ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 317 ข้าก็ไม่เคยเพ้อฝันว่าตัวเองจะต้องเป็นคนดี

อ่านนิยายจีนเรื่อง ข้าคือหงส์พันปี ตอนที่ 317 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เฉินเสียนขบกรามแน่น สายตาจับจ้องอยู่ที่ซูเจ๋อ แล้วกล่าวต่อไปว่า “ไม่รู้ว่าหลายวันที่ผ่านมา ท่านรู้สึกอย่างไรกับที่ต้องเห็นผู้คนทยอยตายตามกันไปมากมาย

ท่านสามารถช่วยพวกเขาได้แท้ๆ แต่ท่านกลับมองพวกเขาไปตายอย่างไม่สะทกสะท้าน ซูเจ๋อ ในใจท่านไม่รู้สึกผิดบ้างหรือ? พวกเขาทั้งหมดต้องตายเพราะท่านนะ”

ผ่านไปเนิ่นนาน ซูเจ๋อกล่าวว่า “โรคระบาดในเมืองจิงเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน จำนวนการตายอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ หากข้าบอกว่าข้าไม่ใส่ใจไยดีกับการตายของพวกเขา คงต้องทำให้ท่านผิดหวังแน่แท้ รู้สึกว่าข้าเป็นคนจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่า สุนัข แต่ว่าเดิมทีข้าก็เป็นคนประเภทนี้อยู่แล้ว”

“ไยท่านต้องทำเช่นนี้ให้ได้”

“เพราะข้าต้องการให้ท่านไปช่วยพวกเขา” ซูเจ๋อตอบเธอ “ข้าต้องการให้ท่านเป็นผู้สูงศักดิ์ในใจพวกเขา กลายเป็นความหวังของพวกเขา ข้าหวังว่าความเมตตากรุณาของท่านจะได้รับการสนับสนุน สรรเสริญจากประชาทิศใต้”

เขาก้าวเดินมาหาเฉินเสียนทีละก้าว ดวงตามืดครึ้มลุ่มลึกราวน้ำหมึก กล่าวว่า “อันที่จริงขอเพียงทำให้ท่านบรรลุเป้าหมาย ให้ใช้กี่ชีวิตเข้าแลก ข้าก็ไม่ใส่ใจ”

เฉินเสียนน้ำตาคลอ “ข้ารู้เป้าหมายของท่านมาโดยตลอด ข้าก็หวังว่าสามารถร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่าน ไม่ว่าต้องพยายามเพียงใดข้าก็ยินดี ข้ารู้ว่าท่านอยากให้ข้าได้ใจมวลประชา ขอเพียงท่านต้องการ ข้าก็เต็มใจทำตาม

แต่ข้าอยากได้ผลสำเร็จจากความมุมานะของข้าเอง ไม่ใช่วิธีเช่นนี้ของท่าน ท่านประเคนใจประชาให้ข้าโดยใช้ชีวิตผู้คนแลกมา ข้าไม่อยากได้”

ซูเจ๋อยืนอยู่ด้านหน้าเธอ ก้มหน้าแล้วเอื้อมมือจูงเธอขึ้นมา

ทว่าเฉินเสียนกลับหลบไปอีกทาง

ซูเจ๋อหลุบตามองมืออันว่างเปล่าของตน พลางเอ่ยด้วยความเศร้ารันทด “ข้าไม่เคยเพ้อฝันว่าตัวเองจะเป็นคนดี อาเสียน ขอโทษ ข้าทำให้ท่านผิดหวังแล้ว”

เฉินเสียนข่มเสียงสะอึกสะอื้นสุดความสามารถ เอ่ยเสียงแหบพร่า “ซูเจ๋อ ท่านกระทำเยี่ยงนี้ แปดเปื้อนเลือดทั่วทั้งตัว น่ากลัวยิ่งกว่าติดโรคระบาดเสียอีก”

“ข้ารู้ว่ากรรมต้องสนองข้าไม่ช้าก็เร็ว” ซูเจ๋อยิ้มด้วยความเปล่าเปลี่ยว “ถึงยามนี้ข้าก็ไม่รู้ว่ามีคนตายในเงื้อมมือข้ากี่คน ข้านับไม่ถ้วน อาเสียน ข้าฆ่าคนเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าชอบฆ่าคน”

