I Found A Planet – ตอนที่ 43
43 เลื่อนค้าเช่าห้อง
By loop
วันที่ 19 วันนี้ตรงกับวันเสาร์
ในระหว่างการทานอาหารกลางวันเฉาหลี่ เธอได้พูดบางอย่างขึ้นมาว่า“ ลูก ถ้าลูกว่างๆลูกก็ช่วยไปดูแถวๆเขตโลตัสให้แม่หน่อยนะ ดูว่าอพาร์ทเมนท์ของเรายังสะอาดดีอยู่ไหม เพราะเห็นว่าลูกไม่ได้ไปที่นั้นมาตั้ง 2 เดือนแล้ว”
ครับ …
เฉินจินเงยหน้าขึ้น “ แม่ ทำไมแม่ไม่ให้พ่อไปดูแทนผมเลยล่ะ จริงๆแล้วผมก็ไม่อยากไปแถวนั้นๆแล้วนะ” เนื่องจากในอดีตเฉินจินเคยหาเงินรายเดือนของเขาจากอพาร์ตเมนท์ 4 ห้องที่ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของอยู่ และมันเป็นรายได้หลัก ณ ตอนนั้น แต่ ตอนนี้เขามีธุรกิจของตัวเองแล้ว เฉินจินเลยไม่ต้องการค่าเช่าจากอพาร์ทเมนท์เหล่านั้นอีกต่อไป เขามองว่าเขาควรมีอิสระในชีวิตสักที่ และ ไม่ต้องการได้เงินที่ไม่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเขาอีกต่อไป
ตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนที่แล้วเขาได้เงินจากค่าเช่าอพาทเมนท์ 4 ห้องเป็นจำนวนเงิน 20,000 หยวน ซึ่งเด้งข้อความขึ้นมาใน อารีเพลย์ของเขาแต่เฉินจินก็โอนเงินทุกบาททุกสตางค์ให้กับแม่ของเขาทั้งหมด
“ ลูกก็รู้ดี ว่าพ่อของลูกไม่เคยไปอพาทเม้นท์ในย่านนั้นเลย ลูกคุ้นเคยกับผู้เช่ามากกว่าพ่อของลูกนะ ทำเหมือนว่าไปแวะเที่ยวก็ได้” เฉาหลี่บอกเพิ่มเติมว่า“ สำหรับค่าเช่าที่ได้มาลูกก็เก็บมันเอาไว้ก่อนก็ได้ เอาไปเป็นเงินตั้งต้นทำธุรกิจเล็กน้อยๆ แล้วถ้าธุรกิจของลูกเริ่มไปได้ดีและมีกำไร ก็ค่อยเอาเงินนี้มาคืนให้แม่ ดีไหมล่ะ?”
เฉินจินมองดูแม่ของเขา และ พบว่าแววตาของเธอเปล่งประกายคล้ายกับฉากของนางเอกกำลังอ้อนพระเอกให้ทำอะไรสักอย่าง และดูท่าทีของเธอแล้วเฉินจินรู้ว่าสิ่งที่แม่ของเขาพูดออกมานั้นมันไม่ตรงกับสิ่งที่แม่ของเขาคิดอยู่ในใจ
เฉินจินฝืนยิ้ม สุดท้ายแล้วแม่อย่างเฉาหลี่ก็ตัดความกังวลไม่ได้ไม่ว่าเฉินจินจะโตขึ้นขนาดไหนแล้วก็ตามสุดท้ายแธอก็ยังต้อง“ ดูแลลูก” หลังจากช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกชายของเธอ อาจทำให้เฉาหลี่คิดว่าตอนนี้ลูกชายของเธออาจตกอยู่ในที่นั่งลำบาก อดยาก หรือ ไม่มีเงินพอจะซื้ออาหารหรือซื้อนู้นนี้นั้นด้วยซ้ำ สำหรับภายในใจของเธอ เฉาหลี่เพียงต้องการให้ลูกชายยอมรับในสิ่งที่เธอต้องการมอบให้ เพราะไม่ยังงั้นเธอจะรู้สึกเหมือนเป็นตราบาปที่ไม่ได้ดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ ซึ่งความเป็นแม่ของเธอไม่อาจปล่อยให้ลูกชายไปตกระกำลำบาก ถึงแม้ว่าความจริงเฉินจินนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เฉาหลี่คิดไว้เลย
ด้วยปกติแล้วเฉินจินเองก็เป็นคนขี้เกียจต่อร้องต่อเถียงกับแม่ของเขาอยู่แล้ว อีกทั้งเขายังให้ความเคารพความคิดคนที่แก่กว่า เพราะทุกครั้งในการตัดสินใจใดๆก็ตามของเขาจะมีแม่ของเขาคอยช่วยคิดแทนอยู่เสมอ “ ตกลงเดียวผมจะแวะไปที่เขตโลตัส ให้ ผมจะไม่โอนเงินค่าเช่าให้แม่ทุกเดือน และผมจะเปลี่ยนไปโอนให้แม่ทุกหกเดือนแทน จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เขาลี่พยักหน้าซ้ำ ๆ “ไม่เลย ปีล่ะครั้งแม่ก็ไม่มีปัญหา”
…
เวลาประมาณ 3 ทุ่มเฉินจินก็มาถึงลานจอดรถของเขาที่ชั้น 1 ของอาคาร 6 ในเขตโลตัส เขาขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 8 และเปิดประตูห้อง 801 เพื่อทำการตรวจสอบห้องเพราะเขารู้ดีว่านี้เป็นห้องที่น่าเป็นห่วงที่สุดในอพาทเม้นท์ทุกห้องที่เขามี
แค๊ก ~!
หลังจากเปิดประตูเขาพบว่าความเป็นจริงดีกว่าสิ่งที่เขาคาดไว้เสียอีก กระดานปูพื้นค่อนข้างสะอาด ขยะในห้องถูกเก็บเป็นอย่างดี ไม่มีชายแปลกหน้าเปลือยนอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น นอกจากน้ำผลไมและหนังสือบางเล่มที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมแล้ว นอกนั้นไม่มีอะไรอยู่บนโต๊ะรับแขกอีกเลย
เฉินจินดูท่าทางดีใจมาก นี้เป็นภาพที่หาได้ยากมากๆ “สุดยอด. ห้องนี้รักษาความสะอาดได้ดีมาก” เฉินจินไม่จำเป็นต้องเรียก บริษัท ดูแลทำความสะอาดเลย
ลีไคยิ้มก่อนจะพูดว่า“ เจ้าของห้องครับ จริงๆแล้วเพื่อนก็ยังมาทำงานที่นี้ปกติ แต่เราแบ่งเวรทำความสะอาดทุกวัน ห้องเลยดูสะอาดอย่างที่เห็นแหละครับ”
เฉินจินพยักหน้า “อืมมม ดีมากเลยทำอย่างงี้ต่อไปเรื่อยๆนะ”
อย่างไรก็ตามลีไครั้งเขาไว้ก่อน หลังจากพูดคุยและลังเลแล้วเขาก็พูดว่า“ เจ้าของครับ มีบางสิ่งที่ผมยังต้องคุยกับคุณ เพื่อนของผมยังไม่ได้ย้ายออกไปเลย ตอนนี้พวกเขาย้ายของมาอยู่กับผม ตอนนี้พวกเราสามคนแชร์เตียงกันอยู่…. ผมไม่รู้ว่าคุณจะยินยอมให้เราแชร์ค่าเช่าด้วยกันไหม”
ดวงตาของเฉินจินเบิกกว้าง “ คุณทั้งหมดจะไปนอนอัดกันบนเตียงๆเดียวได้ยังไงกัน”
“ บางทีถ้าไม่รู้สึกสบาย บางคนก็แยกไปนอนที่โซฟาครับ”
“ ผมเองไม่ห้ามว่าคุณจะนอนกันกี่คนเพราะไม่มีอะไรในสัญญาที่บอกว่ามีห้องนี้ต้องอยู่กี่คน แต่คุณต้องตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการใช้ไฟฟ้า อย่านำพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากเกินไปที่ใช้พลังงานมากเสียบเข้าไปพร้อมกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นและเป็นอันตรายคุณอาจต้องบอกให้พวกเขาบางคนออกไปจากอพาทเม้นท์แห่งนี้”
ลีไคสัญญาซ้ำแล้วซ้ำอีก“ เราจะจับตาดูอย่างเข้มงวด ผมสัญญาว่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ !”
เฉินจินส่ายหัว เขาตระหนักว่าลีไคเป็นคนที่ซื้อสัตย์ในคำพูดมาก เนื่องจากลีไคนั้นค่อนข้างเพื่อนเยอะมันจึงไม่แปลกที่ภายในห้องจะเต็มไปด้วยเหล่าๆเพื่อนๆ และ ลีไคเองก็เป็นคนที่จริงใจและรักเพื่อนมากเขาจะทำทุกอย่างที่เพื่อนร้องขอให้เขาทำแบบไม่ปฏิเสธเลย เช่นกันถึงแม้เขาจะอยู่ในวัยใกล้เคียงกันกับเฉินจิน แต่เขาก็เชื่อฟังสิ่งที่เฉินจินบอกและยินดีที่จะปฏิบัติตาม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ค่าเช่าที่พักในใจกลางเมืองก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย เพื่อช่วยให้เพื่อนๆของลีไคเองประหยัดเงิน เขาจึงไปนอนที่โซฟาและให้เพื่อนมานอนที่ห้องเขา เพราะถ้าจะไล่เพื่อนๆออกไปมันก็จะเป็นการยากกว่าเพราะในสมัยนี้การหาห้องพักใจกลางเมืองทำได้ยากมาก
…
ในห้อง 902 ในห้องก็ยังเป็นเด็กสาว 5 คนที่ยังคงเช่าห้องนี้อยู่ ปกติแล้วห้องนี้ก็สะอาดเรียบร้อยเป็นปกติ มันไม่ได้มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นในห้องนี้ เฉินจินพยักหน้าและมองไปรอบๆก่อนที่จะเดินกลับออกไป
ทันใดนั้น เกาหยานก็หยุดเขา “ พี่ชายเฉินฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ คุณพอจะสะดวกไหม” เธอกัดริมฝีปากของเธอ การแสดงออกทางสีหน้าเธอดูอึดอัดใจและเป็นทุกข์มาก
เฉินจินมองเธอด้วยความสับสนและถามว่า“ เรื่องอะไรล่ะ”
“ ฉัน… .. ฉันยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าเดือนนี้ ฉันจะขอเวลาอีกสักสองสามวันได้ไหม? ถ้าฉันได้เงินมาฉันจะรีบจ่ายเงินให้คุณเลย” เกาหยานบีบนิ้วมือเธออย่างไม่สบายใจ ใบห้าของเธอนั้นกลายเป็นสีแดงและไม่กล้ามองตาเฉินจินแบบตรงๆ เธอดูเหมือนจะถูกกดดันอย่างหนักราวกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อายมากที่จะพูดถึงมัน
“ ไม่เป็นไรไม่ต้องรีบจ่ายค่าเช่าก็ได้ไอรีนโนเวลคุณสามารถจ่ายมันได้ตลอดเวลา ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเงินพวกนี้หรอก” แน่นอนเฉินจินรู้ว่าเกาหยานไม่จ่ายค่าเช่าในเดือนนี้ เพราะปกติเธอนั้นจะเป็นคนแรกๆที่จ่ายค่าเช่าให้เขา ในวันที่ 15 ของแต่ละเดือนเธอจะโอนเงินเข้าบัญชีของเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องส่งจดหมายเตือนชำระเงินเลย เธอเป็นคนแรกที่จ่ายค่าเช่าเสมอ ดูเหมือนว่าช่วงนี้เธอจะมีปัญหาเรื่องเงิน นี้แสดงว่าเธออาจเจอปัญหาจริงๆ เพราะค่าเช่าแค่ 700 หยวนเธอยังไม่มีเงินพอจะจ่าย ในวันก่อนหน้านี้เธอได้ส่งข้อความไปหาเฉินจินเกี่ยวกับค่าเช่าของเธอและวันนี้เธอพูดถึงมันอีกครั้ง
“ ขอบคุณค่ะขอบคุณพี่เฉิน” เกาหยาน ขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็วและไหล่ของเธอสั่นเทาเพราะเธออดไม่ได้ที่จะร้องไห้อย่างนุ่มนวลออกมา
เฉินจินถามว่า“ เกาหยานช่วงนี้มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า? มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรอ” แม้ว่าเขาจะมีปฏิสัมพันธ์กับเธอเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ความประทับใจในตัวเขาของเธอก็คือเธอเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงสดใสมองโลกในแง่ดีและขยัน เธอเป็นผู้หญิงที่ดี อย่างไรก็ตามวันนี้เธอกับร้องไห้ ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
“ เกาหยาน ตกงาน นะ ตอนนี้เธอกำลังพยายามหางานใหม่อยู่…” หลิวเสี่ยวเสียว ยืนอยู่ด้านข้าง เพื่ออธิบายว่าเกาหยาน นั้นพบกับเรื่องที่ไม่คาดฝันในการทำงานและก็ถูกไล่ออกจาก บริษัท ของเธอ
เกาหยานทำงานในธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ ความสามารถของเธอนั้นไม่เลวร้ายมากนัก สองสามเดือนติดต่อกันเงินเดือนของเธอมากกว่า 10,000 หยวนอย่างไรก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเดือนกันยายน รัฐบาลได้ประกาศนโยบายต่าง ๆ มากมายเพื่อ จำกัด ผู้ซื้อเพื่อทำให้เกิดฟองสบู่ทีก่อตัวขึ้น สิ่งนี้ทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมาก อาชีพทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการขายอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบากทันที
บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เกาหยาน ทำงานในนั้นประสบกับผลการดำเนินงานที่ไม่ดี เนื่องจากอนาคตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ดูเยือกเย็นพวกเขาตัดสินใจที่จะลดความสูญเสียเหล่านี้ ด้วยการเลิกจ้างพนักงานจำนวนหนึ่ง น่าเสียดายที่เกาหยาน อยู่ในรายชื่อพนักงานที่ถูกถอดถอน
เฉินจินถามด้วยความกังวล“ตอนนี้คุณว่างงานอยู่อย่างงั้นหรอ”
เกาหยานเช็ดน้ำตาของเธอที่ออกมาจากหางตา และพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า“ ใช่ตอนนี้ฉันกำลังพยายามหางานใหม่อยู่ ตัวฉันเองคิดว่าน่าจะได้งานใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ” จริงๆแล้วเธอเองทำงานมาตั้งแต่เด็ก ในความเป็นจริงเธอมีประสบการณ์การทำงานหกถึงเจ็ดปีและการเปลี่ยนงานก็เหมือนกับการเปลี่ยนเสื้อผ้า การตกงานไม่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเธออีกต่อไป สิ่งที่ทำให้เธอกังวลคือสถานการณ์ที่บ้าน
พ่อของเธอเป็นโรคเบาหวานและไม่สามารถทำงานได้ อย่างไรก็ตามพ่อของเธอไม่สามารถควบคุมตัวเองและรักที่จะกินของหวานต่อไป เมื่อเดือนที่แล้วพ่อของเธอเริ่มมีอาการแทรกซ้อนจากการกินแตงโมหวาน ๆ จนถูกส่งไปที่โรงพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่เธอต้องเสียไปมันมากกว่า 15,000 หยวน แม่ของเธอเองก็ไม่มีงานเป็นหลักแหล่งแถมติดการพนัน ไม่ต้องพูดถึงเงินรายเดือนเลย ตอนนี้น้องชายของเธอซึ่งกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อเร็ว ๆ นี้เขามีแฟนและค่าใช้จ่ายมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ครั้งสุดท้ายที่เธอพบน้องชายของเธอ เขาบอกว่าเขาต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือที่มีสัญญาลักษณ์รูปผลไม้อยู่ข้างหลังเป็นของขวัญวันเกิดให้แฟนสาวของเขา
“ โทรศัพท์มือถือผลไม้! ราคามันเกือบ 8,000 ถึง 9,000 หยวน ตัวของฉันเองใช้มือถือราคามยังไม่ถึง 400 หยวนด้วยซ้ำ”
น้องชายของเธออธิบายว่า“ แม่เคยพูดไปแล้วว่าซื้อของแพงๆเลยมันดีกว่า เทียบกันมันยังถูกกว่าเงินขอหมั่นด้วยซ้ำ! ”
“ตกลง!” เกาหยานบังคับตัวเองให้ยิ้มและโอนเงินให้น้องชายของเธออย่างจำใจ
แรงกดดันทั้งหมดจากการทำงานและครอบครัวกำลังแบกอยู่บนบ่าของเธอ เธอรู้สึกหนักใจจนรู้สึกหายใจไม่ออกไอรีนโนเวลขณะที่เธอทำงานมาสองสามปีและใช้ชีวิตอย่างประหยัดเธอน่าจะเก็บเงินได้อย่างน้อย 200,000 หยวนไม่ก็อาจ 300,000 หยวน อย่างไรก็แต่มันถูกนำไปใช้จ่ายในครอบครัวจนตอนนี้เงินที่เก็บอยู่ก็ได้หมดลงจนไม่สามารจ่ายค่าเช่าห้องได้ อีกทั้งเธอยังมีหนี้บัตรเครดิตมากกว่า $ 10,000 และยังว่างงาน หลายครั้งที่เธอซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและร้องไห้โดยไม่รู้ว่าเธอจะสามารถทนต่อเรื่องนี้ได้หรือไม่ คำตอบของเจ้าของบ้านว่า“ ไม่เป็นไรคุณสามารถจ่ายค่าเช่าได้ทุกเมื่อ” เฉินจินเอามือไปแตะไหล่เธอ
เฉินจินก็กล่าวว่า“ เกาหยานถ้าคุณไม่คิดมาก ผมมีงานมาแนะนำให้คุณ”
“ งานประเภทไหนกัน” เกาหยานเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เจ้าของอพาทเม้นคนนี้ ทำการเลื่อนการจ่ายค่าเช่าให้เธอ และยังแนะนำงานให้เธอทำอีกตอนที่เธอกำลังว่างงานอยู่
คอมเม้นต์