I Found A Planet – ตอนที่ 58
EP 58 บริษัท OEM
วันนี้เป็นวันที่ 17 มกราคมมันผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์หลังการการปรับปรุงดัดแปรงและการอัพเกรดหุ่นยนต์ทำความสะอาด“วาวา: รุ่นที่หนึ่ง” จนตอนนี้มันอาจสรุปได้ว่ามันเสร็จสมบูรณ์พร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดการค้าได้แล้ว!
ณ ตอนนี้ฟังก์ชั่นและองค์ประกอบพื้นฐานของตัวหุ่น มีดังนี้ขนาดผลิตภัณฑ์มีความยาว 345 มม. กว้าง 345 มม. และสูง 506 มม. น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 5.8 กิโลกรัม มีแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 15V / 10200 มิลิแอมแปร์เป็นพลังงานขับเคลื่อนโดยมี ระดับพลังงานอยู่ 65W (สำหรับการกวาด) / 75W (สำหรับการถู); ระยะเวลาในการทำงานต่อเนืองคือ 160 ถึง 180 นาที (เพียงพอที่จะทำความสะอาดบ้านขนาด 200 ตารางเมตรได้อย่างสบาย) และดัชนีการทำความสะอาดคือ 99.6% ถึง 99.8%
อย่างที่รู้กันว่าเฉินจินตั้งเป้าหมายดัชนีความสะอาดของหุ่นยนตร์ ”วาวา” ไว้ที่ 99.9% เพราะเขาต้องการนำดัชนีนี้ไปเป็นจุดเด่นในโฆษณาตัวใหม่ที่เขาจะเผยแพร่ออกไป แต่เนื่องจากรูปแบบของห้องนั้นค่อนข้างมีความหลากหลายและวัสดุที่ใช้ปูพื้นห้องเองก็ด้วยทำให้ดัชนีเป้าหมายอาจคาดเคลื่อนลงเล็กน้อย ซึ่งการบรรลุเป้าหมาย 99.99 %อาจเป็นไปได้ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมหรือรูปแบบห้องที่ไม่ซับซ้อนมากนัก
ดังนั้นเฉินจินจึงไม่ได้ดันทุรังเพิ่มดัชนีตัวชี้วัดให้สูงขึ้น ดัชนีการทำความสะอาด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 99.6% ดัชนีความสะอาดเพียงเท่านี้ สูงกว่าดัชนีความสะอาดของหุ่นยนตร์เครื่องดูดฝุ่นที่มีอยู่ในตลาดบนโลกตอนนี้เกือบทั้งหมด และยังดีกว่าดัชนีความสะอาดที่แม่บ้านที่เป็นมนุษย์ทำเองอยู่มากมาย เพราะ ในกรณีที่มีบ้านทำความสะอาดเองถูกวัดค่าดัชนีความสะอาดอยู่แค่ 70%-75% เพียงเท่านั้น
แต่ดัชนีความสะอาดของหุ่นยนต์“ วาวา”กับสูงกว่า 99% นี้อาจเป็นเรื่องที่ช๊อกวงการเทคโนโลยีด้านความสะอาดบนโลกมากในตลาดของใช้อิเล็กทรอนิกส์
แต่การได้มาของคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ของหุ่นยนตร์“ วาวา” ก็แลกมากับต้นทุนการผลิตที่สูงมากขึ้นด้วย
ซู่ยงจี้ได้ทบทวนวัสดุฮาร์แวร์ที่จำเป็นสำหรับการสร้างหุ่นยนตร์ 1 ตัว “ เมนบอร์ดสำหรับวงจรไฟฟ้าของหุ่นยนต์มีค่าใช้จ่าย 75 หยวนต่อหน่วย ซีพียูประมวลผลกลางขนาด 8 คอร์ราคาอยู่ที่ 132 หยวนต่อหน่วย หน่วยความจำภายใน 2GB บวกกับหน่วยความจำ 8GB แบบ DDR3 อีกตัวราคารวม 168 หยวน ชิ้นส่วนสำหรับกล้อง HD ขนาด 12 ล้านพิกเซลราคา 119หยวน; การนำเข้ามอเตอร์ไฟฟ้าแบบไร้แปรงและชิ้นส่วนที่ใช้งานในญี่ปุ่นสำหรับแขนกลของมันมีราคาอยู่ที่ 315 หยวน และ 364 หยวนตามลำดับ แบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 10,000 แอมแปร์ราคา 89 หยวนรวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับกรอบนอกพลาสติก, อุปกรณ์เครื่องเสียง, ชิปเชื่อมต่อ Wifi, แชสซีชาร์จ, แขนกลแบบแรงเหวี่ยงที่จำเป็นสำหรับแปรงทำความสะอาด, เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายในการประกอบสำหรับโรงงาน OEM และต้นทุนแรงงานต่างๆ …. ต้นทุนรวมของฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นสำหรับการผลิตหุ่นยนต์“ วาวา” หนึ่งตัวนั้นประมาณ … 2,518 หยวน ” สีหน้าของซู่ยงจี้แสดงออกให้เห็นถึงความกังวล กล่าวว่า“ เจ้านายเฉินค่าใช้จ่ายของฮาร์ดแวร์มันมีราคาที่สูงมาก หลังจากผลิตผลิตภัณฑ์และนำมันเข้าสู่ตลาดมันอาจมีราคาสูงมากขึ้นกว่าเดิมไปอีกหุ่นยนตร์“ วาวา”ตัวหนึ่งอาจมีราคาสูงถึง 4,000 หยวนหรือ 5,000 หยวนถ้าพวกเราต้องการได้กำไรจาก “วาวา” !
ซู่ยงจี้จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า“ เอาจริงๆแล้ว ผู้บริโภคจะยินดีจ่ายเงินให้กับเราในราคา 4,000 ถึง 5,000 หยวนจริงๆหรอ”
“ผมเห็นด้วยกับคำถามนี้!” โจวคุนพยักหน้า “ ราคาของสินค้ามันสูงมาก ผมเองกลัวว่าผู้บริโภคจะไม่ซื้อมันเพราะราคาที่แพงหูฉี่เช่นนี้ มันอาจไม่คุ้มค่ากับเงินที่ผู้บริโภคลงทุนไป”
หวู่เว่ย บอกเพิ่มเติมอีกว่า“ เจ้านายเฉิน พวกเราควรคิดหาวิธีการในการลดค่าใช้จ่ายสำหรับฮาร์ดแวร์บางอย่าง มันน่าจะเหมาะกว่าถ้าราคาหุ่นยนตร์ที่ขายในตลาดจริงอยู่ที่ 2,000 หยวนต่อวหนึ่งตัว หรือไม่ก็ราคาต่ำกว่านั้น ไม่งั้นพวกเราคงเสียเปรียบคู่แข่งด้านราคาอยู่มากเลยล่ะ”
คนอื่นๆเองก็เห็นด้วยและพยักหน้า จางซิงเหว่ย ก็แสดงความคิดเห็นว่า“ หากเราลดคุณภาพของอุปกรณ์ลงเล็กน้อยและประหยัดค่าใช้จ่ายในทุกขั้นตอนมันคงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก และราคาต้นทุนเองก็ลดลงด้วยมันอาจจ้ต่ำกว่า 2,000 หยวนต่อตัวไม่ก็ต่ำกว่านั้นถ้าผลิตในปริมาณมากๆ”
อย่างไรก็ตามเฉินจินได้แต่ส่ายหัวซ้ำ ๆ “ ไม่เด็ดขาด! เราจะไม่ลดต้นทุนใดๆในการผลิตหุ่นยนตร์ตัวนี้เด็ดขาด เพราะเราเองต้องรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา! เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ของเราสามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องกังวล เราจะให้การบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมฟรีเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี เราจะสร้างระบบบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมขึ้นและให้บริการลูกค้าถึงที่บ้านแบบ ‘ออนไซเซอร์วิส’ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด ”
“อะไรนะ?” หวู่เว่ย อุทานด้วยความตกใจ“ นั้นมันเป็นการเพิ่มต้นทุนให้เราชัดๆไม่ใช่หรือยังไง ถ้าทำอย่างงั้นจริง ราคาหุ่นยนตร์แต่ละตัวต้องมีราคาอยู่ที่ 5,000 หยวนต่อตัวหรือไม่มันอาจมีราคาสูงกว่านั้น!”
ณ ตอนนี้ซู่ยงจี้ทนต่อความคิดอันผิดแพรกของเฉินจินซึ่งเป็นเจ้านายของเขาอีกต่อไปไม่ได้ ซู่ยงจินพูดแนะนำเฉินจินอย่างรวดเร็วว่า “ เจ้านายเฉินสำหรับเรื่องนี้; เราจะพัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นมาสองรุ่น โมเดลหนึ่งจะเป็นโมเดลที่มีช่วงค่าต่ำ เราจะไปคุณภาพของอุปกรณ์ฮาตแวร์และการตั้งค่าต่างๆลง ราคาขายของหุ่นยนตร์รุ่นนี้อาจจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 หยวนและจะกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้บริโภคที่กำลังมองหาโมเดลหุ่นยนตร์ทำความสะอาดระดับต่ำถึงระดับกลาง และโมเดลอื่นจะเป็นหุ่นยนต์ระดับสูงที่ใช้การกำหนดค่าต่างๆและราคาไว้จับกุมผู้ใช้ที่ต้องการความหรูหราและยิ่งใหญ่ วัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำโมเดลนี้จะดีที่สุดที่เราจะหามาได้ ราคาขายมันอาจจะอยู่ที่ 5,000 หยวนขึ้นไป นี้น่าจะเป็นวิธีการตอบสนองผู้บริโภคทุกระดับเจ้านายคิดว่าอย่างไงบ้าง?”
โจวคุนเองก็พยักหน้าเห็นด้วย“ สิ่งที่กัปตันซู่แนะนำนั้นค่อนข้างดี เราจะทำให้สินค้าของเราเข้าถึงกับผู้บริโภคทุกระดับได้”
“ไม่เด็ดขาด!” เฉินจินโบกมืออย่างแรงพร้อมกับพูดต่อไปว่า“ เอาจริงวิธีที่นายคิดมานั้นมันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องทำอย่างงั้น ในฐานะที่เป็นบริษัทเซียงไฮ่เทคโนโลยีและผู้สร้างหุ่นยนต์ทำความสะอาด“ วาวา” ตอนนี้เราไม่ได้มีชื่อเสียงในตลาดแวววงนี้เลย แล้วเราจะดึงดูดฐานลูกค้าระดับไฮเอนด์ได้ยังไงกัน ถ้าเรามีการแยกราคาการขายเช่นนี้ ลองคิดดูว่าใครจะกล้าใช้เงิน 5,000 หยวนในการซื้อหุ่นยนต์ทำความสะอาดจากแบรนด์ที่ไม่รู้จักได้ การสร้างความน่าเชื่อถือผ่านราคาที่แพงนั้นเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนได้ การสร้างหุ่นยนต์โลว์เอนด์เองนั้นอาจจะเป็นคำแนะนำที่ดี! แต่หากเกิดปัญหาด้านคุณภาพปรากฏในสู่ผู้ใช้วงกว้างเราจะไม่สามารถรับประกันได้ว่า เราจะสามารถดึงดูดลูกค้าระดับล่างได้อีก! ตอนนี้ฉันจึงหวังว่าหุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นแรกที่ บริษัท ของเราเปิดตัวมันต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมโดยไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างไปจากหุ่นยนตร์รุ่นอื่นๆที่ในตลาดเคยมีมา มันจะต้องกลายเป็นที่นิยมทันที หลังจากนั้นเราค่อยลองถามความคิดเห็นจากลูกค้าว่าประสิทธิภาพของหุ่นยนตร์รุ่นแรกของเราตอบโจทย์ลูกค้าหรือไม่ จริๆงแล้วฉันเองไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการแบ่งตลาดลูกค้า แต่การเปิดตัวหุ่นยนตร์รุ่นแรกของเรานั้นเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท เราจะต้องชูเรื่องคุณภาพมาก่อนถ้า แบร์นของเราติดตลาดแล้ว เรื่องของราคาก็จะเป็นเรื่องที่สองที่เราจะทำต่อไป
ทุกคนในทีมพยักหน้าพร้อมกัน จากสิ่งที่เฉินจินพูดทำให้ทั้งทีมตระหนักถึงว่าพวกเขาดันไปสนใจเพียงกำไรเท่านั้นแต่ไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพและลืมไปว่าชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ยังไม่เป็นที่รู้จักแม้แต่อาจได้รับคลื่นความคิดเห็นที่ไม่ดีและล้มเหลวในวงกว้างถ้าเกิดข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะลดต้นทุนฮาร์ดแวร์ของหุ่นยนต์“ วาวา” ลงในตอนนี้
“ ซู่ยงจี้ ถ้าฉันต้องการสั่งให้ บริษัท OEM ผลิตสินค้าให้กับทางเรา 1 ล้านหน่วย จะทำให้ต้นทุนลดลง 20% ได้หรือป่าว? ให้อยู่ราว 2,000 เหรียญจะเป็นไปได้ไหม?”
“หนึ่งล้าน?” ซู่ยงจี้ ถึงกับอ้าปากค้างเป็นรอบที่สอง“ มันไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่ แต่มีหนึ่งล้าน…นี่……” ซุ่งยงจี้คิดในใจว่า ปริมาณผลิตที่เฉินจินในฐานะเจ้านายของคิดนั้น มันจะเวอร์เกินไปหรือเปล่า!
เฉินจินถามว่า“ สำหรับการขายในตลาด เราสามารถตัดดีลเลอร์ระดับกลางออกไปได้ จะเป็นอย่างไรถ้าเราไม่ขายผ่านผู้จัดจำหน่ายและขายสินค้าทั้งหมดโดยตรงให้กับผู้บริโภคผ่านอินเทอร์เน็ต หุ่นยนต์แต่ละตัวจะมีราคาเพียง 3,299 หยวน ลูกค้าสามารถยอมรับราคานี้ได้หรือเปล่า? เราจะทำกำไรได้เท่าไรกัน?”
3,299 หยวน?
หลังจากการพิจารณาอยู่สัก ซู่ยงจี้ ก็ตอบว่า“ ไม่มีปัญหาราคานี้มันน่าดึงดูดสำหรับลูกค้าฐานะปานกลาง ด้วยฟังก์ชั่นที่ยอดเยี่ยมของหุ่นยนต์พวกเขาน่าจะเต็มใจที่จะซื้อมัน อย่างน้อยกำไรที่เราได้อาจอยู่ 800 หยวน!”
คูณด้วยหนึ่งล้านหน่วย หากพวกเขาสามารถขายหุ่นยนร์ทั้งหมด ผลกำไรของ บริษัท ก็จะอยู่ที่ …
ทุกคนหายใจเข้าลึก ๆ ทั้งทีมเต็มไปด้วยความหวัง และคิดซ้ำไปซ้ำมา ว่าความน่าจะเป็นที่สินค้าจะขายหมดอาจเกิดขึ้นต่ำมาก นอกจากนี้ความเสี่ยงยังมีอยู่มาก ต่อให้เจ้านายเฉินสั่งการผลิตไปที่ OEM หนึ่งล้านหน่วย หนึ่งล้านคูณด้วยต้นทุนการผลิต 2,000 หยวนเท่ากับสองพันล้าน แล้วเจ้านายเฉินจะเอาจำนวนมากมหาศาลขนาดนั้นมาจากไหนกัน?
เมื่อเจอกับความกังวลนี้เฉินจินก็ยิ้มอย่างสุภาพขณะที่เขาเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้แล้ว
…… ..
ณ วันที่ 18 มกราคมในเมืองซูหงซึ่งเป็นเมืองรองที่อยู่ห่างจากเมืองฉางไห่ออกไปเพียงสิบกิโลเมตรมี บริษัทเอกชนชื่อหลิงเฟิงเทคโนโลยี จำกัด ! นี่คือ บริษัท OEM ด้านอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศในประเทศ Z มันพึงตั้งมาได้ไม่นานและมันก็ไม่ได้โด่งดังมากมายเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามมาตรฐานทางเทคนิคในการผลิตของบริษัทก็ไม่ได้แย่เกินไป
หวังจวนหลง ในวัย 43 ปี เขาเป็นชายวันกลางคนที่ชอบสวมแว่นตาอยู่ตลอดเวลา เขาจบการศึกษาปริญญาเอกและเคยทำงานให้กับกองทัพเรือ ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานใน บริษัท OEM นานาชาติขนาดใหญ่ในฐานะช่างเทคนิคระดับสูง แต่ด้วยความต้องการที่อยากจะกลับมาประเทศบ้านเกิดและสร้างธุรกิจที่นี่หวังจวนหลงจึงตัดสินใจลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลถึงพันล้านหยวนเพื่อสร้างบริษัท OEM แห่งนี้ขึ้นมา (OEM คือ เป็นประเภทบริษัทรูปแบบหนึ่งที่คล้ายกับบริษัทผู้ผลิตที่รับงานจาก บริษัทอื่นๆที่อาจยังไม่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ดีพอ และส่งมอบให้บริษัท OEM ผลิตสินค้าให้ ในโลกของเป็นจริง หลายแบร์นที่เป็นแบรน์เริ่มต้นก็มักจะจ้างบริษัท OEM ผลิตสินค้าให้เช่นกัน)
อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาการแข่งขันในอุตสาหกรรม OEM นั้นรุนแรง การเติบโตของ บริษัท ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานั้นไม่ได้สดใสมาก บริษัทพอที่จะอยู่ได้ก็เพราะบริษัทนี้มีสัญญาการผลิตกับรัฐบาลอยู่เพียงเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้หวังจวหลง รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ด้วยสาเหตุความกังวลเหล่านี้ทำให้ หวังจวนหลง ถึงกับผมร่วงจนกลายเป็นคนหัวล้านในที่สุด
แต่วันนี้สัญญาการสั่งซื้อที่แปลกประหลาดเกินบรรยายที่มีมูลค่าสองพันล้านบาทได้ถูกเสนอให้เขา หวังจวนหลงถึงกับตกใจมากจนอ้าปากค้างออกมา เมื่อมองดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงนั้น ทำให้เขาท่าทางของเขาเปลี่ยนไป หวังจวนหลงมีท่าทีที่สุภาพเรียบร้อบและต้อนรับขับสู้เฉินจินเป็นอย่างดีเขาถามว่า“ เจ้านายเฉิน คุณไม่ได้ล้อเล่นเกี่ยวกับออเดอร์ที่มีมูลค่าสองพันล้านหยวนสำหรับการผลิตหุ่นยนต์หนึ่งล้านตัว ใช่ไหมครับ?”
เฉินจินส่ายหัว “ แน่นอน ผมจริงจัง และ ไม่ได้พูดเล่น”
“ บริษัท หลิงเฟิงยอมรับคำสั่งซื้อนี้และเรามีความสามารถที่จะทำให้เสร็จโดยเร็วได้ แต่….” ด้วยความสงสัยเขาถาม“ ตามกฎระเบียบอุตสาหกรรม บริษัท ลูกค้าจะต้องจ่ายเงิน 50% ของทุนการสั่งซื้อก่อนที่เราจะเริ่มการผลิต นั่นคือหนึ่งพันล้านหยวน”
เฉินจินส่ายหัว “ อืมตอนนี้ผมไม่มีเงินทุนเหลือมากขนาดนั้นหรอก”
หวังจวนหลง ต่อรองเงินมัดใหม่“ 40%! หลิงเฟิงยินดีที่จะรับความเสี่ยงบางส่วน” คำสั่งซื้อที่มีมูลค่าสองพันล้านนี้เท่ากับมูลค่าของคำสั่งซื้อทั้งหมดของปีที่แล้วที่บริษัทของเราได้รับเลย เขาไม่ต้องการที่จะพลาดโอกาสนี้
เฉินจินส่ายหัวอีกครั้ง “ ผมไม่มีทุนถึง 40% เหมือนกัน”
หวังจวนหลงพยายามอีกครั้ง “ อย่างนั้นมาเซ็นสัญญาสั่งซื้อหุ่นยนต์ห้าล้านตัว! เราสามารถเซ็นสัญญาสำหรับหุ่นยนตร์ห้าล้านตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 5 ล้านตัว พร้อมมัดจำ 40% มันเงินเป็นเพียง 400,000,000 หยวนเท่านั้นมันไม่ใช่เงินมากมายอะไร”
เฉินจินอธิบายว่า“ คุญหวัง ผมมีเงินแค่ 200,000,000 หยวนเท่านั้น ผมสามารถจ่ายเงินมัดจำ 10% สำหรับการสั่งซื้อหุ่นยนต์หนึ่งล้านตัว ผมจะรอจนกว่าหุ่นยนตร์จะขายได้และผมก็จะแบ่งจ่ายเงินให้คุณเป็นงวดๆแทน”
หวังจวนหยอง ขมวดคิ้ว เขาส่ายหัวเขาพูดว่า“ ถ้าอย่างนั้นผมคงทำให้คุณไม่ได้ ความเสี่ยงนี้มันสูงเกินไป ถ้ามันผิดพลาดโรงงานของผมจะเจ้งได้ ที่จริงแล้วคุณสามารถลดขนาดปริมาณการสั่งซื้อได้ ตัวอย่าง ตอนนี้เราสามารถยอมรับการสั่งการผลิตได้ 200,000 ตัว”
“ 200,000 ตัวแทบจะไม่เพียงพอที่จะชดเชยต้นทุนของเรา มันจะต้องมีหนึ่งล้านตัวขึ้นไปถึงจะคุ้มค้า คุณหวัง ผมจะขออนุญาติแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ บริษัท ของเรากำลังพัฒนา ถ้าคุณได้เห็นศักยภาพทางการตลาดของมันด้วยตัวคุณเอง คุณอาจจะเปลี่ยนใจตกลงเซ็นสัญญากับเราก็ได้”
หวังจวนหลงไม่ได้ทีทางเลือกมากนักในตอนนี้ เขาเองก็ประสบปัญหามากมายกับธุรกิจเช่นกัน เขาจึงพยักหน้าตอบรับไปว่า “ตกลง!”
หลังจากนั้นเฉินจินก็ปล่อยให้ซู่จงยู่และทีมของเขานำต้นแบบมาให้ พวกเขาไปเจอกันในห้องของโรงงานเพื่อให้หุ่นยนต์ทำความสะอาด ในตอนท้ายของการทำงาน ห้องก็ได้สะอาดสะอ้านและไม่มีฝุ่นเลย ถ้ามีการให้มาตรฐานกับห้องนี้ ห้องแห่งนี้อาจเป็น “ห้องผลิตฝุ่นต่ำ” ก็เป็นได้
ดวงตาของหวังจวงหลงเบิกกว้างขึ้น“ ไม่เลวเลย! ผลิตภัณฑ์นี้ดีมากมันน่าจะขายได้ดีในตลาด ฉันแน่ใจว่าคุณสามารถขายหุ่นยนต์เหล่านี้ได้จำนวมหาศาล!” เขาสังเกตเห็นศักยภาพของตลาดสำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นนี้ได้อย่างง่ายดาย ในที่สุดเขาก็ยอมจำนนอีกครั้งและยอมรับข้อเสนอของเฉินจิน แต่เขาตกลงกันกับสัญญาทางการค้าคนลละครึ่งทาง คำสั่งจะใช้สำหรับการผลิตหุ่นยนต์หนึ่งล้านตัว เฉินจินจะจ่ายเงินมัดจำ 10% ก่อน ภายในสองเดือนเขาจะจ่ายอีก 10% เงินส่วนที่เหลือจะจ่ายภายในหกเดือนหลังจากขายผลิตภัณฑ์ หากพบปัญหาทางการเงินครึ่งทาง บริษัทโอยูซิงไห่เทคโนโลยีจะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม บริษัท หลิงเฟิงจิงมี่ก็จะมีความเสี่ยงอยู่มากเช่นกัน พวกเขาต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งร้อยล้านซื้อวัสดุที่จำเป็นทั้งหมด หากบริษัทซิงไห่เทคโนโลยีเกิดเปรี้ยวหรือพบกับโชคร้ายบางอย่าง บริษัท หลิงเฟิงจิงเองก็อาจล้มละลายอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ดีหวังจวนหลง ยังคงวางแผนที่จะรับความเสี่ยงนี้ เพราะ เหตุผลแรกเขาเห็นแนวโน้มตลาดที่เป็นบวกสำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นนี้ เหตุผลที่สองการขาดเงินทุนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในธุรกิจใหม่ๆ มันเป็นเรื่องทั่วไปของพวกสตาทอัพ! บริษัท สตาร์ทอัพที่มีเงินทุนเพียงพอนั้นหายากมาก หากองค์กรต้องการพัฒนาและขยายขนาดขององค์กรขึ้นก็ต้องดำเนินกิจกรรมที่มีความเสี่ยง สิ่งนี้เรียกว่า“ การแสวงหาความร่ำรวยในความไม่แน่นอน!”
แม้แต่หวังจวนหลง ก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่เขาทำ จริง ๆ แล้วตอนนี้เขาเอาความเป็นความตายของของ บริษัท ของเขาไปผูกติดกับธุรกิจขนาดเล็กของเฉินจิน ที่อยู่ในวัย 20 ปีซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ? แต่เพราะหวังจวนหลงฉลาดพอที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่และเขามองว่าคนอย่างเฉินจินนั้นเป็นอัจฉริยะหลังจากที่เห็นเทคโนโลยีที่มีในหุ่นยนตร์ต้นแบบที่เฉินจินเอามาโชว์ให้เขาดู หรือว่าเขาอาจพลาดขายวิญญาณให้กับมารตัวจิ๋วที่หลอกล่อให้เขาเซ็นสัญญาการสั่งซื้อในครั้งนี้? ไม่ว่าทำไมเขาถึงลงนามในสัญญา OEM หลังจากลงนามชะตากรรมของทั้งสอง บริษัท ที่พึงตั้งขึ้นใหม่ทั่งคู่ต้องแบกรับชะตากรรมการทำธุรกิจครั้งนี้ไปพร้อมกัน
ขณะที่เขากำลังจากไปนึกถึงวันที่เหลืออีก 20 วันจนกระทั่งวันตรุษจีนเฉินจินขอให้หวังกวนหลง และทีมงานของเขาทำงานล่วงเวลาและมีคำสั่งพิเศษให้ซู่ยงจี้และทีมพัฒนาของเขาจะประจำการอยู่ที่โรงงานเช่นกัน พวกเขาจะพยายามสร้างหุ่นยนตร์ 1,000 ตัวแรกก่อนที่จะถึงวันตรุษจีน ไม่สำคัญว่าต้นทุนการผลิตของหุ่นยนต์ชุดนี้จะสูงมากเพียงใด เพราะเฉินจินจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้กับพนักงานของเขาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาจะต้องมีหุ่นยนต์ชุดแรกก่อวันตรุษจีน เพราะมันเป็นโอกาสครั้งสำคัญมากที่เขาไม่อาจพลาดมันไปได้!
“ ตกลง 1,000 ตัวไม่มีปัญหาเลย!” หวังกวนหลงพยักหน้า ถึงแม้ว่าตารางงานของบริษัทจะค่อนข้างแน่น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
คอมเม้นต์