เสียงของเขาพัดผ่านศีรษะเธอ ยังคงให้ความรู้สึกเย็นสบายเช่นเคย “เพียงแต่ข้ากลับไปไม่ได้แล้ว ข้าต้องบรรลุเป้าหมายเท่านั้น ขอเพียงสามารถเอาของที่ท่านสูญเสียกลับคืนมา แม้เลือดนองปฐพีอีกครั้ง ข้าก็ยินดี เมื่อเทียบกับการสู้รบของสองแคว้น การนองเลือดในครั้งนี้ก็นับว่าเป็นความเสียหายอันน้อยนิด”

เฉินเสียนเงยหน้ามองใบหน้าอันเลือนรางที่ถูกเปลวไฟสาดส่อง เอ่ยว่า “แต่ข้าไม่อยากให้ท่านทำเช่นนี้ ข้าไม่อยากให้ท่านใช้วิธีโหดเหี้ยมเยี่ยงนี้

เดิมทีข้าคิดว่า สิ่งที่ท่านเอ่ยว่าจะช่วยข้าช่วงชิงของสกปรกพวกนั้นกลับคืนมา ข้าคิดว่าเป็นเพียงอำนาจที่ต้องวางเล่ห์กลอุบาย แต่หารู้ไม่ว่า ไม่เพียงแต่อำนาจเท่านั้น ยังต้องโหดเหี้ยมถึงขั้นเห็นชีวิตไพร่ฟ้าเป็นปลวกมด”

นิ้วมืออันอบอุ่นของซูเจ๋อเช็ดน้ำตาเธอง พลางพูดเสียงอ่อนนุ่ม “อาเสียน มวลประชาต้องเก็บอยู่ในใจท่าน ไม่ใช่ข้า ท่านกับข้าต่างกัน ในอีกไม่ช้า ชื่อเสียงของท่านต้องประจักษ์แก่ผู้คน ส่วนข้าก็ได้แต่เดินเหินอยู่ในความมืดมน”

คำพูดของซูเจ๋อบีบหัวใจเฉินเสียนให้ปวดร้าวยิ่งนัก

ผู้ที่เดินอยู่ในความืดมิดคนเดียวมานาน เฉินเสียนคิดว่าเธอรู้จักความตื้นลึกหนาบางของเขาดี แต่เสียดาย ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! เธอไม่รู้ว่ายามที่ซูเจ๋อเดินอยู่ในความมืดมนโดยลำพังจะรู้สึกโดดเดี่ยวเท่าใด

“ท่านลงมือได้ แต่ข้าทำไม่ได้……ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตเพื่อข้า เพราะท่าน”

ซูเจ๋อขยิบมุมปากกล่าวว่า “ท่านไม่มีคุณสมบัติเป็นคนเลว แต่ข้ามี ไม่ตกอยู่ในเหตุการณ์เฉกเช่นอยู่ในขุนนรก ไฉนเลยจะได้ลิ้มรสการถูกปลดปล่อยจากความสิ้นหวัง ข้าคือผู้ที่ลากทุกคนลงไปในแดนนรก ส่วนท่านคือผู้ที่ช่วยปลดปล่อยพวกเขา”

เพื่อการใหญ่ของเธอ เขาสามารถปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นคนโหดร้ายที่ไร้สามานย์สำนึกอย่างไม่เสียใจ

ซูเจ๋อกล่าวว่า “อันที่จริงท่านอยู่กับข้าไม่ต้องทำเรื่องเลวร้ายใดๆ ข้าจะเป็นฝ่ายทำเอง ท่านทำแต่เรื่องดีงามก็เพียงพอ”

ช่วงเวลานี้เฉินเสียนน้ำตาไหลรินไม่หยุด

เธอรู้มาโดยตลอดว่า การวางแผนอย่างยากลำบากของซูเจ๋อทั้งหมด ล้วนทำเพื่อเธอด้วยกันทั้งสิ้น

เธอเคยพูดว่า แม้เขาจะเป็นคนเลวระยำที่สุดในปฐพี แต่ในสายตาเธอเขาไม่ได้เลวไม่เสียหมด เพราะเธอไม่มีทางหวาดกลัวได้เลย

เธอทำให้ซูเจ๋อกลายเป็นสภาพนี้

ถ้าเกิดไม่ใช่เธอ ซูเจ๋อคงไม่ต้องดิ้นรนวางแผนอย่างตรากตรำเช่นนี้

ไม่มีผู้ใดเป็นคนเลวตั้งแต่แรก

หากเสาะหามูลเหตุ เธอ เฉินเสียนคือผู้ร้ายที่แท้จริง เพราะเธอ จึงทำให้ซูเจ๋อค่อยๆกลายเป็นสภาพนี้

เฉินเสียนขดตัวอยู่ในมุมห้อง แล้วร้องไห้ฟูมฟายอย่างทุกข์ใจ

ยกเว้นครั้งที่เจอะเจอก้อนหินมหึมา เธอก็ไม่เคยร้องไห้หนักหนาสาหัสปานนี้มาก่อน

ซูเจ๋อรู้สึกร้อนรน อยากไปกอดเธอเพื่อปลอบใจเธอ แต่ก็กลับเธอปฏิเสธ

ซูเจ๋อกล่าวว่า “อาเสียน ไม่ต้องร้อง”

เฉินเสียนมองหน้าเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่รู้ว่าสุดท้ายข้าควรโทษท่านหรือตัวเอง เหมือนข้าจะเป็นคนเลวที่สุดคนนั้น”

ซูเจ๋อเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ท่านไม่ได้ทำอันใดเลย ท่านจะเลวได้อย่างไร”

“แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะข้า”

เธอเอ่ยเสียงสะอื้นว่า “ข้าคิดเสมอว่าสักวันหนึ่ง ท่านจะกลับไปเป็นบัณฑิตบริสุทธิ์ผู้นั้น ยืนหันหน้ามามองข้าอยู่ใต้ต้นหวู่ถง ท่าทางที่ท่านยืนอยู่ริมหน้าต่างในสำนักศึกษา”

ซูเจ๋อส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอย่างเจือจาง “ที่แท้ท่านลืมรูปลักษณ์เช่นนั้นของข้าไม่ได้ อานาคตข้างหน้าอาจจะ……” แววตาลุ่มลึกของเขามีความดิ้นรนแวบผ่าน “ข้าไม่มีทางกลับไปเป็นเช่นนั้นแล้ว พื้นเย็น ข้าอุ้มท่านไปยังเตียงดีหรือไม่?”

ตอนที่เฉินเสียนหลบเขา เขาก็มีความรู้สึกหวาดระแวงบางครั้ง มองสองมือที่ว่างเปล่า เขาก็หวาดหวั่นว่าสักวันหนึ่งสตรีตรงหน้าจะกลายเป็นของผู้อื่น

เฉินเสียนไม่ได้ตอบ

ซูเจ๋อค่อยๆโน้มตัวเข้ามาจนเธอติดอยู่ใต้โต๊ะ เธอถูกซูเจ๋ออุ้มอยู่ในอ้อมแขนอย่างหนีไม่ได้และไม่คิดหนี จากนั้นก็อุ้มเธอไปยังเตียง

ซูเจ๋อกล่าวว่า “อาเสียน นอนเถอะ พรุ่งนี้ตื่นมาก็จะดีเอง ท่านลืมสิ่งที่ไม่มีความสุขและเลวร้ายพวกนั้นได้” ผ่านไปสักพัก เขาพูดเสียงแหบพร่าอีกประโยคว่า “และสามารถลืมข้าที่ทำให้ท่านเสียใจได้ ขอแค่ท่านมีความสุขก็พอ”

เฉินเสียนนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียง

เขากล่าวว่า “การอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันนั้นเป็นหมือนดังสายน้ำที่ค่อยๆไหลทีละนิด แต่ไหลยาวนาน ซึ่งข้าคงไม่มีวาสนาเช่นนั้น หากอนาคตข้าต้องเดินเพียงลำพัง ก็ยังคงเป็นดังที่ผ่านมา วันที่ไม่มีท่าน มากสุดก็ไม่พบแสงสว่าง มีความมืดมนเพิ่มขึ้นอีกนิดเท่านั้น”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด