ข้าคือหงส์พันปี – บทที่ 498 อาเซี่ยน เจ้าจะจากไปไม่ได้
เวลานี้เฉินเสียนรู้สึกว่าเกือบหายใจไม่ออก
หัวใจถูกมือข้างหนึ่งบดขยี้จนแหลกสลายอย่างไร้ความเมตตา
เธอฝืนเดินเข้าไปแล้วนั่งลงข้างเตียง ก่อนจะยื่นมือไปจับใบหน้าของเจ้าน่องน้อย น้ำเสียงเบาบางและอ่อนนุ่ม “เจ้าน่องน้อยของแม่ แม่กลับมาแล้ว”
เจ้าน่องน้อยไม่ได้ตอบสนองเธอ
เฉินเสียนโน้มตัวลงไปอุ้มเจ้าน่องน้อยขึ้นมากอดและตบไหล่เขาเบาๆ
เฉินเสียนเช็ดเลือดให้เขาด้วยความตื่นตระหนก กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ไปชนไปกระแทกที่ไหนมา เหตุใดจึงมีเลือดไหลมากเช่นนี้……”
“เจ้าน่องน้อย แม่กลับมาแล้ว” เฉินเสียนกล่าว
หมอหลวงในห้องพากันส่ายหัว ก่อนจะถอยออกมารายงานกับจักรพรรดิ “พิษองค์ชายน้อยลึกเกินไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่อาจรักษาได้แล้ว กระหม่อมไร้ความสามารถ ฝ่าบาทโปรดลงทัณฑ์พ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิเห็นเฉินเสียนอุ้มเจ้าน่องน้อยแล้วลูบหลังแล้วพึมพำกับตัวเอง
ยังดีที่เจ้าน่องน้อยเกิดเรื่อง พระองค์ก็รีบส่งทหารไปรับเฉินเสียนกลับมาทันที มิฉะนั้นหากไม่มีเจ้าน่องน้อยเป็นหมากรุกอยู่ในวัง เฉินเสียนก็อาจหนีไปได้ ถึงเวลานั้นจะทำเยี่ยงใด
จักรพรรดิไม่มีกะจิตกะใจอยู่ที่นี่นาน ผ่านไปสักพักพระองค์ก็ออกจากพระตำหนักไท่เหอ
พระองค์เห็นเจ้าน่องน้อยเสียชีวิตกับตา สภาพที่เห็นก็คือ เลือดไหลทุกอวัยวะ ผิวหนังซีดขาว ริมฝีปากเขียวช้ำ โดยเป็นอาการที่โดนยาพิษแรง
เจ้าน่องน้อยยังเยาว์วัย ตอนถูกยาพิษดิ้นรนไม่นาน ลมหายใจก็อ่อนแรงลง
พอเฉินเสียนกลับมาถึง ร่างกายก็เย็นไปหมดแล้ว
เสี่ยวเฮอกับแม่นมซุยร้องไห้อยู่ในห้องนอนจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด อวี้เยี่ยนวิ่งมาถึงไม่กล้าแม้แต่จะมอง
นางคุกเข่าลงที่พื้น แล้วจับเสื้อผ้าเสี่ยวเฮอกับแม่นมซุย ก่อนจะร้องไห้ถาม “พวกท่านดูแลเจ้าน่องน้อยกันยังไง ไม่ใช่เคยบอกให้พวกท่านระมัดระวังหรอกหรือ? เหตุใดจึงเป็นแบบนี้……ทำไม”
เฉินเสียนอุ้มเจ้าน่องน้อยอยู่บนเตียงจากกลางวันจนพลบค่ำ จากพลบค่ำจนฟ้าสาง
ไม่ว่าเธอจะพยายามเช่นไร ร่างกายเจ้าน่องน้อยก็ยังคงไม่อุ่นขึ้นมา
เฉินเสียนกล่าวว่า “เจ้าน่องน้อย แม่รับปากเจ้าว่าจะกลับมาไง เจ้ายังโกรธอยู่หรือ?”
“เจ้าน่องน้อย?” เธอเรียกชื่อของเขาอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล “ซูเซี่ยน?อาเซี่ยน?”
“เจ้าว่าท่านพ่อไม่ได้ตั้งใจ แม่ยกโทษให้ท่านพ่อเจ้าแล้ว ต่อไปพวกเราสามคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครอบครัวเดียวกัน ดีหรือไม่?”
“เจ้าไม่ใช่ชอบไปที่โรงเรียนไท่หรอกหรือ?” เฉินเสียนหัวเราะ “แม่ไม่ห้ามเจ้าแล้ว ให้เขาสองเจ้าเรียนรู้อักษร อ่านตำรา สอนความรู้ให้เจ้าดีหรือไม่?”
“เจ้าอย่าโกรธแม่สิ”
เฉินเสียนจับศีรษะของเจ้าน่องน้อยแล้วจูบที่หน้าผากของเขา ใบหน้าซีดเผือดของเขามีคราบเลือดติดอยู่ เฉินเสียนกล่าวต่อไปว่า “อวี้เยี่ยน ไปตักน้ำอุ่นมาล้างหน้าให้เจ้าน่องน้อย ต้องไปชนที่ไหนเข้าแน่ๆ เอ้อร์เหนียง ในกล่องแต่งหน้าของข้ายังมียาทาอยู่ไม่ใช่หรือ?” ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน!
เฉินเสียนที่อุ้มเจ้าน่องน้อยอยู่มองไปด้านนอก แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “ไป แม่พาเจ้าไปให้อาหารจระเข้ พออากาศอุ่นขึ้นก็ปล่อยจระเข้ออกจากทะเลสาบ ให้วังหลังปั่นป่วนอยู่ไม่เป็นสุขเลย”
เฉินเสียนจะออกจากห้อง อวี้เยี่ยนกับแม่นมซุยก็รั้งอยู่หน้าประตู
อวี้เยี่ยนร้องไห้พร้อมกับส่ายหัว “องค์หญิงอย่าไปเพคะ……ด้านนอก ด้านนอกอากาศหนาว……จะทำให้เจ้าน่องน้อยหนาวนะเพคะ……”
เฉินเสียนก้มหน้ามองเจ้าน่องน้อยแวบหนึ่ง กล่าวว่า “เขาเคยกลัวไหนเมื่อใด ใช่แล้ว อวี้เยี่ยน ข้าถักผ้าพันคอให้เขาไม่ใช่หรือ เจ้าเอามาให้เขาใส่เสีย” ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน!
ต่อมาเฉินเสียนอุ้มเขานั่งอยู่ข้างทะเลสาบ กล่าวว่า “ไม่ต้องกลัว ท่านพ่อของเจ้ามีวิธีเสมอ เขาต้องมาช่วยพวกเราออกไปแน่”
“อาเซี่ยน เจ้ารู้ไหม ตอนที่เจ้าเพิ่งอยู่ในท้องข้า ข้ารู้สึกกลัดกลุ้มยิ่งนัก เพราะมีเจ้าเป็นภาระ ข้าก็ไม่อิสระแล้ว”
“ข้าตั้งท้องเจ้าไม่ถึงสิบเดือนก็คลอดเจ้าก่อนกำหนดแล้ว ตอนนั้นแม่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ถึงกระนั้น แม้จะลำบากแสนเข็ญเพียงใด สุดท้ายแม่ก็คลอดเจ้าได้อย่างปลอดภัย”
“เจ้ากับพ่อเจ้าเป็นคนเงียบเหมือนกัน ตอนคลอดแรกๆก็ไม่ได้ยินเสียงร้องตั้งนาน แม่เกือบคิดว่าเจ้าเป็นใบ้เสียแล้ว แต่โชคดีที่แม่เลี้ยงดูเจ้าทุกวัน จนถึงวันนี้แม่ไม่เคยเสียใจที่คลอดเจ้าออกมา ถึงแม้ก่อนหน้านี้แม่จะไม่รู้ว่าพ่อของเจ้าเป็นใคร”
“เจ้ากลัวแม่ไปแล้วไม่กลับมา แต่แม่กลับมาแล้ว เจ้าจะไปไม่ได้ เข้าใจไหม?”
เฉินเสียนกอดเขาแนบแน่น พลางพูดซ้ำอีกรอบ “อาเซี่ยน เจ้าไปไม่ได้”
“เจ้าจากแม่ไปไม่ได้” เฉินเสียนขบฟัน เสียงแหบพร่าด้วยความเคร่งเครียด “เจ้าเข้าใจหรือยังอาเซี่ยน เจ้าจากแม่ไปไม่ได้”
“จากไปไม่ได้”
“ไม่ได้……”
ข่าวเรื่องเฉินเสียนนั่งอุ้มเจ้าน่องน้อยอยู่หน้าพระตำหนักไท่เหอถูกกระจายออกไป วังหลังทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าเจ้าน่องน้อยเป็นเด็กที่ไร้ลมหายใจ
เธออุ้มเด็กเสียชีวิตนั่งอยู่ตรงนั้น รู้สึกหวาดผวาเสียจริง
สมเด็จพระราชชนนีสั่งให้คนมายังพระตำหนักไท่เหอ เพื่อแยกเจ้าน่องน้อยกับเฉินเสียนออก แล้วนำศพไปโยนทิ้งนอกวัง จะได้ไม่นำความอัปมงคลมาในรั้ววัง
นางกำนัลกล่าวทีละถ้อยคำกับเฉินเสียน “โอรสขององค์หญิงสิ้นชีพแล้ว หม่อมฉันแนะนำให้นำศพของเขาทิ้งเสียเถอะ จะได้ไม่เน่าเปื่อยอยู่ในพระตำหนักไท่เหอ”
เฉินเสียนไม่ส่งเสียงสักคำ เอามีดมาจากครัวราวกับคนเสียสติ จะฟันนางกำนัลคนที่พูดเมื่อครู่นี้ เธอกล่าวว่า “เจ้ารู้ว่าความตายเป็นแบบไหนไหม? ตอนนี้ข้าจะให้เจ้ารู้”
นางกำนัลถูกมีดฟันหนึ่งครั้ง กล่าวด้วยความหวาดผวา “องค์หญิงจิ้งเสียน! หม่อมฉันรับพระราชเสาวนีย์จากสมเด็จพระราชชนนีมาจัดการศพนะเพคะ”
หากไม่ใช่นางกำนัลวิ่งเร็ว เกรงว่าคงถูกฟันไปหลายครั้งแล้ว
ลือกันว่าองค์หญิงจิ้งเสียนรับความเจ็บปวดอันเกิดจากการสูบเสียบุตรชายไม่ไหวจนบ้าเสียสติไปแล้ว
เจ้าน่องน้อยโดนวางยาพิษที่พระตำหนักไท่เหอ จักรพรรดิต้องสืบสาวหาความจริงให้กระจ่างอยู่แล้ว จึงส่งคนไปสืบสวนอย่างเข้มงวด
ผลการสืบสวนคือมีคนวางยาพิษในอาหารของเจ้าน่องน้อย ซึ่งผู้ร้ายวางยาคือแม่นมขององค์ชายห้า
แม่นมขององค์ชายห้าติดสินบนข้ารับใช้ในพระตำหนักไท่เหอแล้วให้วางยาพิษกับเจ้าน่องน้อย เพื่อแก้แค้นแทนองค์ชายห้ากับพระสนมฉี
แม่นมกับนางกำนัลที่ถูกซื้อตัวถูกโบยตายทันที
เจ้าน่องน้อยยังไม่ตาย แต่ทุกคนกลับบอกว่าเขาตายแล้ว
เฉินเสียนไม่เชื่อ พวกเขาอย่าคิดแย่งลูกชายเธอไปเชียว
ด้วยสถานะของเจ้าน่องน้อยไม่อาจฝังที่สุสานหลวงได้ จักรพรรดิอยากใช้วิธีเผาศพ เพียงแต่ไม่มีใครสามารถนำศพเจ้าน่องน้อยออกจากเฉินเสียนได้
เฉินเสียนกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือน บ้างก็ตะโกนร้อง บ้างก็หัวเราะอย่างบ้าบิ่น เธอชี้ไปยังฝั่งตรงข้ามที่มีใบหน้าเย็นเยียบ ในขณะที่หัวเราะแววตากลับเต็มไปด้วยความทุกข์ตรมที่แสนเจ็บปวด ทว่ากลับไม่มีน้ำตาไหลสักหยด เธอกล่าวทีละคำช้าๆว่า “ต้องมีสักวัน ข้าจะทำให้พวกเจ้าทุกคนต้องชดใช้”
เธอหัวเราะเหนื่อยจนหายใจไม่ออก หัวเราะจนยืนตัวตรงไม่ได้ หัวเราะจนกว่าหัวเราะไม่ออก
จักรพรรดิฟังรายงานจากนางกำนัลว่า “ฝ่าบาทเพคะ องค์หญิงจิ้งเสียนไม่ยอมมอบศพให้เพคะ พระองค์หัวเราะพร่ำด่าอยู่คนเดียว เกรงว่า……เกรงว่าคงจะบ้าไปแล้วเพคะ……”
เฮ่อโยวกล่าว “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดไม่เชิญฉินหรูเหลียงมาลองดูล่ะพ่ะย่ะค่ะ เพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นบิดาของเด็ก ไม่แน่อาจเกลี้ยกล่อมองค์หญิงจิ้งเสียนสำเร็จนะพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิเงียบไปชั่วครู่ รับสั่งว่า “ไปเรียกตัวฉินหรูเหลียงมา”
คอมเม้นต์