ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 387 วัยรุ่นกระฉับกระเฉงเหรอ มีกำลังแข็งแกร่งเหรอ
วันนี้เขากลับไปที่เรือน พบว่าที่เรือนหลักมีสาวใช้ที่ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลอยู่สองคน สาวใช้นี้เป็นบรรดาสาวใช้ในจวนที่ถูกคัดเลือกมา มีรูปลักษณ์เรือนร่างที่โดดเด่นนัก
ว่ากันว่า สองสาวใช้นี้มาเพื่อปรนนิบัติดูแลชีวิตส่วนตัวของเขา
ฉินหรูเหลียงในใจรู้สึกโกรธมาก เรื่องแบบนี้คงมีแค่เฉินเสียนเท่านั้นที่จัดการได้ เขาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเป็นคนอื่น
ผู้หญิงคนนี้ ทนรอไม่ไหวที่จะผลักไสเขาไปหาผู้หญิงคนอื่นหรือ? เพียงแค่จูบเธอเท่านั้น ต้องแก้แค้นถึงขั้นนี้เชียวหรือ!
สุดท้ายฉินหรูเหลียงก็ส่งสาวใช้ทั้งสองออกไปจากเรือน
เมื่อเรื่องนี้ได้แพร่กระจายออกไป เฉินเสียนก็มีเรื่องให้พูดอีก บอกว่าเขายังคิดถึงคนเก่า คนอื่นไม่มีทางถูกตาต้องใจเขาได้
เมื่อเฉินเสียนเริ่มสงบสติอารมณ์ลง อวี้เยี่ยนก็พาเธอมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจที่สวนดอกไม้ และพบกับฉินหรูเหลียงที่ทางเดินแคบ ๆ อย่างบังเอิญ
คนใช้ในสวนดอกไม้ต่างพากันยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดอย่างขะมักเขม้น
เมื่อสองคนมาบรรจบพบกัน ตาคลอเป็นสีแดง เฉินเสียนยังไม่ทันพูดอะไร ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตา
ฉินหรูเหลียงขมวดคิ้วและกัดฟันพูดออกมา “เจ้าแสร้งทำเกินไปหรือเปล่า? สาวใช้สองคนนั้นหมายความว่าอย่างไร?”
เฉินเสียนนำผ้าเช็ดหน้ามาคลุมบริเวณมุมปาก และพูดเป็นเสียงเบาว่า “นี่ก็เพื่อให้ท่านผ่อนคลายความเหงาไง ทำไมหรือ พวกเขาปรนนิบัติให้ท่านไม่เป็นที่พอใจหรือ? หรือท่านยังติดใจกลยุทธมัดใจของเหมยอู่เมื่อก่อนนั้น ไม่งั้น ข้าจะส่งพ่อบ้านออกไปตามหาเธอกลับมา?”
“เฉินเสียน!” ฉินหรูเหลียงมีท่าทีรุนแรงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถเผยออกมาได้ “ข้าต้องการผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ ผ่อนคลายความเหงาอะไรกัน!”
เฉินเสิยนก้มศีรษะลงหัวเราะชอบใจอย่างชั่วร้าย และกล่าว “วัยรุ่นกระฉับกระเฉงเหรอ มีกำลังแข็งแกร่งเหรอ ข้าเข้าใจ ท่านไม่ต้องปกปิดแต่อย่างใด พรุ่งนี้ข้าจะนำให้ท่านเลือกที่ถูกใจท่าน”
ฉินหรูเหลียงดูออก เขายิ่งโกรธ ผู้หญิงคนนี้ก็ยิ่งมีความสุข
เขาระงับความโกรธของตัวเองลง เพื่อไม่ให้เธอได้ใจ หายใจเข้าลึก ๆ สองครั้งก่อนที่ใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นปกติ และยิ้มออกมาพร้อมกล่าวว่า “เจ้าก็รู้ว่าที่ถูกใจข้ามีเพียงเจ้าคนเดียว ไม่อย่างงั้นเจ้าส่งตัวเจ้ามา ข้าก็จะยินดีมาก”
แน่นอนว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินเสียนหายไป “ฉินหรูเหลียง ท่านอยากตายใช่ไหม?”
