ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 318 ซูเจ๋อ ข้าอยากนอนกับท่าน
ดวงตาเฉินเสียนแดงก่ำ เอ่ยเสียงแหบพร่า “ท่านจะให้ข้าลืมท่าน?”
“ท่านกับข้าหากเป็นเพียงราชากับขุนนาง ท่านก็ไม่ต้องปวดใจขนาดนี้”ซูเจ๋อเอ่ยเสียงอ่อนเบาไปพลาง ช่วยเธอเช็ดน้ำตาไปพลาง
ตอนเขาลดมือลงกลับถูกเฉินเสียนจับไว้กะทันหัน
เฉินเสียนจับมือซูเจ๋อไว้แน่น เอ่ยเสียงสะอื้นที่เจือความสั่นเทา “ท่านถึงกลับให้ข้าลืมท่าน ซูเจ๋อ ท่านคิดว่าจะลืมท่านง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ซูเจ๋อชะงัก
“ท่านคิดว่าหลังจากทำเรื่องพวกนี้แล้ว เพียงคำว่าลืมก็จะสามารถลบล้างทุกสิ่งอย่างงั้นหรือ? ซูเจ๋อ ข้าขอบอกไว้เลย ชาตินี้ท่านอย่าได้หวังเลย”
ซูเจ๋อเอ่ยเสียงแผ่วเบาด้วยความสงสาร “ท่านคิดว่าข้าอยากได้นักหรือ ข้าเพียงแต่เห็นท่านเสียใจไม่ได้”
เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป หลับตาอยู่ในฝ่ามือของเขา ร่ำไห้เสียงแผ่วเบา “จนถึงยามนี้ข้ายังจำได้ดี ท่านกับข้าถูกฝังอยู่ใต้กองก้อนหิน ความรู้สึกสิ้นหวังที่ข้าได้ในยามนั้น ข้าไม่ได้รู้สึกเป็นครั้งที่สองอีกในภพนี้”
“ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงรู้สึกปวดใจ? ข้าเกลียดชังที่ท่านหลอกข้า เกลียดที่ท่านเห็นชีวิตเป็นผักปลา ไร้ความปรานี แต่สิ่งพวกนี้……ไม่ได้เจ็บปวดเท่ากับที่สูญเสียท่านเลย……ชีวิตผู้อื่นก็เป็นชีวิต ถึงกระนั้นไม่มีชีวิตผู้ใดสำคัญไปกว่าท่านอีกแล้ว”
ยามนี้เธอย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่ใกล้จะสูญเสียเขา เธอไม่มีความกล้าที่จะยอมรับความจริงได้เลย
ไม่ว่าเขาจะเป็นเยี่ยงไร ถึงแม้เขาจะเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายและอำมหิตเยือกเย็น ทว่าเขาก็คือซูเจ๋อ
เฉินเสียนสบตาเขา พลางเอ่ยว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าข้ากลัวสิ่งใด หากกลัวท่านเดินมือเปื้อนเลือดในความมืดมนผู้เดียวนานเกินไป สุดท้ายก็ไม่อาจเดินเป็นเพื่อนข้าได้ ซึ่งท่านเคยรับปากข้าแล้วว่า ภายภาคหน้าไม่ได้มีท่านเพียงคนเดียวแล้ว ท่านตั้งชื่อให้เจ้าน่องน้อยแล้ว อีกหน่อยพวกเราต้องเป็นครอบครัวเดียวกันแน่ๆ……หากทั้งหมดทั้งมวลที่ท่านกระทำเพื่อข้า แล้วใครทำเพื่อท่านล่ะ?”
ซูเจ๋อเอ่ย “ไม่ใช่ยังมีท่านหรอกหรือ ข้าทำเรื่องเลวร้าย แต่ยังมีท่านคอยตามแก้ไขอยู่ด้านหลัง คอยชดเชยแทนข้า เช่นนั้น ข้าคิดว่าแม้จะมีกรรมตามสนอง สวรรค์ก็คงเมตตาข้าบ้าง”
“ไม่ได้” เฉินเสียนส่ายหัว “ต้องเป็นข้าที่ได้รับผลกรรม เพราะท่านทำเพื่อข้า บ่อเกิดของเรื่องคือข้า ข้าไม่อยากเห็นท่านเกิดเรื่องที่สุด”
“หากวันนั้นมาถึง” ซูเจ๋อเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าจะไม่ให้ท่านเห็น”
“ซูเจ๋อข้าปวดหัว” เฉินเสียนสูดลมหายใจเข้า เอ่ยว่า “เข้ามาอุ้มข้า”
ซูเจ๋ออึ้ง เห็นน้ำตาเธอไหลก็ค่อยๆเอื้อมมือเข้าไปกอดเธอแนบแน่น
“อาเสียน ท่านไม่คิดบัญชีกับข้าแล้วหรือ?”
“ต้องคิด แต่ยามนี้ข้ารู้สึกสับสนไปหมด ยังคิดไม่ออกในทันที……ข้าจะไว้ค่อยๆคิดบัญชีภายหลัง” เธอสับสน รู้สึกมืดแปดด้าน ทุกอย่างพร่ามัวไม่ฉายชัด แม้กระทั่งสาเหตุที่เธอเศร้าโศกเสียใจก็ค่อยๆเลือนราง
เธอก้มหน้าอยู่ในอกกว้างของเขา หายใจลึกๆเบาๆ
“เมื่อก่อนข้าคิดว่าข้าตกหลุมรักบุรุษผู้สมบูรณ์แบบที่สุดในใต้หล้า เขาเป็นผู้ซื่อสัตย์ผ่องใส ทั้งยังเป็นผู้มีอานุภาพประดุจอัสนีบาต ไม่ใช่เพราะข้าลืมท่าทางซื่อสัตย์ผ่องใสของเขาไม่ได้ ข้าแค่อยากให้เขามีชีวิตสงบสุขก็เท่านั้น”
“แต่ข้าค่อยๆรู้สึกว่า กลิ่นอายสงบเงียบในเรือนร่างเขาเริ่มเจือจางและมีไอเลือดเข้ามาทดแทน ตอนนี้ข้ารู้สึกว่า ผู้ที่ข้ารักคงไม่ใช่บุรุษที่สมบูรณ์แบบที่สุดในใต้หล้า หากแต่เป็นบุคคลสมบูรณ์แบบที่ไม่สมบูรณ์แบบ” ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! “ข้ามีความสุขมากที่ได้ยินท่านพูดเช่นนี้ เสียดายก็แต่ราตรีนี้ท่านดื่มสุรา”
“ไม่เกี่ยวกับดื่มสุรา ข้ามีสติรู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรดี”
“หากไม่ได้ดื่มสุรา คาดว่าคงไม่ได้ยินวาจาที่เปล่งออกมาจากปากท่านเช่นนี้ อาเสียน ท่านช่วยข้าสักเรื่องได้หรือไม่?” ซูเจ๋อเอายาทาส่งให้เฉินเสียน
“ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาส ตอนนี้แผลบนหลังข้ากลายเป็นรอยแผลเป็นแล้ว ข้าเอื้อมไปไม่ถึง ท่านช่วยข้าทาหน่อยได้หรือไม่?”
ยาที่เขาส่งให้เธอคือยาทารอยแผลเป็น
ยาตัวนี้ได้ผลดีเยี่ยม ซูเจ๋อเป็นผู้คิดค้นและทำเองกับมือ ซึ่งเฉินเสียนก็เคยใช้มาก่อนแล้ว ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนก็จะทำให้รอยแผลเป็นจางหายอย่างไร้ร่องรอย
เฉินเสียนก้มหน้ามองยาทาในมือ ถามว่า “เหตุใดต้องทา?”
ซูเจ๋อค่อยๆคลายสายคาดเอวออก เอ่ยว่า “หากเก็บไว้มีคนมาพบเห็นเข้าคงยุ่งยาก”
ไม่มีรอยแผลเป็นทั่วเรือนร่างของเขามาโดยตลอด ในสายตาผู้อื่นเขาจึงเป็นบัณฑิตผู้ไร้พลังกำลังเสมอมา
เฉินเสียนยกปลายนิ้วแตะหน้าอกของซูเจ๋อ รู้สึกล่ำสันกว่าที่เธอจินตนาการเสียอีก เธอลอดมือผ่านเอว แล้วไปแตะแผ่นหลังของซูเจ๋อ
เมื่อมือของเฉินเสียนสัมผัสแผ่นหลังของเขา มือเธอเคลื่อนย้ายอยู่บนรอยแผลเป็นของเขา ถึงแม้ไม่มอง เฉินเสียนก็จำตำแหน่งได้ชัดเจน
ซึ่งแผลพวกนี้ล้วนเกิดจากการที่ซูเจ๋อปกป้องเธอ หัวใจเธอรู้สึกเจ็บปวดทรมาน
เธอถามเสียงแหบด้วยมือสั่นเทา “ไม่ทาได้ไหม เก็บไว้ให้ข้า”
ซูเจ๋อเอ่ยเสียงอ่อนนุ่ม “เก็บไว้มีประโยชน์ดันใด เพื่อให้ท่านรู้สึกเสียใจรู้สึกผิดหรือ? รอยแผลเป็นพวกนี้เกิดจากท่านและสามารถหายด้วยท่านได้ ภายหลังก็ไม่เจ็บอีกแล้ว”
“ข้าไม่เอา” เฉินเสียนเอ่ยอย่างดื้อดึง “ท่านเป็นของข้า แม้แต่รอยแผลนี่ก็เป็นของข้า ข้าจะเก็บไว้”
“อาเสียนคงไม่รู้สึกว่าข้าต่ำทรามสินะ” ซูเจ๋อกล่าวเสียงต่ำ “ข้าอาจจะใช้รอยแผลเป็นพวกนี้มาสยบท่าน ทำให้ท่านไม่อยากจากข้าไป”
เฉินเสียนหัวเราะด้วยน้ำตา “ท่านเอ่ยปากออกมาแล้ว จะถือว่าต่ำทรามได้เยี่ยงไร ท่านไม่ใช้วิธีกลอุบายอะไร ข้าก็ไม่จากท่านไปไหน”
เธอพูดจบก็สวมกอดเอวของเขา ดึงเขาเข้ามาใกล้ตน
เฉินเสียนนอนอยู่บนเตียง ซูเจ๋อกะพริบตาปริบๆกดทับร่างเธอไว้
ดวงตาประกายแวววาวของเธอช่วงน่าหลงใหลยิ่งนัก หยดน้ำตาใสไหลลงมาจากหางตาแล้วซึมเข้าในเส้นผม
เฉินเสียนกล่าว “ซูเจ๋อ นับจากนี้ไม่ว่าจะไปแห่งหนใด ข้าจะตามท่านไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแดนนรกหรือสรวงสวรรค์ ท่านอย่าคิดทิ้งข้าเด็ดขาด
ข้าอยากร่วมนับวันที่จะได้จูงมือใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับท่าน
แม้ไม่มีวันเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร สรุปก็คือไม่อาจให้ท่านเดินอยู่ในหนทางอันมืดมนเพียงผู้เดียว
หากข้ามีชื่อเสียงเรียงนามส่องแสงไปทั่วสารทิศ ข้าก็สามารถให้แสงสว่างในทางที่ท่านเดิน ใช่หรือไม่
หากเป็นเยี่ยงนี้ ข้าจะทำให้ท่านสมปรารถนา”
เฉินเสียนลูบไล้แผลเป็นบนแผ่นหลังของซูเจ๋อไปมา
เธอยกคางไปประกบริมฝีปากจูบเขาเป็นเชิงรุก ซึ่งแผ่ซ่านความร้อนรุ่มและพลังทั้งหมดของตัวเองผ่านริมฝีปากไปให้เขาอย่างเต็มที่
เธอกอดแผ่นหลังซูเจ๋อแนบแน่น หายใจเหนื่อยหอบเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้า มองแววตาลุ่มลึกของเขา มองใบหน้าที่มืดบ้าง สว่างบ้างของเขา อ้าปากพูดเสียงแหบว่า “ซูเจ๋อ ข้าอยากนอนกับท่าน อยากคืนนี้เลย ตอนนี้เลย ท่านให้ข้านอนไหม?”
ร่างกายซูเจ๋อแน่นตึง ยื่นนิ้วผ่านเรือนผมเธอแล้วจับท้ายทอยเธอไว้ ก้มหน้าจูบเธอ แล้วเริ่มจูบกับเธออื่นดุเดือด
คอมเม้นต์