I Found A Planet – ตอนที่ 24 ซ่อมรถ
บทที่ 24 ซ่อมรถ
หมวกจำลองภาพเสมือนจริงนั้นมีชื่อเสียงมากและมันเป็นที่นิยมมาก
ในยุคก่อนหน้านี้ ด้วยหมวกจำลองภาพเสมือนจริงมันทำให้คนที่ใช้
หมวกนี้สามารถสัมผัสความเป็นจริงในเมทริกซ์เสมือนจริงและเล่น
เกมออนไลน์ แบบเปิดโลกได้ในนั้น
แต่ความจริงก็คือหมวกจำลองภาพเสมือนจริงเป็นเพียงแนวคิดสมัย
ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นบนโลก แต่อย่างไรก็ดีมันยังไม่ได้ถูกพัฒนาอย่าง
เต็มที่ เพราะเครื่องเกมส์บนโลกที่สร้างขึ้นในปัจจุบันยังไม่สามารถ
เข้าไปประสานกับประสาทภายในสมองได้จึงทำให้เห็นได้แค่ภาพ
อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่มนุษย์โลกมีตอนนี้มันก็ถูกเรียกว่า “VR” ซึ่งทำ
ให้ผู้คนสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์บนภาพ 3 มิติแบบโต้ตอบได้
อย่างไรก็ตามมันก็ยังห่างไกลจากหมวกจำลองเสมือนจริงอยู่มาก
เพื่อที่จะให้ผู้สวมใส่หมวกจำลองภาพเสมือนจริงนั้นสามารถหยิบ
จับสิ่งของภายในเกมได้จริง มันจึงมีการการควบคุมคลื่นสมองและ
การเชื่อมต่อกับระบบประสาท ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่าง
อิสระในโลกจำลองในขณะที่ร่างกายจะไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ นอกจากนี้
จากการตอบสนองของกล้ามเนื้อในโลกความเป็นจริงนั้นก็จะเกิดขึ้น
ราว 10% ถึง 20% ถ้ามีการออกแรงมาก ๆ ในโลกเสมือนจริงก็ทำให้
ระบบประสาทกระตุ้นให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ ออกแรงได้มากสุด 100%
เสมือนว่าอยู่ในโลกความเป็นจริงได้เลย
ดาหลินบอกเฉินจินว่าหมวกจำลองภาพเสมือนจริงที่เขามีเป็นเวอร์ชั่น
ที่ 8 ที่ผลิตโดย บริษัท กรีนคอนติเนนทัล มันสามารถเข้าถึงระบบ
ประสาทและความรู้สึกให้ใกล้เคียงความจริงได้ถึง 87% มันถือว่า
เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากแต่อย่างไรก็ดียังมีหมวกเวอร์ชั่นใหม่
กว่านี้ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้สามรถสัมผัสกับความเป็นจริงได้มากที่สุด
“โลกจำลองที่มีระดับความเป็นจริง 87% ฉันสงสัยว่ามันจะได้รับ
ประสบการณ์แบบไหนกัน?” ใบหน้าของเฉินจินนั้นเต็มไปด้วย
ความประหม่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามการที่มีหมวกจำลองภาพเสมือน
จริงก็ไม่สามารถทำให้เขาเล่นเกมได้อยู่ดี
เป็นเพราะเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลที่เป็นระบบทั้งหมดของอุปกรณ์ถูก
ทำลายหรือถูกปิดไปแล้ว หากไม่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและ
ไม่มีข้อมูลระบบคลาวด์เราก็ไม่สามารถป้อนความเป็นจริงที่จำลอง
ด้วยหมวกนี้ได้
เฉินจินเองก็รู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เล่นมัน “เฮ้…มันไม่เหลือ
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ของอุปกรณ์นี้เหลืออยู่ในเมือง
เทอร์รี่เลยหรอ? มันยังเหลือข้อมูลที่จำเป็นในการป้อนข้อมูลในการ
สร้างโลกเสมือนเหลืออยู่รึเปล่า?”
