ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 72 อยากจะฆ่าไปก่อนแล้วค่อยว่าอีกที
ในคราวแรกหลิ่วเหมยอู่เป็นคนที่ยกเรื่องให้เซียงซั่นไปเป็นสาวใช้ปรนนิบัติข้างกายฉินหรูเหลียง ตอนนี้ถ้ามาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพราะเรื่องเซียงเรื่องกับฉินหรูเหลียงละก็ บ่าวในจวนจะคิดเช่นไร?ไม่เท่ากับประกาศให้ฉินหรูเหลียงว่านางรู้เรื่องเมื่อคืนแล้วหรือ?
เนื่องด้วยเหตุผลนี้ ถึงกับจะไม่มีเหตุผลอื่นในการเก็บเซียงซั่นแล้วเชียวหรือ?
หลิ่วเหมยอู่เชิดคางขึ้น เซียงหลิงกล่าว “นังบ่าวชั่ว เจ้าซักผ้าที่นายหญิงใส่ก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่?”
แน่นอนว่าคือเซียงซั่นที่ซัก เป็นหน้าที่ของนาง
“นายหญิงใส่ชุดที่เจ้าซักเมื่อวาน ไม่รู้ว่าเจ้าใช้มือหรือเท้าซักกันแน่ ถึงได้ทำให้นายหญิงคันไปทั่วตัวแบบนี้ แม้แต่หน้าก็แดงก่ำไปหมด นังบ่าวชั่วยังไม่รู้อีกหรือว่าเจ้าผิดตรงไหน?!”
เซียงซั่นตกตะลึง เงยหน้าขึ้น มิน่าล่ะวันนี้หลิ่วเหมยอู่ถึงได้สวมผ้าคลุมหน้า
สีหน้าหลิ่วเหมยอู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย หน้าของเซียงซั่นดีขึ้นมากแล้ว ตกลงว่าใครที่รักษาหน้าให้นาง?!
แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร เซียงซั่นก็มีชีวิตไม่เกินวันนี้หรอก!
หลิ่วเหมยอู่ค่อยๆ เปลื้องผ้าคลุมบนใบหน้าออกและกล่าวกับแม่เฒ่าว่า “ข้ามีอาการเหล่านี้บนใบหน้าตั้งแต่ข้าสวมเสื้อผ้าที่เซียงซั่นซัก ถ้าท่านแม่ทัพตรวจสอบในภายหลัง ทุกคนในเรือนซักล้างจะต้องรับโทษ แต่ข้าก็ไม่อยากให้ไปพัวพันกับคนอื่นหรอก ในเมื่อเป็นเซียงซั่นคนเดียว งั้นก็ลงโทษนางซะ”
บาดแผลที่เฉินเสียนทิ้งไว้บนใบหน้าของเธอเมื่อวานนี้ พอดีว่าวันนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
แม่เฒ่าจะไม่เข้าใจความหมายของประโยคนั้นได้อย่างไรกัน
ไม่ว่าจะต้องให้เซียงซั่นรับผิดชอบคนเดียว หรือทุกคนต้องมีโดนลากไปเกี่ยวข้องเมื่อท่านแม่ทัพกลับมา
แน่นอนว่าแม่เฒ่าและสาวใช้อีกสองคนเลือกข้อแรก
แม่เฒ่าเดินเข้ามาทันที ตบหน้าเซียงซั่น เอ่ยวาจาด่า “นังสารเลวนี่ เจ้ากล้าที่จะทำร้ายนายหญิงด้วยเสื้อผ้าหรือ! เจ้าจะพยายามฆ่าพวกข้าทั้งหมดหรือไง?!”
เซียงซั่นถูกทุบตีจนมึนงง แม่เฒ่าก็หันไปพูดกับหลิ่วเหมยอู่ “นายหญิง นังสารเลวนี้มันคดในข้องอในกระดูกเลห์เหลี่ยมเยอะนัก บ่าวขอให้นายหญิงจัดการขั้นเด็ดขาดไปเลยเจ้าค่ะ”
หลิ่วเหมยอู่มองเซียงซั่นที่กำลังดิ้นรนสู้ด้วยสายตาดูถูก กล่าว “ไปบอกพ่อบ้านให้มาทำตามกฎหมายตระกูล โบยก่อนหนึ่งร้อยครั้ง ค่อยโยนออกนอกจวน จะเป็นหรือตายก็แล้วแต่ว่านางโชคดีหรือไม่!”
ในตอนแรกสามสิบครั้งก็สามารถฆ่าคนได้แล้ว แต่ตอนนี้หนึ่งร้อยครั้ง ร่างกายของเซียงซั่นนี้ ก็คงจะถูกโบยจนตายกระมัง
ใบหน้าของเซียงซั่นซีดเผือด นางพยายามดิ้นรนคิดที่จะลุกขึ้น แต่ถูกแม่เฒ่าจับเอาไว้ นางจึงทำได้เพียงจ้องไปที่หลิ่วเหมยอู่อย่างเคียดแค้นแล้วกล่าวว่า “นายหญิงทำแบบนี้ไม่ได้ … ”
หลิ่วเหมยอู่กล่าวอย่างนุ่มนวล “ในตอนแรกอวิ๋นเออร์ต้มซุปผิดท่านแม่ทัพก็โบยจนตาย ตอนนี้หน้าของข้ากลายมาเป็นแบบนี้เพราะเจ้า ถ้าท่านแม่ทัพรู้เรื่องนี้เขาจะต้องโบยเจ้าจนตายแน่นอน? ตอนนี้ข้าลงโทษเจ้าแค่ร้อยครั้ง ถ้าเจ้าอดทนได้ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ถ้าเจ้าอดทนไว้ไม่ได้นั่นก็ชีวิตเจ้า”
สาวใช้ในเรือนอีกสองคนวิ่งอย่างรีบร้อนไปเชิญพ่อบ้านมารับผิดชอบกฎหมายครอบครัว
ยังไม่ทันที่จะวิ่งออกไปพ้นประตูเรือน ก็ต้องหยุดลง อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังเล็กน้อย
อวี้เยี่ยนกำลังพยุงเฉินเสียนให้ก้าวช้าๆเข้ามาในเรียนเล็กหลังนี้ นางยืดตัวตรง ต่อให้สองสาวใช้นั่นไร้มารยาทก็ไม่กล้าเข้าไปชน
วันนี้สองนายของจวนนี้มารวมตัวกันที่แห่งนี้ พวกบ่าวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงพากันรวมตัวกันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ใบหน้าของเฉินเสียนแขวนไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ท่าทางสง่าแสดงท่าที”ข้ามาดูเรื่องสนุกๆน่ะ” หรี่ตาเหลือบมองเซียงซั่นเล็กน้อย กล่าวว่า “นี่กำลังทำไรกันอยู่หรือ?”
เมื่อเซียงซั่นเห็นนางมา ราวกับได้คว้าอนาคตของชีวิตตัวเองไว้ นัยน์ตาขอร้องวิงวอนและแววตาน่าสงสารปรากฏออกมา
สีหน้าของหลิ่วเหมยอู่ดูลำบากใจ กล่าวอย่างทื่อๆไปว่า “องค์หญิงเดินไม่สะดวกนัก ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะเพคะ?”
“ข้ากำลังเดินเล่นรอบๆ นี่ และได้ยินเสียง ข้าก็เลยเข้ามาดู เหมยอู่เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
“ก็แค่จัดการกับบ่าวเลวๆเพคะ”
“บ่าวเลวๆ?” เฉินเสียนหรี่ตามองแล้วกล่าว “เจ้าหมายถึงเซียงซั่น? นางไปทำอะไรผิดมาถึงต้องลงโทษเช่นนี้?”
เซียงหลิงกล่าวว่า “เซียงซั่นมีเจตนามิชอบ พยายามที่จะทำร้ายนายหญิงด้วยการวางกลอุบายในการซักเสื้อเพคะ”
“แต่ข้าจำได้ชัดเจนว่าไม่นานมานี้เซียงซั่นและเหมยอู่เป็นนายบ่าวที่รักใคร่กลมเกลียวกันมากนี่ เซียงซั่นถูกโบยแทนเหมยอู่ และต่อมาก็ถูกท่านแม่ทัพคว้าไป เพื่อที่จะดูแลเหมยอู่ ก็ไม่สนใจรูปลักษณ์ มาเป็นสาวใช้ที่นี่ ความรักของเจ้านายและบ่าวแบบนี้หายากจริงๆ ในตอนซักผ้าเซียงซั่นจะใช้กลอุบายทำร้ายเหมยอู่ได้อย่างไร”
ถ้าเป็นคนที่เข้าใจก็จะฟังมันออก
เว้นแต่สิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างเจ้านายกับคนรับใช้เป็นเปลือกนอกเท่านั้น ในความเป็นจริงเซียงซั่นและหลิ่วเหมยอู่มีความแค้นมานานแล้ว
หลิ่วเหมยอู่ในท่าทางเมตตาใจกว้างก่อนหน้านั้น ก็คุ้มค่าที่จะสืบเสาะ
เฉินเสียนยกริมฝีปากของเธอและกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เหมยอู่ก็ร้องไห้จนหัวใจแทบสลายเพื่อเซียงซั่น แต่ตอนนี้กลับต้องการตอบแทนนางด้วยการโบยร้อยครั้ง เหมยอู่ เจ้าจะส่งนางขึ้นสวรรค์หรือไง?”
ใบหน้าของหลิ่วเหมยอู๋ใต้ผ้าคลุมนั้นดูน่ากลัว และกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องข้า ไม่ต้องให้ท่านมาคิดแทน!”
“แม้ชีวิตสาวใช้จะต่ำต้อยเพียงใด ก็นับว่าคือชีวิต เนื่องจากต้องการให้พ่อบ้านมาใช้กฎหมายครอบครัว แน่นอนว่าเจ้าต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ถ้าเซียงซั่นตั้งใจจะทำร้ายเจ้าจริง ๆ นับประสาร้อยครั้ง แม้แต่ฆ่าให้ตายคาที่ ข้าก็ไม่มาขวาง”
เฉินเสิยนหยุด แล้วกล่าว “เจ้าบอกว่าเซียงซั่นทำร้ายเจ้า ทำร้ายเจ้าตรงไหน?”
หลิ่วเหมยอู่โกรธจนพูดไม่ออก
แต่ใบหน้าของเซียงหลิงยังคงไม่ไม่เปลี่ยน กล่าวอย่างสุขุม “ใบหน้าของนายหญิงบวมและแดงหลังจากสวมเสื้อผ้าที่เซียงซั่นเป็นคนซักเพคะ”
เฉินเสียนหัวเราะเยาะ
มูลเหตุนี้ ทุกคนย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ
เฉินเสียนเลิกคิ้วขึ้นกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ทำไมเหมยอู่ถึงไม่เป็นอะไรล่ะ แต่เมื่อวานนี้ถึงได้เกิดเรื่องขึ้น?”
เซียงหลิงกล่าวว่า “น่าจะเป็นไปได้ว่านางกำลังรอโอกาสอยู่เพคะ เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของนายหญิง นางต้องคิดรอบคอบก่อนจะลงมือทำเมื่อวานนี้เพคะ”
“ท่านแม่ทัพรู้เรื่องนี้หรือไม่?” เฉินเสียนถาม
หลิ่วเหมยอู่และเซียงหลิงสบตากัน เซียงหลิงกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพรู้แล้วเพคะ”
“งั้นท่านแม่ทัพคงโกรธมากสินะ ทำไมถึงไม่สั่งจัดการนางล่ะ?”
“ช่วงนี้งานราชการของท่านแม่ทัพยุ่งมากเพคะ จึงให้อำนาจนายหญิงทั้งหมดจัดการเรื่องนี้เพคะ”
สีหน้าของเฉินเสียนเย็นชาเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนกลับเป็นยิ้ม กล่าวว่า “เซียงหลิง เจ้าเนี่ยมีทักษะด้านการโป้ปดจริงๆ ท่านแม่ทัพรักเหมยอู่ขนาดนั้น ถ้ารู้เรื่องนี้จริงๆจะไม่รีบมาสั่งจัดการเซียงซั่นหรือ? เมื่อคืนท่านแม่ทัพก็ไม่กลับไปสวนดอกพุดตาน ดังนั้นเขาก็คงจะยังไม่รู้หรอก”
หลิ่วเหมยอู่หน้าเปลี่ยนสี จ้องเฉินเสียนด้วยความดุร้ายและกล่าวว่า “องค์หญิงอย่ากล่าวอะไรไร้มูลเหตุนะเพคะ เมื่อคืนนี้ท่านแม่ทัพกลับมาดึก แต่ก็อยู่ที่สวนดอกพุดตานทั้งคืน วันนี้รุ่งสางถึงจะออกไปเพคะ”
เฉินเสียนลูบคางเบาๆ กล่าว “แต่พอดีว่าเมื่อคืนข้านอนไม่หลับ ข้าพาอวี้เยี่ยนออกมาเดินเล่นที่สวน ไปข้างทะเลสาป เห็นท่านแม่ทัพฉินกำลังพลอดรักอยู่กับเซียงซั่น”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกไป สีหน้าของหลิ่วเหมยอู่ก็ซีดเผือด
นางคิดที่จะปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ขอเพียงแค่กำจัดเซียงซั่นออกไปก็จะไม่มีอะไรมาทำลายความสัมพันธ์ของนางและฉินหรูเหลียงแล้ว คาดไม่ถึงว่ากลับถูกเฉินเสียนพูดออกมาแล้ว!
เซียงซั่นน้ำตาไหลออกมา อนาถใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
พวกคนใช้ในเรือนนอกเรือนล้วนมึนงง
เซียงซั่นกับท่านแม่ทัพ? ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
คอมเม้นต์