ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 432 ยังมีกะจิตกะใจนัดผู้ชาย

อ่านนิยายจีนเรื่อง ข้าคือหงส์พันปี ตอนที่ 432 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ทั้งที่องค์จักรพรรดิทำให้เขาเป็นเช่นนี้ แต่เขายังกลับซาบซึ้งในบุญคุณและพยายามหาทางที่จะตอบแทนบุญคุณ เฉินเสียนรู้ว่าทำเพื่อเป็นพิธีเท่านั้น ซูเจ๋อคงไม่รู้สึกกดดันกับเรื่องนี้ หนำซ้ำยังทำออกมาได้ธรรมชาติมากกว่าใคร ๆ

หากเป็นเธอ ก็สามารถขอบคุณศัตรูด้วยจิตใจที่สงบร่มเย็น เพราะท้ายที่สุดแล้ว เธอสงบลงกว่าเมื่อก่อนมาก

เพียงแต่เธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะอดทนไม่ไหวที่ต้องเห็นซูเจ๋อก้มหัวให้คนอื่น

เฉินเสียนขมวดคิ้วและกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “งั้นตอนนี้ท่านกำลังเตรียมจะเข้าวังหรือกลับออกจากวังมาแล้ว?”

ซูเจ๋อเห็นปฏิกิริยาอันละเอียดอ่อนของเธอในดวงตาของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “กลับออกมาจากวังเรียบร้อยแล้ว คิดว่าข้าไม่ควรเข้าวังไปเพื่อขอบพระทัย?”

เฉินเสียนกล่าว “ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าเขาไม่คู่ควร”

ซูเจ๋อยิ้มออก “แล้วใครคู่ควรล่ะ?”

“ใครก็ไม่คู่ควร” เฉินเสียนเหลือบไปมองเขา และเห็นว่าเขารู้สึกมีความสุขเล็กน้อย เธอจับปกคอเสื้อของเขาดึงเข้าหากันและกล่าวว่า “ท่านหนาวไหม? ยังจะพูดว่าออกจากวังมาก็ถือโอกาสแวะมาที่นี่ ทั้งที่จริงแล้วต้องอ้อมมาตั้งไกล เข้ามาดื่มชาร้อน ๆ ในห้องก่อนสิ”

ซูเจ๋อกุมมือของเฉินเสียนไว้ และจับริมฝีปากของเธอ เขาก้มศีรษะเล็กน้อย และบรรจงจูบอันอบอุ่นลงไประหว่างนิ้วของเธอ ดวงตาเรียวของเขาสว่างเป็นประกาย “ข้าขอพูดกับท่านไม่กี่คำก็จะกลับ”

เฉินเสียนรู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่นานได้ คืนนี้เขามาที่นี่ได้ก็ถือว่าเสี่ยงมากแล้ว เลยไม่บังคับและกล่าวกระซิบว่า “งั้นท่านมีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าล่ะ?”

ทั้งสองพึมพำท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย ชายผู้นั้นก้มศีรษะลงเล็กน้อย ฝ่ายหญิงก็เงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย ความลงตัวที่งดงามมากราวกับภาพที่สวยงามที่ดับด้วยเปลวเพลิง

ซูเจ๋อกล่าว “ได้ยินว่าท่านจะให้เอ้อร์เหนียงกลับไปที่ข้า”

“รอบกายท่านไม่มีคนดูแล ข้ากลัวว่าท่านจะประมาท ก็เลยจะให้เอ้อร์เหนียงกลับไปดูแลรับใช้ท่าน”

“ข้าไม่เป็นไร และก็ไม่ต้องการใครมาดูแล เอ้อร์เหนียงอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว มีหลายคนดูแลรับใช้ท่าน ข้าก็วางใจได้”

เฉินเสียนยังรู้สึกกังวลและกล่าวว่า “แต่บาดแผลบนร่างกายของท่าน ถึงแม้ท่านจะรู้วิธีรักษา แต่ท่านจะจะทำแผลตรงที่ตัวเองแตะไปไม่ถึงได้อย่างไร ใครจะต้มยาให้? ใครจะจัดเตรียมอาหารให้ และเตือนให้ท่านกินข้าว? แล้วใครจะ…”

ซูเจ๋อหัวเราะออกมา เสียงนั้นช่างน่าดึงดูดใจคน

เฉินเสียนมองไปที่เขาและกล่าว “ท่านหัวเราะอะไร หรือที่ข้าพูดไปมันไม่ใช่ปัญหางั้นหรือ? ท่านรู้ไหมข้าเป็นกังวลใจอย่างมาก กลัวว่าท่านจะไม่ดูแลตัวเองให้ดี”

นิ้วสีขาวของซูเจ๋อหยิบเกล็ดหิมะบนขมับของเธอและละลายเป็นรอยน้ำบนปลายนิ้ว เขายิ้มอย่างแผ่วเบา “อาเสียน ข้าเป็นผู้ชาย ไม่ได้บอบบางขนาดนั้น ที่ท่านพูดไม่ทั้งหมดนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย ข้าไม่ได้ไม่ชอบให้ใครดูแลรับใช้ ข้าเพียงแค่ไม่ชอบถูกดูแลรับใช้โดยคนอื่น”

เฉินเสียนกล่าว “แต่ข้าก็ไปดูแลท่านไม่ได้”

พูดแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ จู่ ๆ ก็คิดวิธีที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง คงจะดีหากเธอสามารถแปลงกายไปไม่ให้มีคนมองเห็นได้ก็คงดี ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็สามารถเข้าออกบ้านของเขาได้อย่างสบาย

“ได้ยินท่านพูดแบบนี้แล้วข้าก็รู้สึกสบายใจขึ้น เอ้อร์เหนียงก็ให้ดูแลรับใช้ท่านไป ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน!

เฉินเสียนเงยหน้าไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “ป้องกันอะไร?”

เธอพบว่าใบหน้านี้ช่างหล่อเหลาไร้ที่ติไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ซูเจ๋อมองไปที่ข้างหลังของเฉินเสียนและกล่าวว่า “แน่นอนว่าป้องกันบุคคลที่สาม”

ทันทีที่เสียงลดลง เฉินเสียนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังเธอ เฉินเสียนมองย้อนกลับไปและเห็นว่าฉินหรูเหลียงเดินเข้ามาในลานแล้ว เขายังยืนอยู่ท่ามกลางหิมะ มองที่กำแพงลานด้วยใบหน้าเคร่งขรึมราวกับผี

ฉินหรูเหลียงได้ยินเข้าและกล่าวว่า “ใครจะเป็นบุคคลที่สามยังไม่แน่ชัดตอนนี้ หากพูดออกมาเกรงว่าท่านจะไม่มีความสุข ข้าและเฉินเสียนเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่พวกท่านเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม” ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน!

ฉินหรูเหลียงกล่าวอย่างเย็นชา “ช้าคิดว่าท่านอ่านหนังสือจนเหนื่อยและหิวต้องการทานอะไร เห็นแบบนี้ท่านไม่ได้เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย แถมยังมีกะจิตกะใจนัดผู้ชายมา”

ในมือของเขาถืออาหารมื้อดึกที่จัดเตรียมไว้ให้เฉินเสียน ขณะที่เขาพูด เขาเดินเข้าไปในห้องที่สว่างไสวและกล่าวว่า “หลังจากพูดคุยจบก็เข้ามาทานอะไรสักหน่อย หิมะตกหนักยืนอยู่ข้างนอกไม่หนาวหรือไง”

ฉินหรูเหลียงเข้าไปแล้ว ซูเจ๋อก้มศีรษะลงมาจูบหน้าผากของเฉินเสียน และกล่าวอย่างนุ่มนวล “หิมะตกหนักแล้ว รีบเข้าไปเถอะ ข้าต้องกลับแล้ว”

เฉินเสียนรู้สึกหลงใหลที่เขาก้มศีรษะลงมา เธอสูดหายใจลึกและเอื้อมมือไปโอบศีรษะของเขา ขยี้ผมระหว่างนิ้วของเขา และปล่อยลง

เธอกล่าวกระซิบ “รอก่อน ข้าไปหยิบร่มมาให้ท่าน”

เฉินเสียนวิ่งกลับเข้ามาในห้อง หยิบร่มและวิ่งกลับออกไป เมื่อวิ่งออกมาถึงลานก็หยุดชะงักลง กำแพงดูว่างเปล่า และไม่มีแม้แต่เงาของซูเจ๋อ

เธอรู้สึกราวกับฝันไป ยื่นมือออกไปเพื่อจะลูบหน้าผาก มีเพียงความอบอุ่นจากศีรษะที่โค้งคำนับและจูบเท่านั้นที่ยังคงอยู่

อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ต้องให้เธอเห็นเงาของเขาที่กำลังเดินจากไป ดังนั้นเขาเลยเลือกที่จะออกมาตอนที่เธอหันหลังกลับเข้าห้องไปหยิบร่ม

ร่างสูงใหญ่ของฉินหรูเหลียงยืนขวางประตูห้องเอาไว้ เงาร่างเขาปกคลุมร่างผอมบางของเฉินเสียน

เขามองดูเธอที่โดดเดี่ยวอย่างลึกซึ้ง แล้วก้าวออกจากประตูแล้วลากเธอกลับมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหิมะแล้วกล่าวว่า “ท่านวางใจได้ เขายังสามารถเดินวิ่งได้คล่องแคล่ว คงไม่โดนหิมะมากเท่าไหร่ ไปเถอะ เข้าข้างในกัน”

หลังจากนั้นก็ลากเฉินเสียนเข้ามาในห้องด้วยกำลัง ฉินหรูเหลียงวางมือที่อุ่นในมือของเธออีกครั้ง หันหลังกลับมายกอาหารมื้อดึกให้เธอ “รีบทานสิยังร้อน ๆ อยู่เลย”

“ข้าไม่หิว ไม่อยากกิน”

“ทางที่ดีท่านรีบทานให้หมดเกลี้ยง ไม่อย่างนั้นคืนนี้ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่ในห้องนี้”

หลังจากนั้นข้าวต้มหนึ่งถ้วยและอาหารว่างสองอย่าง เฉินเสียนทานหมดไม่เหลือแม้แต่อย่างเดียว

ฉินหรูเหลียงยกถาดถ้วยเปล่าออกไป ดูเหมือนพึงพอใจและผิดหวังเล็กน้อย และกล่าวว่า “ทานจนสะอาดหมดจดเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้ข้าอยู่เคียงข้างท่านให้นานกว่านี้หรือ”

เฉินเสียนตกตะลึง

เธอไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของฉินหรูเหลียง เขาเปลี่ยนไปเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอไม่ได้ไม่เต็มใจที่จะอยู่กับฉินหรูเหลียง เพียงแค่หวังว่าเขาจะได้กลับไปพักผ่อนเร็ว ๆ แทนที่จะเสียเวลาอยู่ในห้องของเธอ

เพียงแค่เฉินเสียนไม่ทันได้อธิบาย งั้นก็ให้เขาคิดแบบนั้นไปก็ดีแล้ว

ตัดสินใจให้แน่นอน มันจะดีกว่าสำหรับเขา

เขาไม่ควรให้ตัวเองคิดคาดหวังแบบนี้ตั้งนานแล้ว

**

คดียักยอกทรัพย์ การติดสินบน ของเฮ่อฟังมีมูลค่ามหาศาลและสถานการณ์ก็ร้ายแรง อิงตามกฎหมายของต้าฉู่ไม่สมควรที่จะยกโทษให้ได้

แต่เพราะคำขอขององค์จักรพรรดิ กรมอาญาเลยยังไม่สามารถปิดคดีนี้ได้ แต่เรื่องนี้ยังไงก็ต้องหาทางออกให้ได้

ตอนนี้ทั้งเฉินเสียนและซูเจ๋อยังมีชีวิตอยู่ กลับต้องมาสูญเสียเฮ่อฟังไป องค์จักรพรรดิก็ไม่สบายใจอยู่ดี แม้ว่าคดีที่เฮ่อฟังก่อขึ้นจะเลวร้ายมาก แต่ก็เทียบไม่ได้กับสถานการณ์ปัจจุบันขององค์จักรพรรดิ

องค์จักรพรรดิยังต้องการให้เขาออกความเห็นคิดวิธีการ ถ้าคนรอบข้างเขาสูญเสียไป ก็จะยิ่งมีน้อย กลัวว่าเมื่อนั้นจะไม่มีใครให้ใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ ทำให้เขาจะถูกจำกัดมากกว่านี้

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด