ข้าคือหงส์พันปี – บทที่141 ใครก็อย่าถือเอาจริงเอาจัง
แต่เมื่อเฉินเสียนเห็นท่าทางแข็งทื่อของเขาเป็นครั้งแรก เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดเสียงแหบพร่า “เย้าหยอกคนอื่นก็สนุกเหมือนกันนะ”
เพราะเป็นเพียงการเย้ากันเล่น ใครก็อย่าถือเอาจริงเอาจัง แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของซูเจ๋อ เฉินเสียนก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที…
หลังจากนั้น เธอก็พูดติดตลกอย่างไม่ใส่ใจว่า “ท่านไม่หยิ่งยโสโอหังแล้วหรือ ตอนนี้ท่านยิ้มออกแล้วหรือ?”
ซูเจ๋อได้สติ จึงกล่าวว่า “ข้าไม่เคยถูกคนอื่นจูบเช่นนี้ ท่านควรจะรับผิดชอบข้าใช่หรือไม่”
เสียงเฉินเสียนหัวเราะแผ่กระจายไปในสายลมและกล่าวอย่าขบขันว่า “ข้าจะรับผิดชอบเอง รอข้าเก็บเงินได้มากพอก็จะรับผิดชอบท่าน หากในตอนนั้นท่านยังไม่มีครอบครัวและข้าก็อยู่คนเดียวละก็”
เฉินเสียนกลับไปที่จวนแม่ทัพในตอนกลางคืน
ในจวนแม่ทัพเงียบเชียบ และทุกคนก็ล้วนหลับไปแล้ว
ในเวลานี้ฉินหรูเหลียงรอจับกระต่าย ปกติแล้วเฉินเสียนจะไม่ยอมให้ซูเจ๋อส่งเธอไปที่ประตู
เดิมทีคิดว่าเธอจะใช้เวลาสักครู่เพื่อเปิดประตู ไม่คิดว่าเมื่อขึ้นบันไดประตูใหญ่มาก็พบว่ามีคนเปิดประตูให้เธอ
ใครจะเปิดประตูได้นอกจากฉินหรูเหลียง
ตามนิสัยของเขาแล้ว ในเมื่อเขาไม่สามารถจับเฉินเสียนได้ แม้ว่าจะไล่ตามไปไกลแล้ว หลังจากที่เขากลับมาเขาจะยังมีกะจิตกะใจไปนอนหลับได้อย่างไร แน่นอนว่าต้องรอให้เฉินเสียนกลับมาก่อน
เพียงแต่ฉินหรูเหลียงยืนอยู่ที่กรอบประตูและเห็นว่าสีหน้าของเฉินเสียนเย็นกว่าเวลากลางคืนอีกนั้น จู่ๆเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
หลังจากผ่านไปนานพอสมควร ฉินหรูเหลียงก็กล่าวว่า “กลับมาแล้วหรือ”
เขาเปิดประตูให้เฉินเสียน “คืนนี้เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ ต่อไปพยายามกลับมาให้เร็วหน่อย”
เฉินเสียนยกเท้าขึ้นเดินเข้าผ่านประตู และเขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง “อีกอย่าง อย่าไปพัวพันกับผู้ชายที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เรื่องนี้ดีต่อตัวท่านเอง”
เฉินเสียนไม่สนใจเขา เมื่อเดินผ่านเขาไป เขาก็อดไม่ได้ คว้าข้อมือของเฉินเสียนแล้วลดเสียงลงกล่าวว่า “คนในคืนนี้คือผู้ใดกัน?”
เฉินเสียนหยุด ดึงมือของเขาออกด้วยความรังเกียจและกล่าวว่า “นี่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับท่าน”
ฉินหรูเหลียงขยับปาก กล่าวว่า “แม้ว่าท่านจะเกลียดข้า ตอนนี้ท่านกับข้าก็ยังเป็นคู่สามีภรรยากันท่านไปเดินงานโคมไฟกับชายอื่น ท่านคิดว่าข้าไม่ควรถามหรือ?”
เฉินเสียนพ่นลมหายใจและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกท่านให้นะว่าเขาเป็นคนใหม่ที่ข้าพบในคืนนี้ ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ข้าจะได้รู้จักกับผู้ชายหลายคน ผู้ชายยังสามารถมีภรรยาได้หลายคน ข้าคือองค์หญิง เหตุใดจึงไม่สามารถมีผู้ชายอยู่ข้างกายได้หลายๆคนกันเล่า?”
