ปกติแล้วไม่ถูกตรวจสอบ เฉินจินจึงนำ ”ทองคำประเภทที่สาม”ที่ถูกแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับแล้วมาขายบางส่วนเพื่อไม่ให้ผิดสงสัย

“ อย่างงั้นฉันจะใช้ทองคำประมาณ 100 กิโลกรัมทุกเดือนและส่งไปให้ผู้ผลิตเครื่องประดับต่างๆเพื่อแลกเป็นเครื่องประดับทองคำ ด้วยวิธีนี้ฉันจะมีเงินสดมากกว่า 20,000,000 หยวนฝากเข้าบัญชีของฉันทุกเดือน! รวมๆแล้วฉันจะทำเงินได้มากกว่าสองร้อยล้านเลยด้วยซ้ำ”

ประมาณสองร้อยล้าน…. จะเพียงพอหรอ แน่นอนว่าคำถามนี้อาจตอบได้ว่ามันยิ่งกว่าพอเสียวอีก! ประเด็นร้อนที่เขาเคยคุยกับพ่อแม่ของเขาคือการทำกำไร ร้อยล้านในหนึ่งปี! มันเทียบเท่ากับการเปลี่ยนทองคำสี่หรือห้าตันเป็นเงินสดทุกปี

แน่นอนถ้าเฉินจินมีทองคำเพียงพอเขาจะต้องการขายทองคำออกปีละหลายสิบหรือหลายร้อยตัน มันจะทำให้เขาได้รับรายได้เป็นพันล้าน! แต่วิธีการนี้มีความเสี่ยงสูงเกินไป มันอาจทำให้สาธารณชนสงสัยในตัวเขาและที่มาของทองก็เป็นได้ เพื่อหลีกเลี่ยงในการตรวจสอบการซื้อขายทองคำ 100 กิโลกรัมในแต่ละเดือน นั้นเป็นข้อจำกัดที่เขาต้องเจอ แต่ถ้าเฉินจินต้องการบรรลุเป้าหมายของการสร้างรายได้หนึ่งหมื่นล้านต่อปีเขาก็ต้องหาใช้วิธีการอื่นเพื่อสร้างรายได้อย่างถูกกฎหมาย!
ไอรีนโนเวล

“อย่างงั้นมันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทำธุรกิจใหม่อย่างเอาจริงเอาจัง! ฉันต้องทำธุรกิจทันที เพราะตอนนี้ฉันมีมากกว่า 20,000,000 หยวน เข้าบัญชีของฉันทุกเดือนมันเพียงพอสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจในระยะแรก ในความเป็นจริงๆแล้วถ้าเป็นคนอื่นที่คิดจะทำธุรกิจก่อนอื่นเขาจะประเมินเรื่องห่วงโซ่อุปทาน(กระบวนการต้นทุนในการทำธุรกิจ) แต่สำหรับฉันแล้วตอนนี้ฉันมีร้านขายเครื่องประดับและดาวเคราะห์อีกหนึ่งดวง! ฉันก็ไม่สนใจเรื่องห่วงโซ่อุปทานเหล่านี้หรอก! ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วล่ะก็ ฉันควรจะเริ่มธุรกิจใหม่ของฉันได้เลย!”

ในส่วนของเฉาหลี่เธอใช้ประโยชน์จากการหยุดสองวัน ตรวจสอบงบการเงินแต่ละรายการที่เข้าและออกจากสมุดบัญชีของร้านอย่างละเอียดถี่ถ้วน เธอคำนวณทุกอย่างอย่างรอบครอบ และเธอก็พยักหน้าแล้วพูดกับเฉินจินว่า“ การตัดสินของลูกนั้นถูกต้องแล้ว คนที่ลูกจ้างเป็นผู้จัดการร้านชิววันติงนั้นมีฝีมือมาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงบัญชีหุ้นที่ขาเข้าและหุ้นขาออกค่าใช้จ่ายของพนักงานหรือวัสดุสิ้นเปลืองอื่น ๆ …. ทั้งหมดเธอสามารถจับคู่กับใบแจ้งหนี้ได้ถูกต้อง แม่ไม่สามารถตรวจพบปัญหาใดๆได้เลย นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าอาหารกลางวันและเย็นให้กับพนักงาน และแม้กระทั่งค่าใช้จ่ายเครื่องดื่มไม่รวมอยู่ในนี้ด้วย เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการร้านชิว ได้ยอมเสียเงินส่วนหนึ่งขอเธอให้กับค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากสวสัดิการที่เฉินจินจัดให้ ลูกควรให้โบนัสเพิ่มอีก 10,000 หยวนในเดือนหน้า พนักงานที่เยี่ยมยอดเช่นนี้หาไม่ได้ง่ายๆในปัจจุบัน”

เฉินจินพยักหน้า “ เข้าใจแล้วครับแม่” ถ้าไม่ใช่เพราะประสบการณ์ของแม่ของเขา เขาก็จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าป้าชิวออกเงินของตัวเองในการดูแลพนักงานเพิ่มเติมนอกเหนือจากสวัสดิการที่เขาเตรียมให้ตอนแรก

“ แต่… .. ” เมื่อมองไปที่สมุดบัญชีเฉาหลี่ก็เห็นถึงอะไรที่ไม่ชอบมาพากล “ ที่มาของเครื่องประดับ 90 กิโลกรัมนี้มันแปลกมาก มีเพียงสต๊อกสินค้าเข้ามาแต่แม่ไม่เห็นรายการสั่งซื้อใด ๆเลย แม่เลยไม่สามารถคำนวณต้นทุนการซื้อสินค้าชุดนี้ได้….”

เฉินจินรู้สึกตกใจขึ้นมาทันทีแต่พยายามเก็บอาการไว้ เพราะแม่ของเขาได้สังเกตเห็นความลับที่เขาพยายามซ่อนเอาไว้ แต่เขาก็ไม่แปลกใจ ด้วยสายตาที่เฉียบคมและสามารถมองทะลุทะลวงของเธอมันคงเป็นเรื่องแปลกหากเธอไม่สามารถตรวจจับข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัดในบัญชีของร้าน แต่ด้วยความโชคดีที่เขาได้เตรียมเรื่องราวที่เป็นไปได้ไว้แล้วเพื่ออธิบายที่มากของสินค้าชุดนี้ไว้ “แม่ไม่กังวลเรื่องนี้หรอก แม่จำสิ่งที่ผมบอกก่อนหน้านี้ได้ไหมเรื่องเงินเปิดร้าน? เรื่องที่ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งให้ผมยืมเงินเปิดร้านนะครับ”

เฉาหลี่เหลือบตาของเธอ มันเหมือนว่าเธอไม่เคยได้ยินสิ่งนี้มาก่อน

“ นอกจากที่เพื่อนคนนั้นจะให้ผมยืมเงินจำนวนมหาศาลแล้ว เพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้ทวงเงินผมคืนเลย เป็นเพราะเขามีทองคำมากมายอยู่แล้ว เงินเล็กน้อยที่ผมยืมเขามันไม่ทำให้ขนหน้าแขงของเขาล่วงหรอกครับ!” เฉินจินพูดต่อไปเรื่อย ๆ เขาสร้างเพื่อนสมมุติที่มีทองคำจำนวนมากมายขึ้นมา แต่มีปัญหาในการซื้อขายส่วนตัว ดังนั้นเขาจึงขอให้เฉินจินทำการค้าขายร่วมกับเขาโดยใช้วิธีการใช้ทองคำในการแลกเปลี่ยนเครื่องประดับทองคำที่ผู้ผลิตเครื่องประดับแล้วขายในร้านขายเครื่องประดับของเฉินจิน ส่วนตัวของเฉินจินเองจะจัดการธุรกิจเรื่องขายต่างๆให้เขาแทน ดังนั้นเฉินจินพยายามบอกแม่ของเขาว่า เขาเป็นเพียงตัวกลางทางธุรกิจ คนที่มีส่วนสำคัญจริงๆในการทำร้านเครื่องประดับแห่งนี้ คือเพื่อนสมมุติที่เขาพยายามสร้างมาหลอกแม่ของเขาเอง

ทันใดนั้นเฉาหลี่ก็เข้าใจ “ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เงินจำนวนมหาศาลถึง 26,000,000 หยวนถูกฝากเข้าบัญชีที่เพิ่งเปิดใหม่ ฉลาดจริงๆ. เพื่อนของลูกฉลาดจริงๆ อันที่จริงเขาคิดวิธีนี้เพื่อจัดการกับ “ทองประเภทที่สาม” ในมือของเขา เขาฉลาดจนถึงจุดที่เขาเปลี่ยนลูกชายของฉันให้แพะรับบาป….” ด้วยเสียงเย็นของเธอเธอถามเฉินจินว่า“ ลูก! เพื่อนของลูกชื่ออะไร? เขาอาศัยอยู่ที่ไหน? ลูกช่วยพาแม่ไปพบเขาได้ไหม” เฉาหลี่วางแผนที่จะพบปะพูดคุยกันเล็กน้อยกับตัวละครลึกลับนี้

เฉินจินโบกมือของเขาซ้ำ ๆ “ ไม่ไม่ผมสัญญากับเขาว่าผมจะเก็บความลับของเขาไว้ ถ้ามีใครพบตัวเขา เขาจะพยายามหาที่ซ่อนหรือไม่ก็อุ้มฆ่าคนที่รู้ตัวตนของเขา… ผมเลยไม่สามารถบอกแม่ได้”

เฉาหลี่ถึงกับอุทานออกมาด้วยเสียงดัง “ เขามีทองคำมากแค่ไหนกันถึงกล้าที่จะ“อุ้มฆ่าคนได้”?

ทันใดนั้นเธอจำคำถามที่เขาถามเธอได้ “ ถ้าเขาพบทองคำหนึ่งตันทองคำจะเป็นของใคร”

มันอาจจะเป็น….

ใจของเธอไปหันเหไปหาเพื่อนของเฉินจินทันทีนั้นเขา“ ให้”เงินลูกของเธอ มากกว่า 10,000,000 หยวนเพื่อเปิดร้านขายเครื่องประดับ เขาหยิบทองคำออกมาได้มากกว่า 100 กิโลกรัมพร้อมกันในการชำระบัญชีขอให้ลูกชายของเธอเก็บเป็นความลับอย่างเคร่งครัด เฉาหลี่เข้าใจทันทีว่าตัวละครลึกลับต้องมีทองคำที่มากมายมหาศาล เพื่อนคนนั้นของลูกนี้สุดยอดจริงๆ!

อย่างไรก็ตามเขาคนนั้นไม่ควรกำหนดเป้าหมายให้ลูกของเธอและใช้เขาเป็นเครื่องมือ ดังนั้นเฉาหลี่จึงตัดสินใจเข้ามามีส่วนในการตามหาตัวตนที่แท้จริงเพื่อนคนนั้นของเฉิน! เธอจะใช้ทรัพยากรของเธอเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป เธอต้องการค้นพบว่าทองคำมีจำนวนมากแค่ไหนและทองคำที่ได้มานั้นถูกกฏหมายหรือเปล่า ถ้าไม่มันควรจะต้องถูกยึดคืนแล้วเพื่อนคนนั้นของเฉินจินจะต้องเข้าสู่กระบวนการศาล

“แม่! ทองคำนั้นถูกกฎหมาย มันเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา !”

เฉาหลี่ส่ายหัวของเธอ “ไม่ ไม่. ในทางทฤษฎีการพูดอย่างงั้นมันไม่ถูกต้อง”

“ แต่นั่นเป็นทองคำจำนวนมหาศาลใครจะเต็มใจส่งมอบให้กับรัฐกัน? ถ้าทองคำเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเราแม่จะส่งมันไหม?”

เฉาหลี่จมลงไปในความคิดลึก“ อืม….” เธอต้องยอมรับว่าคำถามนี้ทดสอบความคิดของตัวเอง แต่ถ้าเป็นเธอเธอก็คงไม่ยอมมอบมันเช่นกัน

“ แม่ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนคนนี้มาก เขามีบุคลิกที่ดีเช่นกัน ผมยืนยันกับแม่ได้ว่าเขาไม่ได้ทำผิดกฏหมายแน่นอน! ผมไปรับทองคำกับเขาในช่วงวันหยุดยาวของวันชาติ เราขุดมันขึ้นมาจากด้านล่างของบ้านเก่าของเขา เขามีโฉนดที่บ้านเก่า! เขาเชื่อใจผมมากที่สุดและผมเองไม่อยากสร้างปัญหาให้กับเขาเลย!”

เฉาลี่ถึงกับคิดอะไรบางอย่างได้ ไม่น่าแปลกใจที่ลูกชายของเขาไม่ได้กลับมาบ้านเป็นตั้งแปดหรือเก้าวัน สำหรับการไปเที่ยวครั้งล่าสุด ที่จริงลูกชายของเธอไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อน อันที่จริงเฉินจินกำลังขนย้ายทองคำ การขนส่งเพียงครั้งเดียวใช้เวลาแปดถึงเก้าวันจึงจะเสร็จสมบูรณ์ นี่เองที่ทำให้เธอจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ทองคำถูกกองสูงราวกับภูเขา

“ เอาล่ะลูกชาย แม่จะเชื่อพวกลูก” ในที่สุดเฉาหลี่ก็เชื่อเฉินจินจนได้ ไม่ว่าใครจะเป็นใครก็ตามเมื่อใครก็ตามที่ได้แตะต้องทองคำมหาศาล ความคิดแรกของพวกเขาก็คือการทำเพื่อตัวเอง จากนั้นพวกเขาต้องการเก็บเป็นความลับไว้ไม่ให้แพ่งพรายออกไป มันจะเหมาะถ้ามีเพียงคนเดียวในโลกที่รู้เรื่องนี้ แต่เฉินจินยังคงเปิดเผยความลับนี้ให้เธอฟังบางส่วน ในที่สุดเธอก็พูดว่า“ โอเคลูก แม่เข้าใจว่าลูกและเพื่อนของลูกทำธุรกิจอย่างไร แม่จะช่วยลูกเก็บความลับละกัน!”

เฉินจินมีความสุข “ขอบคุณครับแม่!”

“แต่….” เฉินจินยืนมือจะไปหยิบสมุดบัญชีในมือเฉาหลี่ แต่เธอกับส่ายหัว“ คนหนุ่มสาว…ลูกต้องมีความคิดให้มากๆ วิธีที่ลูกทำสิ่งต่าง ๆ ยังไม่น่าเชื่อถือหรือปลอดภัยเพียงพอ ช่องโหว่ที่ชัดเจนเช่นนี้จะสามารถนำขึ้นตรวจสอบได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่มันก็อาจจะเกิดอะไรขึ้นหากมีบางอย่างเกิดขึ้น เรายังต้องปกปิดช่องโหว่นี้”

เฉินจินเกาหัว “ แต่…เราจะทำอย่างงั้นได้อย่างไร” เฉินจินคิดไม่ออกว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี

เฉาหลี่เองเธอก็ถอนหายใจทันที “ น่าจะดีกว่าถ้าลูกทิ้งบัญชีเล่มนี้ไว้ที่แม่ แม่จะจัดการกับบัญชีเล่มนี้เอง”

ดวงตาของเฉินจินเบิกกว้าง! เมื่อมองดูเธอด้วยความตกใจเขาพูดว่า“ แม่หมายถึง…แม่จะแต่งบัญชีให้ผมหรอ”

เฉาลี่พยักหน้าเบา ๆ

“ แต่แม่ไม่เคยทำเรื่องพวกนี้ ฉายาของแม่ในสำนักภาษีคือ ‘นักบัญชีกฏเหล็ก’”

เฉาหลี่ส่ายหัว “ใครจะรู้? เรื่องนี้นอกจากลูก” โดยปกติแล้วเธอจะไม่ทำผิดกฎ แต่เนื่องจากลูกชายของเธออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมือนใครเธอจึงสามารถยกเว้นขอบังคับบางอย่างได้

“ ขอบคุณครับแม่!”

เสียงเชียร์อย่างมีความสุขอยู่ในใจเฉินจิน เขาได้แต่ยิ้มแย้มแจ่มใสออกมา

ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันทำให้มันสมบูรณ์แบบ 100%!

เมื่อแม่ของเขาเข้ารวมธุรกิจของเขาอย่างจริงจัง ต่อไปนี้เฉินจินก็ไม่กลัวที่จะนำทองคำจากไฮเออร์อแอลฟามาขายอีกต่อไป!

ไชโย!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด