I Found A Planet – ตอนที่ 136 ความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง

อ่านนิยายจีนเรื่อง I Found A Planet ตอนที่ 136 ความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

นิยาย I Found A Planet EP 136 ความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง

EP 136 ความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง

วันที่สองหลังจากเปิดตัวลิตเติ้ลสตาร์เคอร์ซินเธอรีบเดินทางมาทํางานด้วยความเร่งรีบเธอเดินก้มหน้าก่อนที่เข้าไปในห้องทํางานและยื่นซองบางอย่าง ” หัวเหลียงค่ะฉันอยากลาออก”

เหลียงหยิงซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้สํานักงานเงยหน้าขึ้นมองเธอสักพัก จากนั้นหันหน้าไปทางเอกสารสองสามชุดบนโต๊ะเธอพูดว่า “เอาเอกสารเหล่านี้ไปให้คุณหลิวด้วยนะและบอกว่าเป็นเอกสารที่จะต้ องเซ็นต์

“หัวหน้าเหลียง!” เคอร์ซินกระทืบเท้าของเธอ “ฉันไม่สามารถแบกหน้าต่อไปได้อีกแล้วขนาดเจ้านายตัวเองฉันยังจําไม่ได้เลย”

“หลายคนที่สํานักงานใหญ่เองก็จําเจ้านายตัวเองไม่ได้ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลยจริงไหมไปๆไปทํางาน ต่อได้แล้ว”

“แต่กรณีของฉันมันแตกต่างนะคะ! ไม่ต้องพูดถึงว่าก่อนหน้านี้ฉันเคยพบเขามาหลายครั้งแล้ว แต่ฉันกับคิดว่าเจ้าของบริษัทเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณหลิว… ด้วยกริยาหยาบคลายเช่นนั้นอาจทําให้เขาไม่พอใจ…ฉันไม่สามารถ แบกทนอยู่ต่อไปได้

ดวงตาของเคอร์ซินเป็นสีแดงมันทําให้รู้สึกราวกับว่าเธอทําผิดพลาดร้ายแรงออกไป

“เธอนี้มันไร้เดียงสาจริงๆ ฉันเองก็อยู่กับเธอด้วยทําไมฉันจะไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นเจ้าของบริษัทจริงไหมอีกทั้งฉันคงเตือนเธอไปนานแล้วเธอยังไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันทําอีกหรอ? ทิ้งใบลาออกนี้ส่ะและ กลับไปทํางาน

“อะไร?!” สิ่งที่เหลียงหยิงพูดทําให้เธอถึงกับตกตะลึงหลังจากคิดได้ดู เหมือนว่าเจ้านายของเธอไม่ได้เกลียดเธออย่างแน่นอนในความเป็นจริงเขาเพิ่มเธอในวีแชทและพูดคุยกับเธอบ่อยๆ

ผ่านวีแชท อย่างงั้นฉันต้องถามเขาให้รู้ให้ได้ว่าทําไหมเขาต้องปิดบังเรื่องนี้ไว้ด้วย!

ในช่วงเวลาว่างเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดวีแชท และพิมพ์ข้อความยาวๆ เพื่อพยายามตั้งคําถามไว้ในใจอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเธอจะไม่ส่งข้อมความเหล่านั้นไปในทันทีเธอลบมันซ้ําแล้วซ้ําเล่าอยู่อย่างนั้น

ตอนนี้เวลาก็ใกล้เที่ยงแล้วโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเธอได้รับสองข้อความ มันส่งมาจาก“ผู้ช่วยเฉิน”ข้อความแรกคืออีโมจิข้อความที่สองคือ”เป็นยังไงบ้าง? ทักษะการเป็นเจ้าของบริษัทของผมไม่เลวใช่ไหม”

อา! ในขณะนั้น เคอร์ซินรู้สึกละอายใจอย่างที่สุดและมันทําให้เธอแทบจะบ้ามันเป็นอย่างที่เธอคิดเจ้านายของเธอตั้งใจจะปิดบังเรื่องนี้ด้วยตัวเองอยู่แต่ต้นแล้ว!

ในตอนเที่ยงของวันที่ 16 เป็นวันเปิดตัวลิตเติ้ลสตาร์บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการสําหรับการเปิดจองล่วงหน้าสต๊อกชุดแรกคือหนึ่งล้านเครื่องหลังจากลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจะจัดส่งภายใน 10 วัน อย่างไรก็ตามยอดขายไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้นับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงบ่ายหกโมงในหกชั่วโมงการสั่งซื้อล่วงหน้าสําหรับ “ลิตเติ้ลสตาร์รุ่นแรก”มียอดสั่งซื้อมากกว่าครึ่งล้านเครื่องภายในเวลาแค่หกชั่วโมง!

ถ้าเป็ฯสินค้าของ บริษัท อื่น ๆ นี้จะถือได้ว่ามันเป็นสินค้าที่ขายดีอย่างแน่นอนแต่สําหรับบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีอาจกล่าวได้ว่ามันห่างไกลจากความคาด หวังของทางบริษัทไว้มากอย่างไร ก็ตามนอกเหนือจากเฉินจิน และทีมเทคนิคที่นําโดยซงโบจุนแล้วผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ ใน บริษัทต่างก็บอกว่าผลตอบรับนี้มันก็ค่อนข้างดี

“เราทําสําเร็จแล้วประธานเฉินมันจะไม่มีปัญหาสําหรับยอดขายของ ลิตเติ้ล สตาร์รุ่นแรก”ที่จะทะลุหนึ่งล้านเครื่อง ภายใน 24 ชั่วโมงนี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีทีเดียว”

“เงินที่เราใช้ในโครงการนี้น้อยกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มากอีกด้วยแม้เพียงแค่ขายได้แค่สองหรือสามล้านเครื่องก็ครอบคลุมต้นทุนของเรา”

“โครงการนี้ไม่เลวเลยเครื่องเรียนรู้ยังดีกว่าที่เราจินตนาการไว้อีกด้วยเป็นไปไม่ได้ที่เราจะขาดทุนในการลงทุนครั้งนี้ แต่เมื่อพิจารณาว่าสิ่งนี้มีไว้สําหรับเด็ก ประถมเป็นหลัก ผู้เข้าร่วมที่มาเข้าร่วมงา นเปิดตัวก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายราตั้งแต่แรกการขายได้ 5 ล้านเครื่องจริงก็ถือเป็นการประสบความสําเร็จครั้งยิ่งใหญ่เช่นกัน”

“ไม่จําเป็นต้องผลิตเพิ่มเป็น 10 ล้าน เครื่องคาดว่าต้องใช้เวลานานกว่าเราจะขายได้ครบ 5 ล้านเครื่อง”

“เราควรมุ่งเน้นไปที่หุ่นยนต์ เมื่อสรุปจํานวนบุคลากรในทีมพัฒนาเครื่องส่งเสริมการเรียนรู้และชิปของบริษัทของเรามีจํานวนเกิน 2,000 คนแล้วค่าใช้จ่าย 200 ล้านต่อเดือนในการวิจัยและพัฒนา ของเรานั้นแพงเกินไป และถ้าเกิดเหตุที่ทําให้เครื่องขายไม่ได้มันอาจกระทบการต้นทุนที่บริษัทจะต้องเสียไปได้”

ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับโครงการเครื่องส่งเสริมการเรียนรู้เมื่อเทียบกับหุ่นยนตร์ วาวาที่ขายปัจจุบันแล้วการมุ่งเน้นไปที่หุ่นยนตร์จะไม่ดีกว่าหรอ? ด้วยหุ่นยนต์หนึ่งตัวสําหรับแต่ละครอบครัวตลาดของ มันมีมูลค่ามากกว่าร้อยล้านหยวนแล้วเครื่องเรียนรู้ล่ะ? ขายได้กว่าสิบล้านเครื่องก็ถือว่าดีพอสมควรแล้วแต่เครื่องการเรียนรู้ยังต้องใช้เงินทุนจํานวนมากในการวิจัยและพัฒนาอัตราส่วนอินพุตและเอาต์พุตนั้นต่ําเกินไป

นอกจากนี้ในตลาดของหุ่นยนต์ที่ใช้ในครัวเรือนบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีกําลังผูกขาดตลาดและพวกเขาแทบไม่มีคู่ แข่งในสาขานี้อย่างไรก็ตามในด้านการศึกษาการแข่งขันรุนแรงมีสถาบันฝึกอบรมอุปกรณ์การเรียนรู้และแอปพลิเคชัน

มากมาย ทําให้สินค้าตัวนี้อาจต้องใช้เวลาในการทํากําไรสักพัก

ผู้บริหารระดับสูงทุกคนปรารถนาให้เฉินจินให้ความสําคัญกับหุ่นยนต์วาวามากกว่า

ในช่วงเวลาอาหารค่ําเฉินจินไม่รู้สึกอยากอาหารมากนักเขาถือโทรศัพท์ไว้ในมือและรีเฟรชอินเทอร์เฟซสินค้าบนต้าเบ้าเป็นครั้งคราวเขาตระหนักดีว่าปริมาณการสั่งซื้อลิตเติ้ลสตาร์รุ่นแรกไม่ได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่แตะเลื่อนไปมันยังเป็น 550,000 เครื่องหราวกับว่ามันกําลังติดกับดักอยู่

ตอนนี้เหมือนจะเป็นปัญหาที่ว่าสําหรับสินค้าล็อตแรกต้องใช้เวลาขายถึงยอด เป้าหมาย 1 ล้านเครื่องอาจใช้เวลา 2-3 วันซึ่งถือเป็นต้นทุนที่เขาไม่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

“เฉินจินเครื่องส่งเสริมการเรียนรู้ของนายทําออกมาได้ดีมากหลังจากดูการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของนายฉันก็ตัดสินใจซื้อมันมาเลย..มันจะขายไม่ดีได้อย่างไร”ซูหยุนซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเขา
ขา

“เธอซื้อเครื่องส่งเสริมการเรียนรู้ลิตเติ้ลสตาร์มาเพื่ออะไร? เธอไม่ใช่เด็ก

ประถม” เฉินจินมองเธอแปลก ๆ เขาไม่เข้าใจเธอกําลังคิดอะไรอยู่

“มันคงดีเกินไปดังนั้นฉันจึงอดไม่ได้ที่จะซื้อ”ซูหยุนยิ้มให้เขาขณะที่เธอแลบลิ้นออกมา

เฉินจินส่ายหัวและเริ่มพึมพํากับตัวเอง “ฉันทําผิดตั้งแต่การเปิดตัวแล้ว! ฉันควรจะส่งคําเชิญไปหาผู้ปกครองและครูของนักเรียนประถมหรือฉันควรเชิญพวกนักเรียนมาและให้พวกเขาฟังการแนะนําผลิตภัณฑ์ของฉัน ฉันไม่ควรทําให้มันกลายเป็นงานรื่นเริงของชาวเน็ตเลยทําไมชาวเน็ตธรรมดาถึงซื้อมัน? มันเป็นไปได้หรอที่พวกชาวเน็ตจะไม่มีลูกหลานที่เป็นเด็กเล็กที่เรียนประถมอยู่หรือเพราะว่าพวกลุงๆป้าๆ ไม่คุ้นเคยกับอินเทอร์เน็ตไม่ต้องพูดถึงการเล่นเวย์โปรเลยและการซื้อของออนไลน์ก็ถือว่ายากแล้ว … ด้วยปัจจัยพวกนี้ต่อให้การทํางานของลิตเติ้ลสตาร์จะดีแค่ไหนก็ตามเถอะ ….

เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการโฆษณาแบบเข้มข้นเหมือนกับ บริษัทไปเกากําลังทําอยู่ตัวอย่างเช่นการล้างสมองผ่านรายการทีวีอาทิ“การไปโชว์การกดลูกเล่นของลิตเติ้ลสตาร์หน้าทีวี” ทุกวันจากนั้นจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ปกครองและอาจเพิ่มความ อยากในการสั่งซื้อสินค้าได้ในเวลาเดียวกันพวกเขาต้องเตรียมร้านค้าออฟไลน์จํานวนมากและดําเนินการกระจายออฟไลน์ขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ปกครองนักเรียนประถมมีโอกาสซื้อเครื่องลิตเติ้ลสตาร์

แต่รูปแบบการขายนี้ไม่แตกต่างกับรูปแบบการขายของเครื่องเรียนรู้ของบริษัทไปเกาซึ่งจะสร้างต้นทุนการจัดจําหน่ายที่สูงแค่โฆษณาทางทีวีก็ต้องใช้เงินมากกว่าล้านหยวนทุกปี!ประเด็นหลักคือเฉินจินลังเลที่จะขายเครื่องการเรียนรู้ลิตเติ้ลสตาร์ของเขาด้วยวิธีนั้นเขาเกลียดวิธีการโฆษณาแบบทิ้งระเบิดและล้างสมองด้วย! นอกจากนี้อัตรากําไรของลิตเติ้ลสตาร์ก็จะลดลงด้วยเช่น
กัน

แต่หากไม่มีการโฆษณาและทําการขายแบบออฟไลน์สินค้านี้จะไปถึงลูกค้าที่ต้องการมันได้อย่างไรจะเรียนรู้และรับมือกับมันได้อย่างไร ในระยะสั้นนี่เป็นปัญหาที่ขัดแย้งกันยุ่งยากและน่าปวดหัว มากในตอนนี้

“พ่อครับแม่ครับ ผมอิ่มแล้ว ผมมีบางอย่างที่จะต้องทําผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ” เฉินจินวางชามและตะเกียบลง และกลับไปที่ห้องด้วยใบหน้าหม่นหมอง

หลังจากที่เฉินจินเดินลงไปข้างล่างเฉาหลีและเฉินกังก็กินข้าวเสร็จพวกเขาวางชามและตะเกียบลง

“หัวหน้าค่ะ เดี๋ยวฉันทําความสะอาดให้เอง!” ซูหยุนยืนขึ้นและเริ่มทําความสะอาดโต๊ะ

“ไม่จําเป็นฉันทําเอง” เฉาหลี่บอกเธอแต่ซูหยุนได้เข้าไปในครัวพร้อมกับข้าวแล้วหลังจากนั้นไม่นานจะได้ยินเสียงล้างจานดังออกมาจากในครัว

“เฉาหลออกมาที่นี่หน่อย” เฉินกังลากภรรยาของเขาไปที่ระเบียงนอกห้องนั่งเล่นเขาลดเสียงลงและด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมเขากระซิบข้างหูของเธอ”เฉาหลี่ทําไมคุณถึงเรียกซูหยุนมา?คุณคิดยังไงกับการให้เธอใช้เวลาสามถึงสี่คืนที่บ้านของเราในหนึ่งสัปดาห์?ซูหยุนยังเป็นผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและยังไม่เคยผ่านมือชายผู้คนจะพูดอะไรเกี่ยวกับเธอถ้าพวกเขาได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้? ซูหยุ นจะกล้าออกไปสู้หน้าคนอื่นได้อย่างไรกัน?” เฉินกังคิดว่าภรรยาของเขาไร้สาระมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอไม่เคยคิดถึงผลที่ตามมาและมักจะพาลูกน้องผู้หญิงมาพักที่บ้านของเธอเป็นประจํา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ลูกชาย ของเขาซื้อบ้านพักต่างอากาศการกระทําของภรรยาก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเธอยอมปล่อยห้องพักแขกจัดระเบียบและบอกให้ซูหยุนมาพักกับเธอ นานๆได้เลยเธอบอกว่าเพื่อความสะดวกในการทํางานแต่ใครจะเชื่อคําแก้ตัวง่อย ๆแบบนี้? เฉินกังไม่สามารถทนดูสิ่งนี้ได้เขาคิดว่าเฉาหลี่กําลังข้ามเส้น

“คุณรู้อะไรบ้าง” เฉาหลี่จ้องมองเขา“คุณหวังว่าลูกชายของเราจะแต่งงานหลังจากอายุ 30 ปีจริงๆหรือ? คุณไม่อยากมีหลานจริงๆหรือต้องหรอให้เกษียณก่อน”

“ฉันกําลังจะเกษียณตอน 60 ทําไมฉันต้องรู้สึกหมดหวัง”

“คุณไม่ได้หมดหวังแต่ฉัน! เรื่องแบบนี้ต้องเตรียมการล่วงหน้า!”

“คุณลากซูหยุนมาอยู่ที่บ้านของเรา โดยไม่ได้ขอความยินยอมจากเธอเลยเหรอ?เฉาหลีไม่ว่าคนอื่น ๆ จะสิ้นหวังเพียงใดสิ่งที่พวกเขาต้องทํามากที่สุดคือกระตุ้นให้ลูก ๆ ไปเดทใครบ้างที่จะทําอย่างคุณ”

“คุณไม่ต้องมายุ่งได้ไหม เฉินจินเป็นลูกชายของฉันและฉันจัดการเรื่องนี้ได้!” เธอจ้องมองสามีของเธอสักพักก่อนที่เฉินกังจะเงียบไปและเอามือมาปิดปากตัวเองไว้

คุณจะเข้าใจแผนของฉันได้อย่างไร?ตอนนี้ลูกชายของเราเป็นมหาเศรษฐีและจะยิ่งรวยมากขึ้นในอนาคตจะมีผู้หญิงจํานวนนับไม่ถ้วนจากครอบครัวที่ร่ํารวยและมีชื่อเสียงอยากแต่งงานกับลูกชายของเราเขาสามารถต้านทานการ ล่อลวงได้หรือไม่?ลูกสะใภ้ในอนาคต ของเราจะต้องไม่มีปัญหากับเราในอนาคตสิ่งนั้นคุณมั่นใจไม่ว่าจะไม่เกิดขึ้น!นาค

ลูกสะใภ้ในอุดมคติของเธออาจเป็นได้ทั้ง“คู่ที่สมบูรณ์แบบ” ในบริบทของเธอหรือคนที่เชื่อฟัง…อย่างไรก็ตามลูกสะใภ้คนนั้นต้องไม่ขโมยลูกชายไปจากเธอ!

“คุณ – …” เฉินกังหันหน้าไปทางภรรยาที่เอาแต่ใจของเขาแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด