EP 94 การปฏิรูปครั้งใหญ่

By loop

 

หลังจากผ่านไปสองวันหลิงจูดง ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO อย่างเป็นทางการ เขาแสดงความสามารถของเขาอย่างรวดเร็ว และเป็นความสามารถที่น่าตกใจมาก หลังจากที่เฉินจินได้ให้อำนาจจัดการแผนกเทคโนโลยี แผนกการขาย แผนกทรัพยากรมนุษย์และแผนกบริการหลังการขายกับหลิงจูดงทั้งหมด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทุกแผนกถูกปฏิรูปใหม่ทั้งหมด

 

แผนกใดที่มีการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพและไร้เหตุผลขาดกฎเกณฑ์มาตรฐานจกลายเป็นเป้าหมายแรกในการถูกปฏิรูปโดยมีการกำหนดชุดของกฎระเบียบและวิธีการกลั่นกรองการทำงานเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เข้าอบรมเพิ่มศักยภาพเป็นเวลา 15 วัน

 

ในตอนนี้ทุกระบบการบริหารถูกออกแบบให้ทั้งการเข้าทำงาน การประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่งพนักงานและระบบการจัดการงานล้วนมีการอธิบายพร้อมรายละเอียดให้มากที่สุด ในเวลาเดียวกันการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นก็ควบคู่ไปกับการรักษาระดับให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างดี ไม่เกิดความกดดันมากเกินไป

 

หลังจากการปฏิรูปสิ้นสุดลงภาพลักษณ์ของบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปจนไม่สามารถจำได้เลย แม้ว่าบริษัทจะมีพนักงานน้อยกว่า 300 คนและจัดอยู่ในกลุ่มของ“ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” แต่ตอนนี้บริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยีมีภาพลักษณ์ของบริษัทระดับประเทศไปแล้ว!

 

ตอนนี้สปิริตการทำงานและทัศนคติของพนักงานได้รับการพัฒนาได้ดีขึ้น พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทมากขึ้นและมีแรงผลักดันที่อยากจะทำเพื่อบริษัทมากยิ่งขึ้น อาจกล่าวได้ว่าภายใน 10 ถึง 20 วันที่ผ่านมาถ้าเปรียบกับรถยนตร์บริษัทเหมือนทำการยกเครื่องใหม่ การปฏิรูปบริษัททั้งหมดถูกดำเนินการด้วยความรวดเร็วและแยบยลเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตามการปฏิรูปครั้งนี้ก็ยังมีการต่อต้านจากพนักงานอยู่บาง ตัวอย่างเช่นหลิงจูดง พบว่าพนักงานขายบางคนไม่ปฏิบัติตามโปรโตคอล(ภารกิจหลัก) ของ บริษัท พวกพนักงานขายทำยอดขายได้แย่ลงและยังเรียกค่าตอบแทนเพิ่มเติมจากลูกค้า มันเป็นเรื่องที่หลิงจูดงรับไม่ได้เป็นอยากมาก เขาขอให้พนักงานขายเหล่านี้หันมารับค่าตอบแทนที่ไม่เหมาะสมและส่งคืนให้กับลูกค้าของพวกเขา หลิงจูดงเรียกร้องให้พวกเขาคืนค่าตอบแทนที่พวกเขารับมาจากลูกค้าทั้งหมด!

 

“ คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะเรียกร้องสิ่งนี้จากเรา? สิ่งนี้ได้รับการเห็นพ้องกันว่าทำไมฉันต้องส่งคืน?”

 

“ คุณเพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทไม่ถึงสามวัน คุณคิดว่าคุณยิ่งใหญ่มาจากไหนกัน?”

 

“ ฉันจะไม่ส่งคืนมันเป็นอันขาด! เจ้านายเฉินเป็นเพื่อนของเรา เขาจะยืนเคียงข้างเรา!”

 

การแสดงออกของหลินจูดงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขาโทรหาเฉินจินให้มาหาเขาและขอไล่พนักงานเหล่านี้ออก

 

หลังจากทำความเข้าใจกับสถานการณ์แล้วเฉินจินก็ทำการสแกนใบหน้าของแต่ละคน บางคนลดศีรษะลงด้วยความรู้สึกผิด แต่บางคนก็ไม่ได้เกรงกลัวเขาแต่อย่างใด เฉินจินส่ายหัว “ คืนเงินให้เร็วที่สุดเราต้องนึกถึงบริษัทในอนาคตด้วย เราจำเป็นต้องมีระบบและข้อบังคับ! ยิ่งกว่านั้นหัวหน้าหลิน คือ CEO ที่ฉันจ้างมา เขาเป็นหัวหน้าของพวกคุณ! เขาไม่ต้องรายงานให้ฉันทราบก็ได้เพราะเขาสามารถตัดสินใจได้โดยตรงว่าเขาต้องการไล่คุณออกไหม! นี่คือสิทธิอำนาจที่ควรเป็นของเขา ฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง!”

 

หลังจากที่พวกเขาได้รับคำสั่งแล้ว พวกเขาถึงกับหน้าหงอย แม้แต่รองประธานเหลียงหยิงผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายก็ยังต้องก้มหัวลงให้กับหลิวจูดง

 

หลิงจูดงเองก็ตัวสั่นเล็กน้อย เขาประทับใจมากจากการได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าของเขา มันทำให้เขาสามารถแสดงความสามารถได้เต็มที่ ในที่สุดตอนนี้มันก็ได้ข้อสรุป พนักงานขายแปดคนที่ปฏิบัติตามข้อบังคับของ บริษัท ห้าคนเลือกที่จะลาออกและสามคนเลือกที่จะคืนเงินให้ ทั้งสามยอมรับการกระทำผิดและยังคงอยู่ในบริษัทต่อไป

 

นอกจากนี้เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นในฝ่ายขายเท่านั้น ในกระบวนการของการปฏิรูปกฎระเบียบในแผนกอื่นมีคนประมาณ 20 คนที่เลือกที่จะลาออก

 

ในที่สุดเฉินจินก็รู้ว่าทำไมหลิงหลิวจูดง ถึงทำหน้าที่เฉลี่ยเพียงแค่เจ็ดเดือนในฐานะซีอีโอในเจ็ด บริษัท ก่อนหน้านี้ ขอบเขตของการปฏิรูปของเขาแข็งแกร่งและพร้อมกวาดล้างทุกอย่างให้สิ้นซากสำหรับคนที่ไม่ทำตามกฏเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ บุคลิกของเขาดูแข็งกร่าวและตัวของหลิวจูดงเป็นพวกที่ชอบสร้างศัตรู! พนักงานระดับอาวุโสของ บริษัท รวมถึงรองประธานเหลียงหยิงผู้จัดการฝ่ายบริการ และหลังการขายเหลียงบินผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์เกาติงหยานและแม้แต่ผู้นำของทีมเทคนิค โจวคุนก็ไม่เคยพูดดีๆกับเขาเลย พวกเขาทั้งหมดเกลียดหลิวจูดงมากๆ

 

เฉินจินบอกเขาเป็นการส่วนตัวว่า“ พี่หลิงความตั้งใจของคุณนั้นค่อนข้างดีและ ผมจะไม่คัดค้านวิธีการของคุณ แต่…มันรุนแรงเกินไปไหม เราไม่ได้เป็น บริษัท เทคโนโลยีขนาดใหญ่ เราต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลายในการทำงาน จะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการคิดที่สร้างสรรค์”

 

“ หัวหน้าเฉินโปรดฟังคำอธิบายของฉัน!” หลิงจูดงกล่าวว่า“ ไม่มี บริษัท ในประเทศใดที่เคยใช้ระบบการจัดการที่ผมวาดขึ้นมานานกว่าสองปีแล้ว แต่ถ้า บริษัท สามารถดำเนินการต่อไปได้มากกว่าสองปีผมเชื่อว่าข้อสงสัยเหล่านี้ทั้งหมดจะหายไปและการคำชื่นชมจะมาหาพวกเรา ผมขอแสดงความนับถืออย่างจริงใจที่คุณให้การสนับสนุนทั้งหมดกับผม ในทางกลับกันผมจะให้ บริษัท ที่เต็มไปด้วยพลังด้วยเอนโทรปีภายในที่จะไม่ลดลง บริษัท ของคุณจะเป็นอมตะและแข็งแกร่งเหมือน บริษัท หัวเหยา!”

 

การจ้องมองของหลิวจูดงเต็มไปด้วยเลห์เหลี่ยมและเต็มไปด้วยความหวัง แม้ว่าเขาจะทำงานให้กับ บริษัท นี้เพียงแค่เจ็ดวัน แต่เขาก็มีความหวังมากที่สุดว่าเขาจะสามารถเข้าใจถึงชีวิตที่เขาปราณนาได้ที่นี้ เมื่อเขาประสบความสำเร็จรูปแบบการจัดการของเขาที่เรียกว่า “วิทยาศาสตร์การจัดการของหลิว” จะผลักดันให้เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดของการเป็นอัจฉริยะซีอีโอ เขาจะได้รับการบูชาเหมือนนักบุญในชุมชนซีอีโอ … นั่นคือความฝันของเขา!

 

เฉินจินมองที่ใบหน้าของเขา เขาสามารถรู้สึกถึงความร้อนอบอ้าวในสายตาของหลิวจูดงได้ “ เอาล่ะผมจะให้โอกาสคุณลองทำมันดู!” เฉินจินเห็นว่าหลิวจูดง เป็นอัจฉริยะเช่นเดียวกับคนบ้า เขามีวิธีการที่มีประสิทธิภาพ แต่เขาไม่เคยแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเวทีของตัวเองที่จะส่องแสงมันเป็นเพียงว่าโลกไม่ได้ให้เวลาเขาเพียงพอในการแสดงของเขา ดังนั้นเฉินจินจึงอยากรู้เหมือนกัน เขาต้องการเห็นว่าความสามารถที่แท้จริงของหลิวจูดงและผลลัพธ์ที่ตามมาคืออะไร ดังนั้นเขาจึงให้โอกาสเขา!

 

“ ขอบคุณหัวหน้าเฉินขอบคุณมากครับ!” หลิงจูดง รู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง ดวงตาของเขารู้สึกร้อนและเต็มไปด้วยน้ำตา

 

…

 

ในวันที่ 20 พฤษภาคมเฉินจินได้รับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้า หลังจากการโทรเข้ามาเขาได้ยินเสียงที่มีเสน่ห์ดึงดูดมาจากปลายสาย “ สวัสดีคุณเป็นประธานของบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยี หรือป่าว? วันนี้เป็นวันดีคุณเฉินฉันชื่อเหล่ยเสี่ยวจุนประธานของดาหมิงเทคโนโลยี …”

 

เหล่ยเสี่ยวจุน! เสียงจากปลายสายทำให้เฉินจินตื่นเต้นมาก นี่คือสายสำคัญมากๆ! ก่อนที่เฉินจินกจะไอและตอบกลับอย่างรวดเร็ว“ คุณเหล่ยเสี่ยววันนี้เป็นวันดีจริงๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นคุณ ผมเฉินจิน ผมชอบผลิตภัณฑ์จากดาหมิงเทคโนโลยีเอามาก ๆเลย ผมเคยเห็นงานโชว์เดี่ยวของคุณหลายร้อยครั้ง…ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับโทรศัพท์จากคุณ ตอนนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก!”

 

“ ไอ ~ ไอ ~ ไอ!” เสียงไอที่ดูเข้มขรึมดังมาจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์ “ เพื่อนตัวน้อยคุณมันดูมากๆเลย ผมชอบหุ่นยนต์วาวาจาก บริษัท ของคุณ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะเด็กมากขนาดนี้!”

 

“ ไม่เลยประธานเหล่ย คุณเป็นบุคคลสำคัญจริงๆ คุณเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมไอทีของประเทศซี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่โดดเด่นที่สุด สำหรับรุ่นน้องอย่างผม ผมควรน่าจะต้องเรียนรู้จาก…”

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าผมทำสิ่งเล็กๆ ๆ น้อย ๆ เท่านั้น…”

 

พวกเขาแลกเปลี่ยนและชื่นชนอยู่พักหนึ่งและความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดูอบอุ่นขึ้นและสนิทสนมยิ่งขึ้น ในท้ายที่สุดพวกเขาเริ่มเรียก“ พี่เหล่ย” และ“ น้องเฉิน” ผลัดกันไปมา

 

ประธานเหล่ยยังชี้แจงเหตุผลในการโทรของเขา “ น้องเฉินคุณยังจำซงจูจี้และหวู่เล่ยได้ไหม? เดิมทีพวกเขาเป็นช่างเทคนิคที่ทำงานให้กับบริษัทเซี่ยงไฮ้เทคโนโลยี จากนั้นพวกเขาถูกย่ำยีโดยร็อคเทคโนโลยีและพัฒนาหุ่นยนต์ร็อค อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาละเมิดสิทธิ์ลิขสิทธิ์ของ บริษัท ของคุณ แต่เพียงผู้เดียวพวกเขาไม่สามารถเผยแพร่หุ่นยนต์ออกสู่ตลาดได้ เมื่อไม่นานมานี้ซูยงจี้ ได้นำทีมโครงการของเขาเข้าร่วมแผนกโครงการทำความสะอาดหุ่นยนต์ของดงหมิงเทคโนโลยี พวกเขาได้ช่วยพัฒนา ‘หุ่นยนต์ทำความสะอาดรักมิ‘ ซึ่งอาจกระทบส่วนหนึ่งของสิทธิ์ลิขสิทธิ์ของคุณ ผมสงสัยว่า…” ประธานเหล่ยเงียบลงก่อนที่จะพูดว่า“ น้องเฉินคุณพอจะช่วยฉันได้ไหมดาหมิงเทคโนโลยียินดีจ่ายค่าธรรมเนียมในการขออนุญาตใช้สิทธิบัตรของคุณ”

 

อืม …

 

ตาของเฉินจินเหล่เล็กน้อย วางคางบนมือเขาเริ่มคิดอย่างรอบคอบ