ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 159 ไม่เท่ากับว่าบินหายไปหรือ
เฉินเสียนกลับไปเลือกนักพนันชั้นดีที่ติดการพนันและแต่งตัวดีกว่าคนทั่วไปในบ่อนเชียนจิน รอจนพวกเขาเล่นพนันแพ้จนหมดตัว ก็จะไปยืมเงินเพื่อต่อทุน แต่ยืมได้ไม่เกินสามวัน หลังจากสามวัน ต้องเอามาคืนรวมทั้งดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยนี้ย่อมแพงมาก ยืมห้าตำลึงต้องคืนหกตำลึง ยืมสิบตำลึงต้องคืนสิบสองตำลึง
ในต้าฉู่ยึดถือเรื่องสัญญา เพียงลงลายนิ้วมือในสัญญาทุกอย่างก็เป็นการสำเร็จมีผลตามกฏหมาย เมื่อถึงเวลาหากไม่คืนเงิน ก็สามารถนำไปฟ้องทางการได้
ในวันแรกเฉินเสียนสามารถดึงมือนักพนันมาเขียนสัญญาได้หนึ่งคน โดยยืมไปสิบตำลึง
อวี้เยี่ยนยืนปวดใจอยู่ข้างๆ ราวกับว่าสิบตำลึงนั้นบินหายไปแล้ว
นางกล่าวขึ้น “คุณชาย ถ้าเขาหอบเงินหนีไปไม่คืนจะทำเช่นไร?”
“หนีหรือ?”เฉินเสียนขมวดคิ้ว “เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ ว่าวงการพนันเข้าไปแล้วลึกยิ่งกว่ามหาสมุทร การติดพนันเลิกง่ายเช่นนั้นเลยหรือ?”
คนที่เฉินเสียนจะให้ยืมเงิน ล้วนเป็นคนที่เธอได้รู้เรื่องราวมาแล้ว คนที่เข้าออกบ่อนเชียนจินทุกวัน ทุกคนในบ่อนคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี
เฉินเสียนให้พวกเขาหยิบยืมเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ผลสุดท้ายสามวันผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่มีคนเอามาคืน
อวี้เยี่ยนก็พูดขึ้นด้วยความกังวล “ท่านดูสิ บ่าวว่าแล้วว่าต้องไม่มาคืน”
เฉินเสียนเข้าไปหาเขาในบ่อน ยื่นสัญญาให้เขาดู หรี่ตามองแล้วถามเขา “พี่ชาย ท่านลืมเรื่องอะไรไปหรือไม่?”
นักพนันคนนั้นกำลังมือขึ้น จึงไม่ได้สนใจเธอ เขาผลักเฉินเสียนออก “ออกไปๆ”
เฉินเสียนยิ้ม เก็บสัญญาเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วไปหาชายร่างกำยำที่เฝ้าประตูอยู่ “พี่ชาย พวกท่านต้องการรับงานพิเศษหรือไม่?”
ชายร่างกำยำมองเธอแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
เฉินเสียนพูดต่ออย่างยืดยาว “ด้านในมีคนติดหนี้ข้าอยู่สิบสองตำลึง หลังจากเขาออกมาจากบ่อนแล้วหากท่านสามารถทวงเงินคืนให้ข้าได้ ข้าจะรับเงินแค่สิบตำลึง ส่วนอีกสองตำลึงที่เหลือข้าให้ท่านเอาไปซื้อเหล้า ข้ามีหนังสือสัญญา”
สองตำลึงนั้นเทียบเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของชายร่างกำยำคนนั้น
นักพนันที่ยืมเงินแล้วไม่คืนคนนั้นเมื่อออกมาจากบ่อน เดินผ่านตรอกเล็กๆ ก็ถูกทุบตีจนจำหน้าไม่ได้ และในที่สุดก็ต้องคืนเงินที่เขาค้างชำระด้วยมือเขาเอง
เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว รายต่อๆไปก็ง่ายที่จะจัดการ
ค่อยๆมีคนทยอยเข้ามาเขียนสัญญากับหมอดู แล้วไปยืมเงินจากเฉินเสียน หากพบว่ามีคนยืมเงินแล้วไม่คืน ก็จะมีชายเฝ้าประตูร่างกำยำเข้ามาช่วยทวงให้
ใครก็ไม่อยากจะโดนทำร้ายร่างกาย จึงทำได้เพียงคืนเงินกลับไปตามจำนวนเท่านั้น
เมื่อครบสามวันเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยก็ถูกทยอยส่งคืน
เฉินเสียนก็ไม่ใช่จะให้คนยืมพร่ำเพรื่อ ก่อนจะให้ยืมเงินก็จะมองทั้งเสื้อผ้าการแต่งกายและบุคคลิกว่าบุคคลนั้นมีความสามารถพอที่จะคืนเงินหรือไม่
หากมีคนธรรมดามายืมอวี้เยี่ยนก็จะเริ่มไต่ถาม “ท่านมีครอบครัวหรือไม่?”
“มี”
“มีลูกหรือไม่?”
“มี……..”
เช่นนั้นท่านจะมายืมทำไม ที่บ้านไม่มีเงินแล้วจะยังมาเล่นพนัน ยืมไปแล้วใครจะช่วยท่านจ่าย รีบไสหัวไป กลับบ้านไปดูแลลูกเมียเถอะ”
เมื่ออยู่ในตลาด ต้องดูการตลาด
อวี้เยี่ยนและเฉินเสียนได้เรียนรู้พฤติกรรมของพวกอันธพาล เพื่อที่จะสามารถต่อสู้กับผู้อื่นได้
จนมีวันหนึ่ง มีนักพนันที่สิ้นหวัง สูญเสียทรัพย์สมบัติ และต้องการยืมเงินเพื่อถอนทุนคืน
แต่บ่อนเชียนจินกลับไม่ยอมให้เขายืมเงิน
เขาพาลูกและเมียมาที่แผงของเฉินเสียนอย่างจนตรอก
นักพนันผู้นั้นไม่รู้ว่าติดพนันอยู่นานแค่ไหน ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง ทุบตีผู้เป็นเมียล้มลงกับพื้นอย่างหยาบคาย ใช้สองมือตบโต๊ะแล้วถามขึ้น “เจ้าดูหน่อยว่า ผู้หญิงคนนี้กับลูกสาวข้าราคาเท่าไหร่ เจ้าเอาเงินมาให้ข้า ข้าจะขายพวกนางให้เจ้า”
ลูกและภรรยาของเขานั่งร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างน่าเวทนา
เฉินเสียนมองเขานิ่งๆ และพูดขึ้นว่า “มีคนอยู่สามประเภทที่ข้าจะไม่ให้ยืม หนึ่งคนยากไร้ สองคนเนรคุณ สามคนจิตใจโหดเหี้ยม เจ้าบังเอิญมีครบทั้งสามประการนี้ หมอดู อวี้เยี่ยน วันนี้ปิดร้านหยุดหนึ่งวัน”
เมื่อหมอดูและอวีี้เยี่ยนเริ่มจะปิดร้าน นักพนันคนนั้นก็เริ่มกระวนกระวาย ยกโต๊ะขึ้นด้วยความโมโห
เขาอับอายจนอดไม่ได้ที่จะทำลายข้าวของ เฉินเสียนยืดเท้าถีบออกไปทันที ใช้พลังไปเต็มแรง จนเขากระเด็นลงไปกองอยู่กับพื้น
ภายในเวลาสั้นๆ พวกเธอทำเงินได้หลายร้อยตำลึง แต่เมื่อเห็นสภาพแบบนี้ อวี้เยี่ยนกลับไม่ได้ดีใจเลย
เฉินเสียนพูดขึ้น “ต่อไปเปลี่ยนกฏใหม่”
ต่อไปคนธรรมดาที่เข้าออกบ่อนพนันก็สามารถยืมเงินได้ แต่หากไม่สามารถคืนเงินได้ ก็ลากไปทำงานที่ท่าเรือเพื่อแลกค่าแรง
ท่าเรือต้องการแรงงานขนย้ายสินค้า เฉินเสียนได้ทำการตกลงกับผู้จัดการท่าเรือแล้ว ว่าสามารถพาคนไปทำงานได้ โดยคิดค่าแรงรายวัน
ในตอนแรกอวี้เยี่ยนไม่เข้าใจเลย แต่เมื่อนางได้เห็นว่านักพนันธรรมดาที่เคยเข้าออกบ่อน ต้องไปทำงานที่ท่าเรือเพื่อชดใช้หนี้ นางก็ได้เข้าใจเจตนาของเฉินเสียน
แลกเงินกับหยาดเหงื่อแรงงานของตัวเอง ย่อมไม่เข้าไปพัวพันกับบ่อนพนันอีกง่ายๆ
อวี้เยี่ยนพูดขึ้นอย่างมีความสุข “คุณชาย ความคิดนี้ดีมากเลย ทำให้พวกเขาคิดได้ทันเวลาและกลับตัวทัน”
หมอดูนามหลิ่วอีกว้า จึงพูดขึ้น “การทำความดีเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นผลดีต่อทุกคน มีคนที่เสียผลประโยชน์ พอถึงตอนนั้นจะไม่เท่ากับมหันตภัยแห่งเลือดหรือ”
เฉินเสียนยกมือจะตบ หลิ่วอีกว้ารีบพูดขึ้นอย่างร้อนรน “ได้ ได้ ได้ ถือว่าข้าไม่เคยพูดอะไร”
บ่อนเชียนจินมีนักพนันน้อยลงไปส่วนหนึ่ง ไม่ได้ครึกครื้นเหมือนก่อนหน้า ในห้องโถงที่ก่อนนี้มีเสียงคึกคัก ตอนนี้กลับเงียบลง
เมื่อได้รับผลประกอบการของเดือนนี้ ก็ทำให้เถ้าแก่ไม่พอใจขึ้นมาทันที
“ทำไมเดือนนี้ทำเงินได้น้อย”
ผู้จัดการตอบอย่างหนักใจ “ข้างนอกมีร้านมาตั้งให้ยืมเงิน ไม่รู้มาจากที่ใด ดึงเอานักพนันของเราไปจนจะหมด ไม่มีใครมายืมที่นี่ ไม่ต้องพูดถึงกำไรน้อย ยังมีนักพนันจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีแรงจ่าย ก็ออกไปทำงานหาเงินเพื่อชดใช้หนี้………”
” บัดซบ!” เถ้าแก่พูดขึ้นด้วยความโมโห “ไม่ว่าจะมาจากไหน ต้องเอาตัวมาให้ข้าก่อน!”
ดังนั้นวันนี้ เฉินเสียน อวี้เยี่ยน และหลิวอีกว้าก่อนออกไปตั้งร้าน กลุ่มคนวิ่งออกมาจากบ่อนพนันและไล่ตามทั้งสามคนโดยไม่มีปี่มีกลอง
เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อทุบทำลายป้ายหน้าร้าน
เพราะฝ่ายตรงข้ามมากันเป็นพวก ดังนั้นอันดับแรกจึงต้องหนี
หลิวอีกว้ารีบเก็บแผง ตอนนั้นวิ่งเร็วกว่าใครเพื่อน พึมพำขึ้น “โว้ยย ว่าแล้วทำไมวันนี้ข้าตากระตุก มีภัยพิบัติจริงๆด้วย!”
“หยุด อย่าหนี!”
เฉินเสียนคว้ามืออวี้เยี่ยนแล้ววิ่งไปข้างหน้า เมื่อถึงทางแยก เฉินเสียนก็ผลักอวี้เยี่ยนให้หลิวอีกว้า พร้อมพูดขึ้นว่า “พานางไปซ่อน ข้าจะล่อพวกมันไป ถ้าเจ้าดูแลนางไม่ดี ข้าจะกลับมาจัดการเจ้า!”
เฉินเสียนเริ่มล่อพวกมันออกไป หลิวอีกว้าต้องยอมทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ พาอวี้เยี่ยนวิ่งไปอีกทาง
อวี้เยี่ยนใบหน้าขาวซีดไปหมด ใช้แรงขัดขืน “คุณชาย”
ตอนนี้เฉินเสียนไม่สนใจนาง ล่อกลุ่มคนไปทางอื่น
อีกฝ่ายลำพองตนเพราะคิดว่าเฉินเสียนคงไม่สามารถหนีจากพวกเขาได้ เฉินเสียนทำใจสงบ ล่อพวกเขาไปทางสำนักงานราชการ
เธอไม่เชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะกล้าต่อสู้อย่างโจ่งแจ้ง
สุดท้ายยังไปไม่ถึง คนกลุ่มนั้นก็แบ่งเป็นสองพวก แล้วมาขวางหน้าเฉินเสียนไว้
เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้นบนถนน ทันใดนั้นก็มีเสียงที่แผ่วเบาดังมาจากด้านข้าง: “อาเสียน”
เสียงนั้นช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
คอมเม้นต์