I Found A Planet – ตอนที่ 81
81 เที่ยวบินหมายเลข 9 “ดรีมแดนเซอร์”
ตอนนี้เฉินจินเองได้ทำสัญญาการเป็นหุ้นส่วนร่วมกันกับโรงงานผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเฉินจินจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น ส่วนวังจวนลองออกไปค้นหาหน่วยงานที่ทำการวิจัยพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนสำหรับแขนกล เพื่อที่ว่าเขาทั้งสองจะเข้าหุบหน่วยงานนั้นให้มาเป็นของพวกเขาทั้งคู่ เฉินจินไม่ได้ร่วมเดินทางออกไปค้นหาหน่วยงานเหล่านั้นด้วยเพราะเขารู้ดีว่ามันน่าจะเป็นการเดินทางที่ยากลำบากที่จะค้นหน่วยงานแห่งนั้นจนเจอด้วยตัวคนเดียว
เฉินจินเองก็ไม่ได้เป็นกังวลเลยเกี่ยวกับเรื่องการขาดทุนเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าวังจวนลองจะไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น แต่วังจวนลองเองก็น่าจะมีเงินกำไรอยู่ที่ 200 ถึง 300 ล้าน … จากผลกำไรมากมายที่มาจากคำสั่งซื้อ OEM สำหรับหุ่นยนต์วาวาวานับล้านตัวก่อนหน้านี้
อีกทั้งเฉินจินบังเอิญไปรู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับวังจวนลองมาซึ่งมันเป็นความลับที่วังจวนลองพยายามปิดปังไว้ วังจวนลองและภรรยาเอง ทั้งสองลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อยู่ทั่วประเทศ เขามีชื่อเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อยู่หลายร้อยแห่ง อสังหาริมทรัพย์ที่ทั้งคู่ครอบครองอยู่น่าจะมีมูลค่าราวๆ 200 ถึง 300 ล้าน…อาจบอกได้ว่ากำไรที่ได้จากยอดขายอสังหาริมทรัยพ์อาจมากกว่ากำไรที่ทำได้จากโรงงานเสียอีก
เมื่อสังเกตุดูในตอนที่เฉินจินจะทำสัญญาสั่งซื้อ OEM กับหุ่นยนต์วาวา จำนวน 1 ล้านตัววังจวนลอง ทำการยินยอมทำสัญญากับเฉินจิน และยอมให้เฉินจินจ่ายเงินดาวน์เพียง 20%เท่านั้น ณ ตอนนี้เฉินจินเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงบอกว่าเขาสามารถจัดการกับส่วนที่เหลืออีก 80% ได้เพราะเขามีธุรกิจอื่นคอยหนุนหลังอยู่นั้นเอง
เฉินจินเริ่มพูดพึมพำอย่างเงียบ ๆภายในใจอยู่คนเดียว “ หัวหน้าวัง คุณคิดว่าคุณจะปิดปังเรื่องการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศของคุณไปอีกนานแค่ไหนกัน? ถึงแม้รูปลักษณะภายนอกคุณจะทำตัวให้เหมือนคนจนก็ตาม”
หากวังจวนลองรู้ว่าเฉินจินกำลังคิดอะไรอยู่เขาคงจะตะโกนออกมาดังๆ ตอนนี้เฉินจินกำลังเข้าใจเขาผิด ในความเป็นจริงอสังหาริมทรัพยน์เหล่านั้นถูกภรรยาของเขาซื้อทั่วประเทศจริง แต่มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย แท้จริงวังจวนลองเพียงต้องการเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆเพียงเท่านั้น ซึ่งเขาเองทำรายได้ได้น้อยกว่าสิ่งที่ภรรยาของเขาสามารถทำได้จากการขายอสังหาริมมทรัพย์ด้วยซ้ำ วังจวนลองเองเขาไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจที่เป็นของภรรยาเขาเลย เขาเพียงแค่ต้องการมีธุรกิจของตัวเอง ทุกวันนี้หลังจากทำงานเสร็จวังจวนลองเองไม่อยากกลับบ้าน เพราะเมื่อกลับไปก็เหมือนว่าเขากลับไปอยู่กับตัวเองเพราะไม่มีใครอาศัยอยู่กับเขาเลย ภรรยาของเขาสนใจแต่การทำธุรกิจของตัวเอง ทำให้บ้านของวังจวนลองเต็มไปด้วยความอึดอัดใจและความเหงา ถ้าเขามีโอกาสอธิบายให้เฉินจินรู้ เขาก็คงจะอธิบายว่าเขาอยากให้ภรรยาของเขาเลิกทำธุรกิจนี้สักที
…
หลังจากวันที่สามวังจวนลอง โทรมาหาเฉินจินด้วยความตื่นเต้นเขากล่าวว่า“ เจ้านายเฉินผมซื้อ บริษัท เล็ก ๆ ที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องระบบไฮดรอลิคของแขนหุ่นยนต์ มันใช้เงินไปราว 3,000 หยวนเท่านั้น ตอนนี้เจ้าของบริษัทโอนสิทธิ์การถือหุ้นทั้งหมดให้ผมแล้ว เจ้านายเฉินตอนนี้เรามี บริษัท ย่อยเพื่อผลิตชิ้นส่วนแขนกลของหุ่นยนตร์แล้ว!”
“ เยี่ยมไปเลยอย่างงั้นมาตั้งชื่อ บริษัท แล้วไปลงทะเบียนจัดตั้งบริษัทกันใหม่ หลังจากนั้นมาลงนามในสัญญาผู้ถือหุ่น ฉันจะให้ข้อมูลทางเทคนิคแก่คุณ”
“ ฉันคิดชื่อ บริษัทไว้แล้ว ฉันจะชื่อมันว่า “ไปร์ลอง”; มันมีความหมายว่า “แขนของมังกร!” แสดงถึงความแข็งแกร่งที่จะไม่มีใครเทียบเคียงได้” วังจวนลองยังพูดเพิ่มเติมว่า บริษัท แห่งนี้ไม่ได้มีความสามารถเพียงพอในแผนกเทคนิค วังจวนลองจึงแนะนำว่าต้องรับสมัครพนักงานเพิ่ม นอกจากนี้จะต้องซื้ออุปกรณ์การผลิตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดที่ต้องการคือ 200 ถึง 300 ล้าน ดังนั้นสำหรับชุดแรกของชิ้นส่วนแขนกลจะถูกส่งไปยังบริษัท หลิงเฟิงจินมี อย่างน้อยก็ใช้เวลาราวหกเดือน ภายใต้เงื่อนไขที่ดีที่สุดนั่นเป็นครั้งแรกที่สามารถผลิตชิ้นส่วนได้ ในขณะเดียวกัน บริษัท สามารถพึ่งพา “ช่องทางลึกลับ” ที่เฉินจินครอบครองเพื่อให้แน่ใจว่าสายการผลิตจะดำเนินต่อไปแบบไม่ติดขัด
เฉินจินกล่าวว่า“ เอาล่ะ ช่องทางของฉันควรจะสามารถรักษาสายการผลิตไว้ได้ราวๆครึ่งปี!” แต่มันคงไม่ใช่แค่นั้น…. ทุกวันเฉินิจนจะต้องแบกชิ้นส่วนเครื่องจักรห้าตันด้วยหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ เป็นเวลาหกเดือนเขาจะต้องฝึกฝนร่างกายของเขา เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาพบว่าเขาเองมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ความอยากอาหารของเฉินจินเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากยกน้ำหนักเกินกว่าห้ากิโล และร่างกายของเขามีขนาดเล็กลง ทำให้มีสัดส่วนที่ดีขึ้น เขาเชื่อว่าหลังจากการฝึกฝนนี้อีกหกเดือนเขาจะกลายเป็นนักกล้ามอย่างแน่นอน! คนอื่น ๆ ก็คงคิดว่าเขาคงจะแอบไปเขายิมมา และคงไม่เชื่อว่ากล้ามเนื้อที่ได้มานั้นมาจากการทำงานหนัก
…
ที่ดาวไฮเออร์แอลฟาในฐานบัญชาการบนพื้นที่ขนาดห้าเอเคอร์ซึ่งมีหุ่นยนตร์รบล้อมรอบ มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยพบเครื่องบินขนาดใหญ่ ที่ปลายหางของมันมีครีบหาง 4 ส่วนที่ช่วยในการบังคับทิศทาง มันก็คล้ายกับกระสวยอวกาศที่มีอยู่บนโลก ความยาวมากที่สุดของมันคือ 56 เมตร; สูง 10 เมตรกว้าง 24 เมตร ด้วยตัวเองมันมีน้ำหนัก 194 ตันโดยไม่ได้บรรทุกสินค้าหรือผู้โดยสารใดๆ ภายในห้องโดยสารมีขนาดเท่ากับบ้าน 240 ตารางเมตร ยิ่งไปกว่านั้นมันถูกตกแต่งอย่างหรูหรา
นี่น่าจะเป็นครื่องบินโดยสารส่วนตัวที่สร้างขึ้นให้กับพวกมหาเศรษฐี มันถูกเรียกชื่อว่า “ดรีมแดนเซอร์”
ตอนนี้เจ้าของเครื่องบินส่วนตัวลำนี้คงกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว ทีมสำรวจได้ลากมันออกมาจากใต้กองขยะ จากนั้นทีมสำรวจได้ทำความสะอาดเล็กน้อยและพบว่าโครงสร้างของเครื่องบินลำนี้เสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากการซ่อมแซมและชาร์จไฟแบบง่ายๆเครื่องบินก็ยังกับมาใช้งานได้เช่นเดิม!
ดังนั้นหุ่นยนต์ก็ยังคงทำการชาร์จเครื่องบินต่อไป จากนั้นทีมสำรวจก็ได้ควบคุมเครื่องบินและออกบินมากกว่า 1,000 กิโลเมตร จากนั้นก็ลงจอดตามแนวตั้งโดยลงจอดที่สู่ศูนย์กลางของฐานบัญชาการ
ถูกต้องแล้วนี่คือเครื่องบินไฟฟ้า ด้วยการปรับทิศทางของหัวฉีดของเครื่องยนต์เราสามารถลงจอดในแนวตั้งได้ ถ้าเติมพลังงานจนเต็มมันสามารถเดินทางได้ไกลถึง 30,000 กิโลเมตรและความเร็วสูงถึง 100 กิโลเมตร/นาที! มันไม่มีอันตรายที่ใดๆตราบใดที่มันไม่ได้บินเหนือความเร็วของมัคไฟว์ในบรรยากาศ
เฉินจินรู้สึกดีใจเป็นมากที่ได้พบมันจากกองขยะ “ สุดยอดฟังก์ชั่นนี้มันทำให้ฉันประทับใจจริงๆ!”
อลิซอธิบายให้เขาฟังว่า“ เจ้านายเฉินนี้ถูกเรียกว่า ‘ดรีมแดนเซอร์’ เครื่องบินลำนี้จะต้องใช้แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษซึ่งราคาแพงมากในการผลิต ความหนาแน่นของพลังงานเท่ากับ 2.5 เท่าของแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงปกติ เครื่องบินถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์พลาสม่าซึ่งให้พลังขับเคลื่อนซึ่งเป็น 10 เท่าของเทอร์โบเจ็ทดั้งเดิม สามารถรับรู้ถึงอัตราส่วนแทงต่อน้ำหนักที่ 100 หรือมากกว่าได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการลงจอดในแนวตั้งและการถอดเก็บเป็นชิ้นๆได้ หากเราทำการปรับแต่งเล็กน้อยและเก็บวัสดุอิเล็กทริกจำนวนมากเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำหรับเครื่องยนต์พลาสม่า ‘ดรีมแดนเซอร์’ อาจมีความสามารถในการเคลื่อนที่ไปรอบนอกอวกาศในช่วงเวลาสั้น ๆ แน่นอนมันสามารถทำได้เพียงหยุดชั่วคราวตามแนวโคจรที่อยู่ใกล้กับพื้นดิน เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยจะดีกว่าที่จะไม่ลองทำเช่นนั้น”
เฉินจินอ้าปากกว้าง “ อลิซ เธอหมายถึงมันเป็นไปได้ที่จะสร้างเครื่องบินลำนี้ใหม่ให้เป็นยานอวกาศที่มีความสามารถในการอยู่ในอวกาศชั่วคราวได้ใช่ไหม”
อลิซพยักหน้าของเธอ “ใช่ค่ะ! นี่คือหนึ่งในจุดขายที่เครื่องบินลำนี้เปิดตัวครั้งแรก”
“ เยี่ยมยอดนี่มันสุดยอดจริงๆ!” เฉินจินถอนหายใจออกมาพร้อมความรู้สึกดี พวกมหาเศรษฐีรู้วิธีสร้างสีสันให้ชีวิตจริงๆ ด้วยแววตาของเขาเขาคิดว่าทำไม เขาไม่พาเครื่องบินลำนี้ขึ้นสู่อวกาศรอบนอกดาวไฮเออร์แอลฟาสักครั้ง ฉันสามารถเห็นภาพรวมของโลกนี้ด้วยมุมมองจากอวกาศ
อย่างไรก็ตามเขาส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ อลิซกล่าวว่ามีขยะอวกาศมากมายลอยอยู่ในอวกาศ มันมีจำนวนหลายร้อยล้านชิ้น หากปราศจากความสามารถในการกำจัดขยะอวกาศเหล่านั้น มันจะดีกว่าถ้าอยู่บนโลกนี้” มันจะร้ายแรงถ้าเขาถูกชิ้นส่วนของเศษซากขยะเหล่านั้นพุ่งชน ณ ตอนนี้เครื่องบินลำนี้น่าจะเหมาะสมในการใช้อยู่ในดาวไฮเออร์แอลฟาเพียงเท่านั้น
