EP 138 หนทางแห่งการเป็นพนักงานขาย

ดาหยานเธออายุ 36 ปี อีกทั้งยังเป็นพนักงานของแผนกขายของบริษัท เซี่ยงไฮ้เทคโนโลยี รวมถึงเป็นแม่ของลูกสองคน โดยเธอมีลูกชายคนโตชื่อ เฉินเฉิน หนุ่มน้อยอายุเพียง 10 ขวบ และปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ลูกสาวคนเล็กของเธอเอ ซวนซวน เด็กหญิงในวัยเพียง 8 ขวบและปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่สอง

เมื่อเดือนที่แล้วหลังจากที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัท คือลิตเติ้ลสตาร์ได้เปิดตัว และเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันที่ 16 เธอใช้เงินเดือนหนึ่งเดือนเพื่อซื้อลิตเติ้ลสตาร์มาสองเครื่อง หนึ่งเครื่องสําหรับลูกชายของเธอ และอีกหนึ่งสําหรับลูกสาวของเธอ ในขณะนั้นสามีของเธอเองก็โกรธมาก “ไอ้เครื่องนี้มันราคาแพงมาก และคุณกับซื้อมันมาต้องสองเครื่องในคราวเดียว ทําไมคุณไม่ซื้อมาแค่เครื่องเดียวล่ะ จะได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้

“นี่มันเงินเดือนของฉันทําไมคุณต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้สามีของเธอถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่เก็บความรู้สึกเจ็บไว้ภายในเท่านั้น “มันราคา 6,000 ต่อเครื่องเลยนะ!”

ไม่กี่วันต่อมาเครื่องเรียนรู้ก็ถูกส่งมาหาเขา หนึ่งเครื่องสําหรับลูกชายของเธอ อีกหนึ่งเครื่องสําหรับลูกสาวของเธอ และพวกเขาเริ่มใช้มันดาหยานยังสอน ลูก ๆ ของเธอถึงวิธีการใช้เครื่องลิตเติ้ลสตาร์ตามคําแนะนําการใช้งานใน คู่มือการใช้งาน ในกระบวนการแนะนําดาหยานพบว่าเครื่องลิตเติ้ล สตาร์นั้นมีประโยชน์มากกว่าสิ่งที่เจ้านายของเธอ นําเสนอในระหว่างการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสียอีก

มันเปรียบได้กับอาวุธแห่งการเรียนรู้ ขั้นสูงสุด!

เส้นทางการเรียนรู้ที่จัดทําขึ้นภายในเครื่องลิตเติ้ล สตาร์ค่อนข้างแตกต่างจากหนังสือเรียนในโรงเรียนระดับประถมศึกษา “จุดตรวจสอบความรู้” ภายในเครื่องสร้างแผนภาพต้นไม้ตามตัวอักษรจากบนลงล่างออกมาอย่างชัดเจน

ด้านบนต้นไม้แห่งความรู้” มีด่าน ความรู้” มากมาย ตัวอย่างเช่นพื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์ แนวทางคือเรียนรู้การบวกก่อนการลบและการคูณก่อนหาร สําหรับความรู้ทางเรขาคณิตเช่นกันวิธีการคือการเชี่ยวชาญสี่เหลี่ยม จากนั้นจึงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตามด้วยสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยมคางหมูรูปหลายเหลี่ยม … ในการเพิ่มความซับซ้อน

ในภาษาและอังกฤษวิธีการคือการ เรียนรู้การออกเสียงและการถอดเสียงออกเสียงก่อนที่จะพูดเป็นแต่ละคําไวยากรณ์ … มันเป็นกระบวนการทีละขั้นตอน แน่นอนว่ารูปแบบการเรียนรู้เพื่อรับความรู้โดยรวมนั้นเหมือนกัน ไม่มีการเรียนรู้จากเรื่องยากไปหาง่าย แต่เครื่องลิตเติ้ลสตาร์นั้นใช้งานง่ายกว่ามาก!

ด้วยการประเมินของเครื่องลิตเติ้ล ส ตาร์สามารถระบุจุดอ่อนของนักเรียนได้โดยตรง และทําเครื่องหมายเป็นสีแดงบนจุดตรวจสอบความรู้บนแผนภาพต้นไม้ นักเรียนจะถูกเสนอให้พิชิตด่านความรู้สีแดง หลังจากเรียนรู้สองครั้งจุดสีแดงจะกลายเป็นสีเหลือง เว้นแต่นักเรียนจะสามารถทําแบบทดสอบในด้านนั้นได้ดีเยี่ยมและเก็บคะแนนได้เต็ม และไม่มีแนวโน้มที่จะลืมความรู้จุดสีเหลืองก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว

เฉินเฉิน ลูกชายคนโตของ ดาหยาน เองก็ไม่ค่อยเก่งด้านวิชาการ เฉินเฉินถู กจัดให้อยู่ระดับที่ห่วยที่สุดของชั้นเรียน เสมอ ดาหยานเองก็ รู้สึกหมดหวังเธอ จึงปล่อยให้ลูกชายของเธอทําการ ประเมินผ่านเครื่องลิตเติ้ล สตาร์ ผลลัพธ์ที่ได้ทําให้เธอตกใจอย่างมาก

ในด้านการเรียนรู้ที่นักเรียนระดับประ ถมศึกษาปีที่ 4 ควรได้รับการฝึกฝนสํา หรับลูกชายของเธอส่วนใหญ่เป็นสีแดง ส่วนเล็ก ๆ เป็นสีเหลืองและสีเขียวเพียง ไม่กี่ช่องเท่านั้น แม้แต่การลงไปตามแผนภาพต้นไม้ด่านความรู้สําหรับนักเรียนระดับประถมสองและสามส่วนใหญ่เป็นสีแดงและสีเหลือง…ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของด่านเหล่านั้นจะเป็นสีเขียว เครื่องการเรียนรู้ให้การประเมินผลทันที “จําเป็นต้องมีการแก้ไขอย่างเป็นระบบ

การแสดงออกของดาหยานดูแย่มาก เมื่อเธอได้รับผลการวิเคราะห์ออกมา เธอเริ่มติดตามการเรียนของเขา และปล่อยให้เขาหาพิชิตจุดสีแดงและสีเหลืองจากด้านล่างขึ้นมา

สําหรับหยวนหยวน ลูกสาวของเธอผลการประเมินของหยวนหยวนกลับกันกับพี่ชายอย่างเฉินเฉินมาก หยวนหยวนมีการเรียนที่โดดเด่นเป็นอัจฉริยะตัวน้อย และเธอสามารถลองด่านความรู้ของระดับประถมศึกษาที่สูงกว่าที่เธอเรียนอยู่ได้

ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนลูกชายของเธอ ได้ทําการประเมินระบบอีกครั้งบนเครื่อง ดาหยาน ยิมออกมาด้วยความสุข คะแนนลูกชายของเธอสูงกว่า 70 คะแนนจัดอยู่ใน “ระดับกลาง” และกําลังมุ่งสู่ระดับ “เชียวชาญ” การเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดียิ่งขึ้นคือ ดาหยานตระหนักว่าลูกชายของเธอยังอยู่ในวัยซนและสมาธิสั้น แต่ดีที่เขาเริ่มชอบเรียนรู้ เฉินเฉินไม่ได้ต่อต้านการเรียนอีกต่อไป และชอบอยู่กับเครื่องลิตเติ้ลสตาร์

“แม่ครับ ผมคิดว่าเครื่องนี้นสอนได้ชัดเจนกว่าครูในชั้นอีก และยังเข้าใจในสิ่งที่ผมอยากรู้ และคุณครูข้างในเครื่องก็น่ารักมากและเสียงเธอก็ไพเราะมาก ผมชอบเรียนจากเครื่องนี้มาก ถ้าผมไม่เข้าใจบางอย่าง ลิตเติ้ล สตาร์สามารถตอบคําถามของผมได้ทุกข้อ!”

สิ่งที่เขาชอบมากที่สุดคือฟังก์ชั่น“คู่มือการบ้าน” เขาต้องสแกน คําถามและภายในไม่กี่วินาทีการทํางาน และคําตอบก็จะถูกสร้างขึ้น การทําการบ้านนั้นง่ายมากขึ้น

สําหรับดาหยานเธอใช้ฟังก์ชั่นนี้เพื่อป รับใช้”ระบบรางวัล” ของเธอ เธอบอกให้ ลูกชายของเธอเชี่ยวชาญด้านความรู้ อย่างน้อยห้าด่านขึ้นไปทุกวันจากนั้น เฉินเฉินก็สามารถใช้ฟังก์ชั่น”คู่มือการบ้าน” ในการช่วยทําการบ้านได้…เพื่อทําการบ้านให้มีความยุ่งยากน้อยลง เฉินเฉินลูกชายของเธอสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากฟังก์ชั่นนี้

อย่างไรก็ตามในขณะที่ด่านความรู้ตรงหน้ามีความเชี่ยวชาญมากขึ้นหรือน้อยลง เฉินเฉินก็ตระหนักว่าการบ้านที่เครื่องลิตเติ้ล สตาร์สอนดูเหมือนจะไม่ยุ่งยากเลย อย่างน้อยเฉินเฉินก็มีส่วนร่วมในการทําการบ้านในครั้งนี้มากกว่าการลอกการบ้าน

สําหรับ หยวนหยวน ลูกสาวของเธอดาหยานค้นพบอย่างน่าตกใจว่าครึ่งหนึ่งของด่านความรู้สําหรับนักเรียนระดับประถมสามกลายเป็นสีเขียว

อีกครึ่งเดือนต่อมาโรงเรียนของลูกชายและลูกสาวของเธอจัดสอบกลางภาคขึ้นมา

“แม่ครับแม่ผมได้ที่สามผมได้ที่สามของห้อง!” ลูกชายของเธอรีบกลับบ้านโดยถือใบเกรดมาด้วยความตื่นเต้น

“แม่ค่ะข้อสอบง่ายมากเลยหนูได้ที่หนึ่งอีกแล้ว” เมื่อรู้สึกว่าการสอบไม่ได้ท้าทายหยวนหยวน ลูกสาวของเธอก็กลับบ้านอย่างไร้กังวล เธอส่งกระดาษคําตอบคนแรกๆสําหรับการสอบสองสามครั้งล่าสุดซึ่งทําให้หลายคนประหลาดใจ

“อันดับสามในห้อง?!” ดาหยานกรีดร้องด้วยความดีใจ“ลูกของแม่ เยี่ยมมาก! มาแม่จะพาลูกไปกินแม็คเพื่อเลี้ยงฉลอง!”

“ไม่!” ลูกชายของเธอส่ายหัวและพูดว่า“ในการสอบครั้งนี้ผมอยู่ห่างจากที่หนึ่งในชั้นเรียนเพียงห้าคะแนน ผมคิดว่าผมสามารถเหนือกว่าเขาได้ ผมต้องเรียนให้มากกว่านี้!” หลังจากพูดเสร็จ เฉินเฉินหยิบเครื่องลิตเติ้ล สตาร์ขึ้นมาอีกครั้ง

ดาหยานไม่สามารถพูดอะไรออ กมาด้วยความตกใจ นี้มันเป็นคําพูดที่ ออกมาจากเด็กที่เรียนไม่เอาไหนจริงๆหรอ…นี้เฉินเฉินยังเป็นลูกชายคนเดิม ของเธออยู่รึเปล่า? อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นสองวันครูประจําชั้นของลูกชาย เธอก็โทรมา ตอนนั้น ดาหลานรู้เลยว่าน่าจะต้องเป็นเรื่องแย่ๆแน่ๆเพราะทุกครั้งที่ครูโทรมา คุณครูมักจะสอบถามถึงผลการเรียนที่แย่ของเฉินเฉิน!

แต่กลับกันหลังจากผลการสอบกลางภาคออกมา ลูกชายของเธอที่มักจะอยู่ในอันดับที่สาม มันทําให้ครูประจําชั้นของเฉินเฉินแปลกใจเอามากๆ

“เฉินแอบลอกคนอื่นหรือเปล่า!”

“เฉินเฉิร โกงข้อสอบหรอ!”

ใบหน้าของเฉินเฉินเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เพราะไม่มีใครเชื่อเลยว่าเฉินเฉินสามารถทําข้อสอบได้ด้วยตัวเอง

เขาทําได้เพียงกําหมัดและบอกเพื่อนว่า“ฉันอยากได้ที่หนึ่งในครั้งต่อไปเพื่อพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้โกง!” แต่พวกเพื่อนๆกลับหัวเราะเยาะอีกครั้ง

แม้กระทั่งตอนที่ครูประจําชั้นเรียกดาหยาน เขาก็ถามอย่างคลุมเครือว่า“ลูกชายของคุณโกงจริงหรือเปล่า”

“ไม่โกงแน่ๆ สิ่งที่เด็กคนนั้นทํา เขาทําออกมาด้วยตัวเอง!” ดาหยานพูดเสียงดังพลางมองดูลูกชายของเธอที่ยืนอยู่ข้างประตูด้วยดวงตาบวมแดง เขารีบกลับไปที่ห้องของเขาและกระแทกประตู ดาหยานตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหานี้ทันที เธอรู้ดีว่าหากลูกชายของเธอยังคงถูกเพื่อนร่วมชั้นและครูจับผิดต่อไป มันจะสร้างผลกระทบทางจิตใจให้กับตัวของเฉินเฉินแน่ๆ

ในวันที่สองเธอหยุดงานหนึ่งวันและตามลูกชายไปโรงเรียน หลังจากคาบที่สองของชั้นเรียนจบลงเธอก็เดินเข้าไปในห้องเรียนหยิบเครื่องลิตเติ้ล สตาร์ออกมาจากกระเป๋าและพูดต่อหน้านักเรียนและครูประจําชั้นที่ยังไม่ออกจากห้องเรียน “สวัสดีนักเรียนทุกคนฉันเป็นแม่ของเฉินดฉิน ก่อนหน้านี้เฉินเรียนเก่งขึ้น ไม่ใช่เพราะเขาโกงข้อสอบ ทั้งหมดเป็นเพราะเครื่องลิตเติ้ล สตาร์

ในฐานะพนักงานขายดาหลานได้ ฝึกฝนทักษะมาอย่างดีในการขาย เพื่อเผชิญหน้ากับลูกค้าทุกประเภทฝีปากของเธอก็ไม่เลวเช่นกัน ภายใน 20 นาที เธอได้อธิบายอย่างชัดเจนถึงข้อดีของเครื่องลิตเติ้ล สตาร์ ทําให้ผู้คนพยักหน้าด้วยการยืนยัน

“เฉินเฉิน ฉันขอโทษฉันทําผิดกับนาย โปรดยอมรับคําขอโทษของฉันด้วยเถอะ” เพื่อนร่วมชั้นของเขาออกมาขอโทษเขา

“เสี่ยวเฉินครูก็ผิดเช่นกัน ครูพยายามกล่าวหาเธอก่อนทั้งๆที่ไม่ได้สืบหาความจริง ยอมรับคําขอโทษของเธอด้วยเถอะ” ครูประจําชั้นของเขามีสีหน้ารู้สึกผิด

ความเข้าใจผิดของครูและเพื่อนร่วม ชั้นที่มีต่อลูกชายของเขาได้รับการแก้ไข แล้ว

หลังจากนั้นไม่กี่วันลูกชายของเธอก็ บอกกับเธอด้วยความตกใจว่า“ตอนนี้ เพื่อนร่วมชั้นเจ็ดหรือแปดคนเริ่มใช้เครื่องลิตเติ้ลสตาร์แล้ว ผู้ชายที่ได้อันดับสองในคลาสก็ใช้มันเช่นกัน แม่ ทําไมแม่ต้องอธิบายให้พวกเขาฟัง แล้วผมจะเป็นที่หนึ่งได้อย่างไรถ้าแม่ทําอย่างนี้”

เจ็ดถึงแปดคนเลยหรอ?

ดาหยานฉุดคิดบางอย่างขึ้นมาได้ในทันที! ตอนนี้เธอรู้วิธีโปรโมตเครื่อง ลิตเติ้ล สตาร์แล้ว!