ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 235 รับคมดาบแทนเขา
เมื่อนักฆ่าสบโอกาส โจมตีจากทางด้านข้าง ขณะที่ซูเจ๋อรับแทนไม่ทัน เฉินเสียนก็ยกดาบขึ้นสู้ตอบอย่างไม่ลังเล
เธอไม่เคยใช้ดาบต่อสู้ห้ำหั่นกับคนในระยะใกล้กันขนาดนี้มาก่อน แต่เมื่อเธอนึกถึงฉากที่ซูเจ๋อต่อสู้ที่ป่าเมเปิลครั้งนั้น เธอจึงรู้ว่าตัวเองควรต้องทำยังไง
เธอจะต้องไม่ทำให้ซูเจ๋อเป็นกังวลพะวงหลัง เธอจะต้องทำมันอย่างสุดความสามารถ ปกป้องรอบตัวเธอเอง เฮ่อโยวและชิงซิ่ง
ซูเจ๋อตวัดดาบต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน แต่คู่ต่อสู้มีมากขนาดนี้ และก่อนหน้านี้เขาเองก็ได้ต่อสู้ไปยกหนึ่งแล้ว คงจะจัดการไม่ได้ง่ายๆ
มีดาบเข้ามาเฉือนโดนแขนของซูเจ๋อ แต่กลับไม่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเลยสักนิด แม้แต่เสียงอุทานก็ไม่มีเล็ดลอดออกมา เขารีบจัดการปลิดชีพนักฆ่าคนนั้นในหนึ่งดาบโดยทันที
ไม่มีแม้กระทั่งเวลาหายใจหอบ ภายในใจของเฉินเสียนเต็มไปด้วยความหนักหน่วง เธอรู้สึกถึงลมหายใจที่อ่อนล้าและยุ่งเหยิงไม่สม่ำเสมอของซูเจ๋อ
นักฆ่าล้มลงบนพื้นทีละคน และอีกหลายคนที่กำลังร่นถอยหนี แต่เพราะเห็นว่าซูเจ๋อเริ่มอาการไม่ค่อยสู้ดี เหล่านักฆ่าจึงกัดฟันพากันกรูเข้ามาอีกระลอก
ดวงตาของซูเจ๋อเต็มไปด้วยความหนักหน่วง และขอบตาถูกย้อมไปด้วยสีแดงก่ำ
ดาบที่เป็นประกายยังไม่ทันจะฟันลง เฉินเสียนก็รีบรับดาบนั้นแทนในทันที เมื่อเห็นว่าเฉินเสียนก้าวออกมาร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ดาบในมือของเขาก็แทงไปยังกลางลำตัวของนักฆ่า
ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความอดทนและเย็นยะเยือก ปะทุไปด้วยความร้อนระอุที่เข้มข้น ท่วมท้นบนฝ่ามือของเธอ
เหลือนักฆ่าเพียงสามคนที่รวมกันอยู่ตรงหน้าซูเจ๋อ ไม่มีใครโจมตีเฮ่อโยวจากทางด้านข้าง เฉินเสียนไม่สามารถมองดูซูเจ๋อที่ต่อสู้ตามลำพังด้วยตัวคนเดียว เธอไม่สามารถทนเห็นดาบของนักฆ่าโดนชายเสื้อของซูเจ๋อ……
ซูเจ๋อบอกว่า เธอใช้วิธีที่ตายตัว ศัตรูจะหาจุดบกพร่องของเราเจอได้ง่าย ยกเว้นวิธีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงจะสามารถทำลายศัตรูได้
เธอที่ต่อสู้เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณของร่างกาย ดูเหมือนเธอจะเหวี่ยงดาบตามใจชอบ ร่วมมือกับซูเจ๋อฆ่านักฆ่าไปหลายคนจนพวกมันเริ่มร่นถอยมิอาจต้านทานได้
และในที่สุดนักฆ่าทั้งหมดก็ตายภายใต้ดาบนั้น
ถึงแม้ว่านักฆ่าเหล่านี้จะถอนมือ แต่ซูเจ๋อก็ไม่สามารถให้เหล่านักฆ่ามีชีวิตกลับไปได้
ในเมื่อพวกมันเห็นอีกด้านหนึ่งของเขาที่ไม่สมควรจะเห็น หากว่านักฆ่าเหล่านี้กลับไปถึงเมืองหลวงได้ จะเกิดเป็นปัญหาที่ไม่รู้จบ
ไม่มีใครนึกฝัน ในขณะที่เฉินเสียนและซูเจ๋อกำลังประสานดาบฆ่านักฆ่าที่เหลือนั้น นักฆ่าคนหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้นสูดลมหายใจเฮือกสุดท้าย ฉวยโอกาสในขณะที่เฉินเสียนและซูเจ๋อไม่ทันได้ระวังด้านหลัง และเฮ่อโยวกับชิงซิ่งเองก็กำลังจดจ่ออยู่กับสถานการณ์การต่อสู้
นักฆ่าที่นอนอยู่กับพื้นนั่นเอื้อมมือไปจับดาบ
เมื่อเขาหยิบดาบขึ้นมาแล้ว ก็ปาดาบพุ่งตรงไปยังเฮ่อโยว
เฮ่อโยวที่ไม่รู้ตัวเลย แต่เพราะตำแหน่งทิศทางของตัวดาบเอียงเอน เงาจากพระจันทร์จึงสะท้อนลงไปในตัวดาบ
ชิงซิ่งจึงได้สติขึ้น รีบหันหน้ากลับมาดู ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
ห้วงเวลานั้น ดาบได้พุ่งออกจากมือของนักฆ่าแล้ว มันพุ่งตรงมายังเฮ่อโยว
แรงพุ่งที่รุนแรงและน่าสะพรึงกลัว เมื่อเฮ่อโยวหันหน้ากลับมาดู ดาบที่พุ่งมานั้นสะท้อนแสงจันทร์ปรากฏขึ้นบนดวงตาของเขา ที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เขากลั้นลมหายใจ ลืมสนิทว่าตัวเองต้องหลบ
มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขา หลบไม่พ้นแล้ว
เฮ่อโยวยืนอยู่กับที่ตัวแข่งทื่อ เฉินเสียนหันกลับไปเห็นเหตุการณ์ จึงรีบตะโกนเรียกเขาดังลั่น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินอะไร ราวกับคนที่กำลังก้าวเข้าสู่ความตาย ร่างกายแข็งทื่อพูดอะไรไม่ออก ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดใดทั้งสิ้น
ในขณะเดียวกันซูเจ๋อเองก็ได้ปาดาบไปยังกลางหลังของนักฆ่าคนนั้นอย่างแม่นยำ ปลิดชีพลมหายใจสุดท้ายของเขา
แต่ก็ยังช้าไปหนึ่งเก้า
บนเขานี้บรรยากาศเงียบสงบมาก
แต่เขากลับไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจของตัวเอง
จนเมื่อเสียง “ฉึก” ดังขึ้น
เหมือนเสียงดาบที่แทงเข้าไปในเนื้อหนัง
หัวใจของเฮ่อโยวเต้นรัวเสียงดัง จากที่กำลังอึ้งตาค้างก็กลับคืนสติมา
หน้าอกของเฉินเสียนหอบกระเพื่อม สีหน้าเปลี่ยนไปทันที อารมณ์ที่ซับซ้อนวุ่นวายและคาดไม่ถึง ปะทุพรั่งพรูออกมาพร้อมกัน
เฮ่อโยวที่นึกว่าตัวเองตายอย่างแน่นอน เขาได้ยินเสียงดาบแทงทะลุเข้าร่างกาย แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด
เลือดอุ่นๆ ไหลลงบนมือของเขา และมือของเขาก็สั่นเทาไปหมด
เฮ่อโยวได้ยินเสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวด เมื่อได้สติขึ้นมา ทันใดนั้นก็พบว่ามีคนยืนบังอยู่ข้างหน้าเขา
เมื่อเฮ่อโยวเพ่งมองชัดเจน คนผู้นั้นคือชิงซิ่งที่ร่างกายบอบบางยืนบังอยู่ข้างหน้าเขา
คมดาบแทงทะลุผ่านหน้าท้องของนาง เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด ชุดกระโปรงของนางเปียกชุ่มไปด้วยเลือด
ชิงซิ่งค่อยๆ ก้มลงมองไปที่หน้าท้องของตัวเอง ใบหน้าขาวซีด พลังชีวิตของนางสูญเสียไปพร้อมๆ กับเลือดที่หลั่งไหลออกมา
นางสูดลมหายใจเข้าลึก ลมหายใจเริ่มอ่อนล้าลงและเริ่มหอบ
ขาทั้งสองข้างของนางเริ่มยืนไม่ไหว แต่นางกลับพยายามฝืนทน แผ่นหลังของนางอิงอยู่บนร่างกายของเฮ่อโยว ชิงซิ่งก้มหน้าลงช้าๆ อ้าปากค้าง เลือดไหลทะลัก
“ชิง ชิงซิ่ง?” เฮ่อโยวเบิกตากว้าง ไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เห็นได้ เสียงของเขาสั่นเครือพูดไม่เป็นภาษา
นางกำนัลน้อยร่างกายบอบบางกว่าเขา ตัวเล็กกว่าเขาแท้ๆ แต่เพราะอะไร……คนที่มารับดาบแทนกลับเป็นนาง!
เฮ่อโยวที่รู้สึกว่าชิงซิ่งเกลียดเขามากมาโดยตลอด
เพราะเขามักจะหยอกล้อนางเล่นตลอด พูดจาไม่ดีกับนาง และคอยแกล้งนางอยู่เสมอ
ทำไมนางถึง……มารับคมดาบแทนเขาล่ะ?
เขากำลังฝันอยู่แน่นอน……ฝันไปแน่ๆ!
ตอนที่เฮ่อโยวยื่นแขนทั้งสองข้างของเขาไปกอดชิงซิ่งนั้น ร่างกายของนางได้เย็นไปทั้งตัวแล้ว มือของเขาเต็มไปด้วยเลือดของนาง ดาบเล่มนั้นยังปักอยู่กลางท้องของนาง เขาอยากจะดึงดาบนั้นออกมา แต่แค่จะสัมผัสเขายังไม่กล้า
“เป็นไปไม่ได้……นี่มันเป็นไปไม่ได้ ชิงซิ่ง เจ้าแกล้งข้าเล่นใช่หรือเปล่า?” เฮ่อโยวน้ำเสียงสั่นเครือ ร่างกายของเขาสั่นเทาไปทั้งตัว น้ำตาหลั่งไหลจากดวงตา หยดลงบนท้ายทอยของชิงซิ่ง
เฮ่อโยวสูดลมหายใจเข้า พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “เจ้าแกล้งข้าเล่นอยู่แน่ๆ……เจ้ากำลังเอาคืนข้า……”
ใบหน้าของชิงซิ่งขาวซีดราวกับกระดาษ เหงื่อซึมทั้งหน้า เธอยิ้มขึ้นบางเบา ดวงตาคลอเบ้าไปด้วยน้ำตา แล้วพูดขึ้นว่า : “เจ็บจังเลย……หนาวเหลือเกิน……”
เฮ่อโยวกอดนางแนบแน่น พร้อมกับพูดขึ้นว่า : “ไม่หนาว ไม่หนาว เจ้าจะไม่เป็นอะไร! ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย!”
เฉินเสียนมองด้วยสายตาอันเจ็บปวด จะเข้าไปดูอาการของชิงซิ่ง เพียงแต่ถูกซูเจ๋อรั้งไว้ก่อน
ซูเจ๋อพูดขึ้นด้วยเสียงเบาบาง : “ไม่มีประโยชน์”
ดาบเล่มนั้นคร่าชีวิตของชิงซิ่งอย่างจัง ไม่ว่าหมอเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อาจดึงชีวิตนางกลับมาได้
ก่อนหน้านี้เฉินเสียนไม่ชอบชิงซิ่งที่คอยตามดูแล เพราะชิงซิ่งเป็นคนที่ฝ่าบาทส่งมาอยู่ข้างกายคอยติดตามเธอ แต่พอนานวันเข้า นางก็มีความน่ารักในแบบของนาง
โดยเฉพาะฉากที่ชิงซิ่งมารับคมดาบแทนเฮ่อโยวอย่างไม่กลัวตาย รู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
เฉินเสียนจับมือของซูเจ๋อไว้แน่น พยายามอดทนเพื่อที่จะไม่เดินเข้าไป
นี่เป็นครั้งที่สอง ที่เห็นเฮ่อโยวร้องไห้อย่างหมดอาลัยตายอยากแบบนี้
เขาบอกว่าจะพาชิงซิ่งไปหาหมอ
แต่หมอก็มิอาจจะช่วยชีวิตของชิงซิ่งได้
จู่ๆ เฉินเสียนก็คิดขึ้นมาในใจ ว่าในตอนแรกเธอไม่ควรจะให้เฮ่อโยวไปสนิทกับชิงซิ่งหรือเปล่านะ
สิ่งที่โหดร้ายที่สุดคือเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกค่อยๆ ก่อตัวขึ้น แต่ตัวเองกลับไม่รู้ตัว พอมาถึงวินาทีที่จะต้องสูญเสีย กลับเพิ่งมารู้สึกตัวและรู้ใจตัวเอง แต่ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว
ถ้าหากเรื่องไม่เป็นแบบนี้ ชิงซิ่งก็คงจะไม่ไปรับคมดาบแทนเขาอย่างไม่คิดชีวิตแบบนี้
ในขณะที่เฮ่อโยวกอดชิงซิ่งจากด้านหลัง ชิงซิ่งรู้สึกว่าร่างกายที่แทบจะเย็นทั้งตัวของนางได้รับไออุ่นมานิดหน่อย
เธอก้มหน้าลง ทั้งน้ำตาและเลือดที่ออกมาจากปากไหลลงบนหลังมือของเฮ่อโยว
คอมเม้นต์