ยิ่งกว่านั้นเฉินจินไม่กล้าที่จะใช้งานมันและนำออกไปขับ เพราะมันมีระบบที่ซับซ้อนที่ไม่ได้ใช้งานมาอย่างน้อย 30 ปี ใครจะรู้ว่ามีอันตรายซ่อนเร้นอยู่ในการตกแต่งภายในหรือเปล่า หากปัญหาเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังขับมันอยู่ฟ้า เขาอาจจะต้องขบชีวิตในทันทีก็เป็นได้ เฉินจินจึงไม่กล้าเสี่ยง
ดังนั้นเฉินจินจึงทำได้แค่สำรวจเครื่องบินนี้ไปก่อน “ เครื่องบินนี้เป็นตัวช่วยทุ่นแรงที่ดี ฉันคงจะใช้มันเป็นพาหนะของทีมสำรวจแทนล่ะกัน!” เขานึกภาพหุ่นยนต์กำลังขับเครื่องบิน มันจะทำให้ทีมสำรวจแข็งแกร่งขึ้นและสถานการณ์การสำรวจจะดีขึ้น รัศมีของระยะการสำรวจจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10,000 กิโลเมตร ประสิทธิภาพของการสำรวจจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้การเดินทางสำรวจส่วนใหญ่เกี่ยวกับการพัฒนาที่ดิน ตอนนี้ก้าวหน้าในภาพรวมมากขึ้น ทั้งทางบกและทางอากาศ
ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องบินลำนี้สามารถรับน้ำหนักได้ 180 ตันหรือเทียบเท่ากับหุ่นยนต์ 500 ตัวในคราวเดียว ถึงแม้จะมีภาระเช่นนี้ระยะทางในการเดินทางก็รับประกันได้ว่าอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10,000 กิโลเมตร ด้วยความสามารถในการขนส่งที่ทรงพลังและระยะทางในการเดินทางที่ยาวนานเฉินจินสามารถส่งหุ่นยนต์ไปยังสถานที่ใด ๆ ที่เขาต้องการสำรวจบนดาวไฮเออร์แอลฟาได้ทันที จากนั้นให้พวกทีมสำรวจนำวัตถุดิบที่มีมูลค่ากลับมาที่ฐานบังชาการอย่างรวดเร็ว
ไม่นานมานี้สภาพอากาศเริ่มอุ่นขึ้นหุ่นยนต์ 50,000 ตัวที่เขาส่งไปยังสาธารณรัฐโมแลโด กลับมาพร้อมกับสินค้ามูลค่าสูงจำนวนเล็กน้อยๆ เฉินจินคืนความสนใจกลับไปยังประเทศเมลิกาที่ถูกทิ้งร้างซึ่งอยู่ห่างจากฐานไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 2,000 กิโลเมตร เขาจะส่งหุ่นยนต์ไปยังพื้นที่หลักทางฝั่งตะวันออกเพื่อดูว่ามีการค้นพบสินค้าหรือวัสดุบางอย่างมีมูลค่าหรือไม่ เพราะช่วงเวลาหนึ่งบนไฮเออร์แอลฟานี้เคยมีชาวเมืองจำนวนมากกระจายอยู่ในพื้นที่หลักแห่งนี้ เคยมีประชากรทั้งหมดกว่า 50 ล้านคน!แถมยังมีเมืองโดนัดตี้ตั้งอยู่ในใจกลางของพื้นที่แกนกลางภูมิภาคนี้ ภายในเมืองหลวงมีห้องเก็บของนับไม่ถ้วนธนาคารสำนักงานใหญ่ของ บริษัท และโรงงานที่มีเทคโนโลยีสูง โชคดีที่เฉินจินมีเครื่องบินขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้ในทันทีตอนนี้
เฉินจินกำหนดชื่อของเครื่องบิน“ เที่ยวบินหมายเลข 9” และชาร์จแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในห้องเก็บแบตเตอรี่ เขาส่งหุ่นยนต์ 2,000 ตัวขึ้นเครื่องบิน“ เที่ยวบินหมายเลข 9” พวกเขาบรรทุกสินค้าและวัสดุต่าง ๆ มากกว่า 50 ตัน เป้าหมายของทีมสำรวจคือเมืองโดนัทตี้ เขาสั่งให้ทีมสำรวจทางอากาศออกเดินทางได้เลย!
คอมเม้นต์