ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 73 จะต้องคิดเพื่ออนาคต

อ่านนิยายจีนเรื่อง ข้าคือหงส์พันปี ตอนที่ 73 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หลิ่วเหมยอู่ชี้นิ้วไปที่เฉินเสียน พูดเสียงสั่นเครือ “องค์หญิงกำลังใส่ร้ายท่านแม่ทัพนะเพคะ ท่านแม่ทัพจะอยู่กับผู้หญิงต่ำต้อยคนนี้ได้อย่างไร! เมื่อคืนนี้ท่านแม่ทัพอยู่กับข้าที่สวนดอกพุดตาน!”

เฉินเสียนยิ้มและกล่าวว่า “เหมยอู่อย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย บางทีข้าอาจจะดูผิด แต่เมื่อดูจากท่าทางของเซียงซั่นแล้ว เห็นได้ชัดว่านางถูกใช้ผลประโยชน์แล้วกำจัดทิ้ง ร่องรอยบนตัวนางโกหกใครไม่ได้อยู่แล้ว อธิบายได้ว่าเมื่อคืนผู้หญิงในศาลาคือนาง”

แค่รอให้ท่านแม่ทัพกลับมาแล้วถามว่าเมื่อคืนอยู่ในศาลาหรือเปล่า ก็จะได้รู้แจ้งกันแล้วล่ะ? ข้าเชื่อว่าท่านแม่ทัพ กล้าที่จะกระทำก็กล้าที่จะพูดและถ้าผู้ชายที่มีความสัมพันธ์กับเซียงซั่นเป็นท่านแม่ทัพ เขาจะยอมรับอย่างแน่นอน ถ้าไม่เช่นนั้นท่านแม่ทัพจะไม่เอาเรื่องมาใส่ตัวไว้หรอก ตอนนั้นยังไม่สายเกินไปที่จะจัดการเจ้าคิดอย่างไรเหมยอู่?”

ตั้งแต่ต้นจนจบ เซียงซั่นไม่เคยแย้งเพื่อตัวเอง นางขายความสงสาร ให้คนรู้สึกแบบนาง

หลิ่วเหมยอู่อยากจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด และกำจัดเซียงซั่นในเวลาอันสั้น สิ่งที่เกลียดก็คือ เฉินเสียนยื่นมือเข้ามาข้องเกี่ยว นี่มันทำให้เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก!

ตอนนี้ เรื่องฉินหรูเหลียงกับเซียงซั่นก็แพร่กระจายไปทั่วจวนแม่ทัพอีกครั้ง

หลิ่วเหมยอู่ไม่สามารถหาเหตุผลที่จะกำจัดเซียงซั่นได้ตามใจ ทำได้แค่เพียงรอให้ฉินหรูเหลียงกลับมา

ตามนิสัยของฉินหรูเหลียง เขาภูมิใจในความซื่อตรงและซื่อสัตย์ และเขาจะไม่ปฏิเสธในสิ่งที่เขาเคยทำ

เป็นผลให้ในตอนเย็น ทันทีที่เขากลับมา ฉินหรูเหลียงต้องเผชิญหน้ากับเซียงซั่น

ในเวลานี้ไม่มีใครสนใจว่าเซียงซั่นกำลังวางกลอุบายกับเสื้อผ้าของหลิ่วเหมยอู่หรือไม่ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ทุกคนคาดหวังคำตอบก็คือเมื่อคืนนี้ท่านแม่ทัพและเซียงซั่นมีอะไรกันแน่หรือไม่

แม้แต่หลิ่วเหมยอู่เองก็สนใจแค่ว่าผลสุดท้ายฉินหรูเหลียงจะยอมรับหรือไม่

ตอนจบก็ชัดเจน

ฉินหรูเหลียงรู้สึกเสียใจต่อหลิ่วเหมยอู่ แต่ยังคงเก็บเซียงซั่นไว้

เพราะเขาทำเรื่องนี้ไว้จริงๆ

ท่านแม่ทัพรักใคร่สาวใช้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะวิพากย์วิจารย์ได้ เป็นเรื่องส่วนตัวของท่านแม่ทัพ เนื่องจากเหตุนี้เซียงซั่นก็สามารถหลีกเลี่ยงการถูกโบยจนตายคาที่นั่นได้

หลิ่วเหมยอู่เข้ามาหาเรื่องเซียงซั่นอย่างโกรธแค้น สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องวุ่นวายที่คนในจวนพูดถึงอีกนาน

กระดาษติดหน้าต่างชิ้นนี้ถูกดึงออกแล้ว ในตอนนี้ฉินหรูเหลียงและหลิ่วเหมยอู่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากันอย่างไร

ทั้งสองคนต่างก็เงียบเป็นเวลาหลายวัน

ถ้าคราวที่แล้วบอกว่าเป็นซุปผสมยาปลุกอารมณ์ คราวนี้ฉินหรูเหลียงเองก็ควบคุมตัวเองได้ไม่ดี

แม้ว่าเจ้านายจะยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับเซียงซั่นอย่างไรดี แต่สถานะของเซียงซั่นนั้นสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปกติแล้วคนที่ชอบดูแคลนนางก็รีบมาประจบประแจงกันใหญ๋

เซียงซั่นอาศัยอยู่ในเรือนบ่าวรับใช้ แต่ไม่มีใครกล้าให้นางทำงานของคนใช้ ในจวนแม่ทัพนางสามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ

หลังจากที่เซียงซั่นได้รับข้อยกเว้นนี้ นางก็รีบไปที่สวนสระวสันตฤดูเป็นอันดับแรก

เซียงซั่นกล่าวว่า “คราวนี้ขอบพระคุณองค์หญิงที่ช่วยหม่อมฉันทันเวลาเพคะ”

เฉินเสียนนอนลงใต้ร่มไม้ พินิจพิจารณา กะพริบตาฟังคำที่เซียงซั่นกล่าว และกล่าวว่า “แน่นอน เพราะข้าลงเงินกับเจ้าไป”

“มีเรื่องที่บ่าวไม่เข้าใจเพคะ” เซียงซั่นเอ่ยเรียบๆ “ครั้งที่แล้วที่ท่านแม่ทัพปฏิบัติต่อบ่าว…ดุร้ายราวกับหมาป่ากับเสือยังไงยังงั้นเพคะ แต่ปกติบ่าวเข้าใจว่าท่านแม่ทัพเป็นคนควบคุมตนเองได้มาก และบ่าวก็เกรงว่าเรื่องจะเกิดเรื่องเหมือนครั้งที่แล้ว…”

“เจ้ากลัวหรือ?” เฉินเสียนหัวเราะ เหล่มองนางแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่คิดว่าเจ้ากลัว แต่กลับเหมือนได้ลิ้มรสความหวาน อยากรู้ไหมว่าข้าใส่อะไรลงในกล่องขี้ผึ้งหอม?”

เซียงซั่นหยุดเดินเป็นวนแล้วกล่าวว่า “เพคะ บ่าวอยากรู้ คราวที่แล้วท่านแม่ทัพบอกว่าบ่าวหอมมาก กลิ่นหอมทำให้ท่านแม่ทัพคลั่งแทบบ้า และคืนนั้นบ่าวก็ทาเพียงแค่ขี้ผึ้งหอมที่องค์หญิงให้เพคะ”

เฉินเสียนใช้นิ้วเคาะที่จับเก้าอี้ กล่าวอย่างครุ่นคิด “สูตรลับ ทำไมข้าต้องบอกเจ้าล่ะ?”

เซียงซั่นตกตะลึง

เฉินเสียนลุกขึ้น ขาของเธอทั้งสองข้างตกลงที่พื้น และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “กล่องแรกนี้เป็นการลงทุนของข้า ข้าสามารถให้เจ้าได้โดยไม่ต้องเสียเงิน แต่กล่องที่สองและกล่องที่สามไม่สามารถยกให้โดยไม่มีค่าตอบแทนได้”

เซียงซั่นเงยหน้าขึ้นมองเฉินเสียน “องค์หญิงต้องการทำข้อตกลงระยะยาวกับบ่าวใช่หรือไม่เพคะ?”

เฉินเสียนใช้นิ้วช้อนคางของนางและกล่าวอย่างสบาย ๆ ว่า “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีทุนหรือไม่ แทนที่จะเสียเวลากับข้า เจ้าควรคิดว่าจะเป็นภรรยาคนที่สามได้อย่างไรดีกว่า เมื่อเจ้าได้กลายมาเป็นภรรยาคนที่สาม จะมีขี้ผึ้งหอมเท่าไหร่ก็ได้มิใช่หรือ?”

แน่นอนว่าเซียงซั่นต้องการเป็นภรรยาคนที่สาม แม้แต่ฝันนางก็ยังคิดเสมอ

แต่ทุกวันนี้ฉินหรูเหลียงได้แสดงออกเรื่อยๆอย่างเชื่องช้า รอต่อไปเช่นนี้ เกรงว่าจะเป็นแค่ฝันกลางวัน

เซียงซั่นกล่าวว่า “ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว เป็นเรื่องยากสำหรับบ่าวที่จะได้พบกับท่านแม่ทัพอีกครั้ง องค์หญิงโปรดชี้แนะด้วยเพคะ”

เฉินเสียนกล่าว “เจ้าจะทำอย่างไรนั่นก็เป็นเรื่องของเจ้า ข้าสามารถผลักดันเจ้าได้ในช่วงคับขัน แต่ถ้าเจ้าเอาผลลัพธ์ที่เกินจินตนาการไปใช้กับคนอื่น ต่อไปเจ้าต้องชดใช้หนี้อีกมากเลยทีเดียว”

“บ่าวเข้าใจแล้วเพคะ”

เซียงซั่นออกจากสวนสระวสันตฤดูโดยไม่ได้สิ่งที่นางต้องการ

ขี้ผึ้งหอมกล่องนั้นถูกใช้จนหมด และนางไม่สามารถใช้มันเพื่อยั่วยวนฉินหรูเหลียงได้ และเฉินเสียนก็ไม่ยอมที่จะแนะนำก้าวต่อไปให้นาง

ขอแค่นางได้กลายเป็นภรรยาคนที่สามเท่านั้น นางจะมีโอกาสได้ครอบครองฉินหรูเหลียง

เช่นนี้ นางไม่มีทางเลือกทางอื่นได้นอกจากต้องใช้วิธีการของนางเอง

เฉินเสียนไม่ใช่ศัตรูของนางในตอนนี้ แต่นางไม่เคยคิดอยากเป็นมิตรกับเธอ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นแค่มีผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน

หากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย เซียงซั่นก็ไม่อยากจะเพิ่มเฉินเสียนเป็นศัตรูอีกคนหรอกนะ

เซียงซั่นกลับมาคิดอย่างถีถ้วน เมื่อนึกถึงท้องโตๆของเฉินเสียน จึงตัดสินใจปล่อยนางไป

ถ้านางตั้งท้องลูกของท่านแม่ทัพด้วย?

เซียงซั่นคิดถึงบ่าวซื่อสัตย์ที่คอกม้า

ตอนกลางคืนนางนัดบ่าวคนนั้นไปที่ป่ามืดรกทึบในสวนหลังบ้าน ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่หลังจากกัน บ่าวคนนั้นก็คิดถึงไม่เคยลืมอยู่กับเซียงซั่น

อย่างไรก็ตามเมื่อรู้ว่าเซียงซั่นกลายเป็นคนของท่านแม่ทัพ บ่าวคนนั้นก็หยุดคิดถึงเรื่องนี้

แต่ตอนนี้เซียงซั่นบอกว่านางต้องการมีลูก

บ่าวคนนั้นทั้งตื่นตระหนกทั้งเกรงกลัว เกรงว่าเขาจะสร้างปัญหาได้ แต่กลับถูกเซียงซั่นเชิญชวน

ในที่สุด บ่าวคนนั้นก็ยอมจำนน และทั้งสองก็เข้าไปกอดรัดกันในป่า

บ่าวคนนั้นเมื่อได้หนึ่งครั้งก็อยากจะมีครั้งต่อไป และมาที่นี่เพื่อพบกับเซียงซั่นทุกคืนตามเวลาที่กำหนด ไม่มีใครรู้ทั้งสิ้น

เฉินเสียนไปที่บ้านของเหลียนชิงโจวอยู่ตลอด

การต่อสู้ระหว่างหลิ่วเหมยอู่และเซียงซั่นยังไม่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ละครบทนี้นั้นยาวเกินไปแล้ว

เฉินเสียนไม่มีความสนุกหรือความตื่นเต้นใด ๆ ทั้งวัน เธออยู่แต่ในสวนสระวสันตฤดูจนกำลังจะเฉา มีเพียงเรือนเหลียนชิงโจวเท่านั้นที่เป็นที่ที่ดี

เหลียนชิงโจวก็ไม่ปฏิเสธ แถมยังส่งเกี้ยวไปรับเฉินเสียนทุกครา

เมื่อฉินหรูเหลียงกลับมา เขายังคิดว่าเขาไม่ค่อยได้เจอเฉินเสียน เมื่อถามออกไป พ่อบ้านกล่าวว่า “องค์หญิง… ไปเรือนของ คุณชายเหลียนอีกแล้วขอรับ”

เรื่องต่างๆในเรือนนี้กำลังจะรุมเร้าฉินหรูเหลียงตาย

เซียงซั่นก็ยังไม่รู้วิธีจัดการ หลิ่วเหมยอู่ในใจอาจเชื่อแล้วว่าเขาเป็นคนผิด และเฉินเสียน ท้องโตเช่นนี้แล้วยังอยากจะวิ่งแจ่นออกไปตลอดทั้งวัน!

หากสิ่งนี้แพร่กระจายออกไป คนนอกคิดว่าเฉินเสียนและเหลียนชิงโจวมีอะไรกันล่ะ นั่นไม่ใช่ว่าตัวเขาฉินหรูเหลียงกำลังถูกสวมเขาอยู่หรือ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด