ข้าคือหงส์พันปี – บทที่238 รู้สึกดีที่ถูกคนดูแล
ซูเจ๋อดูเหมือนจะกึ่งหับกึ่งตื่น ทันใดนั้น มีน้ำเสียงเหนื่อยๆ อยู่ในเสียงของเขา และพูดว่า “อาเสียน ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองนอนหลับใหลจนตายไป ท่านก็ควรพักผ่อนบ้าง”
เฉินเสียนพูดว่า “ข้าจะเฝ้าท่าน ท่านนอนให้สบายเถอะ แต่เมื่อข้าเรียกท่านต้องตอบกลับข้านะ”
มุมปากของซูเจ๋อยกขึ้นด้วยอารมณ์ที่มีความสุข “ข้ารู้ว่าท่านเฝ้าข้า ข้าก็ไม่มีอารมณ์นอน หรือไม่ ท่านไปดูเฮ่อโยวสักหน่อย”
เฉินเสียนคิด แล้วพูดว่า “แบบนี้ก็ดี”
เธอหันกลับไปมองพื้นที่ว่างด้านนั้น เฮ่อโยวนั่งอยู่ที่นั่นคนเดียว และกอดชิงซิ่งอย่างดื้อรั้น
เขาทำความสะอาดให้ชิงซิ่งจนสะอาดสะอ้าน แต่คราบเลือดบนเสื้อผ้าไม่สามารถเช็ดออกได้
เฮ่อโยวยอมรับว่าการตายนี้ ชิงซิ่งขวางมีดเพื่อช่วยเขาถึงได้ตาย เขาเกรงว่า ชีวิตนี้จะไม่มีวันลืมได้
หลังจากที่เฉินเสียนลุกขึ้นและเดินไปหาเฮ่อโยว ซูเจ๋อก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างสงบ
เขายกมือขึ้นแตะด้านหลังศีรษะ และผมของเขาก็เหนียวเล็กน้อย
เขามองที่ปลายนิ้วของเขา สีหน้าของเขาเป็นเช่นเคย เขาทายาที่หลงเหลืออยู่ และหลับตาลงอย่างราบเรียบ
จากมุมของเฉินเสียนมองย้อนกลับไป ซูเจ๋อถูกหินขวางกั้นอยู่เล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเขา
เฉินเสียนนั่งลงข้างๆ เฮ่อโยวอย่างเงียบๆ
เฮ่อโยวหน้าตามอมแมมเต็มไปด้วยฝุ่น และเธอไม่พูดอะไรเพียงแค่ไปนั่งเป็นเพื่อนเขา
ยังคงเป็นเฮ่อโยวที่เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เป็นข้าทำให้นางต้องตาย”
เฉินเสียนพูด “นี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโทษตัวเจ้า”
ถ้าไม่ใช่ชิงซิ่ง ร่างที่นอนอยู่คงเป็นเฮ่อโยว นางจะยังพูดอะไรได้บ้าง?
เฮ่อโยวพูดขึ้น “คือข้าไม่ฟังนาง และไม่ได้ไปซ่อนตัวให้ไกลๆ ทั้งที่รู้ว่ามีอันตราย ยังดึงนางไปเกี่ยวข้องกับข้า”
เฉินเสียนไม่พูดอะไร เพียงแค่ตบไปที่ไหล่เขาเบาๆ
“ข้าไม่ควรจะพานางมาด้วย ข้าควรให้นางไปหลบให้ไกลๆ”
เฉินเสียนพูด “นางเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเจ้า เจ้าไม่อาจจะยอมแพ้ได้ เจ้าต้องมีชีวิตที่ดีนางจึงได้นอนตายตาหลับ”
เฮ่อโยวกัดฟัน ขยี้ตาด้วยหมัด และพูดด้วยความเกลียดชัง “ต้องเป็นเฮ่อฟั่งแน่นอน มีเพียงเขาเท่านั้นที่อยากให้ข้าตาย! ชิงซิ่ง ข้าจะล้างแค้นให้เจ้าเอง!”
เมื่อใกล้จะรุ่งสาง เฉินเสียนช่วยเฮ่อโยวขุดหลุมกว้างข้างลำธาร และวางร่างชิงซิ่งลงในดินเพื่อให้นางไปอย่างสงบ
เขาคุกเข่าอยู่ข้างๆ ส่งชิงซิ่งลงไปด้วยมือตัวเอง ถือดินค่อยๆ ปกคลุมร่างกายของนาง จนสุดท้ายก็ไม่เห็นอีกเลย
พระอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ขึ้น
แสงสว่างส่องทะลุเชิงเขาลงมา และแสงสว่างได้สว่างจนถึงมุมหนึ่งของหลุมศพนี้
ซูเจ๋อลืมตาขึ้นมา ใบหน้าด้านข้างของเขาเต็มไปด้วยแสงจ้า และรัศมีถูกย้อนเข้าไปในรูม่านตาของเขาอย่างไร้ที่ติ
ทั้งสามคนออกจากออกจากลำธารสายเล็กๆ ซูเจ๋อต้องการกลับเข้าไปในป่าเมื่อคืนก่อน ก่อนที่เขาจะเก็บเจ้าพวกนั้น เขาได้เอาม้าสามตัว และเอาของที่จำเป็นบางอย่างในรถม้าจากไปด้วย
เฉินเสียนไม่รู้วิธีขี่ม้าในความทรงจำเลย แต่เมื่อได้ขี่ม้า เธอกลับรู้สึกสบายใจ
ทั้งสามคนไม่รอช้า และยังคงเดินหน้าต่อไป
เฮ่อโยวถามอย่างอารมณ์เสียว่า “ทหารอารักขาในป่าควรทำอย่างไร ยังไงก็ตาม พวกเขาเดินมาจนสุดทางแล้ว ก็ไม่สามารถปล่อยให้เป็นซากศพที่เปิดเผยอยู่ในป่าได้
ซูเจ๋อพูดว่า “รอกลับไปถึงเมืองก่อน ไปรายงานต่อขุนนาง และให้คนของขุนนางจัดการ”
ก่อนมืดในตอนบ่าย ทั้งสามคนมาถึงเมือง
ตอนนี้สถานการณ์พิเศษ พวกเขาเดินทางผ่านมาถึงที่พักขุนนางก็ไม่เข้าไป แต่เลือกพักในโรงเตี๊ยมในเมือง
ที่พักขุนนางถูกตั้งขึ้นตามทางในราชสำนัก และการเดินทางของพวกเขาก็ไม่สามารถเก็บไว้เป็นความลับได้ หากเจอนักฆ่ากลุ่มต่อไป จะไม่สามารถจัดการกับมันได้อย่างแน่นอน
พวกเขาพักอยู่ในโรงเตี๊ยมไม่กี่วัน และเมื่อพวกเขาหายจากอาการบาดเจ็บ จึงรีบเร่งม้าไปที่ชายแดนโดยเร็ว
ตอนนี้เหลือเวลาเดินทางเพียงสามถึงห้าวันเท่านั้น
ณ ช่วงเวลานั้น เฮ่อโยวไปซื้ออาหารแห้งเพื่อใช้ในการเดินทางต่อไป และเฉินเสียนไปที่ร้านยาเพื่อซื้อยาให้ซูเจ๋อ
เฉินเสียนได้เตรียมยาสำหรับใช้ภายนอกและภายในอย่างพิถีพิถัน
ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นของยา
ขณะที่เฉินเสียนกำลังบดยาผง ยาต้มที่ต้มอยู่บนเตาก็เดือดปุดๆ ขึ้น
เฉินเสียนรีบหยิบยาต้มออกมาแล้วปล่อยให้เย็น
เมื่อเห็นร่างที่กำลังยุ่งของเธอ ซูเจ๋อก็ยิ้มและพูดว่า “ท่านเป็นเช่นนี้ทำให้ข้ารู้สึกไร้ประโยชน์”
เฉินเสียนเหลือบมองเขาและพูดว่า “จริงหรือ ข้าคิดว่าท่านค่อนข้างสบายใจมากกว่า”
ซูเจ๋อกระซิบเบาๆ “อืม เป็นเพราะรู้สึกดีที่ได้มีคนดูแล”
“ถ้าท่านชอบ ข้าจะดูแลท่านให้มากกว่านี้”
ถ้าเป็นในอดีต เฉินเสียนทะเลาะกับเขาอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้เธอต้องการทำให้เขาหายดีโดยเร็ว พูดให้ดีกว่านั้น ทำให้เขาดีใจ
เมื่อเฮ่อโยวกลับมา เห็นเฉินเสียนป้อนยาให้ซูเจ๋อด้วยตัวเอง ได้ใส่ยาที่แผลและพันแผลให้เขาด้วยตัวเองอีกด้วย
ตอนนี้สติเฮ่อโยวกลับมาแล้ว และภาพตรงหน้าเห็นก็ตกตะลึง
ความอ่อนโยนระหว่างคิ้วและดวงตาของเฉินเสียน เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อซูเจ๋อพูดคือเบามาก เหมือนกับเสียงพึมพำระหว่างคู่รัก ต่างไปจากรูปลักษณ์ที่ดูเคร่งขรึมตามปกติเมื่อตอนที่อยู่ที่พักขุนนางในขณะนั้นอย่างสิ้นเชิง
การปฏิบัติของเฉินเสียนและซูเจ๋อไม่ได้เป็นจักรพรรดิกับขุนนางทั่วไป และพวกเขายังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น
เฮ่อโยวเข้าใจทันทีว่า ทำไมซูเจ๋อต้องรีบไปหาเธอทั้งกลางวันและกลางคืน และทำไมเฉินเสียนถึงไม่ยอมให้เขารายงานอะไรเกี่ยวกับซูเจ๋อที่เกี่ยวข้องกับเธอ
เฮ่อโยวตกตะลึงอยู่ในห้อง และชั่วขณะรู้สึกว่าเข้ากันได้ดีมาก เหมือนเป็นกิ่งทองใบหยก
เฮ่อโยวเพิ่งรู้เมื่อคืนนี้ว่าเฉินเสียนก็มีวรยุทธเล็กน้อย และใช้ปิ่นปักผมยิงฆาตกรได้อย่างแม่นยำ
และซูเจ๋อไม่ได้อ่อนแออย่างที่เห็น เขามีทักษะวรยุทธที่ยอดเยี่ยม สามารถฆ่านักฆ่าได้ทั้งหมดด้วยตัวเขาเอง
ภายนอกทั้งสองคนไม่ได้เป็นเช่นนี้ ในวันธรรมดาพวกเขาซ่อนตัวเอง และไม่เคยปรากฏตัวจนกว่าจะเจอกับวิกฤต
เช่นนี้ ต้องเรียกได้ว่าความลับ
เฮ่อโยวรู้ความลับของพวกเขา และต้องใช้มุมมองที่ต่างออกไปดูให้ละเอียดอีกครั้ง
ความเป็นปรปักษ์ของเฮ่อโยวที่มีต่อซูเจ๋อได้หายไปโดยไม่รู้ตัว
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคืนซูเจ๋อปรากฏตัวขึ้นทันเวลา ได้ช่วยชีวิตเขาและเฉินเสียนไว้
ทันใดนั้นเฮ่อโยวรู้สึกว่า เขาเคยคิดว่าซูเจ๋อเป็นนักวิชาการที่ไม่มีอำนาจ บางทีในสายตาซูเจ๋อ เขาอาจจะเป็นเหมือนกบในกะลาจริงๆ
หลังจากดื่มยา บาดแผลได้รักษาเสร็จแล้ว และเฉินเสียนก็ทำยารักษาอาการบาดเจ็บขึ้นอีก
เมื่อออกจากห้อง เฮ่อโยวก็เดินตามเธอออกมา
เธอเห็นเฮ่อโยวลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ยับยั้งไว้ และไม่ได้แปลกใจ พูดเพียงแค่ว่า “เจ้ามีอะไรจะถามหรือไม่?”
เฮ่อโยวพูด “พวกท่าน……ได้สนิทสนมกันมานานแล้วใช่หรือไม่?”
เฉินเสียนพยักหน้า “นี่คงไม่ใช่ความลับอะไรใช่ไหม”
“ก่อนหน้านี้ข้าไม่สนใจเรื่องของคนในราชสำนัก และไม่รู้อะไรมาก” เฮ่อโยวมองที่เฉินเสียนและถามว่า “ท่านชอบท่านบัณฑิต?”
เฉินเสียนตกตะลึง
เฮ่อโยวพูด “ข้ารู้สึกได้ ท่านเป็นห่วงเขาแตกต่างจากคนทั่วไป ปกติจะปกปิดไว้อย่างดี แต่เมื่อครู่ทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมาแล้ว”
เฉินเสียนหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ข้าแสดงออก ชัดเจนมากขนาดนั้นเชียวหรือ? แม้แต่เจ้าก็มองออก”
“แต่ท่านเป็นภรรยาแม่ทัพไม่ใช่หรือ ถ้าหากว่าเรื่องท่านกับท่านบัณฑิตถูกเปิดเผยออกไป มันไม่ดีกับพวกท่านทั้งสองแน่”
เฉินเสียนเลิกคิ้ว “เราไม่เป็นไร”
เฮ่อโยวพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”
ชอบกับอยู่ด้วยกันมันคนละเรื่อง
คอมเม้นต์