ฉินหรูเหลียงโน้มตัวเล็กน้อย ร่างสูงของเขาทำให้ร่างของเฉินเสียนดูอ่อนไหวและนุ่มนวล เขาโค้งตัวไปข้างหูของเฉินเสียนและกล่าวว่า “ตั้งแต่ที่ข้าได้จูบและลิ้มรสลิ้นที่แสนหวานของเจ้าเมื่อคราวก่อน ต่อให้ข้าฝันผู้หญิงคนเดียวที่ข้าอยากได้ก็คือเจ้า”
เฉินเสียนตกใจ ต่อมาก็ไม่ได้สนใจสถานที่ และลงมือทุบตีฉินหรูเหลียง
ทั้งสองคนทะเลาะกันในสวนดอกไม้แทบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
เป็นผลให้สาวใช้ที่สวนดอกไม้ได้เห็นกับตาของตัวเอง ท่านแม่ทัพและองค์หญิงน่าจะเป็นศัตรูคู่แค้นกันแล้ว
องค์จักรพรรดิรอมาเป็นเวลาห้าวันแล้ว ไม่มีวี่แววว่าเฉินเสียนจะล้มหมอนนอนป่วยแต่อย่างใด แต่กลับได้ยินข้าวว่าฉินหรูเหลียงวางยาพิษแต่ถูกจับได้ก่อน ตอนนี้ทั้งสองคนมองหน้ากันไม่ติด
แน่นอน เฉินเสียนยังมีชีวิตอยู่
เมื่อฉินหรูเหลียงเข้าไปในวังเพื่อรับโทษ องค์จักรพรรดิมีสีหน้าที่แข็งทื่อ ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! องค์จักรพรรดิตรัสอย่างโมโห “เจ้าเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ ทำการใดควรระมัดระวัง ทำไมถึงปล่อยให้ผู้หญิงคนเดียวรับรู้ได้?!”
ฉินหรูเหลียงตอบ “กราบบังคมทูลฝ่าบาท เรื่องอื้อฉาวในบ้าน ยากที่จะบอกเล่าออกมาพ่ะย่ะค่ะ”
“พูด!”
“ตั้งแต่ที่กลับมา เธอก็หวาดระแวง หม่อมฉันขับไล่อนุภรรยาออกไปแล้วเธอก็ยังไม่หยุด ยังคงคิดแต่เพียงว่าหม่อมฉันอยากจะกลับไปคืนดีกับอนุภรรยาอีก…” ฉินหรูเหรียงลดศีรษะลงด้วยความละอาย
“ครั้งนี้ที่หม่อมฉันนำซุปไก่ไปให้องค์หญิง องค์หญิงก็เริ่มสงสัยว่าเหตุจูงใจอื่นที่ซ่อนเร้น บวกกับแมวที่ตายไป ทำให้เธอนำไปเป็นข้ออ้างได้ และไม่เสวยของที่หม่อมฉันส่งไปให้อีกเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้หญิงถ้าทำให้โมโหโกรธเคืองขึ้นมาก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้ แทบทนไม่ไหวที่จะทำให้ทุกอย่างวุ่นวายอลหม่าน
ครั้งนี้ฉินหรูเหลียงทำงานไม่สำเร็จ แต่เขาก็รับคำสั่งของจักรพรรดิไปปฏิบัติแล้ว ผู้สอดแนมในจวนแม่ทัพบอกว่า ในซุปไก่ที่เขานำไปให้เฉินเสียนได้ใส่โสมและหลีหลูสองอย่างนี้จริง
ตอนนี้เรื่องกลับกลายเป็นเช่นนี้ เหตุผลสำคัญส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวของเฉินเสียนเอง
ถึงแม้องค์จักรพรรดิจะโมโหมาก แต่ดูท่าทีก็ทำอะไรไม่ได้
ภายในท้องพระโรงอันเงียบสงัด ใครก็ไม่อาจรู้ได้ว่าองค์จักรพรรดิจะมีแผนการทำเช่นไรต่อไป
ไม่นานองค์จักรพรรดิตรัสขึ้น “ฉินหรูเหลียง เจ้าเป็นมือขวาของข้ามาโดยตลอด ครั้งนี้ออกทำศึกสงครามที่เย่เหลียง ข้าก็คาดหวังไว้สูงกับเจ้า แต่ไม่คาดคิดเลยว่า สุดท้ายเจ้าจะแพ้ศึกสงครามกลับมา แถมข้ายังต้องสูญเสียสามคูเมืองของต้าฉู่”
ใบหน้าของฉินหรูเหลียงสงบและเคร่งขรึมขึ้น กล่าวว่า “หม่อมฉันทำการรบไม่สำเร็จ ยินดีรับโทษพ่ะย่ะค่ะ”
องค์จักรพรรดิตรัส “เรื่องนี้ยังไม่ต้องพูดถึง เจ้านำทหารไปเป็นหมื่นชีวิต แต่สุดท้ายเกือบทั้งหมดต้องมาตายลงที่ทะเลทราย และผู้คนที่สูญเสียสามีและลูกของพวกเขาต่างก็เศร้าสลด เพียงแค่สังหารหลิ่วเชียนเฮ้อไม่สาสมต่อความโกรธของราษฎร”
“หม่อมฉันยินยอมให้ฝ่าบาทลงโทษพ่ะย่ะค่ะ”
องค์จักรพรรดิตรัส “เจ้าเป็นแม่ทัพที่รักของข้า ข้าลงโทษเจ้าไม่ลงหรอก แต่ข้าก็ไม่อาจทนเห็นประชาชนโศกเศร้าเสียใจอย่างไม่เหลียวแลไม่ได้ จะต้องมีคำอธิบายให้กับพวกเขา”
องค์จักรพรรดิตรัส เมื่อมองดูฉินหรูเหลียงที่กำลังคุกเข่าอยู่ในท้องพระโรง ในแววตาไม่มีการต่อสู้เคียงข้างกันในเหมือนในอดีต เพียงมองเหมือนมดเท่านั้น และตรัสว่า “วันนี้ข้าจะโยกย้ายเจ้าไปอยู่ที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่ และที่ข้าได้รับเอกสารลับที่ส่งมาจากพรมแดนทางใต้ เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำศึกสงครามที่พรมแดนทางใต้จะถูกส่งให้ศาลยุติธรรมต้าหลี่เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบ หากตรวจพบว่าเจ้าขาดตกบกพร่องหรือประมาทเลินเล่อต่อการออกศึกแม้แต่นิดเดียว ข้าจะจัดการตามกฏหมายของต้าฉู่ ไม่มีทางผ่อนปรน”
จากนั้นองค์จักรพรรดิก็สั่งให้คนมานำตัวฉินหรูเหลียงไปที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่
ท้องพระโรงดูว่างเปล่า จักรพรรดิประทับลงและตรัสกับขุนนาง “เรียกเฮ่อโยวฝ่ายพิธีการมาพบข้า”
เมื่อพูดถึงเฮ่อโยว ตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งที่ฝ่ายพิธีการ ก็มีความมุ่งมั่นและขยันขันแข็ง น่าเสียดายที่มีผลเพียงเล็กน้อย
คนในฝ่ายพิธีการไม่ให้ความร่วมมือกับเขา ต่อให้เขาอยากจะทำคะแนน ก็ช่างยากเย็นแสนเข็ญ
งานในวันปกติของฝ่ายพิธีการก็มีทั้งวัด สุสาน และรวมไปถึงเทศกาล พิธีการงานต่าง ๆ ในต้าฉู่ อีกประการหนึ่งคือการกระตุ้นให้มีมารยาทและระเบียบ เปลี่ยนแปลงกฎและระเบียบ ในวันปกติมักมีเรื่องต่าง ๆ นานา ให้ทำ แต่เรื่องใหญ่ ๆ มักมีเพียงไม่กี่เรื่อง
เฮ่อโยวอยู่ที่ฝ่ายพิธีการ แถมยังมีราชเลขาธิการอีกคนที่กดทับเขา เฮ่อโยวและราชเลขาธิการคนนั้นเคยทักทายกัน ดังนั้นมักจะชอบสร้างความลำบากใจให้เฮ่อโยว
เชื่อว่าอีกไม่นาน เฮ่อโยวคงทำได้แค่รับเงินเดือนในตำแหน่งและใช้ชีวิตไปวัน ๆ เท่านั้น
องค์จักรพรรดิจะลืมเขาในไม่ช้า
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า องค์จักรพรรดิจะยังเรียกหาเขา
หลังจากนั้นไม่นาน เฮ่อโยวก็เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิที่ท้องพระโรง
องค์จักรพรรดิถามสั้น ๆ เกี่ยวกับงานราชการที่เขาทำในช่วงนี้ และตรัสถามอย่างเบา ๆ “ความสัมพันธ์ของเฮ่ออ้ายชิงและองค์หญิงจิ้งเสียนเป็นอย่างไรบ้าง”
เฮ่อโยวเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่อ่อนวัยของเขาไม่สามารถซ่อนความทะเยอทะยานของเขาได้ และกล่าวว่า “หม่อมฉันและองค์หญิงจิ้งเสียนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ได้รับความไว้วางใจจากพระองค์ ฝ่าบาทมีเรื่องอะไรจะรับสั่ง ได้โปรดตรัสบอก หม่อมฉันจะทำตามพระบัญชาของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์จักรพรรดิตรัสด้วยรอยยิ้ม “ดีมาก ข้าชื่นชมความกระตือรือร้นของเจ้า”
องค์จักรพรรดิรู้ดีว่าเฮ่อโยวยังวัยหนุ่ม รีบร้อนที่จะแสดงความสามารถและปล่อยออกมา เขาอยากได้ตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูง และต้องการโอกาสที่จะแสดงความสามารถของเขาออกมา
คอมเม้นต์