ฉินหรูเหลียงมองที่ใบหน้าของเธออย่างลึกล้ำ “เฉินเสียน ท่านจริงจังหรือไม่?”
เฉินเสียนหันหลังเดินจากไปและกล่าวเบา ๆ ว่า “อย่างไรก็ตามลูกชายของข้ากลายเป็นแต้มต่อ ถ้าข้าตัวคนเดียวจะกลัวอะไร?ข้าจะออกไปเที่ยวเล่น สํามะเลเทเมา และเป็นองค์หญิงงี่เง่าผู้ต้องการเพียงเก็บภาพความงดงามของโลก แค่นี้ทุกคนก็วางใจได้ และข้าก็มีความสุขด้วย ดีหรือไม่?”
เธอหยุดเท้าของเธอ หันกลับมามองเขาแล้วพูดว่า “ถ้าท่านทนไม่ไหวแล้ว หย่ากับข้าสิ”
“เฉินเสียน ท่านจะทรมานข้าหรือตัวท่านเอง” ฉินหรูเหลียงเม้มริมฝีปากของเขา “ท่านรู้ว่าข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้”
ถ้าเขาหย่าให้เฉินเสียนจริงๆ ดูเหมือนคนภายนอกจะมองว่าเฉินเสียนกำเนิดบุตรชายให้เขา ไม่เพียงแต่เขาจะถูกประณาม แต่จักรพรรดิจะโกรธด้วย
เฉินเสียนกล่าวว่า “ใช่ ท่านมีความลับของข้า ข้ามีความลับของท่าน และทุกคนจะต้องยอมรับมันให้ได้”
เธอมองออก แม้ว่าเธอจะไม่มีใจกับจวนแม่ทัพนี้ก็ตาม เธอก็ยังต้องอยู่ต่อไป
จะนับประสาอะไรกับฉินหรูเหลียงและหลิ่วเหมยอู่ ถ้าเธอกลับไปที่วัง ที่นั่นถึงจะเป็นที่ที่โหดร้ายจริงๆ
ทุกย่างก้าวของเธอจะตกสู่สายตาของจักรพรรดิ และหากเธอต้องการเข้าออกนอกวังอย่างอิสระ ก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก
ในสวนสระวสันตฤดู ทั้งอวี้เยี่ยนและแม่นมซุยนั้นก็ยังไม่ได้นอน
อวี้เยี่ยนกังวลมาก ฝั่งของแม่นมซุยปลอบโยนและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล คุณชายเหลียนก็บอกว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”
อวี้เยี่ยนกล่าวว่า “เอ้อร์เหนียง แต่ก็เห็นด้วยตาเองว่าองค์หญิงถูกชายแปลกหน้าพาไป ข้าเกลียดที่ข้าอยู่บนถนนนั่นและไม่สามารถรีบนำองค์หญิงกลับมาได้ ตอนนี้ผ่านไปครึ่งค่อนคืนแล้ว และองค์หญิงก็ยังไม่กลับมา……”
สองคนนี้เพิ่งกลับมาไม่นาน
อวี้เยี่ยนไม่สามารถวางใจได้ ดังนั้นนางจึงค้นหาทั่วทั้งถนนสองสามเส้น แม่นมซุยเป็นคนบอกว่าอาจจะมีในกรณีที่องค์หญิงกลับมาก่อน นางจึงยอมและรีบกลับมาดู
ผลปรากฏว่าเฉินเสียนยังไม่กลับมาเลย
แม่นมซุยกล่าวว่า “รอก่อน คนที่พาตัวองค์หญิงไปไม่ใช่คนแปลกหน้า”
อวี้เยี่ยนกล่าวว่า “ทำไมจะไม่เป็นคนแปลกหน้าล่ะ ตั้งแต่องค์หญิงแต่งงานออกจากวัง ข้าไม่เคยเห็นองค์หญิงติดต่อกับผู้ชายคนอื่นเลย”
“แล้วเมื่ออยู่ในวัง องค์หญิงได้ติดต่อกับผู้ชายหรือไม่?” แม่นมซุยถาม
อวี้เยี่ยนพูดอย่างรวดเร็ว “ในวังมีผู้ชายไม่มากนัก ยกเว้นใต้เท้าซู องค์หญิงก็ไม่มีโอกาส…”
ทันทีที่นางพูดออกไป ในที่สุดอวี้เยี่ยนก็รู้สึกตัว หยุดทันที มองไปที่แม่นมซุยด้วยความไม่เชื่อ “เอ้อร์เหนียง หมายถึง คนๆ นั้นคือ…”
แม่นมซุยพยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่ช้าก็เร็วไม่สามารถซ่อนมันจากเจ้าได้ ข้าถูกส่งมาจากใต้เท้าเพื่อดูแลองค์หญิงและเด็ก”
อวี้เยี่ยนพูดอย่างระมัดระวัง “เป็นไปได้อย่างไร… เขาไม่ใช่ว่าไม่สนใจองค์หญิงหรือ เขาไม่ใช่ว่ามีเรื่องกับองค์หญิงหรือ…เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงเกลียดเขามากที่สุด”
แม่นมซุยกล่าวว่า “อวี้เยี่ยน เอ้อร์เหนียงจะบอกอะไรเจ้าให้นะ เรื่องขององค์หญิงมีแต่ตัวท่านเองที่รู้ดีที่สุด ตอนนี้องค์หญิงจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้ หากปราศจากความคับข้องใจเหล่านั้น ก็สามารถมองคนคนหนึ่งได้อย่างชัดเจน”
ทันทีที่เสียงหายไป เสียงสบายๆ ก็ดังขึ้นที่เรือน “มองใครได้อย่างชัดเจนหรือ?”
อวี้เยี่ยนมองตามเสียงนั้นไป และเห็นว่าแสงไปที่สาดออกมาจากในห้องนั้นพลิ้วไหวราวกับพรม และเฉินเสียนก็เหยียบแสงสีทองอย่างช้าๆ
อวี้เยี่ยนวิ่งออกไป เกือบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ จับมือของเฉินเสียนแล้วกล่าวว่า “องค์หญิงไปอยู่ที่ไหนมาเพคะ บ่าวร้อนใจจะตายแล้วนะเพคะ!”
เฉินเสียนคิดถึงฉากในคืนนี้ มุมปากมีรอยยิ้มจางๆ เธอบีบใบหน้ากลมของอวี้เยี่ยนแล้วกล่าวว่า “องค์หญิงไปชมดวงจันทร์มาล่ะ เมื่อครู่พวกเจ้ากำลังพูดถึงใคร?”
อวี้เยี่ยนเหลือบมองแม่นมซุย กระแอมเล็กน้อย และกล่าวอย่างห่อเหี่ยว “พวกเรากำลังพูดถึงคุณชายเหลียน คุณชายเหลียนใจดีกับองค์หญิงจริงๆ เพคะ”
จากนั้นอวี้เยี่ยนก็ปรนนิบัติเฉินเสียนอาบน้ำล้างตัวและเตรียมพักผ่อน
เฉินเสียนนอนอยู่ข้างเธอบนเตียง และอวี้เยี่ยนนอนอยู่ข้างเตียงและมองดูเธออย่างกระตือรือร้น
เธอเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “เจ้ายังไม่ง่วงอีกหรือ”
อวี้เยี่ยนพึมพำ “องค์หญิงไปไหนมาในคืนนี้? บ่าวเห็นองค์หญิงถูกชายคนนั้นพาไป แต่ไม่สามารถตามทัน คุณชายเหลียนก็บอกให้บ่าวไม่ต้องกังวล แต่บ่าวก็ต้องต่อสู้ด้วยความกลัวตลอดทั้งคืนเพคะ”
เฉินเสียนกล่าวอย่างอบอุ่น “ไม่ต้องกังวล ข้าสบายดี ข้าเพิ่งไปเดินเล่นที่แม่น้ำหยางชุน”
“ที่นั่นสนุกหรือไม่เพคะ?”
“สนุกนะ หลายคนตั้งไฟไว้ตรงนั้น”
“แต่ต่อมาเทศกาลโคมไฟก็จบลง ทำไมถึงไม่เห็นองค์หญิงกลับมาเลยเพคะ?” อวี้เยี่ยนถามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกครั้ง
“ต่อมา” เฉินเสียนหรี่ตายิ้ม “อวี้เยี่ยน เจ้ากำลังสืบสวนข้าหรือไง?”
อวี้เยี่ยนมองเธอตาโปน มองอย่างเจาะลึกเข้าไป
เธอพูดอย่างจริงจัง “ต่อมาแน่นอนว่าข้าไปทำสิ่งที่ข้าชอบ”
คอมเม้นต์