ดาหลินตอบว่า “ถึงแม้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เป็นเซิร์ฟเวอร์อาจจะ
กลับมาใช้งานได้ก็จริง แต่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์นั้นต้องใช้พลังงาน
ไฟฟ้าจำนวนมหาศาล ในการเปิดเครื่องหนึ่งครั้งนั้นจะต้องใช้
พลังงานไฟฟ้าอย่างน้อย 100 กิโลวัตต์ ซึ่งเราไม่มีพลังมากขนาดนั้น
“100 กิโลวัตต์?” เฉินจินถึงอ้าปากค้าง ดูเหมือนว่าการขาดแคลน
พลังงานในแคมป์จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน! เขาต้องคิดหา
วิธีที่จะสร้างเครื่องผลิตพลังงานขึ้นมาในแคมป์ ของเขาอย่างจริงจัง
แล้ว “อย่างงั้น นายช่วยนำหุ่นยนต์ทุกตัวที่อยู่ในทีมไปค้นซุปเปอร์
คอมพิวเตอร์ทั้งหมดมา ส่วนฉันจะพยายามหาวิธีการแก้ไขปัญหา
การขาดแคลนพลังงานเอง”
“รับทราบครับเจ้านาย!” ดาหลินรับภารกิจ
นอกจากนี้เองเฉินจินต้องเพิ่มความเร็วในการสำรวจดาวไฮเออร์
แอลฟา! อันที่จริงเฉินจินพยายามอย่างหนักกับเรื่องนี้อยู่เสมอ หลังจาก
ที่เขาเสร็จสิ้นภารกิจในการสำรวจเมืองเทอร์รี่ทั้งหมดเขาก็ส่งทีม
สำรวจหมายเลข 2 พร้อมรถบูลแองเจิ้ล เพื่อไปสำรวจสภาพแวดล้อม
ของปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ซึ่งมีระยะทางไม่ถึง 100 กิโลเมตร โดย
เขาได้นำข้อมูลพวกนี้ไปสร้างเป็นแผนที่รอบปล่องภูเขาไฟ
ทีมหมายเลข 2 กลับมาที่ค่ายเมื่อวานนี้และรายงานผล “เจ้านาย การ
สำรวจสภาพแวดล้อมรอบค่ายเสร็จสิ้นแล้ว เราพบเมืองเล็ก ๆ ที่ถูก
ทิ้งร้าง 53 แห่งฟาร์มร้าง 128 แห่งและโรงงานร้าง 1 แห่ง”
ดวงตาของเฉินจินเปล่งประกายและเขาถามว่า “โรงงานร้าง? มันเป็น
โรงงานแบบไหนล่ะ?”
“โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ครับ…. เจ้านาย”
“มันมีอุปกรณ์หรือข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีเจ๋ง ๆ อยู่ในนั้นไหม?”
“ไม่เลย…โรงงานนั้นถูกทิ้งร้างมานานมากแล้ว…หัวหน้า”
“โอ้…” ดวงตาของเฉินจินเริ่มมืดลงและเขาเริ่มหัวเราะขึ้นมา มัน
เป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ฉันคิดว่าน่าจะพบข้อมูลของอุปกรณ์
ไฮเทคชิ้นอื่นเสียอีก?
หากเขาสามารถหาโรงงานอุตสาหกรรมหนักหรือโรงงานผลิตอาวุธ
ยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ได้เขาจะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลแน่นอน!
ดังนั้นเฉินจินต้องเพิ่มความเร็วในการสำรวจพื้นที่รอบนอกให้มาก
ขึ้น อย่างไรก็ตามในตอนนี้มีเพียงถนนที่มุ่งสู่เมืองเทอร์รี่ จากทาง
หลวงสายตะวันออกเท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้โดยไม่มีอุปสรรค
ใด และบนทางหลวงที่จะเดินทางไปทางทิศใต้มีสะพานทางหลวงที่
ถูกทำลายโดยสงครามและมันไม่สามารถใช้การได้แล้ว
ถ้าออกมาจากเมืองเทอร์รี่ อีกไม่กี่ไมล์ไปทางทิศเหนือเกิดอุบัติเหตุมี
รถยนต์ขนาดใหญ่อยู่เต็มทางหลวงกองกันอยู่หลากหลายรุ่น มันแออัด
กันเป็นระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร ถนนเองก็ไม่สามารถใช้การได้
อย่างสมบูรณ์
ดาหลิน กล่าวว่า “อีกประมาณ 120 กิโลเมตรจากทางเหนือของเมือง
เทอร์รี่เป็นเมืองขนาดกลางที่เรียกว่าฟอร์ตเวิรธ์ มีประชากรมากกว่า
500,000 คน สาเหตุที่รถติดบนทางหลวงที่กำลังจะเดินทางไปทาง
เหนืออาจมาจากเมืองฟอร์ตเวิรธ์ ก็ได้”
นี่เป็นเพราะปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่เฉินจินยืนอยู่ตอนนี้เคยเป็นที่
พักพิงฉุกเฉินที่สำคัญ เมื่อสงครามมาถึงผู้คนจากพื้นที่โดยรอบจึง
หนีไปในทิศทางนี้ “เมืองฟอร์ตเวิรธ์ ประชากร 500,000?”
คำว่า “บ่อเงินบ่อทอง” โผล่ขึ้นมาในความคิดของเฉินจิน และมัน
เป็นความคิดที่ดูจะจริงจังส่ะด้วย เฉินจินเริ่มพยายามคิดและกระตุ้น
ตัวเขาให้อยากไปที่เมืองฟอร์ตเวิร์ธเพื่อที่จะไปค้นหาของมีค่าที่นั้น
อย่างไรก็ตามบนทางหลวงนั้นมีรถอยู่แออัดเต็มไปหมดและไม่
สามารถเดินทางผ่านทางนี้ได้ เขาสามารถเดินไปตามทางหลวงได้
โดยใช้พื้นทะเลทรายราบข้าง ๆ แต่มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับตัวถัง
ที่ต่ำของรถบูลแองเจิ้ล มันอาจจะพังไม่ก็อาจจะเกิดปัญหาอื่น ๆ กับ
รถได้
หลังจากเฉินจินเดินทางโดยขับบลูแองเจิ้ลตามทางที่มุ่งตรงไปเมือง
เทอร์รี่ เขาเห็นรถทำการเกษตรขนาดใหญ่คล้ายกับรถเกี่ยวข้าว
เนื่องจากเมืองเทอร์รี่เป็นเมืองที่ทำเกษตรกรรมจึงมีเครื่องจักรขนาด
ใหญ่มากมายสำหรับใช้ในฟาร์ม พวกมันมีขนาดใหญ่และมีตัวถังที่
สูงที่เหมาะสำหรับการขับรถผ่านถิ่นทุรกันดาร หลังจากการดัดแปลง
หลายครั้งพวกมันจะเหมาะกว่าสำหรับการสำรวจดาวเคราะห์ดวงนี้
เฉินจินวางแผนที่จะนำเครื่องจักรพวกนี้กลับไปด้วยและทำให้มัน
เป็นยานสำรวจดาวไฮเออร์แอลฟา แต่การที่จะดัดแปลงมันให้เป็น
ยานพาหนะแบบเร่งด่วนนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทักษะทางเทคนิค
ระดับสูง ซึ่งปกติแล้วเฉินจินไม่มีความสนใจหรือประสบการณ์ใน
ด้านรถยนต์เลย เขามีความรู้เพียงผิวเผินในการซ่อมรถยนต์เท่านั้น
ถ้าเขาจะสร้างเครื่องจักรของฟาร์มขึ้นมาใหม่ให้เป็นยานพาหนะได้
เขาจะสามารถสำรวจพื้นที่ทั้งหมดของดาวได้อย่าง่ายได้
โดยปกติแล้วเฉินจินสามารถให้หุ่นยนต์ทางการแพทย์ดาเบ่า ในการ
ช่วยเหลือในการสร้างเครื่องจักรนี้ได้ แต่ความพิเศษของ ดาเบ่านั้นคือ
การให้บริการและซ่อมแซมหุ่นยนต์มันไม่ได้ดีไปกว่าการดัดแปลง
ยานพาหนะ อย่างน้อยที่สุดมันอาจจะช่วยในการหยิบจับเครื่องมือ
และงานเล็ก ๆ น้อยเพียงเท่านั้น เฉินจินยังคงต้องทำงานหลักเอง
ปัญหาคือเฉินจินไม่มีความรู้ในการดัดแปลงรถเช่นกัน และไม่รู้ว่า
จะทำอย่างไรดีกับเครื่องจักรเหล่านี้?
แน่นอนว่าเขาต้องเรียนรู้วิธีซ่อมรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะ ทักษะ
พื้นฐานบางอย่างสำหรับผู้เริ่มต้นก็เพียงพอแล้ว เฉินจินมีเพื่อนที่เป็น
พวกชอบแต่งรถมาก ๆ ไม่มีรถคันใดที่เขาไม่สามารถสร้างใหม่ได้
และไม่มีความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นเลย เพื่อนคนนั้นยังสามารถซ่อม
รถได้ทุกชนิดอีกด้วย เฉินจินวางแผนที่จะไปขอความช่วยเหลือจาก
เพื่อนคนนั้น เขาจะใช้เวลาสองสามวันในการเรียนรู้ การดัดแปลง
อุปกรณ์รถยนต์และการซ่อมรถขั้นสูง
…
ในวันที่สองที่ตลาดรถยนต์ทางตะวันตกของเมืองมีศูนย์บริการขาย
รถยนต์ชื่อ “บีลีฟไลส์”
“จ้าวซินนี่คือนี้คือเงิน 5,000 หยวนที่ฉันยืมมาจากนายเมื่อเดือนที่
แล้ว ฉันเอามาคืนแล้ว” เฉินจินดึงธนบัตรใบสีแดงมอบให้กับชาย
หนุ่มที่มีบุหรี่ห้อยลงมาจากปากและมือที่ปกคลุมไปด้วยน้ำมันเครื่อง
แต่ทรงผมของเขานั้นยังเซตตัวดีไม่มีความยุ่งเหยิงใด ๆ เกิดขึ้นกับ
หัวของเขา ความประทับใจครั้งแรกที่ได้พบเจอเขานั้นคือ เขาไม่ใช่
คนหล่อแต่กับมีสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจนมาก
สมัยเรียนเองเขาก็ไม่ได้ทำตัวดีเท่าไรจนเกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียน
เพราะปัญหาเรื่องชู้สาวถึงแม้เขาจะไม่ได้หล่อมากแต่กับมีเสน่ห์จน
เป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคนจนตอนนี้เขาได้มีแฟนสาวมา
มากกว่า 30 คนแล้วถือเป็นหนึ่งในสามของยอดขายรถยนต์ใน
ศูนย์บริการนี้ บางคนซื้อรถมากกว่าหนึ่งคัน…. ทำไมผู้หญิงเหล่านี้
ถึงชอบซื้อรถยนต์จากศูนย์รถยนต์แห่งนี้มาก? ยังไม่สามารถหา
เหตุผลที่ชัดเจนได้
หัวหน้าศูนย์บริการขายรถยนต์แห่งนี้คือจ้าวซินซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้น
ของเฉินจินเมื่อสามปีก่อนในโรงเรียนมัธยม นอกจากนี้พวกเขาไป
เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันและค่อนข้างสนิทกันมาก กล่าวอีกนัยหนึ่ง
เขาเหมือนกับพี่น้องกัน จ้าวซินเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่เขาสามารถ
ไว้วางใจได้
ภูมิหลังของครอบครัวจ่าวซินนั้นดีกว่าของเฉินจิน พ่อแม่ของเขาเป็น
เจ้าของบริษัทใหญ่ มันมีมูลค่านับร้อยล้านหยวน ภายใต้การบริหาร
ที่ชำนาญของเขาศูนย์บริการขายรถยนต์แห่งนี้ซึ่งเขาเริ่มมีผลกำไร
ประจำปีในหลายสิบล้านทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีใหม่ เนื่องจาก
ทักษะความเชี่ยวชาญของเขาทั้งในการดัดแปลงและการแข่งรถชื่อ
เล่นของเขา “บิ๊กบราเธอร์ซิน” มีชื่อเสียงในโลกการแข่งรถใต้ดิน
เมื่อมองดูธนบัตรที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วส่ายหัวจ้าวซินพูดว่า “ทำไม
นายถึงกลับมาที่นี่? มันก็แค่ 5,000 หยวนนายเก็บไว้เถอะ”
“เอาไปเถอะฉันเอามันมาคืนแล้ว รีบ ๆ รับมันไป”
จ้าวซินสั่งให้นำเงินไปให้เซียวลี่ที่แผนกต้อนรับส่วนหน้า “เสี่ยวลี่
เอาเงินไปและจองโรงแรมดี ๆ สักแห่ง ฉันจะให้ทุกคนไปทาน
อาหารเย็นวันนี้”
“ไชโย ขอบคุณค่ะบอส!”
“ไชโย ขอบคุณครับพี่ใหญ่ซิน!”
พนักงานในศูนย์บริการแสดงความดีใจทันที เมื่อพวกเขาได้รับดูแล
ที่ดีจากหัวหน้าใหญ่ของเขาเช่นนี้
เฉินจินส่ายหัวอย่างอ่อนใจ จ้าวซินรู้จักกับเฉินจินมาเกือบ 8 ปี และ
เขาก็ทำเช่นนี้เป็นปกติอยู่แล้ว เขาไม่เต็มใจที่จะสัมผัสกับเงินและ
มองว่ามันเป็นเงินเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเขาเองมีรายได้เกือบสิบ ๆ
ล้านต่อปีอยู่แล้ว
ในศูนย์บริหารแห่งนี้เต็มไปด้วยช่างมืออาชีพ และ พวกเขาเหล่านั้น
ไม่เคยคิดจะลาออกจากศูนย์นี้ ถึงแม้จะมีบางคนถูกเสนอเงินเดือนที่
เยอะกว่าเกือบ 1 ล้านต่อปี แต่เมื่อพวกเขาออกไปได้สักพักก็ขอ
กลับมาทำงานที่แห่งเดิมเพราะ หัวหน้าอย่างจ้าวซินดูแลพนักงานได้
ดีเยี่ยม
หลังจากคืนเงินของเขาเฉินจินกล่าวถึงจุดประสงค์ของเขาในการเข้า
มาที่นี้ เขาต้องการเป็นลูกศิษย์ของจ้าวซินสักสองสามวันเพื่อเรียนรู้
ทักษะในการซ่อมรถ
“นายต้องการให้ฉันสอนวิธีซ่อมรถยนต์หรอ” จ้าวซินมองเขาด้วย
ความตกใจ ดึงบุหรี่มุมปากของเขาออกเขาถามอย่างเคร่งเครียด “นาย
แน่ใจหรือว่านายไม่ได้ล้อเล่นกับฉันนะ นายสนใจเรื่องการซ่อมรถ
ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
เฉินจินพยักหน้าตอบเขาว่า”ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันต้องการเรียนรู้
เกี่ยวกับการซ่อมรถยนต์จริง ๆ”
“มันไม่ใช่งานง่าย ๆ มันสกปรกและน่าเบื่อ นายแน่ใจแล้วนะ?”
“ใช่! ฉันวางแผนไว้แล้ว และจะมาเรียนรู้ด้วยสักสองสามวัน ฉันจะ
จ่ายเงินค่าสอนให้”
จ้าวซินโบกมือแล้วพูดว่า “นายไม่ต้องมาจ่ายเงินให้ฉันหรอก นาย
มาเรียนรู้แค่สองสามวันเอง เดียวพวกเราจะสอนนายเอง หากนายไม่
ยอมแพ้ไปก่อน นายจะได้ประสบการณ์การซ่อมรถอย่างเต็มเปี่ยม
แน่ ๆ”
“ตกลงขอบใจนายมาก”
จ้าวซินมองดูเฉินจินที่มีผิวขาวซีดและร่างกายผอมเพรียว เขารู้ว่า
เฉินจินมี “โรคติดบ้าน” เขาจึงคิดในใจเงียบ ๆ จ้าวซินสงสัยว่าเฉินจิน
คงจะอยู่ได้นานแค่ไหน สองวัน? สามวัน? หรือแค่วันเดียว
ไม่ว่าจะกี่วันจ้าวซินคิดว่า เพื่อนคนนี้คงทนอยู่ได้ไม่ถึง 5 วันอย่าง
แน่นอน
คอมเม้นต์